ตอนที่ 307 โยนซูหร่วนออกนอกตึก
ทะเลรีโนเป็นพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ทางตอนใต้สุดของมหาสมุทรแอตแลนติก อยู่ใกล้กับทวีปแอนตาร์กติกา
แต่สภาพอากาศของที่นั่นกลับหนาวยะเยือก ถึงขั้นที่หนาวกว่าทวีปแอนตาร์กติกาด้วยซ้ำ
อีกทั้งบริเวณโดยรอบทะเลรีโนยังมีโจรสลัดปรากฏตัวบ่อยครั้ง
โจรสลัดพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นทหารรับจ้างที่ถอนตัวออกมาแล้ว รวมถึงมีพวกนักฆ่า โหดเหี้ยมขั้นสุด
ตระกูลใหญ่ทางยุโรป เมื่อใดที่มีใครแข่งขันแล้วแพ้ก็จะถูกผู้ชนะเอาไปทิ้งไว้ที่ทะเลรีโน
บอกว่าปล่อยให้อยู่ตามเวรตามกรรม แต่แท้จริงแล้วก็คืออย่าหวังว่าจะรอด
“ไม่นะ!” ฟู่หมิงเฉิงสติแตกขึ้นมาทันที
“ฉันไม่ไปทะเลรีโน! ไม่เอา!”
ไปอยู่ที่ทะเลรีโนคงมีจุดจบอยู่ไม่กี่อย่าง
หนาวตาย ถูกฉลามกิน ถูกโจรสลัดฆ่าตาย แต่ละอย่างล้วนไม่ใช่สิ่งที่ฟู่หมิงเฉิงต้องการทั้งนั้น
“ฟู่อวิ๋นเซิน ขอร้องล่ะ” ฟู่หมิงเฉิงยอมทิ้งศักดิ์ศรีอย่างสิ้นเชิง คุกเข่าอ้อนวอน
“ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ต่อให้ฉันไม่ใช่พ่อของแก แต่ฉันก็เป็นลุงแท้ๆ นะ!”
ทว่าคำขอของเขาไม่เกิดผลใดๆ
อวิ๋นอู้เดินขึ้นหน้า จับฟู่หมิงเฉิงมัดด้วยเชือกป่านแล้วลากเขาออกไป
เกิดความเงียบขึ้นภายในห้องรับแขก ไม่มีใครกล้าพูดแทรก
ฟู่อี้หันยืนอยู่ด้านข้าง ฟู่หมิงเฉิงทำเรื่องเลวไว้มากขนาดนั้น
ทำลายผลประโยชน์ของทั้งตระกูลฟู่เพราะความเห็นแก่ตัว ทั้งยังทำให้หลายคนต้องพลัดพรากลูกเมีย
สมควรรับผลกรรมแล้วจริงๆ
“อวิ๋นเซิน” คุณนายฟู่ริมฝีปากสั่น ใบหน้าซีดเผือด เริ่มรู้สึกสิ้นหวัง
“จำเป็นต้องไร้เยื่อใยขนาดนี้จริงๆ เหรอ”
“หมิงเฉิงทำผิดงั้นฉันล่ะ ตอนเธอเด็กๆ ฉันยังดีกับเธอไม่พอเหรอ แต่ลูกแท้ๆ กับลูกเลี้ยง เดิมทีจะให้มองเสมอกันก็ไม่ได้อยู่แล้ว”
ฟู่อวิ๋นเซินหันมาเล็กน้อย “ดูท่าคุณก็ความจำไม่ดีเหมือนกัน”
คุณนายฟู่ตกใจ แต่ก็ยังคงข่มความกลัวภายในใจเอาไว้ หยั่งเชิงถาม
“เธอหมายความว่าอะไร”
พอเธอพูดออกไปแบบนี้กลับถูกอวิ๋นซานโยนรูปถ่ายใส่หน้า
เป็นรูปถ่ายที่แคปมาจากกล้องวงจรปิด ไม่ได้ชัดมาก
แต่ใครก็ตามที่ได้ผ่านเหตุการณ์เมื่อยี่สิบปีที่แล้วก็จะมองออกว่า ในรูปนั้น พวกคนที่อยู่นอกเหนือจากคุณนายฟู่ก็คือพวกคนกลุ่มนั้น
ซึ่งก็หมายความว่า ก่อนที่คนกลุ่มนั้นจะมาที่บ้านตระกูลฟู่ได้เคยเจอหน้าคุณนายฟู่ก่อนแล้ว
คุณนายฟู่มีบทบาทอะไรในนั้นไม่ต้องบอกก็รู้
อวิ๋นซานเอ่ยอย่างเย็นชา “พวกเขาไปหาคุณ เพราะคุณนัดแนะเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ให้พวกเขามาที่บ้านตระกูลฟู่ในวันนั้น อีกทั้งยังให้คนรับใช้กับบอดี้การ์ดกลับบ้านไปหมด เพื่อให้พวกเขาเข้าไปโดยไม่มีการขัดขวางแม้แต่น้อย”
“เพียงแต่คุณนึกไม่ถึงว่า ไม่ใช่แค่คุณหลิวอิ๋งที่ถูกฆ่า คุณนายผู้เฒ่ากับท่านผู้เฒ่าก็โดนไปด้วย”
เรื่องนี้เพิ่งจะสืบเจอในภายหลัง
เพียงแต่ต่อให้ไม่มีคุณนายฟู่ คนพวกนั้นก็ยังคงสามารถเข้าไปในบ้านตระกูลฟู่ได้อย่างราบรื่นอยู่ดี แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณนายฟู่จะเอาฟู่หลิวอิ๋งไปขายได้
ฟู่อี้หันตกใจมาก “คุณแม่…”
คุณนายฟู่เงียบไปสักพักถึงเงยหน้าขึ้น ยิ้มออกมา
“เก่งจริงนะ ลูกชายของฟู่หลิวอิ๋ง เก่งกว่าแม่เสียอีก”
เธอค่อยๆ พิงโซฟา พูดพึมพำเสียงเบา “แต่น่าเสียดาย ทำไมตอนนั้นฉันถึงไม่ฆ่าเธอทิ้งตอนที่แม่คลอดเธอออกมากันนะ”
คุณนายฟู่เกลียดฟู่หลิวอิ๋งมาก
เป็นคนรุ่นเดียวกัน แต่ฟู่หลิวอิ๋งเปรียบเสมือนความฝันที่ไกลเกินเอื้อมของทุกคน
ผู้ชายต่างใฝ่ฝันอยากแต่งงานด้วย ผู้หญิงก็เกิดความอิจฉาริษยา
ตระกูลฟู่ไม่เคยมีกฎว่าต้องให้ผู้ชายสืบทอดมรดกเท่านั้น ด้วยความสามารถของฟู่หลิวอิ๋ง คงมีแค่เธอที่จะสืบทอดตระกูลฟู่ได้
ซึ่งนั่นย่อมไม่ใช่เรื่องที่คุณนายฟู่อยากเห็น
แต่ต่อมาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ฟู่หลิวอิ๋งให้กำเนิดลูกชายโดยไม่ได้แต่งงาน ทำลายชื่อเสียงของตัวเองจนป่นปี้
เธอแค่ถือโอกาสเล่นงานก็เท่านั้น
ใครใช้ให้ฟู่หลิวอิ๋งไม่ระวังตัวเองล่ะ
“คุณแม่!” ฟู่อี้หันรู้สึกโมโหแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “บ้าไปแล้ว!”
เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณนายฟู่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเมื่อยี่สิบปีก่อนด้วย
ที่เขาดีกับฟู่อวิ๋นเซินมาตลอดเป็นเพราะรู้แต่แรกแล้วว่าฟู่อวิ๋นเซินไม่ใช่น้องชายแท้ๆ ของเขา อีกทั้งยังไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก
คุณนายฟู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แม่ไม่ได้บ้า แม่แค่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร”
“อวิ๋นซาน ส่งไปอยู่คุกริมทะเลที่ยุโรป” นิ้วเรียวยาวของฟู่อวิ๋นเซินเคาะโต๊ะเบาๆ
“พวกนักโทษที่นั่นน่าจะสนใจคุณนายเศรษฐีอย่างคุณมาก ก็แค่คุณแก่ไปหน่อย”
พอได้ยินแบบนี้ในที่สุดสีหน้าที่ราบเรียบของคุณนายฟู่ก็พังทลายลง รู้สึกเหลือเชื่อ
ไม่ว่าอย่างไรเธอก็นึกไม่ถึงว่าฟู่อวิ๋นเซินจะทำแบบนี้กับเธอ!
ปีนี้คุณนายฟู่อายุห้าสิบห้าแล้ว แต่ดูแลตัวเองดีทำให้ดูเหมือนคนอายุแค่สามสิบกว่า
ถ้าเธอไปอยู่คุกริมทะเล นักโทษพวกนั้นจะทำอย่างไรกับเธอ
ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ
“ฟู่อวิ๋นเซิน แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร มีสิทธิ์อะไร” คุณนายฟู่ทั้งตกใจทั้งโมโห
“แกคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าเหรอ”
“ผมก็คือพระเจ้าสำหรับพวกคุณ” ฟู่อวิ๋นเซินมองเธอ ดวงตาดอกท้อเฉียบคม ฉายแววเย็นชา
“แน่นอนว่าคุณจะลองขัดขืนดูก็ได้”
คุณนายฟู่หน้าซีด ล้มไปกองบนพื้น ตัวสั่นไม่หยุด
ฟู่อวิ๋นเซินสามารถส่งฟู่หมิงเฉิงไปที่ทะเลรีโนได้อย่างง่ายดาย ก็ย่อมส่งเธอไปที่คุกริมทะเลได้เช่นกัน
เธอนึกเสียใจแต่ก็ไม่ทันแล้ว
คนอื่นๆ ในตระกูลฟู่ต่างตะลึง ร่างกายก็สั่นอย่างรุนแรงเหมือนกัน กลัวว่าต่อไปจะถึงตาตัวเอง
“อวิ๋นซาน จัดการคนพวกนี้ด้วย” ฟู่อวิ๋นเซินพูด “ทำตามกฎ”
อวิ๋นซานกำมือคารวะ “ครับ”
จากนั้นฟู่อวิ๋นเซินก็หันหน้าไปหาฟู่อี้หัน พยักหน้าให้ “พี่ใหญ่”
ฟู่อี้หันตะลึง
ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินฟู่อวิ๋นเซินเรียกเขาแบบนี้
“ไม่…” ฟู่อี้หันเอามือลงอย่างเกร็งๆ “ฉันไม่คู่ควรเป็นพี่ใหญ่ของนาย”
เขาไม่เคยทำหน้าที่ของพี่ใหญ่อย่างสุดความสามารถ
ถึงขนาดที่ว่าเขาไม่สามารถห้ามพ่อแม่ตัวเองได้ ยิ่งไปกว่านั้นไม่รู้เลยว่าฟู่อวิ๋นเซินได้รับความทุกข์ทรมานขนาดไหนกันแน่
“ผมจัดการเรื่องภายในฟู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว พี่ดูแลมันให้ดี” ฟู่อวิ๋นเซินเดินออกไป “อย่าทำลายความตั้งใจของคุณปู่”
พอได้ยินแบบนี้ฟู่อี้หันก็เม้มปาก กัดฟันเกร็ง
เขานึกถึงคำพูดของผู้เฒ่าฟู่ก่อนหน้านี้
เขาต้องพิจารณาเรื่องชีวิตคู่อย่างจริงจังแล้ว
ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อตระกูลฟู่
…
เพราะฟู่อวิ๋นเซินอยู่ฮู่เฉิง วีนัสกรุ๊ปจึงเลือกเข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ประจำประเทศจีนอยู่ที่นี่
อยู่ฝั่งตรงข้ามห้างเซ็นจูรี่ อย่างไรเสียห้างเซ็นจูรี่ก็เป็นกิจการของวีนัสกรุ๊ปเหมือนกัน
หลังจากที่ตัวตนของฟู่อวิ๋นเซินถูกเปิดเผยต่อคนภายนอก บรรดาตระกูลใหญ่ในตี้ตูก็เริ่มแวะเวียนมาที่ฮู่เฉิง เพียงเพื่ออยากขอเจอเขาสักครั้ง
แต่ก็ไม่มีใครได้พบ
ถ้าฟู่อวิ๋นเซินเป็นแค่ประธานโซนเอเชียแปซิฟิกจริง แบบนั้นเจอหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ประเด็นคือเขาเป็นถึงประธานใหญ่
เอียนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ช่วงหลายวันมานี้เขาไม่ได้แค่ดูแลเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้ว ยังต้องดูแลเรื่องอื่นด้วย กลายเป็นพ่อบ้านประจำตัว
เขาทำได้แค่บอกตรงเคาน์เตอร์ด้านหน้าว่า ถ้าใครมาขอพบฟู่อวิ๋นเซินให้ปฏิเสธไปทั้งหมด
ซูหร่วนมาถึงตึกสำนักงานใหญ่ของวีนัสกรุ๊ปในเวลานี้
ช่วงสองสามวันมานี้เธอสั่งจองชุดใหม่ อีกทั้งยังแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ถึงได้มาช้า
เธอเดินเข้าไปอย่างสง่างาม พูดกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์
“ฉันต้องการพบท่านประธานของพวกเธอ”
“ขอโทษค่ะ ท่านประธานยุ่งมาก” พนักงานสาวประจำเคาน์เตอร์มองสำรวจซูหร่วนตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดอย่างสุภาพ
“ถ้าไม่ได้นัดล่วงหน้า และมีการอนุญาตจากท่านประธาน คุณก็พบไม่ได้ค่ะ”
“ฉันต้องนัดล่วงหน้าอะไรกัน” ซูหร่วนพูดอวดดี
“เธอไปบอกเขาว่าซูหร่วนมาหา คนที่เขาชอบ เขาจะไม่ให้พบเหรอ”
พนักงานสาวลังเล หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรรายงานไปชั้นบน
พอเอียนได้รับสายก็ขมวดคิ้ว
เขานึกถึงที่ฟู่อวิ๋นเซินบอกว่าช่วงนี้จีบเด็กอยู่ แต่ซูหร่วนก็หน้าตาธรรมดา ไม่น่าใช่แบบที่เข้าตาฟู่อวิ๋นเซินได้
เพื่อความชัวร์ เอียนจึงส่งข้อความไปถามฟู่อวิ๋นเซินก่อน
เขาถูกบล็อกไปหลายวัน เมื่อวานเพิ่งถูกปลดบล็อก
เหนือความคาดหมาย นี่เป็นครั้งที่ฟู่อวิ๋นเซินตอบเร็วที่สุด
[โยนออกไป เทขยะใส่ ถ้าเข้ามาอีกก็จับหักแขนหักขา]
เอียนเข้าใจทันที ทำเสียงจึ๊
เขากะแล้ว พี่ชายของเขาไม่ใช่คนที่จะเห็นแก่ความสวย
พวกตระกูลมหาเศรษฐีเก่าแก่ของยุโรปต่างอยากฮุบวีนัสกรุ๊ป อยากเอาวีนัสกรุ๊ปมาหาประโยชน์เอง จึงอยากเกี่ยวดองด้วยการแต่งงาน
มีสาวๆ หลายคนที่เอียนรู้สึกว่าสวยจริงๆ แต่ฟู่อวิ๋นเซินกลับไม่แยแส
ดูท่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นอีกหนึ่งคนที่คิดไปเองฝ่ายเดียว
“บอสบอกให้จับโยนทิ้ง” เอียนสั่งพลางเปิดกล้องวงจรปิดดู
“แล้วก็เทขยะใส่ด้วย เอาแบบที่เหม็นที่สุด”
เรื่องสนุกแบบนี้เขาต้องตั้งใจดู
หลังจากสองผู้ช่วยพิเศษได้รับคำสั่งนี้ก็แอบตกใจ แต่ไม่ได้ถามอะไร ลงไปทันที
…
ที่ชั้นล่าง
หลังจากที่ซูหร่วนเห็นมีคนลงมาจากลิฟท์โดยสารเฉพาะ เธอก็เชิดหน้าใส่พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ด้วยความอวดดี
“ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องรายงานขึ้นไป มากเรื่อง เขาจะไม่ให้ฉันขึ้นไปได้เหรอ”
ขณะพูดเธอก็ถือกระเป๋าเดินเข้าไปด้านใน