คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 237 วีไอพีระดับสูงสุด! ซูหร่วนอับอาย

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ที่ด้านหน้าประตู ซูหร่วนที่อยู่ในชุดกระโปรงสีแดงยาวถึงข้อเท้ายืนโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง

แต่ขนาดเธอใส่รองเท้าส้นสูงแปดเซนติเมตรก็ยังเตี้ยกว่าอิ๋งจื่อจินที่สวมรองเท้าแตะ

สีหน้าของซูหร่วนเย็นชา ง้างมือขึ้นทันที

สีหน้าเคียดแค้น ที่มากกว่าคือความเย่อหยิ่งอวดดี

หวดมือไปทางใบหน้าของอิ๋งจื่อจินอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

ฟู่อี้หันที่วิ่งตามมาเห็นเหตุการณ์นี้พอดี เขาสีหน้าเปลี่ยนด้วยความตกใจ รีบตะโกนห้าม

“เสี่ยวหร่วน หยุดนะ!”

ฟู่อี้หันไม่ได้คิดว่าอิ๋งจื่อจินเอาบัตรสีดำทองใบนั้นของซูหร่วนไป

บัตรดำทองไม่กำกับชื่อใบนั้นของธนาคารลอเรนท์ดูสวยก็จริง บนบัตรยังมีดอกไอริสสีทอง แต่สัญลักษณ์แบบที่ธนาคารอื่นควรมีกลับไม่มี และก็เพราะมีแจกเฉพาะในตี้ตู ทำให้ตระกูลเศรษฐีในฮู่เฉิงต่างไม่มี คนทั่วไปก็คงมองบัตรสีดำทองใบนี้เป็นเพียงบัตรธรรมดาทั่วไป

ซูหร่วนไม่ฟัง สายตาเย็นชายิ่งกว่าเดิม

“ฉันจะสั่งสอนพวกชอบลักเล็กขโมยน้อยจะมาห้ามฉันทำไม”

เธอเป็นคุณนายของหลานชายสายตรงตระกูลฟู่ พี่สะใภ้ใหญ่ดุจมารดา แม้แต่ฟู่อวิ๋นเซินเธอก็มีสิทธิ์สั่งสอน คนรักของเขาเธอจะตบก็ตบได้เหมือนกัน

แต่มือของซูหร่วนยังไม่ทันถึงใบหน้าของอิ๋งจื่อจิน

มือของเธอถูกจับล็อกไว้กลางอากาศขณะที่กำลังจะวาดลง

“กร็อบ” เสียงเบาแต่ฟังได้ไม่ยากว่าเป็นเสียงกระดูกเคลื่อน

ความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านมาอย่างกะทันหันทำให้ซูหร่วนแทบหยุดหายใจ ดวงตาเบิกโพลง เซถอยหลัง มืออีกข้างของเธอจะคว้าเสื้อของอิ๋งจื่อจินตามสัญชาตญาณ เพื่อรักษาสมดุล อิ๋งจื่อจินปล่อยมือหลบอย่างสง่างาม

ซูหร่วนคว้าอากาศ สีหน้าเหวอในชั่วขณะ

ฟู่อี้หันนึกไม่ถึงเพราะเขามัวแต่จะไปห้ามซูหร่วน ความสนใจจึงอยู่ที่ตัวอิ๋งจื่อจินตลอดไม่ทันได้มองว่าซูหร่วนหงายหลังไปยังไง

พนักงานเคาน์เตอร์ที่ตามขึ้นมาเห็นซูหร่วนล้มมาทางเธอจึงถอยหลังหนึ่งก้าวโดยอัตโนมัติ

“ตึง!” ซูหร่วนล้มลง หลังลงพื้นเต็มๆ

แถมเธอยังใส่รองเท้าส้นสูงขาก็เลยพลิกด้วย

ถ้าไม่ใช่เพราะมือเธอค้ำพื้นไว้ได้ทัน เธอล้มไปแบบนี้ก็อาจหัวฟาดพื้นได้

ฟู่อี้หันอึ้งไปหลายวินาทีถึงรีบเข้าไปช่วยประคองซูหร่วน “เสี่ยวหร่วน”

อิ๋งจื่อจินดึงทิชชู่เปียกมาเช็ดมือพลางพูด

“ดูท่าคุณฟู่จะไม่เคยสั่งสอนภรรยาตัวเองให้รู้จักคำว่ามารยาท”

“คุณอิ๋ง ขอโทษจริงๆ ครับ” ฟู่อี้หันรู้สึกผิดมากเขาเม้มริมฝีปาก

“เธอเป็นคนใจร้อน ผมจะพาเธอลงไปเดี๋ยวนี้ครับ”

“ไปไม่ได้!” ซูหร่วนโมโหจนแผดเสียง เธอหันขวับไปมองอิ๋งจื่อจิน พูดด้วยความรู้สึกรังเกียจ

“ยังจะเสแสร้งอีกเหรอ เอาบัตรดำทองของฉันไปเข้าร่วมงานประมูล แถมยังผลักฉันจนบาดเจ็บ ฟู่อวิ๋นเซินรู้หรือเปล่าว่าเธอจิตใจโหดเหี้ยมขนาดนี้”

“ซู หร่วน!” เป็นครั้งแรกที่ฟู่อี้หันพูดเสียงขรึม “คุณไม่มีหลักฐาน”

“ฟู่อี้หัน ใครเป็นเมียคุณกันแน่” ซูหร่วนน้อยใจ “คุณยังจะเข้าข้างคนนอกอีกเหรอ หรือว่าภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นของปลอม”

ฟู่อี้หันสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่สนใจเธอหันไปพูดกับอิ๋งจื่อจิน

“ขอโทษที่รบกวนครับคุณอิ๋ง” ขณะพูดเขาก็จะพาซูหร่วนออกไป แต่ซูหร่วนกลับผลักเขาเธอจับกำแพง ฝืนยืนขึ้นด้วยขาข้างเดียว

“อิ๋งจื่อจิน เอาบัตรดำทองของฉันออกมา แล้วฉันจะไม่บอกฟู่อวิ๋นเซินเรื่องนี้”

อิ๋งจื่อจินหาวออกมาพูดอย่างสุภาพ “เลี้ยวซ้ายสามร้อยเมตร ไม่ส่งนะ” ซูหร่วนอึ้ง

ผ่านไปสักพักเธอถึงนึกขึ้นได้ว่าแถวโรงแรมควีนมีโรงพยาบาลประสาทอยู่

ซูหร่วนโมโหจนตัวสั่น สีหน้าบึ้งตึง

“เธอนั่นแหละที่ประสาท ถ้าเธอไม่ได้เอาบัตรของฉันไปทำไมถึงไม่ยอมให้ฉันเข้าไปค้น”

อิ๋งจื่อจินไม่อยากพูดอะไรกับเธอมากกำลังจะปิดประตู

ซูหร่วนไม่ยอมเลิกราจะตามเข้าไปให้ได้ ทันใดนั้นหางตาเธอก็เหลือบเห็นว่าบนโต๊ะมีบัตรสีดำอยู่ใบหนึ่ง ยืนอยู่ไกลเธอมองไม่เห็นสัญลักษณ์บนบัตรสีดำใบนั้น

แต่เธอแน่ใจว่านั่นเป็นบัตรดำทองไม่กำกับชื่อของธนาคารลอเรนท์

“เอาสิ” ซูหร่วนชี้บัตรสีดำใบนั้นที่อยู่บนโต๊ะ เธอแสยะยิ้ม “ถ้าเธอไม่ได้เอาบัตรของฉันไปแล้วนั่นอะไร”

“ฟู่อี้หัน คุณยังจะบอกว่าไม่มีหลักฐานอีกไหม ดูซะให้เต็มตาหลักฐานอยู่นั่น”

เดิมทีฟู่อี้หันคิดว่าซูหร่วนไร้เหตุผล เขามองไปด้วยความรู้สึกเริ่มรำคาญแล้วก็ต้องอึ้ง

ตรงนั้นมีบัตรสีดำอยู่ใบหนึ่งจริง

เพื่อไม่ให้ซูหร่วนโวยวายอย่างไร้เหตุผลขึ้นมาอีก ฟู่อี้หันจึงพูดขึ้น

“คุณอิ๋งครับ สะดวกให้ดูไหมครับ”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองฟู่อี้หัน สีหน้าชะงักเล็กน้อย

เธอหันไปหยิบบัตรใบนั้นที่อยู่บนโต๊ะแล้วเดินออกมา

“นี่แหละบัตรของฉัน!” คราวนี้ซูหร่วนเห็นชัดแล้วเธอตื่นเต้น

“อี้หัน ดอกไอริสสีทอง แล้วก็นี่ด้วย มีแค่ตี้ตูที่มี!” ฟู่อี้หันขมวดคิ้วแน่น

เขาเองก็เคยเห็นบัตรใบนั้นของซูหร่วนเป็นแบบนี้จริงๆ

“ฉันจะแจ้งตำรวจ” ซูหร่วนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วแสยะยิ้มอีกครั้ง

“บัตรฉันมีเงินอยู่สิบล้าน พอให้เธอถูกลงโทษหลายปีแน่”

อิ๋งจื่อจินได้ฟังก็เลิกคิ้วเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “แน่ใจเหรอว่านี่บัตรของคุณ”

“ไม่ใช่ของฉันแล้วจะเป็นของใคร” ซูหร่วนหัวเราะ “เป็นของเธอหรือไง เธอเคยไปตี้ตูเหรอต่อให้เธอเคยไป เธอมีปัญญาได้บัตรใบนี้มาเหรอ”

ตระกูลซูเป็นเพียงตระกูลขนาดกลางของตี้ตู ความสามารถพอๆ กับตระกูลฟู่ ก็เลยได้บัตรดำทองแบบนี้มาแค่สองใบ ตอนนั้นผู้เฒ่าซูยังไม่ขุ่นเคืองใจกับเธอยอมให้เธอมาหนึ่งใบ

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย “สิบล้าน ยอดเงินในบัตรคุณน่ะเหรอ”

“ทำไม” ซูหร่วนกลับมาทำท่าอวดดีอีกครั้ง

“เธอเกิดสิบชาติยังหาเงินไม่ได้เท่านี้เลย”

ใบหน้าของอิ๋งจื่อจินไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เธอยืนพิงประตูอย่างสบายๆ ท่าทางไม่แคร์

“งั้นก็แจ้งตำรวจเถอะ” ซูหร่วนอึ้งทันที

“คุณอิ๋ง” สีหน้าของฟู่อี้หันเปลี่ยนไปเล็กน้อย “จัดการกันเองก็พอแล้วครับ”

เขาไม่ได้เป็นห่วงซูหร่วน แต่เป็นห่วงอิ๋งจื่อจิน ถึงแม้เขาจะยังคงไม่เชื่อว่าเธอขโมย แต่ถ้าเป็นจริงเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะถ้ามีคดีติดตัวจะไม่ใช่เรื่องดี

“แจ้งสิ” อิ๋งจื่อจินเชิดคางขึ้น “ฉันให้เวลาคุณสิบนาที เดี๋ยวฉันต้องออกไปข้างนอกอีก”

ซูหร่วนโมโหท่าทีไม่แยแสของอิ๋งจื่อจิน แต่สุดท้ายเธอก็กดโทรหนึ่งหนึ่งศูษย์ แปดนาทีต่อมาก็มีตำรวจสองคนมาถึงชั้นเก้าของโรงแรมควีน

“คุณตำรวจคะ คนนี้ค่ะ” ซูหร่วนชี้อิ๋งจื่อจิน “เอาบัตรธนาคารที่มีเงินอยู่สิบล้านของฉันไป แถมยังปากแข็งไม่ยอมรับ ไม่กลัวถูกแจ้งตำรวจด้วยค่ะ”

พอได้ยินแบบนี้ตำรวจก็ไม่ฟังความจากซูหร่วนข้างเดียวแต่ถามขึ้น

“คุณผู้หญิงครับ ที่เธอพูดเป็นความจริงไหมครับ”

“ไม่จริงค่ะ” นิ้วของอิ๋งจื่อจินเล่นบัตรสีดำทองใบนั้น “นี่เป็นบัตรของฉัน”

“ยังจะปากแข็งอีกเหรอ” ซูหร่วนโมโหจนหัวเราะ “เธอไปเอาบัตรที่มีจำกัดแค่ในตี้ตูมาจากไหน”

ทันใดนั้นฟู่อี้หันที่อยู่ข้างๆ ก็เรียก “อวิ๋นเซิน”

อีกด้านหนึ่งของทางเดิน ผู้ชายรูปร่างสูงผึ่งผายกำลังเดินมาทางนี้ แสงไฟสลัวก็ยังยากที่จะปิดบังความหล่อของเขา รูปงามสะกดใจ ฟู่อวิ๋นเซินกวาดตามองซูหร่วนที่ท่าทางอวดดีกับตำรวจสองคน พอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหลุบตาลงยิ้มมุมปาก

“เยาเยา มื้อดึก”

พอเห็นแบบนี้ซูหร่วนก็รู้สึกเหลือเชื่อจริงๆ

คุณชายเจ้าชู้เสเพลเล่นสนุกกับสาวๆ แค่ผิวเผินก็พอแล้ว แต่นี่ยังเอาใจใส่ถึงขั้นออกไปซื้อมื้อดึกมาให้เลยเหรอ หรือว่าคบกันจริงจัง

อิ๋งจื่อจินรับถุงมาจากฟู่อวิ๋นเซินแล้วหันไปยื่นบัตรธนาคารในมือให้พนักงานเคาน์เตอร์

“เอาเครื่องมารูดทีค่ะ”

โรงแรมควีนมีเครื่องรูดบัตรที่ใช้สำหรับธนาคารลอเรนท์โดยเฉพาะไม่เหมือนเครื่องรูดบัตรทั่วไป แค่เจ้าของบัตรใส่รหัสผ่านก็สามารถดูยอดเงินคงเหลือได้

พนักงานรีบเรียกให้คนด้านล่างเอาเครื่องขึ้นมาจากนั้นก็รูดบัตรตามคำสั่ง ซูหร่วนเข้าไปชี้ตัวเลขที่แสดงบนหน้าจอเครื่อง

“เห็นหรือยัง ยอดเงินคงเหลือของฉันคือ…” อยู่ๆ เธอก็หยุดพูด

เพราะเวลานี้ตัวเลขทั้งหมดเพิ่งปรากฏออกมา กินพื้นที่สามในสี่ของหน้าจอ

สิบหลัก

พันล้าน!

พนักงานเคาน์เตอร์เอามือทาบอก ตะลึงตัวเลขที่ยาวเป็นพรวนนี้ หัวใจเต้นเร็ว

เธอเคยเจอเศรษฐีมาก็มาก แต่ยังไม่เคยเจอแบบนี้

แต่นี่ยังไม่จบ มุมขวาล่างของหน้าจอยังมีข้อมูลปรากฏอีก

ผู้ถือบัตร : อิ๋งจื่อจิน

ระดับ : เอสเอส

นี่เป็นบัตรดำทองที่มีชื่อกำกับ!

แถมยังเป็นลูกค้าวีไอพีระดับสูงสุดของธนาคารลอเรนท์ อย่างน้อยซูหร่วนก็ไม่เคยเจอระดับที่สูงขนาดนี้มาก่อน สมองของเธอตื้อในชั่วขณะ ไม่อยากเชื่อ

“แล้วบัตรของฉันล่ะ บัตรของฉันหายไปไหน”

สีหน้าของฟู่อี้หันเคร่งขรึมขึ้นมาทันที

เขารู้ว่าฟู่อวิ๋นเซินชอบเที่ยวเงินก็มีอยู่ไม่น้อย แต่ไม่มีทางให้ออกไปพันล้านในคราวเดียว เงินในบัตรนี้ต้องเป็นของอิ๋งจื่อจินแน่นอน แต่ทำไมเธอถึงได้มีเงินเยอะขนาดนี้

อิ๋งจื่อจินเก็บบัตร เงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า “ไม่ต้องดูแล้ว เงินที่ชาตินี้เธอก็หาไม่ได้”

จากนั้นเธอก็หันไปพูดอย่างมีมารยาท “คุณตำรวจคะ เธอใส่ร้ายฉัน”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท