คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 328 เจียงมั่วหย่วนถูกซ้อม

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 328 เจียงมั่วหย่วนถูกซ้อม

อิ๋งเย่ว์เซวียนเงยหน้าขึ้น มองไปที่อิ๋งจื่อจิน

ภายในห้องประชุมเกิดความเงียบขึ้นมาทันที แม้แต่อาจารย์ก็ไม่พูดอะไร

ทั่วทั้งโรงเรียนมัธยมชิงจื้อไม่มีใครไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างอิ๋งเย่ว์เซวียนกับอิ๋งจื่อจิน

คุณหนูตัวจริง คุณหนูตัวปลอม เดิมก็เทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะด้านไหน อิ๋งจื่อจินก็ข่มอิ๋งเย่ว์เซวียนได้หมด

การเรียน กีฬา ศิลปะ หรือแม้แต่หน้าตา

ชิงจื้อเข้มงวดมาก ยิ่งไปกว่านั้นก็ให้ความสำคัญทั้งด้านการเรียนและสุขภาพของนักเรียน ไม่เคยมีการเลือกดาวเดือนโรงเรียน กิจกรรมที่ไร้ความหมายแบบนี้ ก็แค่พวกนักเรียนพูดถึงกันบ้างยามว่างๆ

เมื่อก่อนชิงจื้อมีสามนางฟ้าที่เป็นที่ยอมรับ รวมอิ๋งเย่ว์เซวียนกับจงจือหว่าน

แต่นับตั้งแต่อิ๋งจื่อจินไปอยู่ห้องสิบเก้า สามนางฟ้าที่ว่านี้ก็กลายเป็นเรื่องขบขัน

หากว่ากันเรื่องหน้าตา ไม่มีใครสู้อิ๋งจื่อจินได้เลยจริงๆ

“ไม่ว่าง และก็ไม่อยาก” อิ๋งจื่อจินวางชอล์กลง หันไปพยักหน้าให้อาจารย์

เธอไม่สนใจอิ๋งเย่ว์เซวียน เดินออกจากหอประชุมใหญ่ทันที

ซิวอวี่กับเจียงหรานก็ย่อมตามออกไปด้วย

ภายในหอประชุมเหลือเพียงความเงียบ มีสายตาหันไปมองอิ๋งเย่ว์เซวียนมากขึ้นเรื่อยๆ

แค่สงสัย ไม่ได้มีความหมายอื่น แต่เป็นครั้งแรกที่อิ๋งเย่ว์เซวียนรู้สึกเสียหน้า

เธอถามต่อหน้าทุกคนเพราะมั่นใจว่าอิ๋งจื่อจินจะต้องตอบคำถามแน่นอน

แต่อิ๋งจื่อจินกลับไม่ พูดออกมาง่ายๆ ว่า ‘ไม่ว่าง’ ทำให้คำพูดที่เหลือของเธอจุกอยู่ในลำคอ

นักเรียนหญิงที่นั่งข้างๆ สังเกตเห็นว่าสีหน้าของอิ๋งเย่ว์เซวียนแปลกไป “เสี่ยวเซวียน?”

“ไม่เป็นไร” อิ๋งเย่ว์เซวียนลุกขึ้น ค่อยๆ พูด “หมดคาบแล้ว พวกเราก็กลับเถอะ”

เย็นวันนี้จงมั่นหวากับอิ๋งเจิ้นถิงกลับมาพร้อมกัน

ที่เธอออกไปข้างนอกก็เพื่อไปรับอิ๋งเจิ้นถิง

อิ๋งเจิ้นถิงจัดการงานทางยุโรปเสร็จหมดแล้ว ครั้งนี้จะอยู่ที่ฮู่เฉิงยาวไม่ไปไหนอีก

จงมั่นหวาดีใจมาก สองสามีภรรยาจึงตั้งใจไปฉลองที่ข้างนอกกันสองคน เมื่อวานก็เลยมีแค่อิ๋งเย่ว์เซวียนที่อยู่บ้านคนเดียว

พอเห็นพ่อบ้านกับพวกคนใช้จำนวนหนึ่งไม่อยู่ จงมั่นหวาก็แปลกใจ “เสี่ยวเซวียน ลูกเห็นคุณอาพ่อบ้านไหมลูก”

พ่อบ้านพักอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลอิ๋งมาตลอด มีแค่วันสุดสัปดาห์ถึงจะกลับบ้านตัวเอง

มือของอิ๋งเย่ว์เซวียนเริ่มเย็น เธอพูดเสียงเบา “พี่ไล่เขาออกไปแล้วค่ะ”

“ไล่ออกเหรอ” จงมั่นหวาอึ้ง “พี่ใหญ่ของลูกกลับมาเหรอ”

อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก เล่าเรื่องเมื่อวานให้ฟัง

“ว่าไงนะ” อิ๋งเจิ้นถิงขมวดคิ้ว “กล้าเอาของของเจ้านายเลยเหรอ”

เขาตบโต๊ะอย่างแรง พูดเสียงเย็นชา “เทียนลี่ว์ทำถูกแล้ว เกลือเป็นหนอน สมควรไล่ออก”

เขาไม่พูดถึงเรื่องที่พ่อบ้านกับพวกคนรับใช้แอบนินทาอิ๋งจื่อจินลับหลังแม้แต่คำเดียว

“พ่อของลูกพูดถูก” จงมั่นหวาเข้าข้างอิ๋งเจิ้นถิงมาตลอด เธอพยักหน้า “เสี่ยวเซวียน การเรียนสำคัญกว่า ลูกไม่จำเป็นต้องหงุดหงิดกับเรื่องพวกนี้”

อิ๋งเย่ว์เซวียนพูดเสียงเบากว่าเดิม “พ่อคะ แม่คะ ทราบแล้วค่ะ”

“เสี่ยวเซวียน ลูกลงแข่งขันอะไรไม่ใช่เหรอ” จงมั่นหวานึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เธอยิ้ม “เป็นไงบ้าง ผลออกหรือยังลูก”

“ค่ะ หนูผ่านรอบคัดเลือกแล้ว ตอนนี้เป็นรอบสองค่ะ” อิ๋งเย่ว์เซวียนตอบ “นี่เป็นการแข่งทั้งโลก หนูอยู่อันดับที่เจ็ดร้อยแปดสิบหกจากอันดับทั่วโลก”

“เก่งขนาดนี้เลยเหรอ” จงมั่นหวาดีใจมาก “ไว้สุดสัปดาห์แม่จะพาไปซื้อเสื้อผ้านะ”

อิ๋งเย่ว์เซวียนกำปากกาแน่น เอ่ยขอบคุณเสร็จเธอก็กลับเข้าห้องตัวเอง

ทันใดนั้นได้เกิดความรู้สึกเคว้งคว้างและหวาดกลัวขึ้นในใจ

เธอเองก็รู้ว่าที่จงมั่นหวากับอิ๋งเจิ้นถิงให้ความสำคัญกับเธอขนาดนี้ เดิมทีเป็นเพราะเธอยอดเยี่ยมมากพอ เป็นหน้าเป็นตาให้ได้

ขนาดจงมั่นหวารู้ว่าเธอได้อันดับที่เจ็ดร้อยแปดสิบหกจากทั่วโลกยังดีใจขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าอิ๋งจื่อจินได้โควตาผ่านเข้ารอบนานาชาติจะมีท่าทีเป็นแบบไหน

อิ๋งเย่ว์เซวียนไม่กล้าคิดต่อ ทำได้เพียงบังคับตัวเองให้เริ่มทำโจทย์

ในเวลาเดียวกัน

คฤหาสน์ตระกูลเจียง

หลังจากที่เยี่ยซู่เหอออกมาจากห้องพระก็เห็นเจียงมั่วหย่วนนั่งอยู่ที่โซฟา ร่างกายแผ่ซ่านความหงุดหงิด ตอนนี้ก็มีสีหน้าเหนื่อยล้า

“เกิดอะไรขึ้น” เธอเดินเข้าไปนั่งลง “เพราะอิ๋งจื่อจินเหรอ”

เจียงมั่วหย่วนคลายเนกไท รู้สึกอารมณ์เสีย

ถ้าตอนนั้นเขาไม่ส่งอิ๋งจื่อจินกลับบ้านตระกูลอิ๋ง ให้เธอไปเป็นคลังเลือดมีชีวิตของอิ๋งลู่เวย เหตุการณ์ก็คงไม่กลายเป็นแบบตอนนี้

“เอาล่ะ เลิกหงุดหงิดได้แล้ว พกนี่ไว้” เยี่ยซู่เหอเอาถุงหอมขนาดเล็กใส่ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของเจียงมั่วหย่วน “พรุ่งนี้ลูกไปหาเธอ เธอจะยอมไปกับลูกแน่นอน”

“แต่เธอยังเด็ก เรื่องไหนที่ไม่ควรทำลูกน่าจะเข้าใจดีที่สุด อีกไม่กี่ปีแต่งงานแล้วก็ยังไม่สาย”

เธอช่วยเจียงมั่วหย่วนให้สมความปรารถนา แต่ก็ไม่อยากให้เขาหมกมุ่นเรื่องผู้หญิงมากนัก

เจียงมั่วหย่วนขมวดคิ้ว “นี่คืออะไรครับ”

“เครื่องหอมแบบพิเศษ แม่ซื้อมาจากแพทย์แผนโบราณคนหนึ่ง” เยี่ยซู่เหอใส่ใบชาพลางพูด “น่าเสียดายที่เหลือแค่นิดเดียวแล้ว”

“เครื่องหอมเหรอ” เจียงมั่วหย่วนขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “ทำร้ายสุขภาพหรือเปล่า แล้วแพทย์แผนโบราณคืออะไร”

เขาเคยได้ยินแพทย์แผนจีน แต่ไม่เคยได้ยินแพทย์แผนโบราณ

“วางใจได้ ไม่มี” เยี่ยซู่เหอต้มชา “ก็แค่จะเห็นลูกเป็นคนที่ชอบภายในระยะเวลาอันสั้น”

เจียงมั่วหย่วนสีหน้าเปลี่ยน “คุณแม่!”

“เด็กสาววัยรุ่นก็ชอบที่หน้าตาทั้งนั้น” เยี่ยซู่เหอรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ “วันนี้เธอชอบฟู่อวิ๋นเซินได้ พรุ่งนี้เธอก็ชอบลูกได้”

“หลอกนิดหลอกหน่อยไม่ใช่เรื่องใหญ่ แม่รู้ดี ไม่มีทางเป็นเรื่องหรอก”

ขณะที่เจียงมั่วหย่วนยังอยากพูดอะไรต่อ เยี่ยซู่เหอก็ถืออุปกรณ์ดื่มน้ำชาขึ้นชั้นบนไปแล้ว

แววตาของเขาเปลี่ยนไป สุดท้ายก็ไม่ได้หยิบถุงเครื่องหอมออกมา

และก็เพราะการกระทำของตระกูลเจียง ทำให้เจียงหรานให้ความสนใจเยี่ยซู่เหออีกครั้ง

เขาเล่าเรื่องที่เขารู้ทั้งหมด

“พ่ออิ๋ง นังจิ้งจอกนั่นเจ้าเล่ห์มาก” เจียงหรานขมวดคิ้ว “ตอนที่เธอมาอยู่ตระกูลเจียง ตอนนั้นอายุแค่สิบแปดปี แม่ของฉันสิบขวบแล้ว”

“ย่าของฉันสุขภาพแย่มาตลอด หลังจากป่วยตาย นังจิ้งจอกนั่นก็ขึ้นเป็นนายหญิงของตระกูลเจียงอย่างสง่าผ่าเผย สี่ปีต่อมาก็ให้กำเนิดเจียงมั่วหย่วน”

“เดี๋ยวนะเดี๋ยว” ซิวอวี่ทำมือบอกให้หยุด “ตอนนั้นผู้เฒ่าเจียงอายุห้าสิบกว่าแล้วหรือเปล่า”

เจียงหรานพูดถึงตรงนี้ก็ทำเสียงประชด “ฉันถึงได้บอกไงว่าคุณตาฉันแข็งแรงเหลือเกิน ชวนให้สะอิดสะเอียน”

อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เรื่องราวอาจไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”

การแก่งแย่งชิงดีในตระกูลใหญ่ไม่ได้เป็นเหมือนที่แสดงออกเสมอไป

ก็แค่ยุ่งยากเกินไป เธอเป็นแค่ผู้ชม

“จะไปสนเขาทำไม ยังไงซะฉันก็พูดกับแม่แล้วว่า” เจียงหรานแสยะยิ้ม “ถ้าพวกเขากล้าสู่ขอเธอจริงๆ ฉันจะให้พ่อส่งคนไปจัดการตระกูลเจียง”

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว

เธอรู้กฎระเบียบในวงการจอมยุทธ์ ซึ่งเป็นกฎที่ตระกูลจอมยุทธ์ใหญ่ๆ ตกลงร่วมกัน

แต่ไหนแต่ไรมาจอมยุทธ์จะไม่ได้รับอนุญาตให้ยุ่งเรื่องแก่งแย่งชิงดีของบรรดาตระกูลใหญ่ในโลกปุถุชน

อย่างไรเสียเดิมทีจอมยุทธ์ก็เป็นบัคที่แข็งแกร่งเกินไป ถ้าจอมยุทธ์ออกโรง ตระกูลทั่วไปยังจะรอดได้เหรอ

ซิวอวี่ถอนหายใจ “เจียงหราน ดูท่านายจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ นะ”

เจียงหราน “…”

พอเสียงกริ่งเลิกเรียนดัง อิ๋งจื่อจินก็เก็บกระเป๋าแล้วออกจากโรงเรียน

เวินเฟิงเหมียนตั้งกฎกับเธอหนึ่งข้อ ต้องถึงบ้านก่อนสองทุ่ม

ซิวอวี่มีแข่งรถ เจียงหรานไปเล่นบาสเก็ตบอล จึงไม่ได้ตามไปด้วย

ด้านนอกโรงเรียน

เจียงมั่วหย่วนเห็นอิ๋งจื่อจินอยู่ท่ามกลางฝูงชน เธอมาคนเดียว

คิ้วที่ขมวดอยู่ของเขาคลายออก เดินเข้าไปหาเธอ “เสี่ยวจิน”

ไม่ว่าอย่างไรเยี่ยซู่เหอก็ไม่มีทางหลอกเขา

เขาเป็นนักธุรกิจ ทำได้ทุกวิถีทางจนชินแล้ว

อิ๋งจื่อจินหยุดเดิน มองเขาแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร แต่เดินไปทางซอยเล็กๆ

เจียงมั่วหย่วนอึ้ง ความรู้สึกดีใจทะลักอยู่ในหัวใจแบบที่ยากจะบรรยาย เขาสาวเท้าเดินตามไป

ตรงนั้นเป็นซอยตัน ข้างทางยังมีกองขยะ ไม่มีใครเข้ามา

“คุณเจียง ดูเหมือนฉันจะเคยบอกคุณไปแล้ว” อิ๋งจื่อจินหันมา “อย่าให้ฉันเห็นหน้าคุณอีก ไม่อย่างนั้น ฉันเจอคุณเมื่อไร…”

เธอยกเท้าถีบไปที่ท้องของเจียงมั่วหย่วน

เจียงมั่วหย่วนถูกถีบลงไปกองกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแผ่ซ่านในทันที หน้าซีดลงในชั่วขณะ

อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จะลงมือกับคุณเมื่อนั้น”

ประโยคเดียวทำให้หัวใจของเจียงมั่วหย่วนหดเกร็ง เกิดอาการหอบเล็กน้อย “เกลียดฉันขนาดนี้เลยเหรอ เพราะอิ๋งลู่เวยเหรอ ตอนนั้นฉันไม่ได้ปกป้องเธอหรือไง”

“คุณเจียง อย่าคิดเข้าข้างตัวเอง” อิ๋งจื่อจินย่อตัวลง พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พี่ชายไม่ชอบให้ฉันทะเลาะเบาะแว้ง ดังนั้นคราวก่อนที่ฉันไม่ลงมือกับคุณเพราะไม่อยากให้เขาเห็น”

“พี่ชายเหรอ” เจียงมั่วหย่วนรู้สึกว่าเหลวไหล “เธอมองเขาเป็นพี่ชายเหรอ”

วันนั้นเขาเห็นฟู่อวิ๋นเซิน เขาสังเกตเห็นแล้วว่าแววตาที่ฟู่อวิ๋นเซินมองอิ๋งจื่อจินดูเปลี่ยนไป

ไม่เหมือนพี่ชายมองน้องสาวอีกต่อไป แต่เป็นผู้ชายมองผู้หญิง

หลังจากที่อิ๋งจื่อจินแน่ใจแล้วว่าเจียงมั่วหย่วนต้องเข้าโรงพยาบาลเธอก็เลิกลงมือ สะพายกระเป๋า

ในเวลานี้เองเธอได้กลิ่นหอมอ่อนๆ

กลิ่นจางๆ โชยมาเตะจมูก

อิ๋งจื่อจินก้มหน้า เบนสายตากลับไปที่เจียงมั่วหย่วนอีกครั้ง

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท