คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 350 นี่คือพ่อบุญทุ่ม!

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 350 นี่คือพ่อบุญทุ่ม!

เฉินหลีเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเทียนสิงมีเดีย เธอเคยดูแลราชาภาพยนตร์ระดับสากลมาก่อน

แต่หลังจากที่ราชาภาพยนตร์คนนี้ยกเลิกสัญญากับเทียนสิงมีเดีย ในมือของเฉินหลีก็ไม่มีดาราที่ช่วยเชิดหน้าชูตาได้สักคน คนที่เก่งที่สุดก็เป็นแค่ดาราระดับรองๆ ชีวิตเริ่มตกต่ำ

จนกระทั่งปีนี้ เฉินหลีได้ดูแลเยี่ยซี

หลังจากที่เยี่ยซีถ่ายเรื่องสปายเลอโฉมกับซังเย่าจือเสร็จก็โด่งดังขึ้นมา กลายเป็นดาราดังยอดนิยมในชั่วข้ามคืน มีแฟนคลับมากมายนับไม่ถ้วน

สถานะของเฉินหลีในเทียนสิงมีเดียย่อมทะยานสูงขึ้น ดาราจำนวนไม่น้อยอยากเซ็นเข้ามาอยู่ในความดูแลของเธอ

ตอนนี้เยี่ยซีกำลังโด่งดัง งานเข้าอย่างต่อเนื่อง เฉินหลีแทบไม่ต้องกังวล

เธอเลือกพวกเด็กหน้าใหม่ส่งมาเข้าร่วมรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202

และเฉินหลีสังเกตเห็นอวิ๋นเหอเย่ว์มาตั้งแต่รายการเริ่มคัดเลือกจากเด็กฝึกจำนวนมาก

คนหน้าตาดีในวงการบันเทิงมีมากมาย คนที่ดูดีกว่าอวิ๋นเหอเย่ว์ก็มีถมเถไป

แต่ตอนนี้หนุ่มสาวที่มีความสามารถนับวันจะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ

ซังเย่าจือเป็นกรณีพิเศษ

เฉินหลีตัดสินใจติดต่ออวิ๋นเหอเย่ว์เพราะอยากจับเซ็นสัญญา

ติดต่อไปหลายครั้งกลับถูกปฏิเสธหมด

เมล็ดพันธุ์ชั้นดี ถ้าไม่มาเซ็นสัญญากับเธอ เธอก็ไม่มีทางปล่อยให้อวิ๋นเหอเย่ว์เข้าบริษัทคู่แข่ง

ไม่อย่างนั้นด้วยความสามารถของอวิ๋นเหอเย่ว์ ถ้าเกิดเดบิวต์ จะต้องกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการบันเทิงแน่นอน

อาศัยจังหวะตอนนี้เธอยังสามารถดับอนาคตของอวิ๋นเหอเย่ว์ได้

ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกห้านาทีก็จะสิ้นสุดการสัมภาษณ์ร้องเพลง เฉินหลีทักทายโค้ชร้องเพลงคนหนึ่ง จะใช้เวลาที่เป็นของอวิ๋นเหอเย่ว์ให้หมด

โค้ชร้องเพลงคนนี้สนิทกับเธอมาก ถ้าเป็นแบบนี้ คะแนนในส่วนร้องเพลงของอวิ๋นเหอเย่ว์ก็จะถูกลดเป็นศูนย์

ต่อให้อวิ๋นเหอเย่ว์เต้นได้คะแนนเต็ม ก็ยังสู้ผู้เข้าแข่งขันที่เธอพามาไม่ได้อยู่ดี

เธอก็แค่ต้องการข่มขวัญอวิ๋นเหอเย่ว์ บีบจนอวิ๋นเหอเย่ว์อับจนหนทาง

เมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอวิ๋นเหอเย่ว์ไม่มาเซ็นสัญญากับเธอก็ต้องไสหัวออกจากวงการบันเทิงไป ไม่ต้องคิดเรื่องร้องหรือเต้นแล้ว

อวิ๋นเหอเย่ว์ไม่สนใจเฉินหลี หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพิมพ์ให้อิ๋งจื่อจินดู

[พี่คะ ไม่เป็นไรค่ะ]

[พวกเขาฝีมือห่วย แค่หนูเต้นก็ติดสิบอันดับแรกแล้ว]

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วขณะ

นี่ทำให้เธอนึกถึงเรื่องที่เวินทิงหลานบอกว่าเด็กคลาสอัจฉริยะซื่อบื้อกันทั้งนั้น

“อันดับหนึ่งเป็นของเธอ ก็ต้องเป็นของเธอ” อิ๋งจื่อจินเปิดวีแชท ส่งข้อความหาเลขาสาว

ส่งเสร็จเธอก็นั่งลงพลางพูด “รอเดี๋ยว กินอะไรก่อน”

เธอรับปากอวี้เสวี่ยเซิงว่าจะดูแลอวิ๋นเหอเย่ว์ ก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด

อวิ๋นเหอเย่ว์เชื่อฟังมาก เธอนั่งตาม

เฉินหลีเห็นแบบนี้ก็เดินเข้าไปหา

เธอไม่เห็นอิ๋งจื่อจินอยู่ในสายตา ก็แค่ผู้ช่วย

“อวิ๋นเหอเย่ว์ ในฐานะที่ฉันเป็นรุ่นพี่ในวงการบันเทิง ฉันขอเตือนให้นายยอมฟังฉันดีกว่านะ” เฉินหลียิ้ม “เซ็นสัญญาก็แค่เซ็นชื่อลงไป นายไม่มีสังกัด คิดจริงเหรอว่าสุดท้ายจะได้เดบิวต์”

รายการเฟ้นหาคนเป็นการแข่งขันด้วยเงินทั้งนั้น

อวิ๋นเหอเย่ว์ยังคงไม่สนใจเฉินหลี เธอกำลังเชื่อมต่อเล่นเกมกับอิ๋งจื่อจิน

เฉินหลีขมวดคิ้ว ไม่พอใจ ในขณะที่เธอกำลังจะพูดต่อ ทันใดนั้นประตูห้องใหญ่ก็ถูกผลักออก

น้ำเสียงร้อนรนเจือไปด้วยความโมโหทำเอาบรรดาผู้เข้าแข่งขันที่รออยู่ด้านนอกต่างตกใจ

“ใครกินเวลาสัมภาษณ์ของคนอื่น หา รีบไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้! คิดว่าตัวเองสร้างรายการนี้หรือไง เร็วเข้า! ออกมาเดี๋ยวนี้! อย่าให้ผมต้องพูดอีกรอบ!”

รอยยิ้มของเฉินหลีหยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นทันที สีหน้าเปลี่ยน “โปรดิวเซอร์หลี่?”

โปรดิวเซอร์หลี่ไม่แม้แต่จะมองเฉินหลี รีบสาวเท้าเดินไปที่ห้องอัดเสียงแล้วถีบประตูเปิดอีกครั้ง

เขาชี้ผู้เข้าแข่งขันที่ยังอยู่ในนั้น ตวาดเสียงด่าอย่างไม่ไว้หน้าต่อหน้าทุกคน “คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าเหรอ ทุกคนต้องตามใจคุณ กินเวลาคนอื่นเหรอ คิดว่าตัวเองเป็นใคร!”

ผู้เข้าแข่งขันถูกด่าก็งง

รวมถึงโค้ชร้องเพลงที่เฉินหลีติดสินบนไว้ สีหน้าก็ซีดลง

โปรดิวเซอร์หลี่ด่าเสร็จยังไม่หายโมโห โยนแฟ้มเอกสารที่อยู่ในมือลงอย่างแรง “อยากได้ซีนใช่ไหม ทั้งหมดเป็นไปตามคะแนน เจตนากินเวลาคนอื่น ตัดคะแนนครึ่งหนึ่ง!”

โปรดิวเซอร์หลี่เองก็หวาดกลัวมาก

ไม่ว่าจะการสัมภาษณ์ครั้งนี้หรือการเปิดโหวตในภายหลัง แต่ละบริษัทใหญ่ต่างจะเข้ามาควบคุม

คนที่ไม่มีสังกัดย่อมถูกข่ม นี่เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยในวงการบันเทิง

โปรดิวเซอร์หลี่จึงไม่ได้เก็บเรื่องเล็กน้อยอย่างการสัมภาษณ์นี้มาใส่ใจ แต่เมื่อครู่ชูกวงมีเดียโทรมาเล่นงานเขาเต็มๆ

คำพูดเป็นแบบนี้

‘ทีมงานเก่งกันจริงๆ นะคะ แม้แต่ผลประโยชน์ที่ยุติธรรมกับผู้เข้าแข่งขันยังปกป้องไม่ได้ ยังจะจัดไปทำไมคะ ยกเลิกรายการไปเถอะค่ะ’

ครั้งนี้ชูกวงมีเดียเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ที่สุด นำเทียนสิงมีเดียที่เป็นหนึ่งในฝ่ายจัดงานไปแล้ว

นี่คือพ่อบุญทุ่มเชียวนะ!

เกิดไม่พอใจถอนเงินสนับสนุนขึ้นมาจะทำอย่างไร

หลังจากที่โปรดิวเซอร์หลี่วางสายก็เดินออกมาจากห้องทำงานด้วยสภาพควันออกหู

ส่วนเฉินหลีอะไรนี่น่ะเหรอ

เทียบกับพ่อบุญทุ่มได้เหรอ

โปรดิวเซอร์หลี่อารมณ์เย็นลง หันหน้าไป “คนต่อไป เข้าไปได้ ยืดเวลาให้ ไม่ต้องกดดัน”

เฉินหลีโกรธหน้าเขียว

อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย เชิดคางเล็กน้อยเพื่อบอกให้อวิ๋นเหอเย่ว์ตามสบาย

อวิ๋นเหอเย่ว์ถึงเข้าไป

ผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ในห้องอัดเสียงเดินออกมาด้วยความอับอาย

เฉินหลีโมโหจนตัวสั่น

แต่คนที่เธอเผชิญหน้าด้วยคือโปรดิวเซอร์ใหญ่จึงทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงอดกลั้นไว้

ผู้เข้าแข่งขันคนนั้นก้มหน้า “ขอโทษครับพี่หลี”

“ถือว่าเขาดวงดี” เฉินหลีหายใจแรงด้วยความโมโห เธอแสยะยิ้ม “วันนี้โปรดิวเซอร์ใหญ่มาพอดี ถึงช่วยอวิ๋นเหอเย่ว์ไว้ได้ครั้งหนึ่ง ฉันก็อยากจะรอดูว่า ครั้งหน้าเขายังจะโชคดีแบบนี้ไหม”

เธออยู่ในวงการบันเทิงมาสิบกว่าปี มีวิธีเล่นงานมากมาย ใช่ว่าอวิ๋นเหอเย่ว์จะมาสู้ได้

“ไปที่ห้องเต้น” เฉินหลีหยิบกระเป๋า พูดอย่างเย็นชา “อีกเดี๋ยวนายยังต้องเต้นอีก ตั้งใจทำให้ดี บริษัทไม่มีทางยอมให้ทีมงานตัดซีนของนายออก”

อวิ๋นเหอเย่ว์อัดเสียงเสร็จอย่างรวดเร็ว

ปกติเธอเป็นคนนิ่งๆ แต่น้ำเสียงกลับมีพลัง ปลุกความสนใจของทุกคนได้อย่างง่ายดาย

ไม่เหนือความคาดหมาย เธอได้คะแนนเต็มเพียงคนเดียว

เรื่องเต้นก็เช่นกัน

หลังจากอวิ๋นเหอเย่ว์เต้นเสร็จ ดูไม่เหนื่อยอะไร ไม่เปลืองแรงเลยสักนิด

เธอโค้งให้บรรดาโค้ชเต้นเสร็จก็เดินออกจากห้อง

โค้ชสองคนคุยกัน

“อวิ๋นเหอเย่ว์เอวอ่อนมาก” โค้ชหญิงอดตกใจไม่ได้ “น้อยมากที่ผู้ชายจะทำได้ถึงระดับนี้ ฉันถึงขั้นสงสัยว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือเปล่า”

“จะเป็นไปได้ยังไง” โค้ชชายส่ายหน้า “ถ้าเขาเป็นผู้หญิงจะเข้ารอบได้ยังไง แต่ความสามารถโดดเด่นจริงๆ เขาเก่งทั้งร้องทั้งเต้น คนอื่นสู้ไม่ได้เลยจริงๆ”

“ผมว่าประเมินผลครั้งแรกเขาต้องได้เอเป็นคนแรกแน่นอน”

โค้ชหญิงเห็นด้วย “แต่จุดด้อยของเขาก็ใหญ่มาก เขาควบคุมสีหน้าได้แย่เกินไป แทบจะไม่ยิ้มเลย”

โค้ชทั้งสองคนแค่คุยกันเรื่อยเปื่อย ส่วนสุดท้ายจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้

อิ๋งจื่อจินนั่งรออยู่ด้านนอก

ภาพบันทึกการสัมภาษณ์ครั้งนี้เป็นความลับ มีแค่ฝ่ายดูแลอย่างโค้ช โปรดิวเซอร์ และผู้กำกับเท่านั้นที่ได้ดู

ไม่ว่าจะผู้จัดการส่วนตัวหรือผู้เข้าแข่งขันต่างไม่มีทางได้เห็น

แต่อิ๋งจื่อจินเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ก็ขอภาพบันทึกในห้องเต้นมาจากเลขาสาวได้อย่างง่ายดาย เธอดูอวิ๋นเหอเย่ว์เต้น

สุดท้ายเธอก็ชอบดูผู้หญิงเต้นมากกว่าจริงๆ เห็นแล้วเจริญตา

อวิ๋นเหอเย่ว์ล้างมือเสร็จก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้อิ๋งจื่อจิน

อิ๋งจื่อจินก้มมอง

มีสองข้อความ

[พี่คะ หนูได้ยินจากพี่เสวี่ยเซิงว่าพี่ชอบเงิน]

[หนูช่วยพี่หาเงินได้ มีคนมาให้หนูร้องเพลง หนูร้องหนึ่งเพลงขายได้หนึ่งหมื่น]

จากนั้นอวิ๋นเหอเย่ว์ก็พิมพ์อีกบรรทัด

[หนูขอแค่ของกินกับเสื้อผ้าก็พอแล้ว]

อวิ๋นเหอเย่ว์ยังอยู่ในชุดเต้น ทาอายแชโดว์โทนสีเข้ม

อิ๋งจื่อจินสังเกตเห็นรอยแผลน้อยใหญ่จำนวนมากตรงข้อมือของเธอ

ถึงแม้จะใช้รองพื้นทาปิดไว้ แต่ถ้าสังเกตดีๆ ก็จะมองออก

จินตนาการได้ไม่ยากเลยว่าเมื่อก่อนเธอถูกทำร้ายมาขนาดไหน

“ไม่ต้องหรอก” อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าเล็กน้อย เธอยิ้ม “ฉันไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน”

ตอนนี้เธอไม่ร้อนเงินแล้วจริงๆ แต่ยังคงชอบความรู้สึกตอนหาเงิน

อย่างไรซะในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคก็มักมีคนทึ่มเอาเงินมาให้เธออยู่บ่อยๆ

โดยเฉพาะคนที่ตั้งภารกิจแปลเนื้อหาที่ให้เงินถึงห้าล้าน

ไม่รู้ว่าใครที่มีเงินเสียค่าโง่เยอะขนาดนั้น เธอเองก็ไม่ได้สนใจจะสืบด้วย

“ไปเถอะ” อิ๋งจื่อจินลูบแขนเสื้อ สวมหมวก

เธอให้อวิ๋นเหอเย่ว์เดินไปก่อน เธอตามด้านหลัง

อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็เป็นผู้ช่วย

บางครั้งการรับบทบาทแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน

ภายในห้องโถงด้านหลัง เฉินหลียืนอยู่ในนั้น สีหน้าย่ำแย่

ขนาดเธอขัดขวางไปแล้วครั้งหนึ่ง ปรากฏว่าอวิ๋นเหอเย่ว์ก็ยังคงได้คะแนนเต็มทั้งคู่

อันดับสองห่างกับอวิ๋นเหอเย่ว์ถึงสี่สิบกว่าคะแนน แสดงให้เห็นว่าความสามารถทั้งร้องและเต้นของอวิ๋นเหอเย่ว์น่ากลัวขนาดไหน

แต่เฉินหลีคิดไม่ออกจริงๆ ว่าทำไมอยู่ๆ โปรดิวเซอร์หลี่ก็โผล่มา อีกทั้งยังหักหน้าเธอ

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเบอร์

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท