เด็กสาวดูรีบร้อนมาอย่างเห็นได้ชัด
ผมเผ้ายุ่งเหยิง แนบไปกับผิว
แต่นี่ก็ไม่อาจปิดบังความสง่างามที่เผยออกมาจากในตัวเธอ ชวนให้รู้สึกเหมือนหลุดไปในยุคกลางของยุโรป ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับผู้ดีที่ได้รับการอบรมมารยาทมาจากในวัง
เด็กสาวเงยหน้าขึ้น ชี้ไปที่ห้องผ่าตัด พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คนอยู่ในนั้น”
ทั้งๆ ที่เป็นคำถาม แต่กลับเหมือนการยืนยัน
ชายหนุ่มยังคงอึ้งอยู่ เขาพูด “หา” ออกมาอย่างไม่รู้ตัว
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย จัดเสื้อผ้าบนตัวให้เรียบร้อย
เธอหยิบชุดปลอดเชื้อจากด้านข้างมาใส่แล้วกดเปิดประตู
“เดี๋ยวก่อน!” ในที่สุดชายหนุ่มก็ได้สติกลับมา เขาขวางทาง “คุณเข้าไปไม่ได้!”
เขานึกออกแล้ว ตอนนั้นที่เขามารายงานความคืบหน้าของสมุนไพรให้ฟู่อวิ๋นเซินฟังก็เคยเจอเธอ
แต่ตอนนั้นเด็กสาวสวมชุดนักเรียน ทั้งยังกินอมยิ้ม แม้จะหน้าตาดี แต่ก็เป็นนักเรียนมอปลายธรรมดา
ไม่ได้ดูเย็นชาแบบนี้ และไม่ได้ดูน่าเกรงขามแบบนี้
อิ๋งจื่อจินไม่มองเขา มือวาดออกไป
ฟึ่บ!
มีเสียงที่เบามากดังขึ้นในอากาศ
นี่มันกำลังภายใน!
จอมยุทธ์โบราณ!
จอมยุทธ์โบราณจะปรากฏตัวที่ฮู่เฉิงได้ยังไง
ในขณะที่เขากำลังตะลึงอยู่นั้น อิ๋งจื่อจินก็ได้ผลักประตูเดินเข้าไปแล้ว
หมอที่กำลังใช้กระบอกฉีดยาทิ่มเข้าเส้นเลือดหันหน้ามา เขาเองก็อึ้ง เห็นผู้ชายที่อยู่บนเตียงผ่าตัดลุกขึ้นมา
ความหูไวของฟู่อวิ๋นเซิน ต่อให้ห้องผ่าตัดจะเก็บเสียงดีแค่ไหนเขาก็ได้ยินเสียงจากด้านนอก
พอเห็นเด็กสาวเข้ามา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำเสียงที่อ่อนโยนมาตลอดขรึมลง “เยาเยา ออกไป”
“เห็นแล้วใช่ไหมว่าพิษคืนชีพแล้ว” อิ๋งจื่อจินหันมา แค่เหลือบมอง “คุณคิดว่าโอนถ่ายมาที่ร่างกายคุณแล้วคุณจะไม่เป็นไรงั้นเหรอ”
เธอย่อมรู้ทันความคิดของฟู่อวิ๋นเซิน
โอนถ่ายพิษในตัวผู้เฒ่าฟู่มาที่ตัวเขา เพื่อให้พิษสงบลงแล้วค่อยทำการถอนพิษ
แต่พิษชนิดนี้เมื่อคืนชีพขึ้นมาก็จะตอบสนองไวผิดปกติ อีกทั้งยังจะยิ่งรุนแรงขึ้น
การโอนถ่ายพิษเป็นวิธีแก้ปัญหาก็จริง แต่ก็เป็นในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
อิ๋งจื่อจินไม่ได้ออกไป เธอพูดต่อ “มีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านั้น คุณจะเอาชีวิตแลกชีวิต ไม่ฉลาด”
วิธีแบบนี้ทำให้เธอนึกถึงเพื่อนสนิทคนนั้น ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่ทำแบบนี้
ฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปชั่วขณะ เขายิ้ม “เยาเยา เรื่องของความรู้สึกบางครั้งก็โง่เขลา”
อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไร แค่ยื่นมือออกไป
เวลานี้ชายหนุ่มได้เข้ามา “คุณชาย เธอ…”
คำพูดที่เหลือพูดต่อไม่ได้แล้ว
เขามองอย่างอึ้งๆ เด็กสาวใช้มือข้างหนึ่งดึงฟู่อวิ๋นเซินขึ้นจากเตียง
อีกทั้งดูเหมือนจะไม่ได้ออกแรงอะไรเลย
ชายหนุ่ม “…”
เขาช็อก
เขาเป็นเพียงคนจำนวนไม่มากที่รู้ดีว่าฟู่อวิ๋นเซินมีวิชาต่อสู้ติดตัว
อย่างไรเสียก็เคยท่องไปในยุโรปมาก่อน
ต่อให้เด็กสาวคนนี้เป็นจอมยุทธ์โบราณ ต่อให้เป็นจอมยุทธ์โบราณที่เก่งกาจมาก แต่ก็ไม่มีทางทำได้ง่ายขนาดนี้
เว้นเสียแต่ฟู่อวิ๋นเซินไม่ได้ต่อต้าน ปล่อยให้เธอทำ
“เคยพูดแล้ว คุณช่วยฉัน ฉันก็จะช่วยคุณ” อิ๋งจื่อจินปิดเครื่องโอนถ่ายพิษ เธอเงยหน้า “หากเกิดอะไรขึ้นกับฉันจริง คุณก็ไม่มีทางนิ่งเฉย”
ฟู่อวิ๋นเซินได้ฟังก็เงียบไปอีกครั้ง “เด็กน้อย บางครั้งเธอหัวรั้นกว่าพี่ชายอีกนะ”
นิ่งไปเล็กน้อยแล้วหัวเราะเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แต่ก็พูดถูก พี่ชายจะปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอได้ยังไง”
เขาเคยสู้กับนักปรุงยาพิษอันดับสองคนนั้น อีกฝ่ายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
แต่เนื่องจากทั้งเนื้อทั้งตัวของนักปรุงยาพิษเต็มไปด้วยพิษประหลาด ไม่มีใครเข้าใกล้ได้นอกจากเขา
อีกทั้งเป็นเพราะพิษในตัวผู้เฒ่าฟู่ เขาจึงลงมือกับอีกฝ่ายจนถึงตายไม่ได้
แต่ครั้งนี้ถ้านักปรุงยาพิษคนนั้นไล่ตามมาจริงก็สามารถฆ่าทิ้งได้แล้ว
ถ้าเขาปกป้องไม่ได้แม้แต่เด็กน้อยก็ถือว่าช่วงหลายปีมานี้สูญเปล่าแล้ว
ฟู่อวิ๋นเซินพยักหน้าเพื่อบอกให้พวกหมอถอยไป
หมอคนหนึ่งลังเล “ไม่ต้องให้ช่วยเหรอครับ”
“ไม่ต้องค่ะ” อิ๋งจื่อจินหยิบขวดยาออกมาวางข้างเตียงผ่าตัด “ไม่ใช่ธุระอะไร และพวกคุณก็ช่วยไม่ได้ด้วย”
พวกหมอที่มีชื่อเสียงในระดับโลกพอได้ยินแบบนี้ก็ตกอยู่ในห้วงความเงียบ
พวกเขาถอยไปด้านข้างเงียบๆ จับตาดูอยู่
ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ กลัวจะพลาดอะไรไป
อิ๋งจื่อจินหยิบเข็มเงินกับเข็มทองออกมาจากกล่องทรงยาว แยกปักไปตามตำแหน่งลมปราณของผู้เฒ่าฟู่
ครั้งนี้เธอทิ่มเข็มลงไปอย่างช้าๆ ไม่เหมือนตอนที่ฝังเข็มให้มู่เฮ่อชิงที่ฝังสิบกว่าเข็มในไม่กี่วินาที
ชายหนุ่มมองด้วยความตะลึง “คุณชาย นี่คือ…หมอแผนโบราณเหรอ”
“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ไม่ใช่หมอแผนโบราณทั่วไป”
ชายหนุ่มช็อกอีกครั้ง
เป็นจอมยุทธ์โบราณ แถมยังเป็นหมอแผนโบราณด้วย นี่ใช่คนเหรอ
แต่พิษในตัวผู้เฒ่าฟู่ ใช่ว่าพวกเขาจะไม่เคยเชิญคนในแวดวงหมอแผนโบราณมารักษา ก็ยังคงจนปัญญาเหมือนกัน
ชายหนุ่มถามเสียงเบา “คุณชาย เธอเป็นคนฮู่เฉิงจริงเหรอ”
“ไม่ใช่” ฟู่อวิ๋นเซินหันหน้ามา “หยุดพูด”
ชายหนุ่มกลืนความสงสัยที่เหลือลงคอ ตั้งใจดูต่อ
เนื่องจากยาในขวดล้วนเป็นสารสกัดสมุนไพรที่เป็นพิษรุนแรง ตอนอิ๋งจื่อจินใช้ก็ระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ร่างกายนี้ของเธอสุดแสนจะธรรมดา ไม่ค่อยแข็งแรง ตอนฝังเข็มต้องใช้แรงที่มากพอสมควร
แต่พอไหว เมื่อก่อนเธอเคยเจอพิษชนิดนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง
อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง ทิ่มลงไปอีกเข็ม
คนคุ้นเคย เจอกันอีกแล้วนะ
…
วันที่ 6 พฤษภาคม กลับมาเรียนหลังหยุดยาว นักเรียนห้องสิบเก้าต่างร่าเริงสดใส
นักเรียนคลาสอื่นไม่รู้ความสามารถของอิ๋งจื่อจิน พวกเขาจะเข้าใจได้อย่างไร
แม้แต่นักเรียนที่แย่สุดในคลาส หลังจากได้ฟังพ่ออิ๋งของพวกเขาสอนวิชาชีวะ คะแนนที่คาดหวังครั้งนี้อยู่ที่เจ็ดสิบห้าคะแนนขึ้นไป ห่างจากคะแนนเต็มสิบห้าคะแนน
ซิวอวี่ที่นั่งข้างอิ๋งจื่อจินก็ยังถึงขั้นหยิบหนังสือฟิสิกส์ที่หนาห้าเซนติเมตรมาเริ่มเปิด
นักเรียนห้องสิบเก้าต่างอดทนไม่พูดอะไร แม้จะเห็นกระทู้เยาะเย้ยในเว็บบอร์ดโรงเรียนก็ตาม
“ลู่ฟั่งมันโง่จริงๆ” ลูกน้องพูดเสียงเย็นชา “กินอะไรไม่กิน จะแดกขี้ให้ได้”
เจียงหรานก็ให้ความสนใจมาก อารมณ์หงุดหงิดหายไปไม่น้อย “เอามาให้สักกระบะ กินซะให้พอ”
ของแบบนี้เขาให้หมูหลายตัวเติมเต็มความต้องการของลู่ฟั่งได้
พอนึกถึงว่าอีกเดี๋ยวจะได้ดูลู่ฟั่งไลฟ์สดแล้ว ทันใดนั้นลูกน้องก็ตบต้นขาหนึ่งฉาด ตื่นเต้นไม่ไหว “พี่หราน เจ๊อวี่ พวกพี่ต้องการให้ผม…”
“ไสหัวไป!” ซิวอวี่โมโห “น่าขยะแขยง”
ลูกน้องเกาหัว รู้ว่าซิวอวี่ตีความหมายผิด “ไม่ใช่ ผมหมายความว่าจับตาดูเขา”
“ก็ขยะแขยงเหมือนกัน เลิกพูดเถอะ” ซิวอวี่สีหน้าเรียบเฉย “ฉันจะอ้วกแล้ว”
“เดี๋ยวนะ” เจียงหรานเงยหน้า “พ่ออิ๋งลาหยุดเหรอ”
“ใช่” ซิวอวี่พยักหน้า “ตอนนี้คาบทบทวนบทเรียนตอนเช้าจบแล้ว ปกติพ่ออิ๋งจะมาถึงพอดี”
เจียงหรานขมวดคิ้ว “เธอไม่ได้โทรหาเหรอ”
“ยังต้องให้นายบอกเหรอ โทรตั้งนานแล้ว” ซิวอวี่ส่ายหน้า “แต่โทรไม่ติด น่าจะมีธุระด่วน เรื่องของพ่อ นายยุ่งไม่ได้หรอก อย่าคิดมากเลย”
เจียงหราน “…”
เขามีคำพูดที่ไม่รู้ว่าควรพูดดีไหม
“ออกมาแล้วๆ!” ลูกน้องอีกคนวิ่งมาจากด้านนอก “พี่หราน เจ๊อวี่ อันดับคะแนนรวมออกมาแล้ว ผมเห็นพวกอาจารย์ฝ่ายวิชาการถือกระดาษสีแดงมาติด พวกเรารีบไปดูกัน”
ในขณะที่นักเรียนห้องสิบเก้าลงไปชั้นล่าง ทางด้านคลาสอัจฉิรยะ
ลู่ฟั่งรออันดับคะแนนรวมถูกโพสต์ลงในเว็บบอร์ด จากนั้นเขาค่อยไล่ดูขึ้นไป แค่นี้ก็จะรู้แล้วว่าผลคะแนนของอิ๋งจื่อจินน่าขายหน้าขนาดไหน
ถึงขนาดที่เขาช่วยอิ๋งจื่อจินเขียนบทสำนึกผิดต่อจงจือหว่านไว้แล้ว พอถึงตอนนั้นเขาจะโพสต์ลงเว็บบอร์ด ทำให้อิ๋งจื่อจินอยู่ในชิงจื้อต่อไปไม่ได้
นักเรียนหญิงคนหนึ่งชะโงกหน้าเข้ามาทางหน้าต่างแล้วเรียก “จือหว่าน ไม่ลงไปดูอันดับคะแนนเหรอ”
ปกตินักเรียนคลาสเด็กอัจฉริยะจะไม่ลงไปดูอันดับคะแนนที่บอร์ดประกาศ
เพราะไม่ต้องดูก็รู้ว่าสิบอันดับแรกจะต้องเป็นนักเรียนคลาสของพวกเขาแน่นอน
อย่างไรเสียนักเรียนคลาสเด็กอัจฉริยะจะถูกปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ถ้าคะแนนหลุดจากห้าสิบอันดับแรกก็จะถูกย้ายไปอยู่คลาสทดลองวิทยาศาสตร์
แต่ครั้งนี้เนื่องจากลู่ฟั่งเดิมพันกับอิ๋งจื่อจินไว้ และก็เกี่ยวพันถึงศักดิ์ศรีของคลาสเด็กอัจฉริยะ พอจงจือหว่านได้ยินแบบนี้ นักเรียนคนอื่นก็เริ่มสนใจแล้ว
“จือหว่าน รอด้วย!” ลู่ฟั่งรีบเก็บโทรศัพท์มือถือแล้ววิ่งตามลงไป
ตอนที่จงจือหว่านมาถึงชั้นล่างของอาคารเรียน ก็มีนักเรียนจำนวนมากไปรุมล้อมแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนคลาสทดลองวิทยาศาสตร์
เธอกวาดตามองก็เห็นนักเรียนห้องสิบเก้าที่ท่าทางตื่นเต้น จึงอดแสยะยิ้มไม่ได้
จะถูกลงโทษอย่างเปิดเผยแล้วยังทำตัวมีความสุขได้ขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าสมองพัฒนามายังไง
“จือหว่าน ที่หนึ่งของสายชั้นครั้งนี้ต้องเป็นเธอเหมือนเดิมแน่นอน” ลู่ฟั่งไม่ลืมอวย “ครั้งนี้ถ้าเธอได้คณิตศาสตร์ร้อยยี่สิบห้าคะแนน คูณออกมาไม่เท่ากับได้คะแนนเต็มร้อยห้าสิบเหรอ สุดยอดไปเลย”
จงจือหว่านยิ้มเล็กน้อย ไม่พูดอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
พวกอาจารย์ติดกระดาษสีแดงเสร็จก็ออกไป
บรรดานักเรียนรีบเงยหน้าดูชนิดที่แทบทนรอไม่ไหว