คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 49 ลูกพี่ใหญ่ออกโรงแล้ว

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ทีมสนับสนุนโพสต์เวยปั๋วแบบนี้ออกไปก็ทำให้แฟนคลับอิ๋งลู่เวยทั้งหมดเดือดขึ้นมา

รูปชัดมาก ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่การตัดต่อ

พวกแฟนคลับคลั่งกันทันที

แอทอิ๋งซื่อกรุ๊ป : [อยู่ไหม ดูคนที่พวกคุณเก็บมาชุบเลี้ยงสิ ทำไมเลวได้ขนาดนี้]

แอทอิ๋งซื่อกรุ๊ป : [อย่ามาแกล้งตาย รีบมาอธิบายกับลู่เวย ที่แท้ก็ปล่อยให้เจ้าหญิงที่แท้จริงของพวกเราต้องแบกรับเรื่องแบบนี้ใช่ไหม]

[ทนไม่ไหวแล้ว ฉันอยากรู้แค่ว่าหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ลู่เวยต้องเจ็บช้ำแค่ไหน เป็นครั้งแรกที่ฉันร้องไห้มากขนาดนี้!]

เนื่องจากอิ๋งลู่เวยมีภาพลักษณ์ที่ใจเย็นอ่อนหวานต่อคนภายนอก จึงทำให้เกิดแฟนคลับที่พลังทำลายล้างสูงแบบนี้

ในเวลาแค่สิบกว่านาทีพวกแฟนคลับก็ดันเรื่องนี้จนกลายเป็นคำค้นยอดฮิต

พอติดอันดับคำค้นยอดฮิต ปริมาณก็มากขึ้น มีคนทั่วไปคลิกเข้าไปดูอย่างงงๆ

[นี่มัน…ว่ากันตามตรงนะ อันที่จริงมองไม่ออกเลยด้วยซ้ำ แฟนคลับอารมณ์รุนแรงเกินไปหรือเปล่า]

[มีการร้องห่มร้องไห้ด้วย ต่อมน้ำตาทำงานดีขนาดนั้นเลย ร้องห่มร้องไห้ให้นักเปียโนที่ไม่เคยได้แม้แต่รางวัลใหญ่ระดับสากล พ่อแม่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทำไมไม่เห็นร้องไห้ขนาดนี้บ้างล่ะ ไม่รู้จักแยกแยะ ประสาท]

[แฟนคลับบ้านอิ๋งลู่เวยก็แบบนี้ จินตนาการบรรเจิดยิ่งกว่าหมา]

[ความสนใจของฉันต่างไปหน่อย จะว่าไปหน้าตาแบบลูกเลี้ยงคนนี้มันมีอยู่จริงเหรอ สวยเกินไปแล้วหรือเปล่า]

กลายเป็นประเด็นร้อนระอุบนเวยปั๋ว อิ๋งลู่เวยยังคงรักษาตัวอยู่ที่ตี้ตู

เธอดูเวยปั๋วอย่างสบายใจ ในที่สุดก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงแพ้ไปทั้งตัว มารักษาถึงตี้ตูก็ยังไม่ดีขึ้น

ดังนั้นเธอถึงอารมณ์ไม่ดี ต้องให้มีคนซวยบ้าง

“คุณลู่เวยวางใจได้ครับ กล้องวงจรปิดโดยรอบถูกลบภาพไปแล้วทั้งหมด กู้คืนไม่ได้แน่นอนครับ” คนที่พูดเป็นชายชาวต่างชาติ เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ “จัดการธุระเสร็จแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”

“ขอบคุณคุณอลันมากค่ะ” อิ๋งลู่เวยลุกขึ้นอย่างสง่างาม “เดี๋ยวฉันไปส่งค่ะ”

ชายชาวต่างชาติออกไปอย่างรวดเร็ว

ผู้จัดการส่วนตัวที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้ว “ลู่เวย อันที่จริงไม่เห็นต้องเสี่ยงขนาดนี้ ต่อไปมีเวลาอีกตั้งเยอะแยะที่จะทำให้หลานสาวตัวปลอมคนนั้นของเธอพลิกฟื้นกลับมาไม่ได้อย่างสิ้นเชิง”

ภาพอาศัยมุมกล้อง เกิดถูกเปิดโปงขึ้นมาจะทำไง

อิ๋งลู่เวยไม่คิดแบบนั้น พูดจาดูถูก “ยัยนั่นไม่เก่งขนาดนั้นหรอก กระแสวิพากษ์วิจารณ์จะเอาเธอจนตาย”

ถ้าไม่ใช่เพราะอิงเฟยเฟยมีความแค้นกับอิ๋งจื่อจิน แผนนี้ของเธอจะสำเร็จเหรอ และก็เป็นเพราะอิ๋งจื่อจินหาเรื่องใส่ตัวทุกวัน ไม่เกี่ยวกับเธอ

ผู้จัดการส่วนตัวไม่สบายใจ “เกิดอีกฝ่ายงัดคลิปอะไรออกมาจะทำไง”

“เป็นไปไม่ได้” อิ๋งลู่เวยยิ้ม “คราวก่อนน่าจะเป็นเพราะฟู่อวิ๋นเซินช่วยเอามาได้ สถานที่จัดงานก็มีกล้องวงจรปิดจริงๆ ฉันประมาทเกินไป”

อิ๋งลู่เวยเสยผม ท่าทางสวยสง่า “แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน กล้องวงจรปิดของสี่ถนนถูกลบภาพออกหมดแล้ว ฟู่อวิ๋นเซินยังจะหาแฮกเกอร์ที่เก่งกว่าคุณอลันได้อีกเหรอ เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าแฮกเกอร์ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามเชียวนะ”

สมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามเป็นองค์กรแฮกเกอร์อันดับหนึ่งของโลก

เธอใช้เงินจำนวนมหาศาลวานให้คนไปจ้างมา

ผู้จัดการส่วนตัวพูดเสียงขรึม “ได้ ผมจะช่วยคุณ แต่ถ้าเหตุการณ์พลิกขึ้นมาจะส่งผลอย่างรุนแรง”

ถึงแม้อิ๋งลู่เวยจะไม่ใช่คนในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว แต่เธอก็ชอบที่มีแฟนคลับติดตาม มีแอคเคาท์เชิงพาณิชย์อยู่ในมือหลายร้อย

แอคเคาท์เชิงพาณิชย์พวกนี้เริ่มทำงานพร้อมกันภายใต้การควบคุมของผู้จัดการส่วนตัว

แฮชแท็กเรื่องน้ำเน่าบันลือโลกของไฮโซ หลานสาวยั่วอาเขย?

แฮชแท็กแย่แล้ว! ลูกเลี้ยงตระกูลอิ๋งกล้าเนรคุณ!

แฮชแท็กสงสารอิ๋งลู่เวย

คำด่าเต็มเวยปั๋ว

อย่าว่าแต่เวยปั๋ว เว็บบอร์ดของโรงเรียนมัธยมชิงจื้อก็ระเบิดเหมือนกัน

[นี่ๆ ทุกคนเห็นเวยปั๋วหรือยัง เอาซะทัศนคติฉันเปลี่ยนไปเลย]

[ปกติเห็นเธอในโรงเรียนก็ดูเงียบๆ กล้าทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้เลยเหรอ]

[มิน่าถึงได้ถูกไล่ออกมาจากคลาสเด็กอัจฉริยะ]

[เป็นเพราะพ่ออิ๋งของเราไม่อยากอยู่คลาสเด็กอัจฉริยะต่างหาก เข้าใจมะ ใครกล้าด่าอีก เดี๋ยวเย็นนี้พี่หรานตามไประเบิดหัวถึงบ้านแน่]

[เจ๊อวี่เอากระบองหนามไปตีหัวแบะแน่]

เวินทิงหลานไม่เล่นโซเชียลมาตลอด เดิมทีไม่รู้เรื่องนี้

แต่กลุ่มห้องก็พูดคุยเรื่องนี้กัน แถมยังแคปภาพจากเวยปั๋วมาลงด้วย

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เดินไปที่ห้องครัว “พี่ ดูเวยปั๋วหรือยัง เรื่องนั้น…”

อิ๋งจื่อจินกำลังปั่นน้ำ พอได้ฟังดวงตาหงส์ก็หรี่ลง “อืม รู้ นายไม่ต้องเป็นห่วง อย่าให้พ่อรู้ล่ะ”

เวินทิงหลานหน้านิ่ว ขณะที่กำลังจะพูดก็ได้ยินพี่สาวถามขึ้น

“โจทย์ที่ให้ทำเสร็จยัง”

เวินทิงหลานอึ้งไปชั่วขณะ “ยัง”

ไม่รู้ว่าพี่สาวของเขาไปเอาโจทย์มาจากไหนตั้งเยอะแยะ ระดับความยากเกินคลาสเด็กอัจฉริยะมอหกไปไกลมาก ถึงแม้จะไม่ได้ยากมากสำหรับเขาก็ตาม

อิ๋งจื่อจินเช็ดมือเสร็จก็พูดอย่างไม่รีบร้อน “งั้นก็รีบกลับไปทำ ผิดหนึ่งข้อทำเพิ่มสิบข้อ”

“…”

เด็กหนุ่มเดินกลับห้องอย่างเซ็งๆ เหมือนกระต่ายหูตก

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้วเล็กน้อย

ผลกระทบจากโลกภายนอกเดิมทีก็ทำให้สภาพอารมณ์ของเวินทิงหลานทวีความรุนแรง อาการหนักขึ้น

โรคจิตเวชไม่ใช่โรคที่แพทย์แผนโบราณจะรักษาได้

สงสัยเธอต้องไปตามหาเพื่อนเก่าจริงๆ แล้ว

อิ๋งจื่อจินกลับห้อง

เธอหลับตาลง ใช้ความสามารถทางการพยากรณ์ขั้นเทพ นึกย้อนเหตุการณ์ทั้งหมดที่ถนนเส้นนั้นในตอนนั้น และก็ลำดับเหตุการณ์ออกมาได้

อิ๋งลู่เวยส่งคนสะกดรอยตามเจียงมั่วหย่วน หลังจากได้รูปถ่ายก็ส่งให้อิงเฟยเฟย และถือโอกาสลบภาพจากกล้องวงจรปิดไปด้วย

อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้

จึ๊! น่ารำคาญจริง

วันๆ มีแต่คนมาทำลายชีวิตเกษียณของเธอ เธอยังจะสามารถเกษียณออกไปปลูกดอกไม้เลี้ยงหมูได้อีกหรือเปล่า

แต่ดูเหมือนอิ๋งลู่เวยจะอาฆาตแค้นเธอมาก มันก็น่าแปลก

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด

น่าเสียดายที่ความสามารถของเธอยังไม่กลับคืนมา คำนวณเหตุการณ์ที่ไกลเกินไปไม่ได้

นิ้วของเธอเคาะโต๊ะเบาๆ ไม่กี่วินาทีต่อมาก็เปิดคอมพิวเตอร์

ในเวลาเดียวกันที่อีกฟากของมหาสมุทร

ฝั่งตะวันออกของยุโรป

แฮกเกอร์คนหนึ่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ๆ ก็ดับลง สำลักบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกือบตาย

บนโลกนี้คนที่กล้าทำแบบนี้กับเขาเดิมทีมีแค่คนเดียว แต่เมื่อหลายวันก่อนเขาไปหาเรื่องจนได้คนที่สองมา

เขากดแป้นพิมพ์อย่างขมขื่น

[เจ๊จ๋า ช่วงนี้ผมอยู่อย่างสงบแล้วนะ สาบานเลยว่าผมไม่ได้ก่อเรื่อง]

[ไม่ได้จะพูดเรื่องนี้ อยากขอความช่วยเหลือหน่อย]

[ว่ามาเลยครับเจ๊]

[ช่วยฉันกู้ภาพกล้องวงจรปิดของถนนสี่เส้นในฮู่เฉิงหน่อย มีถนนจงซาน ถนนจี๋เสียง ถนนเสี่ยวไจ้ ถนนฝั่งจือ]

[ทำไมเจ๊ไม่ทำเองอะ]

[ขี้เกียจ]

[…]

แฮกคอมพิวเตอร์ของเขามันยากกว่ากู้ภาพจากกล้องวงจรปิดเล็กๆ อีกหรือเปล่า

[ได้ๆๆ อีกเดี๋ยวผมส่งภาพกล้องวงจรปิดเข้าคอมเจ๊ให้ จะทำให้เดี๋ยวนี้เลยครับ]

หน้าจอถึงได้กลับมาเป็นปกติ

แฮกเกอร์คนหนึ่งอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา เริ่มพิมพ์โค้ดโดยไม่ปริปากบ่น

คิดดูนะ เขาเป็นถึงลูกพี่ใหญ่ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนาม แต่กลับตกเป็นทาสเด็กสาวคนหนึ่ง

น่าขายหน้าจริงๆ

กระแสบนเวยปั๋วแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สะเทือนไปถึงแอคเคาท์ใหญ่ๆ หลายแอคเคาท์

พวกแฟนคลับยังคงอารมณ์รุนแรง

[ทำไมอิ๋งซื่อกรุ๊ปยังไม่ออกมาอีก แกล้งตายอย่างถึงที่สุดแล้วเหรอ]

[ถ้าอิ๋งซื่อกรุ๊ปไม่จัดการเรื่องนี้ให้ดีละก็ นับจากวันนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่ซื้อของจากบริษัทนี้อีกเลย]

[คนของอิ๋งซื่อกรุ๊ปตาบอดกันหมดแล้วเหรอ]

[คราวก่อนไม่ขอพูดอะไรแล้ว แต่ครั้งนี้มีภาพถ่าย หลักฐานชัดเจนยังจะแถยังไงอีก รีบออกมาอธิบายสิ!]

ตำนานบทที่สอง ผู้ชนะมาเยือนอีกครั้ง

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท