คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 132 ฮ่องเต้อิ๋งกระชากตัวตนลงมาเล่นสนุก

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

“พอเธอออกมา ลังที่ใส่ชุดแดนเซอร์ก็หายไป”

สองประโยคนี้ทำให้เสียงเอะอะรอบตัวค่อยๆ สงบลง

ผู้คนโดยรอบต่างมองมา สายตาเจือไปด้วยการพิพากษา

โดยเฉพาะบรรดาแดนเซอร์ที่กำลังจะขึ้นแสดง สายตาเย็นชาลงทันที

การแสดงครั้งนี้สำคัญมากสำหรับพวกเธอ ต้องการเข้าตาผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ จากนั้นก็จะได้เข้าสู่วงการบันเทิง

อย่างไรเสียพวกเธอก็เป็นแค่เด็กฝึกของบริษัท แถมยังเป็นกลุ่มที่ธรรมดาที่สุด แม้แต่คุณสมบัติเข้าร่วมรายการเฟ้นหาคนต่างๆ ก็ยังไม่มี

ตอนนี้ชุดแดนเซอร์หายไป พวกเธอขึ้นแสดงไม่ได้ แล้วจะดึงดูดความสนใจจากคนในวงการได้อย่างไร

อิ๋งจื่อจินสวมหมวกเบสบอลสีดำ ดึงปีกหมวกลงมาต่ำจนบดบังสายตาของเธอ เหลือเพียงจมูกกับริมฝีปากที่โผล่ออกมา

อีกทั้งยังเป็นตอนเย็น แสงไฟสลัว ท่าทางของเด็กสาวดูไม่ชัด มองเห็นเพียงเค้าลาง

คลุมเครือ แต่กลับดูโดดเด่น

หัวหน้าสตาฟก็มองมา “พูดแบบนี้ เธอเป็นคนเอาไปเหรอ”

“ในกล้องวงจรปิดไม่ปรากฏ” สตาฟคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ดูกล้องวงจรปิดตอบ “แต่เธอเป็นคนออกมาคนสุดท้ายจริงๆ อีกทั้งเธอก็ไม่ใช่ทีมงานด้วย”

ไม่ใช่สตาฟ ไม่ใช่นักแสดง เข้าไปหลังเวทีได้อย่างไร

หัวหน้าสตาฟขมวดคิ้ว รีบก้าวขึ้นหน้าขวางเด็กสาวเอาไว้ “คุณผู้หญิงท่านนี้รบกวนไปที่หลังเวทีกับพวกเราอีกครั้งด้วยครับ”

เขายกมือขึ้นจะดึงแขนของเธอ

แต่พอยื่นออกไปกลับถูกอีกมือหนึ่งขวางไว้

นิ้วเรียวยาวของผู้ชาย ปลายนิ้วขาวใสดุจหยกที่ไร้ตำหนิ

ทั้งๆ ที่เป็นการกระทำที่เบามาก แต่กลับมีความโหดเหี้ยมแผ่ซ่านออกมาอย่างบอกไม่ถูก

เหมือนจะฆ่าคนได้

หัวหน้าสตาฟชะงัก เงยหน้าขึ้น

อยู่ใกล้กันมาก ชั่วขณะนั้นเขาตกใจรูปลักษณ์ของคนตรงหน้า

โรงถ่ายเหิงเตี้ยนอยู่ห่างจากเมืองฮู่เฉิงสามร้อยกว่ากิโลเมตร อยู่ในเมืองเล็กๆ

ถึงแม้คนทางนี้จะพอรู้จักสี่ตระกูลเศรษฐีแห่งฮู่เฉิงอยู่บ้าง แต่กลับไม่เคยเห็นกับตา ย่อมไม่มีทางรู้จักฟู่อวิ๋นเซิน

ฟู่อวิ๋นเซินเชิดคางขึ้น ริมฝีปากมีรอยยิ้ม พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ไปเช็กกล้องวงจรปิดให้ดีก่อน”

หัวหน้าสตาฟอึ้งไปอีกรอบ ขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม

หากว่ากันตามเหตุผล อีกฝ่ายไม่มีเหตุผลที่จะต้องเอาชุดแดนเซอร์ไป

ถึงแม้ชุดแดนเซอร์เหล่านั้นจะมีความประณีตมาก แต่ก็ไม่ใช่ของหรูหราอะไร

หัวหน้าสตาฟเจอคนในเหิงเตี้ยนมามาก แค่ดูก็มองออกว่าชุดที่ชายหนุ่มกับเด็กสาวใส่ล้วนเป็นชุดที่สั่งตัดพิเศษ

ไม่จำเป็นต้องสร้างความยุ่งยากให้พวกแดนเซอร์หรือเปล่า

เขาหยิบวิทยุสื่อสารเรียกช่างเทคนิคมา

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า “อืม ฉันสามารถ…”

“ไม่ต้อง” ฟู่อวิ๋นเซินช่วยดึงปีกหมวกลงมาให้เธอ “ไม่ใช่เรื่องของเธอ จะเสียเวลาทำไม”

เขาไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง แต่ก็เคยได้ฟังเล่ห์เหลี่ยมในวงการบันเทิงจากเนี่ยเฉามาบ้าง

โสมมพอตัว

ตอนนี้ถึงขั้นที่แม้แต่คนธรรมดาก็ไม่เว้นแล้ว

อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไร พยักหน้าเบาๆ

เรื่องเล็กแบบนี้ อีกทั้งเวลาที่เกิดก็ใกล้เคียงกันมาก เธอแค่มองก็เข้าใจสาเหตุกับผลลัพธ์แล้ว

บางครั้งเรื่องน้ำเน่ามาเกิดบนตัวเธอ ก็…ไม่สนุกเหมือนตอนเธอเองนั่งดู

ทางด้านนี้ช่างเทคนิครีบร้อนวิ่งเข้ามา เริ่มตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ก๊อปปี้มา

ผ่านไปไม่กี่นาทีเขาก็เงยหน้าขึ้น “หัวหน้า ภาพจากกล้องวงจรปิดชุดนี้ถูกตัดไป ตรงกลางหายไปช่วงหนึ่ง”

สีหน้าของหัวหน้าสตาฟเปลี่ยนไปทันที “อีกกี่นาทีถึงกู้กลับมาได้”

“ยุ่งยากพอสมควร” ช่างเทคนิคลำบากใจ “ผมต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง”

“ไม่ได้” หัวหน้าแดนเซอร์ร้อนใจ “เหลืออีกสิบนาทีพวกเราก็จะขึ้นแสดงแล้ว”

ต่อให้ตอนนี้ไปสั่งทำชุดแดนเซอร์ก็ไม่ทันแล้ว

“หัวหน้า!” อีกด้านหนึ่ง มีสตาฟหลายคนวิ่งมา “เจอแล้ว เจอชุดแดนเซอร์แล้ว ไม่รู้ว่าถูกใครเอาไปโยนไว้ที่ร่องสะพานหิน”

พอได้ยินแบบนี้อิ๋งจื่อจินก็กดลบข้อความ ปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ “ไปเถอะ”

พอเห็นทั้งสองคนจะไปแล้ว สตาฟคนหนึ่งก็ไม่พอใจ “หัวหน้า จะปล่อยพวกเขาไปแบบนี้เหรอครับ”

“ยังไงซะก็เจอชุดแดนเซอร์แล้ว ไม่มีหลักฐานว่าพวกเขาทำด้วย แล้วจะขวางทำไม” หัวหน้าสตาฟส่ายหน้า “ไม่รู้ว่าคุณชายจากที่ไหนมา เขาไม่เอาเรื่องก็ดีมากแล้ว ยังจะหาเรื่องใส่ตัวอีกเหรอ”

สตาฟอึ้ง

“กู้ภาพวงจรปิดต่อ” หัวหน้าสตาฟสั่ง “มีคนจ้องเล่นงานการแสดงครั้งนี้ ต้องสืบให้กระจ่าง”

ชั้นสองของตึก

อิ๋งจื่อจินเดินออกมาจากห้องน้ำ มือข้างหนึ่งถือผ้าขนหนูเช็ดหัว มืออีกข้างถือโทรศัพท์มือถือ เข้าเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

อันที่จริงเว็บบอร์ดเอ็นโอเคมีแค่โปรแกรมล็อกอินในคอมพิวเตอร์เท่านั้น เธอรู้สึกว่าแบกคอมพิวเตอร์ไปทุกวันมันยุ่งยาก จึงทำเวอร์ชั่นโทรศัพท์มือถือขึ้นมาใหม่

พอล็อกอินเข้าไป กล่องข้อความส่วนตัวก็ดังรัวๆ อย่างบ้าคลั่ง

อิ๋งจื่อจินปิดเสียง ไม่เปิดดู ลบข้อความของคนแปลกหน้าทั้งหมดในกล่องข้อความส่วนตัวทิ้ง

นับตั้งแต่วันนั้นที่เธอโพสต์ประกาศในเว็บบอร์ด ทุกวันก็จะมีคนส่งข้อความมาหาเธอไม่หยุดหย่อน

ข้อความขอเป็นเพื่อนมีอีกเป็นกอง ถึงขนาดที่ผู้ดูแลก็ส่งมา

แต่ที่เธอเปิดแอ๊กเคานท์นี้ก็เพื่อทำความเข้าใจโลกมนุษย์ในตอนนี้กับอ่านข่าวซุบซิบใช้ชีวิตเกษียณ

งานในพื้นที่ปิดมีเยอะกว่าหน้าปกติมาก แต่พวกบอสก็ออกมาโพสต์เล่นเหมือนกัน หาความสุขเล็กๆ น้อยๆ

อย่างเช่นเมื่อวาน มีคนคุยเรื่องที่หัวหน้าคนหนึ่งในไอบีไอถูกเมียเอาไม้กระบองไล่ออกจากบ้าน จำต้องไปขอลี้ภัยกับลูกน้องที่เป็นนักสืบ

ไอบีไอที่ดูยิ่งใหญ่ในโลกภายนอก แต่ในเอ็นโอเคเป็นเพียงข่าวซุบซิบ

แต่ก็เป็นเรื่องปกติ อย่างไรเสียบางครั้งไอบีไอหาใครไม่เจอ สำนักข่าวกรองสากล (IIA) ก็สืบข้อมูลไม่พบ พวกเขาทำได้เพียงมาโพสต์ขอความช่วยเหลือที่นี่

หลังจากที่อิ๋งจื่อจินลบกล่องข้อความเสร็จก็เห็นข้อความจากเพื่อน

[หมอเทวดา! หมอเทวดา! ใช้ยาที่หมอส่งมาให้ ในที่สุดแผลเป็นบนตัวผมก็หาย แต้มสะสมการใช้งานไม่ได้จำเป็นสำหรับผมเลย ผมว่าหมอเทวดาขาดทุนแล้วนะ หมอขาดเหลืออะไรไหม เดี๋ยวผมส่งไปให้]

อิ๋งจื่อจินนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นงานที่เธอรับตอนยังไม่ได้เข้าพื้นที่ปิด จึงตอบกลับไปสั้นๆ

[ไม่ต้อง ยาทดลอง]

พอตอบเสร็จก็มีจุดแดงปรากฏตรงหน้าต่างเพื่อน

ติ๊ง [แอทเชิญมากินยา ส่งคำขอเป็นเพื่อนกับคุณ ตกลงหรือไม่]

[ตกลง/ไม่]

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองชื่อ ดวงตาหงส์หรี่ลง

หลังจากที่เธอเข้าพื้นที่ปิดของเว็บบอร์ดเอ็นโอเคก็ได้อ่านข้อมูลทั้งหมดจบแล้ว

แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะไม่เห็นโพสต์นั้นที่ถูกปักหมุดไว้ ด้วยเหตุนี้เธอถึงต้องใช้แอ๊กเคานท์ใหม่เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตเกษียณอย่างสงบ

ตอนนี้เธอเองก็รู้แล้วว่าคนที่ต้องการฆ่าฟู่อวิ๋นเซินตอนนั้นคือนักล่าในชาร์ตเอ็นโอเค

นักล่าเป็นเพียงการเรียกแบบรวมๆ แท้จริงแล้วมีการแยกประเภทลงไปอีก

นักแม่นปืน นักสะกดจิต นักฆ่า นักแปลงโฉม นักปรุงยาพิษ เป็นต้น

แต่ละประเภทต่างมีชาร์ตอันดับ

ไอดีที่มีชื่อว่า ‘เชิญมากินยา’ นี้ก็คือนักปรุงยาพิษที่อยู่ในอันดับสามของชาร์ตนักปรุงยาพิษ ได้ยินว่าหนีไปขายครีมกันแดดที่ริมหาดที่ไหนสักแห่งแล้ว

แต่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ อิ๋งจื่อจินขยับนิ้ว กด ‘ไม่’

จากนั้นก็ไล่อ่านข่าวของวันนี้แล้วออฟไลน์

วันต่อมา

อิ๋งจื่อจินนอนถึงสิบโมงกว่าจะตื่น

ฟู่อวิ๋นเซินออกไปนานแล้ว ทิ้งข้อความไว้ในวีแชท

บอกให้เธอไปเดินเล่นรอบๆ ก่อนเขากลับมา

เนี่ยเฉาที่ไม่ได้รับคำสั่งใดๆ รู้สึกขุ่นเคือง

เขาอยู่กับบอสเขาก็เป็นผู้อ่อนแอ คนที่ถูกปกป้องน่าจะเป็นเขาหรือเปล่า

อิ๋งจื่อจินเปิดแผนที่ค้นหา ต้องการไปกินขนมที่หอน้ำชา

เนี่ยเฉารีบตามไปติดๆ

ต่อให้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เขาก็ต้องตามติดบอส

หอน้ำชาก็อยู่ในโรงถ่ายเหิงเตี้ยน ถนนเส้นนี้เลียนแบบสิ่งปลูกสร้างยุคถัง ชั้นล่างยังมีคนสีเอ้อร์หู[1]อีกด้วย

“บอส บอสว่าคุณชายเจ็ดคิดอะไรอยู่” เนี่ยเฉาถอนหายใจ “ผมว่าเขาน่ะทะนุถนอมบอสไว้ในมือ กลัวบอสจะบุบสลาย”

“พี่ใหญ่ของคุณก็ทำกับคุณแบบนี้”

“…”

เนี่ยเฉาเกือบขิต

พี่ใหญ่ของเขาอยากทำให้เขาบุบสลายถึงจะถูก

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังกินอยู่นั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เป็นเสียงต่อกแต่กของรองเท้าส้นสูง

ดึงดูดสายตาของลูกค้าคนอื่นในหอน้ำชา

เป็นผู้หญิงปากแดงผมดำ สวมชุดสูทประโปรงสีดำ ดูก็รู้ว่าเป็นนักธุรกิจสาว

พนักงานเคาน์เตอร์รีบเข้าไปต้อนรับ “คุณเกา”

หญิงสาวส่ายมือ เดินตรงไปที่โต๊ะริมหน้าต่าง

เธอก้มตัวลง ยื่นมือออกไปเคาะโต๊ะ มองลงมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณอิ๋งใช่ไหม ไม่ทราบว่าทำไมคุณต้องเอาชุดแดนเซอร์ของพนักงานเราไปด้วยคะ”

เมื่อวานเนี่ยเฉาออกไปกินเหล้าแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เลยงงอยู่

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ กำลังดูโทรศัพท์มือถือ

หญิงสาวขมวดคิ้วทันที ไม่ถามต่อ กลับพูดออกไปตรงๆ “ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณต้องทำแบบนั้น แต่เหิงเตี้ยนไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะทำตามอำเภอใจได้ ช่วยออกไปจากที่นี่ด้วยค่ะ”

เธอพูดจบก็หันไปกวักมือเรียกพนักงานตรงเคาน์เตอร์ “มาเชิญพวกเขาออกไป”

พนักงานเคาน์เตอร์อึ้ง แต่ก็เข้ามา

คุณเกาคนนี้เป็นลูกค้าวีไอพีของหอน้ำชา ทั้งยังลงทุนให้ไม่น้อย เป็นบุคคลที่พวกเขาต้องเกรงใจ

อิ๋งจื่อจินนั่งนิ่งไม่ขยับ ยังคงก้มหน้า

หญิงสาวขมวดคิ้ว ไม่พอใจ “คุณอิ๋ง ช่วยมีมารยาทสักนิดนะคะ”

“ขอโทษด้วยค่ะ” อิ๋งจื่อจินค่อยๆ เงยหน้าขึ้น น้ำเสียงราบเรียบไม่รีบร้อนเหมือนเคย “ฉันเพิ่งซื้อที่นี่ไปเมื่อสิบวินาทีก่อน”

[1]เอ้อร์หู เครื่องดนตรีชนิดหนึ่งคล้ายซอของไทย

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท