คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 176 เกราะที่ใหญ่ที่สุดหลุดแล้ว

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

“แม้แต่มหา’ลัยนอร์ตันอยู่ไหนเธอยังหาไม่เจอ แล้วจะ…” เฮ่อสวินเบิกตาโพลง มองด้วยความตะลึง “เธอว่าไงนะ”

ราวกับได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุด ดวงตาภายใต้แว่นกรอบทองมองด้วยสายตาดูถูก “เธอมีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์จริงๆ งั้นเหรอ เธอเข้าไปในมหา’ลัยนอร์ตันได้เหรอ”

นอกจากนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยนอร์ตัน คนนอกต่างไม่รู้ที่ตั้งแน่นอนของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเข้าไปในนั้น

แต่ถึงแม้จะเป็นนักศึกษาก็ต้องมีบัตรผ่านทางถึงจะเข้าไปในมหาวิทยาลัยนอร์ตันได้

บัตรผ่านทางของเขาเหลือใบสุดท้ายแล้ว เพียงพอแค่ครั้งนี้พานักเรียนสามคนไปสอบสัมภาษณ์และก็ถือโอกาสทำภารกิจสอบของตัวเอง

เรียกได้ว่าตราบใดที่ไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแล้ว ไปจากมหาวิทยาลัยนอร์ตันเมื่อใดก็จะกลับไปไม่ได้อีก

แต่การจะได้อยู่ต่อนั้นยากเสียยิ่งกว่าการสอบให้ผ่าน

นักศึกษาของคณะระดับ A ในบรรดาร้อยคนอย่างมากสุดมีแค่คนเดียวที่จะมีสิทธิ์อยู่ในมหาวิทยาลัยต่อ

เฮ่อสวินรู้สึกว่าอิ๋งจื่อจินหลงตัวเองเกินไป

คิดจริงเหรอว่าทำให้พวกเขาเถียงไม่ออกในการถามตอบครั้งนั้นได้แล้วก็จะสามารถได้รับความสนใจจากมหาวิทยาลัยนอร์ตัน

น่าขำเกินไปหรือเปล่า

“เธอรู้หรือเปล่าว่าสถานะของมหาวิทยาลัยนอร์ตันในแวดวงวิชาการอยู่ในขั้นไหน” เฮ่อสวินดูถูกยิ่งกว่าเดิม “เธอไม่ใช่แม้แต่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน เธอจะเอาสิทธิ์สอบสัมภาษณ์มาจากไหนได้ เธอเป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยนอร์ตันหรือยังไง”

“คุณเฮ่อช่วยจำคำพูดนี้ไว้ให้ดี” อิ๋งจื่อจินไม่ตอบเขา พยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าเรียบเฉย “อะไรที่ไม่ใช่ของคุณก็ย่อมจะถูกแย่งไป”

เฮ่อสวินขมวดคิ้ว

ยังไม่ทันได้เข้าใจความหมายของคำพูดนี้เด็กสาวก็เดินไปแล้ว

เขาค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ สักพักถึงเดินกะเผลกกลับคอนโดที่ตัวเองเช่าอยู่

บ่ายวันนี้คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งถึงค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา พอฟื้นก็รีบถามจงมั่นหวาถึงสถานการณ์ของอิ๋งลู่เวย

จงมั่นหวาก็รู้ว่าปิดบังต่อไปไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงบากหน้าพูดออกมา

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งสะเทือนใจจนเกือบหมดสติไปอีกครั้ง

เธอเอามือจับตรงหัวใจ นิ้วสั่น “ฉันไม่เชื่อ! คนพวกนั้นต้องใส่ร้ายเวยเอ๋อร์แน่นอน!”

จงมั่นหวายิ้มเศร้า

หน่วยอีจื้อขึ้นตรงต่อเบื้องบน บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ขนาดตระกูลในตี้ตูยังต้องให้เกียรติ แล้วจะตั้งใจมาเล่นงานอิ๋งลู่เวยได้อย่างไร

ต่อให้อิ๋งลู่เวยไม่เข้าคุก เรื่องเมื่อสิบหกปีก่อนก็ทำให้เธอใช้ชีวิตร่วมกับอิ๋งลู่เวยไม่ได้อีกแล้ว

หลังจากอิ๋งลู่เวยถูกจับไป จงมั่นหวากลับรู้สึกโล่งอกเสียด้วยซ้ำ

พอเป็นแบบนี้ก็ยิ่งไม่มีคนรู้ว่าเด็กทารกที่ถูกเอาไปทิ้งในตอนนั้นเป็นใครแล้ว

“โทรศัพท์!” คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งตัวสั่น “จงมั่นหวา เอามือถือมาให้ฉัน ฉันจะโทรหาตระกูลเจียง”

“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมพวกเขาไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรแม้แต่น้อย ทนเห็นเวยเอ๋อร์ถูกจับไปได้ยังไง”

จงมั่นหวายื่นโทรศัพท์มือถือให้ อ้าปากอยากจะบอกว่าตระกูลเจียงบอกปัดความเกี่ยวข้องตั้งแต่แรกแล้ว

แต่คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งกดเบอร์โทรออกไปแล้ว น้ำเสียงเชิงตำหนิ ตวาดด้วยความโมโห “เยี่ยซู่เหอ เธอหมายความว่าไง ทำไมไม่สนเวยเอ๋อร์แล้ว ตอนนั้นพูดไว้ว่ายังไง!”

เยี่ยซู่เหอเป็นชื่อจริงของคุณนายผู้เฒ่าเจียงคนปัจจุบัน

เธออายุมากกว่าอิ๋งเจิ้นถิงแค่ไม่กี่ปี

หลังจากรับสายของคุณนายผู้เฒ่าอิ๋ง เยี่ยซู่เหอก็ไม่กลุ้มไม่โกรธ แค่ยิ้มออกมาเล็กน้อย “สนเหรอ ฉันยังจะให้เธอมาทำมั่วหย่วนเดือดร้อนได้อีกเหรอคะ”

“ส่วนเรื่องตอนนั้น พูดตามตรงนะคะ นี่มันก็ตั้งกี่ปีมาแล้ว ฉันก็ไม่กลัวว่าคุณนายจะเปิดเผยเรื่องนั้น ก็ลองดูแล้วกันว่าฉันหรือคุณนายที่จะซวย”

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งถูกยั่วโมโหจนหายใจไม่ทัน “เยี่ยซู่เหอ เธอ เธอ…”

“ตระกูลเจียงถอนหมั้นไปแล้ว ตระกูลอิ๋งของคุณนายก็อย่าฝืนเลยนะคะ” เยี่ยซู่เหอยิ้มอีกครั้ง “มั่วหย่วนของฉันโปรไฟล์ดีขนาดนั้น ฉันเลือกคุณหนูลูกเศรษฐีให้เขาใหม่ได้ แล้วจะให้แต่งกับลูกสาวที่จิตใจโหดเหี้ยมของคุณนายได้ยังไงล่ะคะ”

“แต่ลูกสาวคุณนายก็ได้คุณนายมาเต็มๆ เลยนะคะ เชื้อไม่ทิ้งแถว”

พูดจบเยี่ยซู่เหอก็ตัดสายทิ้ง

เธอหันหน้าไป “คุณนายฟู่ พวกเราคุยกันต่อค่ะ”

คุณนายฟู่ย่อมได้ยินบทสนทนาทางโทรศัพท์ของเยี่ยซู่เหอ จึงแสร้งทำเป็นถามเหมือนไม่ตั้งใจ “ใครเหรอคะ”

“ยายแก่ที่ใกล้ตายแล้วน่ะค่ะ” เยี่ยซู่เหอจิบชา แสยะยิ้ม “ลูกสาวตัวเองติดคุกไปแล้วยังจะมาทำลูกชายของฉันเดือดร้อนอีก”

เดิมทีเธอก็ไม่ชอบอิ๋งลู่เวย แต่ติดตรงที่เจียงมั่วหย่วนชอบ อีกทั้งคุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็มีจุดอ่อนของเธออยู่

ถึงแม้ตอนนี้ตระกูลเจียงจะมีเจียงมั่วหย่วนคุม แต่ผู้ถือหุ้นเก่าๆ จำนวนมากก็อยากให้เจียงฮว่าผิงกลับมา กำลังต่อต้านกันอยู่

เธอไม่มีทางปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก

ตอนนี้ตระกูลฟู่เป็นเป้าหมายในการร่วมมือที่ดีมาก

พอกลับบ้านตอนเย็นเวินทิงหลานก็อารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว

ความอึมครึมบนร่างกายเขาสลายไป แต่ความเศร้ายังคงอยู่

เวินเฟิงเหมียนก็มองออกว่าเขาดูแปลกไป พูดด้วยความเป็นห่วง “เยาเยา อาการของอวี้อวี้หนักขึ้นอีกแล้วหรือเปล่า”

“ไม่ใช่ค่ะ พ่อไม่ต้องเป็นห่วง หนูจะจัดการเอง” อิ๋งจื่อจินเปิดคอมพิวเตอร์ ชะงักเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “พ่อคะ หนูอาจไปต่างประเทศสักระยะ”

“ต่างประเทศเหรอ” เวินเฟิงเหมียนขมวดคิ้ว “ทำไมอยู่ๆ ก็จะไปที่ไกลแบบนั้นล่ะ”

“มีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการค่ะ” อิ๋งจื่อจินก้มหน้า พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ถือโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนเก่าด้วยค่ะ”

“อย่างนั้นเหรอ” เวินเฟิงเหมียนคิดว่าเป็นคนที่เธอรู้จักในฮู่เฉิง จึงพยักหน้า “ลูกไปคนเดียวพ่อไม่วางใจ หาใครไปเป็นเพื่อนอีกสักคนสิ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า พูดเสียงขรึม “พ่อคะ พอหนูเรียนจบหนูอาจพาพวกพ่อไปอยู่ตี้ตูนะคะ”

สีหน้าของเวินเฟิงเหมียนชะงักไปในชั่วขณะ “ตี้ตูใหญ่มาก แต่ก็เป็นที่ที่ช่วยให้เจริญก้าวหน้า”

เขายิ้ม “พ่อแก่แล้ว ไม่ยุ่งกับชีวิตของพวกลูกหรอก แต่ลูกอยากไปที่ไหนพ่อก็จะสนับสนุน”

หลังจากที่เวินเฟิงเหมียนเปิดประตูออกไปอิ๋งจื่อจินก็เงียบอยู่สักพัก จากนั้นถึงล๊อกอินเข้าเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

ไอดีโค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์มีแต้มการใช้งานถึงหนึ่งแสนแล้ว

แต่ภายในพื้นที่ปิดเป็นที่สิงสถิตของบอสเก่งๆ จำนวนมาก ไอดีของเธอเป็นเพียงหางแถว

อันที่จริงเธอไม่อยากติดต่อคนเก่าๆ เท่าไร แต่เห็นได้ชัดว่าชีวิตเกษียณที่เธอต้องการได้ถูกทำลายแล้ว

งั้นติดต่อสักหน่อยก็ไม่เป็นไร

เพียงแต่ไอดีใหม่ของเธอไอดีนี้ติดต่อไม่ได้แน่นอน

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด มอง [โค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์] ที่อยู่มุมบนขวาสามวินาทีแล้วกดล๊อกเอ๊า กลับสู่หน้าล๊อกอินใหม่อีกครั้ง

จากนั้นเธอก็ใส่อีกไอดีหนึ่ง

พอล๊อกอินด้วยไอดีนี้หน้าเว็บบอร์ดก็เกิดความเปลี่ยนแปลง

พื้นหลังเป็นสีทองเข้ม

นี่ต่างหากเว็บบอร์ดเอ็นโอเคที่แท้จริง

คนที่มีหน้าเว็บแบบนี้ได้มีไม่เกินห้าคนในเว็บบอร์ดเอ็นโอเค แม้แต่ผู้ดูแลก็มองไม่เห็น

อิ๋งจื่อจินกดโซนล่ารางวัล โพสต์หนึ่งกระทู้แล้วออก

กลางดึก

พายุฝนกระหน่ำไม่ขาดสายบนมหาสมุทร

มีเรืออยู่ลำหนึ่ง มองภายนอกคือเรือล่าวาฬ แต่ในความเป็นจริงกำลังค้นหาชีวิตใหม่ในท้องทะเลลึก ดำเนินการขุดค้นซากโบราณและวิจัยทางวิทยาศาสตร์

จากคำบอกเล่าเดิมทีตรงนี้คือนครแอตแลนติส แผ่นดินโบราณที่เคยครอบครองอารยธรรมอันรุ่งเรืองเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนได้จมลงเนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ อารยธรรมทั้งหมดก็ได้สูญหายไปด้วยจนหมดสิ้น

แต่คนจำนวนไม่น้อยยังคงเชื่อถึงการมีอยู่อย่างแท้จริงของแอตแลนติส ขอเพียงแต่หาซากแผ่นดินโบราณนี้ให้เจอก็จะได้ครอบครองความร่ำรวยมหาศาลที่ยิ่งกว่าตระกูลลอเรนท์

หลายปีมานี้จึงมีนักล่าติดชาร์ตจำนวนไม่น้อยที่ออกทะเล แต่ก็น่าเสียดายที่คว้าน้ำเหลว

ภายในเรือมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ เขากำลังดูคอมพิวเตอร์

บนหน้าจอก็คือพื้นที่ปิดของเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

เด็กหนุ่มอ่านกระทู้ล่ารางวัลในโซนงานล่ารางวัลเหมือนตอนปกติ

ระดับบัญชีผู้ใช้งานของเขาไม่ได้สูงมาก แต่ก็เป็นระดับเอส เขาจึงไม่สนใจงานล่ารางวัลทั่วไปที่มีอยู่จำนวนมาก

งานพวกนั้นตั้งรางวัลไม่พอให้เขาสนใจ

จนกระทั่งเขาเห็นกระทู้ล่ารางวัลกระทู้หนึ่งที่น่าสนใจ หัวข้อมีคำว่ามหาวิทยาลัยนอร์ตัน

เด็กหนุ่มกดเข้าไปอ่าน

[งานล่ารางวัล]

ต้องการบัตรเชิญของคณะระดับเอสเอส (SS) มหาวิทยาลัยนอร์ตัน

เจ้าของกระทู้จะไปรับที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันด้วยตัวเอง

รางวัล : รับคำพยากรณ์หนึ่งครั้งจากเจ้าของกระทู้

“ชิ” เด็กหนุ่มอ่านจบก็แสยะยิ้ม “พวกนักต้มตุ๋นที่หลอกคนดวงซวยอีกแล้ว”

พยากรณ์ฟรีหนึ่งครั้งแลกกับบัตรเชิญของมหาวิทยาลัยนอร์ตันงั้นเหรอ

แถมยังเป็นบัตรเชิญของคณะระดับเอสเอส (SS) ด้วย

โคตรขาดทุนเลย

อีกอย่างบัตรเชิญของคณะระดับเอสเอส (SS) ช่วงหลายปีมานี้ก็ไม่มีด้วย

เนื่องจากไม่เหมือนกับบัตรเชิญของระดับอื่น บัตรเชิญของคณะระดับเอสเอส (SS) จะต้องให้อธิการบดีของมหาวิทยาลัยนอร์ตันลงนามด้วยตัวเองถึงจะแจกจ่ายออกไปได้

ดังนั้นคนที่รับงานนี้ได้ก็มีแค่อธิการบดีของมหาวิทยาลัยนอร์ตันแล้ว

แต่อธิการบดีของมหาวิทยาลัยนอร์ตันจะอยากรับคำพยากรณ์จากนักต้มตุ๋นได้อย่างไร

ต่อให้มีคนอยากรับก็ไม่มีทางเก่งถึงขั้นเอาบัตรเชิญมาได้

คงเป็นพวกหน้าใหม่ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวถึงได้โพสต์กระทู้เหลวไหลแบบนี้

เด็กหนุ่มเตรียมปิดกระทู้นี้เพื่อไปดูอย่างอื่นต่อ

ทันใดนั้นสายตาของเขาได้เหลือบเห็นข้อมูลของผู้ที่โพสต์กระทู้นี้

ไอดี : เทพพยากรณ์

ระดับ : สิทธิ์ในสมาพันธ์ลับของคุณต่ำเกินไปไม่สามารถดูได้

วันที่ลงทะเบียนใช้งาน : 22 ตุลาคม 1496

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท