คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 243 เจอของแข็งเข้าแล้ว!

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ท่าทางของเธอไม่รีบร้อน แถมยังสบายๆ เหมือนกับจะออกไปวิ่งท่าทางแบบนี้ของเธอทำให้ห้าจอมยุทธ์ที่บุกเข้ามาต่างอึ้ง ไม่เข้าใจว่าเธอทำอะไรอยู่ น้อยครั้งที่จอมยุทธ์จะปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี เพียงแต่ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรก็รวดเร็วคล่องแคล่วไม่มีทางทิ้งร่องรอยอะไรไว้

อีกทั้งเนื่องจากร่างกายของจอมยุทธ์ฝึกฝนจนมีกำลังภายใน จึงถนัดเรื่องเก็บซ่อนลมหายใจ มีความเป็นไปได้สูงว่าคุณตาขายเนื้อหมูที่เดินผ่านในตลาดสดก็คือจอมยุทธ์ที่มีกำลังภายในขั้นสูง นี่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เคยมี

ห้าจอมยุทธ์ล้วนเป็นผู้ติดตามที่เมิ่งจิ่งอวี้ส่งมา ในวงการจอมยุทธ์ถือเป็นแค่ระดับล่างสุด

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น อย่าว่าแต่คนทั่วไปเลย ต่อให้เป็นนักมวยที่มีฝีมือระดับสากลก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้อยู่ดี กำลังภายในสามารถทำอันตรายได้แม้ไม่แตะถูกตัว

หลังจากที่อิ๋งจื่อจินซื้อคอนโดห้องนี้ ประตูกันขโมยที่เลือกติดตั้งก็เป็นแบบที่แน่นหนาที่สุดในท้องตลาด ลูกกระสุนเจาะไม่เข้า แต่จอมยุทธ์แค่ใช้กำลังภายในถีบไม่กี่ทีก็พังได้แล้ว

อิ๋งจื่อจินมัดผมเสร็จก็มองประตูกันขโมยที่กลายเป็นซากอยู่บนพื้น เธอพยักหน้า “ประตูบานนี้ห้าหมื่น”

ประโยคสั้นๆ ทำให้ห้าจอมยุทธ์ฟังแล้วหัวเราะพากันส่ายหน้า

พวกเขายังแอบคิดว่าเด็กสาวคนนี้จะมีดีอะไรเข้าจริงๆ ถึงได้สุขุมใจเย็นขนาดนี้ต่อหน้าพวกเขา เห็นทีจะเป็นแค่เด็กรุ่นใหม่ที่ไม่เกรงกลัวใคร ไม่รู้อะไรก็เลยไม่กลัวจนถึงตอนนี้ยังจะคิดเรื่องเงิน

มิน่าล่ะเด็กที่มาจากบ้านนอกก็แบบนี้

“สาวน้อย ไม่ขออ้อมค้อม” หนึ่งในจอมยุทธ์ก้าวขึ้นหน้า แววตาจริงจัง พยายามอวดเบ่งเต็มที่

“เอาดอกทิวลิปนั่นมา แล้วพวกเราจะไม่ลงมือ”

พวกเขาแอบซุ่มอยู่ที่นี่มาหลายวันจนในที่สุดก็สบโอกาส แต่พวกเขาจำคำสั่งของเมิ่งจิ่งอวี้ได้ขึ้นใจ จะลงมือได้ก็ต่อเมื่อฟู่อวิ๋นเซินไม่อยู่เท่านั้น ถึงแม้ห้าจอมยุทธ์จะรู้สึกว่าฟู่อวิ๋นเซินเป็นแค่คุณชายเสเพลที่ไม่มีปัญญาสู้กับใคร ไม่ควรค่าให้พวกเขาใส่ใจแต่สามารถทำให้เมิ่งจิ่งอวี้กำชับครั้งแล้วครั้งเล่าได้ พวกเขาเลยยอมฟัง

เด็กสาวอายุสิบเจ็ดแค่คนเดียว ข่มขู่นิดหน่อยเดี๋ยวก็ร้องไห้เอาดอกทิวลิปมาให้พวกเขาแล้ว

พอออกมานอกโลกจอมยุทธ์พวกเขาต้องการอะไร คนธรรมดาพวกนี้ก็ต้องให้พวกเขา

หมัดคืออาวุธชั้นดี

“ดอกทิวลิปเหรอ” อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น “ไม่ใช่หลิงจือหิมะหรอกเหรอ”

คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของห้าจอมยุทธ์เปลี่ยนไป

“ที่แท้เธอก็รู้” จอมยุทธ์ที่เป็นผู้นำกลุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อย “หรือว่าเธอเคยเรียนการรักษาแผนโบราณ”

หลิงจือหิมะนี้ไม่ใช่สมุนไพรทั่วไปที่ชื่อเดียวกัน ดังนั้นไม่ว่าจะแพทย์แผนตะวันตกหรือแพทย์แผนจีนต่างเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้จัก

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบคำถามนี้ เธอแค่พยักหน้าเล็กน้อย

“หวังว่าพวกคุณจะมีเงินติดตัวมาห้าหมื่น”

สีหน้าของจอมยุทธ์ที่เป็นผู้นำกลุ่มขรึมลง “ทำมาปากดี!”

เขาเองก็ไม่อยากเสียเวลาพูด เดินขึ้นหน้าทันทีไม่ได้วางท่าลีลาอะไรมาก ง้างมือขึ้นแล้วฟาดไปทางบ่าของอิ๋งจื่อจิน

ฝ่ามือนี้มีกำลังภายใน เล็งไปที่ตำแหน่งกระดูกสะบัก

ไม่มีทางถึงตาย แต่จะพิการตลอดชีวิต ไม่เปลืองแรง

ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงคือ ฝ่ามือนี้ของเขาฟาดลงไปแล้ว แต่เด็กสาวคนนี้กลับไม่ขยับแม้แต่น้อย

ยังไม่ทันที่เขาจะตั้งสติทันใดนั้น!

“พรึ่บ!” กำลังภายในมหาศาลพุ่งออกมาจากจุดที่เขาฟาดลงไปทำให้ร่างของเขากระเด็นออก

วินาทีถัดมาอิ๋งจื่อจินก็เดินขึ้นหน้า ยกมือกระชากคอเสื้อของเขาแล้วค่อยๆ ยกขึ้น

ใช้มือซ้ายเพียงมือเดียวเธอพลิกข้อมือกึกเดียว เพียงชั่วพริบตาคนที่อยู่ในมือก็ล้มลงไปกองกับพื้น ในขณะเดียวกันกำลังภายในก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง หักแขนทั้งสองข้างของเขา

จอมยุทธ์ที่เหลือทั้งสี่คนต่างตะลึง

อิ๋งจื่อจินไม่แม้แต่จะมองคนบนพื้น เธอเดินขึ้นหน้าอีก

สิบวินาทีต่อมา

คนที่ล้มนอนอยู่บนพื้นก็เพิ่มมาอีกสี่คนสองขาปกติดี แต่ร่างกายท่อนบนหดเกร็ง คล้ายโรคลมชัก

ที่โต๊ะอาหาร

อิ๋งจื่อจินนั่งลง ดึงยางมัดผมออกมาแล้วใส่กลับไปที่ข้อมือตามเดิม

ผมยาวสลวยของเธอประบ่า ทำให้ดูเรียบร้อยมากขึ้น

มองไม่ออกว่าเมื่อครู่เธอเพิ่งทำอะไรลงไป

“แก…ชีวิตแกจบแล้ว” ใบหน้าของจอมยุทธ์ที่เป็นผู้นำกลุ่มบวมเป่ง มีเลือดซึมออกมาตามไรฟันพูดไม่ชัด

“ละ…ละ ล่วงเกินตระกูลเมิ่ง แก…แกต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

พอได้ยินคำพูดนี้อิ๋งจื่อจินก็หันหน้ามา

คล้ายกับกำลังคิดอะไร

ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็พูด

น้ำเสียงทุ้มต่ำ มีพลังสะกดอย่างรุนแรง

“มองตาฉัน”

สีหน้าของจอมยุทธ์ทั้งห้าหยุดแสดงอารมณ์ เงยหน้าเหม่อมองคล้ายหุ่นเชิดราวกับถูกควบคุม

“ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้” นิ้วของอิ๋งจื่อจินเคาะโต๊ะเบาๆ เหมือนไม่ใส่ใจ “ส่วนเหตุผล คิดเอาเอง”

ฟังถึงตรงนี้จอมยุทธ์ทั้งห้าก็พยักหน้าหงึกหงึก

อิ๋งจื่อจินนวดขมับพลางพูดขึ้น “ทิ้งเงินไว้แล้วไสหัวไป”

จอมยุทธ์คนที่แขนไม่หักเริ่มล้วงกระเป๋า

ล้วงอยู่นานก็ได้เงินออกมาหนึ่งร้อยยี่สิบแปดหยวนกับอีกห้าเหมา และบัตรธนาคารหนึ่งใบ

“…”

อิ๋งจื่อจินหยิบบัตรธนาคารใบนั้นแล้วพยากรณ์เงินที่เหลืออยู่ในนั้น

หกหมื่นสามพันห้าร้อยสี่สิบสองหยวนหนึ่งเหมา

เธอเงียบไปเล็กน้อย “พวกนายนี่จนจริงๆ นะ”

แต่ก็โอเคพอให้จ้างคนมาเปลี่ยนประตู

ห้าจอมยุทธ์กลับไม่ตอบ ทยอยออกจากบ้านครอบครัวเวิน

อิ๋งจื่อจินหยิบโทรศัพท์มือถือ กดสั่งประตูกันขโมยที่เธอเล็งไว้เมื่อเช้าจากนั้นก็นัดเวลามาติดตั้ง

เธอหลุบตาลงครุ่นคิดธรรมเนียมของวงการจอมยุทธ์ไม่เหมือนโลกภายนอก

ฆ่าแกงกันเองได้ เพียงแต่ถ้าเธอฆ่าจอมยุทธ์ทั้งห้านี้จะเป็นการดึงดูดความสนใจในวงการจอมยุทธ์

ตอนนี้เธอยังไม่อยากมีความเกี่ยวข้องใดๆ กับวงการจอมยุทธ์และวงการแพทย์แผนโบราณ

อิ๋งจื่อจินนวดศีรษะอีกครั้ง

นานแล้วที่ไม่ได้สะกดจิต ปวดหัวนิดหน่อย

หน้าร้านน้ำชาที่ห่างจากคอนโดที่ครอบครัวเวินอาศัยอยู่ออกไปไม่กี่ช่วงถนน เมิ่งจิ่งอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้สานด้านนอก บนโต๊ะไม้จันทน์มีน้ำชาหนึ่งกากับขนมหนึ่งจานควันร้อนโชยกรุ่น เข้ากันกับชุดคลุมผ่าอกปักลายสไตล์ฮั่นสีเขียวเข้ม

เมิ่งจิ่งอวี้รินน้ำชา มองนาฬิกาข้อมือลองคำนวณเวลาก็น่าจะพอประมาณแล้ว และก็พอดี มีรถคันหนึ่งมาจอดลงตรงหน้าเขา คนขับรถคือหญิงสาวที่ร่วมเดินทางมากับเขา

เธอลงจากรถกำมือคารวะเมิ่งจิ่งอวี้ เป็นรูปแบบการทำความเคารพที่โบราณมาก เล่นเอาคนที่เดินผ่านไปมาอดเหลียวมองไม่ได้

“ท่านคะ ภารกิจล้มเหลวค่ะ” เธอหยุดเล็กน้อยแล้วพูดต่อ

“พวกเขาบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ”

“ล้มเหลวเหรอ” สายตาของเมิ่งจิ่งอวี้เย็นชา น้ำเสียงกึ่งหัวเราะ “ใช้ไม่ได้สักคนเลยเหรอ ขนาดคนธรรมดาก็ยังสู้ไม่ได้งั้นเหรอ”

“พวกเขาบอกว่าเจอคนจากยุโรปค่ะ” หญิงสาวรายงานต่อ “ไม่ใช่คู่ต่อสู้ก็เลยไม่สำเร็จค่ะ”

“ยุโรป…” เมิ่งจิ่งอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเคร่งเครียด

เขาได้ยินตระกูลเมิ่งพูดอยู่ว่าระยะนี้คุณหนูของตระกูลเบวินแห่งยุโรปอยู่ที่ฮู่เฉิง

ถ้าเจอกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้จริงๆ เมิ่งจิ่งอวี้วางถ้วยชาลงแล้วค่อยๆ เอ่ยขึ้น “กลับตี้ตู”

เขาอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

คนอื่นไม่รู้ว่าฟู่อวิ๋นเซินเป็นใคร แต่เขารู้ดีเขาเห็นกับตาตัวเอง ผู้ชายคนนี้ใช้การต่อสู้แบบประชิดตัว รัวหมัดไม่ยั้งใส่จอมยุทธ์ที่มีกำลังภายในแก่กล้าจนพิการ

ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุสิบเจ็ดปี

สายตาของเมิ่งจิ่งอวี้ขรึมลง ไม่มีใครกล้าสู้กับผู้ชายคนนี้ที่ไม่สนแม้แต่ชีวิตของตัวเอง

หญิงสาวทำท่าคารวะอีกครั้ง “ค่ะท่าน”

โรงเรียนมัธยมชิงจื้อ

เมื่อรายละเอียดของไอเอสซีถูกประกาศลงเว็บทั้งหมด มีกำหนดการอะไรแน่นอนแล้ว นักเรียนคลาสเด็กอัจฉริยะ และคลาสทดลองวิทยาศาสตร์ของทั้งสามชั้นปีถึงได้รับแจ้งจากอาจารย์ที่ปรึกษาของห้องตัวเอง

งานแข่งขันครั้งนี้ให้นักเรียนชั้นมอห้าไปร่วมจะดีที่สุดได้ฝึกฝนตัวเอง และไม่กระทบต่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ด้วยเหตุนี้นักเรียนของคลาสเด็กอัจฉริยะกับคลาสทดลองวิทยาศาสตร์ชั้นมอห้าที่สนใจจึงไปลงชื่อสมัคร

คลาสทดลองวิทยาศาสตร์ชั้นมอหกมีคนลงสมัครไม่มาก อย่างไรเสียสำหรับพวกเขาเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็สำคัญที่สุด

ภายในคลาสเด็กอัจฉริยะชั้นมอหก

“เย่ว์เซวียน เธอสมัครไหม” นักเรียนหญิงร่วมโต๊ะสะกิดไหล่ของอิ๋งเย่ว์เซวียน

“ถ้าเธอสมัคร ฉันก็จะสมัครด้วย ต่อให้เข้ารอบสุดท้ายไม่ได้ก็เป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่ง”

“โควตาเข้ารอบสุดท้ายของทางโรงเรียนมีแค่โควตาเดียว” อิ๋งเย่ว์เซวียนถือโทรศัพท์มือถือ บนหน้าจอเป็นหน้าเว็บรับสมัคร “ฉันไม่ได้โควตาก็ต้องสมัครอยู่แล้ว”

นักเรียนหญิงพยักหน้า “เฮ้อช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้อิ๋งจื่อจินสุดยอดขนาดนั้นล่ะ แต่ว่านะเย่ว์เซวียน เธอก็ไม่ได้แย่ไปกว่ากัน คนที่เก่งขั้นเทพแบบอิ๋งจื่อจินใช่ว่าจะมีทุกปี”

อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปากไม่ตอบ

พอเพื่อนร่วมโต๊ะหันหน้าไปเธอก็เปิดเว็บบอร์ดของชิงจื้อ

จากนั้นก็ใส่ชื่อผู้ใช้งานกับรหัสผ่านไอดีเป็นตัวเลขกับอักษรผสมกัน

กระทู้ที่ไอดีนี้โพสต์มีเพียงกระทู้เดียว

หัวข้อ : จงจือหว่านใช้สิทธิ์หัวหน้าชมรมเอาภาพเขียนอักษรของอิ๋งจื่อจินไป

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน