คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 303 กลับมาอย่างองอาจ! ความเสียใจของฟู่หมิงเฉิง

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 303 กลับมาอย่างองอาจ! ความเสียใจของฟู่หมิงเฉิง

วีนัสกรุ๊ปเพิ่งก่อตั้งมาได้ไม่กี่ปี กิจการโดยรวมอยู่ในยุโรป คนในประเทศจีนแทบจะไม่มีใครรู้จัก นอกจากตระกูลใหญ่ที่ติดต่อทำธุรกิจกับวีนัสกรุ๊ป

ในประเทศจีน ชื่อเสียงของวีนัสกรุ๊ปยังสู้แบรนด์หรูระดับโลกของเครื่องสำอาง กระเป๋า เสื้อผ้าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เช่น บีไมน์ มอนสกา เวียนนา เป็นต้น

ดังนั้นหลังจากเวยปั๋วโพสต์นี้ปรากฏ ชาวเน็ตจึงพากันงงไปชั่วขณะ มีจำนวนไม่น้อยที่คอมเมนต์ถากถางอยู่ด้านล่าง

[ประธานโซนเอเชียแปซิฟิกเหรอ คิดว่าตัวเองเป็นหนึ่งในห้าร้อยบริษัทที่แข็งแกร่งระดับโลกหรืออย่างไร ยังจะมาแบ่งเป็นโซนเอเชียแปซิฟิก โซนอเมริกาเหนือ]

[แกงค์เดียวกับฟู่อวิ๋นเซินคนเสเพลนี่ใช่ไหม อย่ามาตีเนียนเลย]

แต่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของวีนัสกรุ๊ปไม่ใช่แผนกที่คนที่ฟู่หมิงเฉิงบ่มเพาะมาจะมาเทียบได้ มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคอมพิวเตอร์อยู่ไม่น้อย

อีกทั้งเกี่ยวข้องกับฟู่อวิ๋นเซิน ต่อให้ประธานฝ่ายเทคโนโลยีของวีนัสกรุ๊ปไม่ได้มาประเทศจีนก็สามารถลงมือด้วยตัวเองที่ยุโรปได้

ไม่นานแฮชแท็กคำค้นยอดนิยมสิบอันดับแรกก็ถูกวีนัสกรุ๊ปยึดครอง

แฮชแท็กวีนัสกรุ๊ปเครือบริษัทอันดับหนึ่งของโลก

แฮชแท็กกิจการในเครือวีนัสกรุ๊ป

แฮชแท็กห้าร้อยบริษัทแข็งแกร่งระดับโลก

แต่ละแฮชแท็กได้รับความนิยมสูงมาก

วีนัสกรุ๊ปเข้ามาตั้งกิจการในประเทศจีนครั้งแรกก็ได้สร้างความฮือฮาระดับสูง

ต่อให้ชาวเน็ตจะไม่รู้จักวีนัสกรุ๊ปก็ไม่มีทางไม่รู้จักพวกแบรนด์หรูระดับโลกที่โด่งดังพวกนั้น

[อื้อหือ ตะลึงตึงตึง ที่แท้แบรนด์พวกนี้ก็อยู่ในเครือเดียวกันหมดเหรอ]

[คุกเข่า ยอมล้าว อายุยี่สิบสามปี ก็ได้เป็นประธานแล้วอะ ฉันผู้ซึ่งอายุยี่สิบสามปี ยังเกาะที่บ้านกินอยู่เลยจ้า]

[ชิ หุบปากไปเถอะ ไม่ต้องพูดอย่างอื่น เอาแค่หน้าตาคุณสู้ได้เหรอ]

[หน้าตาดี มีเงิน หุ่นดี แถมยังหนุ่ม พ่อเทพบุตร!]

[ท่านประธานแต่งงานหรือยังค้า อย่าตีกรอบเรื่องเพศเลยนะค้า(อีโมชันเขินอาย)]

แผนโจมตีด้วยกระแสสังคมที่ฟู่หมิงเฉิงวางไว้ ยังไม่ทันถูกใช้อย่างสมบูรณ์ก็พังทลายไม่เป็นท่าแล้ว

ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของฟู่อวิ๋นเซินจะไม่จมดิ่ง กลับมีกระแสอวยอย่างบ้าคลั่งระลอกใหม่

ต่อให้เป็นดาราแถวหน้าก็ยังสู้ความนิยมของเขาในขณะนี้ไม่ได้

ชาวเน็ตเริ่มขุดคุ้ยหารูปถ่ายของเขา แต่หาอยู่นานก็เจอแค่รูปจากโพสต์ของฟู่ซื่อกรุ๊ป

แน่นอนว่าก็ยังมีคอมเมนต์อื่นอีก

[ประธานวีนัสกรุ๊ปโซนเอเชียแปซิฟิกแล้วไงล่ะ ต่อให้เขาเป็นประธานของโซนยุโรปก็ยังไม่ใช่ประธานใหญ่อยู่ดี

ก็แค่พนักงานที่ระดับสูงหน่อยของประธานใหญ่ ค่าตัวถึงห้าแสนล้านเลยเหรอ

ขอแนะนำให้วีนัสกรุ๊ปหาคนมีการศึกษาสูงหน่อยมาดูแลเวยปั๋ว คนเขาจะหัวเราะเยาะเอา บอกว่าห้าพันล้านยังจะน่าเชื่อมากกว่า]

หลังจากที่เอียนเห็นคอมเมนต์นี้ก็พ่นน้ำโค้กใส่หน้าจอ

เมื่อก่อนเขาภูมิใจมากที่ตัวเองพูดได้แปดภาษา ตอนนี้เขากลับนึกเสียใจที่เข้าใจภาษาจีน

เขาอยากตอบชาวเน็ตคนนี้ไปว่า อันที่จริงนี่แหละประธานใหญ่ของพวกเขา

ในการแบ่งตำแหน่งของห้าร้อยบริษัทที่แข็งแกร่ง ในความเป็นจริงประธานโซนเอเชียแปซิฟิกไม่ได้มีอำนาจสูงมากนัก

เอียนเองก็นึกไม่ถึงว่า ฟู่อวิ๋นเซินจะเอาตำแหน่งประธานโซนเอเชียแปซิฟิก

อย่างไรเสียวีนัสกรุ๊ปต้องการมาตั้งสำนักงานที่ประเทศจีน ทางสำนักงานใหญ่ก็ต้องตั้งตำแหน่งประธานโซนเอเชียแปซิฟิกอยู่แล้ว

ประวัติของวีนัสกรุ๊ปไม่ได้ยาวนาน แต่เมื่อก่อตั้งขึ้นมาก็เติบโตอย่างรวดเร็ว

ด้วยเหตุนี้ทางยุโรป พวกมหาเศรษฐีเก่าแก่จึงยังคงจ้องวีนัสกรุ๊ปตาเป็นมัน อยากหาโอกาสแบ่งเค้กชิ้นโตนี้ ยกเว้นตระกูลลอเรนท์

เอียนกับผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ ของวีนัสกรุ๊ปก็เคยถูกพวกมหาเศรษฐีเก่าแก่จ้างคนมาฆ่า อีกทั้งยังไม่ใช่แค่ครั้งเดียว

ถ้าเป็นแค่ประธานโซนเอเชียแปซิฟิกที่ทางสำนักงานใหญ่แต่งตั้ง ก็ไม่ได้มีค่าให้มหาเศรษฐีพวกนั้นต้องมาสนใจ

แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

พี่ชายของเขาจะได้ปวดหัวน้อยหน่อย

เอียนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร ฟู่อวิ๋นเซินไม่ยอมไปยุโรป จะอยู่ที่นี่ แถมยังให้เหตุผลสวยหรูว่าใช้ชีวิตเกษียณ

เชื่อเขาเลยจริงๆ

แต่ช่วยไม่ได้ คำสั่งของฟู่อวิ๋นเซินก็คือคำสั่งสวรรค์ เขาต้องทำตาม

ในฐานะประธานฝ่ายการเงินของวีนัสกรุ๊ป เอียนมีหน้าที่รับผิดชอบการเงิน และบัญชีทั้งหมดของวีนัสกรุ๊ป เรื่องควบคุมคอมเมนต์บนเวยปั๋วไม่ใช่หน้าที่ของเขา เขาก็แค่อ่านเอาสนุกๆ

พอกระแสถูกผลักดันมาจนถึงจุดสูงสุด วีนัสกรุ๊ปก็ทำการโพสต์เวยปั๋วโพสต์ที่สอง

ปอทวีนัสกรุ๊ป : [สำหรับผู้ไม่ประสงค์ดีต่อวีนัสกรุ๊ปที่ทำการใส่ร้ายป้ายสีให้ประธานโซนเอเชียแปซิฟิกของเราต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ทางเราจะส่งจดหมายเชิญจากทนาย กรุณารอรับ]

พอเห็นเวยปั๋วโพสต์นี้ เอียนถึงได้ปิดคอมพิวเตอร์

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งคำสั่งไปทางสำนักงานใหญ่ที่ยุโรป

“ท่านประธานใหญ่มีคำสั่งให้ซื้อหุ้นทั้งหมดของฟู่ซื่อกรุ๊ป และต้องซื้อทั้งหมดในวันเดียว”

ฟู่ซื่อกรุ๊ปคือเลือดเนื้อของผู้เฒ่าฟู่ ด้วยฐานะของฟู่อวิ๋นเซิน เขาไม่เอาก็ได้ แต่เขาไม่มีทางปล่อยให้ฟู่หมิงเฉิงได้ไป

เอียนลูบคาง ร้องซี้ด

“บอกราคาค่าตัวพี่ชายฉันน้อยไปนะ”

ช่างเถอะ อย่างไรซะนี่ก็เป็นคำสั่งของพี่ ไม่เกี่ยวกับเขา

พวกชาวเน็ตก็แค่อ่านเวยปั๋วกับข่าว และก็แค่ถกกันอย่างร้อนแรงบนเวยปั๋วเท่านั้น

ไม่ได้ช็อกเท่าฟู่หมิงเฉิงที่เห็นฟู่อวิ๋นเซินกับตา

เส้นเลือดปูดที่หน้าผากของเขา มือก็สั่น

ใต้โพสต์เวยปั๋วของฟู่ซื่อกรุ๊ป ตอนนี้มีแต่คอมเมนต์ด่า

[พวกโง่ ฮ่าๆ บอกว่าเขาใช้วิธีสกปรกหวังฮุบบริษัทของตระกูลฟู่ เขาเป็นถึงประธานวีนัสกรุ๊ปโซนเอเชียแปซิฟิก ทำไมต้องสนใจบริษัทที่ไม่ติดแม้แต่ห้าร้อยบริษัทที่แข็งแกร่งระดับโลกด้วย]

[ชอบจังเลยการตบหน้าแบบนี้ ดูท่าฟู่ซื่อกรุ๊ปจะขัดแย้งกันเองภายในนะ ไม่รู้ว่าผู้ไม่ประสงค์ดีที่ว่าคือใคร]

[ฉันมีเพื่อนทำงานอยู่ในฟู่ซื่อกรุ๊ป เห็นบอกว่าช่วงสองวันนี้วุ่นวายน่าดู พวกพี่ๆ น้องๆ แย่งชิงอำนาจกันเอง พวกเขาประชุมผู้ถือหุ้นกันทุกวัน เดี๋ยวฉันจะลองแอบถามดู]

ฟู่หมิงเฉิงยิ่งอ่าน เหงื่อก็ยิ่งออกมากขึ้น

ภายในห้อง ไม่รู้ว่าผู้จัดการถอยออกไปตั้งแต่เมื่อไร

ยิ่งทำให้ฟู่หมิงเฉิงเชื่อว่า เขาตกหลุมพรางเข้าแล้ว อีกทั้งตอนนี้หันหลังกลับไม่ทันแล้วด้วย

เขาเซ็นสัญญาไปแล้ว ตอนนี้อวี้เซียงฟังตกเป็นของวีนัสกรุ๊ปแล้ว

ส่วนเรื่องหุ้นอะไรนั่น

เดิมทีเขากับฟู่อวิ๋นเซินก็เป็นศัตรูคู่แค้นกัน ฟู่อวิ๋นเซินสามารถทำให้เขาถือหุ้นในวีนัสกรุ๊ปได้

อยู่ๆ ฟู่หมิงเฉิงก็นึกถึงวันนั้น เขามาที่นี่ พนักงานบอกว่าซีอีโอใหญ่ของวีนัสกรุ๊ปจะมา จากนั้นเขาก็เจอฟู่อวิ๋นเซิน

ถึงแม้ฟู่อวิ๋นเซินจะยังไม่ใช่ซีอีโอของวีนัสกรุ๊ป แต่คนที่ซีอีโอแต่งตั้งมาดูแลฝั่งเอเชียกับโซนแปซิฟิกก็ถือว่ามีอำนาจสูงสุดของที่นี่แล้ว

ที่แท้ตอนนั้นเขาก็ได้เจอผู้บริหารระดับสูงของวีนัสกรุ๊ปแล้ว

“แสดงว่าคนพวกนั้นที่โรงพยาบาล…” ฟู่หมิงเฉิงจับโต๊ะแน่น ความรู้สึกนึกเสียใจทะลักออกมาเต็มอก เขาเงยหน้าขึ้นมาทันที

“ที่แท้ก็แกเหรอ!”

“ใช่” ฟู่อวิ๋นเซินนั่งพิงเก้าอี้ ขายาวไขว้ทับกัน แสยะยิ้ม

“เมื่อสามปีก่อนก็ผมเหมือนกัน”

ฟู่หมิงเฉิงพูดเสียงสั่น

“คนที่เอาตัวอีเฉินไป จัดการลูกน้องของฉัน ก็แกเหมือนกันเหรอ!”

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อืม”

คำตอบยืนยันทั้งสองคำถามทำให้สมองของฟู่หมิงเฉิงระเบิดอย่างสิ้นเชิง

เขานั่งแน่นิ่งบนเก้าอี้ สีหน้าย่ำแย่ แทบอยากตะโกนออกมา

“ฉันไม่เชื่อ…ฉันไม่เชื่อ!”

ในช่วงที่ผู้เฒ่าฟู่ป่วยหนักยี่สิบปีนี้ เขาพยายามคิดหาทางแทบตายกว่าจะเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของฟู่ซื่อกรุ๊ปเป็นคนของตัวเองได้

แล้วฟู่อวิ๋นเซินมีสิทธิ์อะไรถึงกลายเป็นประธานวีนัสกรุ๊ปโซนเอเชียแปซิฟิกได้!

ฟู่หมิงเฉิงปากสั่น

ในสายตาของฟู่อวิ๋นเซิน ความพยายามของเขาเป็นแค่เรื่องตลกงั้นเหรอ

นึกถึงหลายปีที่ผ่านมาที่เขาดูถูกฟู่อวิ๋นเซินมาตลอด คิดว่าฟู่อวิ๋นเซินเป็นคนเกเรไม่เอาไหน ฟู่หมิงเฉิงก็แทบอยากตบหน้าตัวเองแรงๆ

เขาให้ความสำคัญกับอวี้เซียงฟังขนาดนั้น แต่ฟู่อวิ๋นเซินซื้อกิจการไปอย่างง่ายดาย

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้นอย่างใจเย็น มองฟู่หมิงเฉิงสองวินาที ทันใดนั้นก็พูดขึ้น “อวิ๋นซาน”

ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง อวิ๋นซานเดินเข้ามา กำมือคารวะตามธรรมเนียมจอมยุทธ์ “คุณชาย”

นิ้วเรียวยาวของฟู่อวิ๋นเซินเคาะโต๊ะสองที “เอาให้เขาดู”

“ครับคุณชาย”

อวิ๋นซานพูดจบก็วางแท็บเล็ตขนาดสิบสองนิ้วลงตรงหน้าฟู่หมิงเฉิง

ในจอเป็นภาพจากกล้องไลฟ์สด ภาพคมชัด

ฟู่หมิงเฉิงเห็นฟู่อีเฉินถูกฝูงงูพิษรุมล้อม บนตัวของเขามีบาดแผลหลายแห่ง

ด้านข้างมีคนอยู่หนึ่งคนป้อนยาใส่ปากฟู่อีเฉินหนึ่งเม็ดตอนที่เขาสลบไป

ฟู่อีเฉินฟื้นขึ้นมาก็ถูกงูพิษฉกต่อ

ฟู่หมิงเฉิงเห็นแล้วก็ผวา

เรื่องนี้ฟู่หมิงเฉิงก็เกือบลืมไปแล้ว เขาจำได้แค่ว่าตอนนั้นเขายังด่าฟู่อีเฉินยกใหญ่ แค่เด็กสามขวบคนเดียวก็จัดการไม่ได้ ปล่อยให้ฟู่อวิ๋นเซินหนีออกมาได้สำเร็จ

ฟู่หมิงเฉิงก็ไม่คิดว่าเด็กสามขวบจะความจำดีขนาดนี้

“เพราะอะไร!” ฟู่หมิงเฉิงขาดสติไปแล้ว “หลายปีที่แกไปอยู่ยุโรป แกเข้าไปทำงานในวีนัสกรุ๊ปสินะ งั้นทำไมแกต้องแกล้งทำตัวเป็นคนไม่เอาไหนด้วย!”

ถ้าฟู่อวิ๋นเซินไม่แกล้งทำตัวแย่ เขายังจะต้องดูถูกด้วยเหรอ

ถ้าฟู่อวิ๋นเซินบอกว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงของวีนัสกรุ๊ป เขายังจะต้องทำเรื่องพวกนั้นด้วยเหรอ

ฟู่อวิ๋นเซินหลุบตาลง สีหน้าเย็นชา แต่กลับยิ้มมุมปาก ตอบสั้นๆ “สนุก”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท