คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 435 กลเม็ดที่มาจากบอส

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 435 กลเม็ดที่มาจากบอส

ความโด่งดังของอิ๋งจื่อจินในตอนนี้สูงกว่าตอนขึ้นเวทีพร้อมอวิ๋นเหอเย่ว์ในรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 มากทีเดียว

ดาราชั้นแนวหน้าอย่างซังเย่าจือกับฉินหลิงอวี๋ก็ยังสู้เธอไม่ได้

เธอสู้เพื่อประเทศจีนในการแข่งขันไอเอสซีรอบชิงชนะเลิศจนมีชื่อเสียงดังไปไกล

อีกทั้งเพราะมีเหตุระเบิด ชาวเน็ตร่วมภาวนากันมาตลอดเพื่อหวังให้อิ๋งจื่อจินฟื้นขึ้นมา

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนหลังจากเหตุระเบิดที่ยุโรป

ด้วยเหตุนี้สิ่งที่ตามมาก็คือความฮือฮาขั้นสุด

บรรดาชาวเน็ตที่รับชมการถ่ายทอดสดงานแถลงข่าวถึงกับช็อกมาก

[เทพอิ๋ง…เทพอิ๋งจริงๆ ด้วย!]

[โอ้มายก็อด ฉันร้องไห้แล้วเนี่ย เทพอิ๋งฟื้นแล้ว พระเจ้าคุ้มครอง!]

[จากที่ชูกวงมีเดียพูดมา งั้นเทพอิ๋งก็คือนักออกแบบในนามปีศาจเหรอ!]

พออิ๋งจื่อจินปรากฎตัว สีหน้าของลั่วเหวินปินก็แย่ลง

เขาย่อมรู้จักอิ๋งจื่อจิน ไหนว่าตายอยู่ที่ยุโรปแล้วไง

ทำไมยังมายุ่งเรื่องของชูกวงมีเดียได้

“ค่ะ ฉันฟื้นแล้ว ขอบคุณทุกคนค่ะ และฉันก็ได้อ่านข้อความในเน็ตแล้วด้วย” อิ๋งจื่อจินเงยหน้าพูด

“ทุกท่านน่าจะรู้แล้วว่าที่ฉันมาอยู่ที่นี่เป็นเพราะมีคนสวมรอยเป็นฉัน”

พอได้ยินแบบนี้จันเหอก็สีหน้าเปลี่ยน แสยะยิ้ม

“เธอบอกว่าสวมรอยก็สวมรอยงั้นเหรอ ฉันยังจะพูดด้วยซ้ำว่าเธอน่ะสวมรอยเป็นฉัน!”

“ในชุดที่ฉันออกแบบไม่ได้มีแค่อักษร ปีศาจ”

อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้อย่างใจเย็น ไม่ได้สนใจจันเหอ สายตามองกล้องอยู่ตลอด

พอคำพูดนี้ออกมา อยู่ๆ จันเหอก็ตระหนักได้ถึงความไม่ชอบมาพากล

เพื่อที่จะสวมรอยเป็นดีไซเนอร์นามปีศาจได้อย่างสมบูรณ์แบบ พวกเขายังได้ศึกษาทั้งสี่ชุดนั้นอย่างละเอียดอีกด้วย จากนั้นถึงให้นักออกแบบของไทม์มีเดียออกแบบลวดลายแบบนี้ออกมา

จากนั้นก็เทียบกับอักษรจีนโบราณทั้งหมด เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่เหมือนกับลวดลายอื่นถึงได้จบงาน

เรียกได้ว่าแผนการแนบเนียนไร้ช่องโหว่

แต่…ไม่ได้มีแค่อักษร ‘ปีศาจ’ อย่างนั้นเหรอ

จันเหอกำเสื้อแน่น เริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี

“ในนั้นยังมีรหัสอยู่ด้วยค่ะ” อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้โซฟา นิ้วเคาะเบาๆ ยิ้มพลางพูด

“ทำให้พวกคุณต้องผิดหวังแล้วค่ะ ฉันไม่ได้ใช้อักษรตัวไหนของประเทศจีน แต่เป็นภาษาฮิบรู”

จันเหอเงยหน้า อดตะลึงไม่ได้

เลขาสาวที่อยู่ด้านข้างเอาภาพแบบทั้งสี่ชุดในตอนนั้นขึ้นหน้าจอใหญ่

ลายตรงคอถูกวงไว้ด้วยสีแดง

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีอีกหกชุดที่ไม่เคยปรากฏแก่สายตาของสาธารณชนก็ถูกนำมาโชว์ด้วย

ลวดลายที่ถูกวงไว้เหล่านั้นก็คือจำนวนหนึ่งถึงสิบในภาษาฮิบรู

แต่บนกิเลนเหลืองไม่มี

บนกิเลนเหลืองมีแค่อักษร ‘ปีศาจ’

[ฮ่าๆ นี่แหละความเทพของเทพอิ๋ง พวกโง่ทั้งหลาย นึกไม่ถึงสินะ]

[ภาษาฮิบรู ฉันเชื่อ เทพอิ๋งมีสไตล์แบบนี้มาตลอด]

[เทพอิ๋ง เทพยังไงก็เทพ!]

[แม่เจ้า ผู้หญิงคนนี้จะเก่งหลายเรื่องเกินไปแล้ว ฮือออ พวกศิลปินร้องไห้แล้วนะ]

[อื้อหือ นึกไม่ถึงว่าจะมีคดีพลิกแบบนี้ สรุปว่ากิเลนเหลืองใครออกแบบ จงใจสวมรอยเป็นเทพอิ๋งเหรอ]

[ดีนะฉันไม่ได้เลือกข้างตั้งแต่ตอนแรก ไม่มีคนรู้สึกเหรอว่าทุกอย่างมันดูบังเอิญเกินไป ต่อให้รวมหัวมาเล่นงานชูกวงมีเดียก็ไม่น่าบังเอิญขนาดนั้นหรือเปล่า]

จันเหอมองหน้าจอขนาดใหญ่ ใบหน้าซีดเซียว เหงื่อเริ่มหยด

เธอนึกไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้

ยังมีสัญลักษณ์อื่นด้วยเหรอ

นี่เธอไม่กลายเป็นตัวตลกเลยเหรอ

ต่อไปในวงการออกแบบยังจะมีคนกล้าจ้างเธออีกเหรอ

ที่จันเหอร่วมมือกับลั่วเหวินปินเป็นเพราะความโลภ อยากครองตำแหน่งในวงการออกแบบ

ต่อให้อีกหน่อยไม่ได้ออกแบบอะไรแล้วก็ยังสามารถอาศัยชุดพวกนี้ยืนอยู่ในวงการได้อย่างมั่นคง

ตอนนี้ทำไงล่ะ

จันเหอเหงื่อแตก นึกเสียใจอย่างรุนแรง

ลั่วเหวินปินที่อยู่ข้างๆ กลับโล่งอก

ยังดี ภายนอกเทียนสิงมีเดียไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับจันเหอ

เขามีจุดอ่อนของจันเหออยู่ในมือ ไม่กลัวโดนเล่นงานกลับ

แววตาของลั่วเหวินปินขรึมลง

แผนขั้นนี้พังลงแล้ว

แต่ลำพังแค่เรื่องผลงานออกแบบก็ไม่มีทางทำให้ชื่อเสียงของชูกวงมีเดียพังพินาศอยู่ดี

แผนที่สำคัญที่สุดคือต้องดูถงอวี่เฟย

เขาไม่เชื่อหรอกว่า ชูกวงมีเดียยังจะมีทีเด็ดอะไรอีก

งานแถลงข่าวถ่ายทอดสดไปทั่วในเน็ต ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

แน่นอนว่าเซี่ยเฟิงไม่มีทางได้ดู

เพราะแต่ไหนแต่ไรมาโลกจอมยุทธไม่สนใจเรื่องภายนอก และก็ไม่คิดใช้ของอย่างโทรศัพท์มือถือ

พวกจอมยุทธก็มั่นใจในตัวเองมาก ถ้าไม่มีพวกเขานำทาง ใครก็หาไม่เจอว่าโลกจอมยุทธอยู่ที่ไหน เป็นพวกคนคุ้มกันที่สังเกตเห็นคนที่พวกเขาตามหา จึงรีบกลับโลกจอมยุทธไปรายงาน

เซี่ยเฟิงจ้องเด็กสาวที่อยู่บนหน้าจอ แน่ใจว่านี่ก็คืออิ๋งจื่อจิน

เขาขมวดคิ้ว “ยังไม่ตายเหรอ แม้แต่ผู้อาวุโสใหญ่ก็ทำนายผิดพลาดงั้นเหรอ”

ช่วงหลายวันมานี้ตระกูลเซี่ยไม่คาดหวังอะไรแล้ว

“คุณชายรองบอกไม่ใช่เหรอครับ ผู้อาวุโสใหญ่บอกว่าทางยุโรปก็มีนักทำนาย เขาถูกขัดจังหวะกลางคัน” คนคุ้มกันนึกแล้วพูดขึ้น “เป็นไปได้ว่าอาจผิดพลาดตอนนั้น”

“ดีมาก ไม่ต้องสนอะไรแล้ว” เซี่ยเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา

“ให้คนไปที่งานแถลงข่าวเดี๋ยวนี้ จับเธอมัดกลับมา พี่ใหญ่รอไม่ได้แล้ว ต้องเอาเธอมาตอนนี้”

งานแถลงข่าวอยู่แค่ตี้ตู ออกไปจากโลกจอมยุทธ ถ้าพวกเขาเร่งเดินทางหน่อยหนึ่งชั่วโมงก็ถึง ยังทันเวลา

สีหน้าของเซี่ยเฟิงเย็นชา

เขาต้องเอาตัวอิ๋งจื่อจินกลับมาที่โลกจอมยุทธโดยเร็วที่สุด

ภายในงานแถลงข่าว

“คุณจันเหอเจตนาใช้ชื่อนักออกแบบของพวกเรา ทั้งยังเจตนาใส่ร้ายชูกวงมีเดีย คุณทำผิดกฎหมายแล้วค่ะ” เลขาสาวเอาไมโครโฟนกลับมา

“เรื่องหลังจากนี้ฝ่ายกฎหมายของชูกวงมีเดียจะติดต่อคุณไปเองนะคะ”

จันเหอทรุดลงบนเก้าอี้ เหงื่อออกชุ่มไปทั้งชุด พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

สื่อก็นึกไม่ถึงว่าเรื่องจะพลิกเร็วขนาดนี้

แต่นี่ยังไม่จบ…

มีนักข่าวคนหนึ่งก้าวออกมาถามอย่างมีไหวพริบ

“คิดว่าเรื่องนี้จะกลบเรื่องที่ผู้บริหารระดับสูงของชูกวงมีเดียหลายคนลวนลามดาราหญิงได้เหรอครับ”

“พอดีเลยค่ะ เรื่องต่อไปที่จะพูดก็คือเรื่องนี้” เลขาสาวแสยะยิ้ม

“ฉันอยากขอคำยืนยันจากผู้เสียหายอีกครั้ง คุณแน่ใจนะคะว่าซีอีโอและผู้บริหารหลายคนของพวกเราทำอนาจารที่ไร้ยางอายต่อคุณ”

คราวนี้แฟนคลับของถงอวี่เฟยเริ่มไม่พอใจ

[นี่มันเวลาไหนแล้ว ชูกวงมีเดียยังจะถามคาดคั้นผู้เสียหายอีกเหรอ]

[อวี่เฟยเป็นผู้หญิง เธอจะเอาชื่อเสียงของตัวเองมาล้อเล่นได้เหรอ ต่อให้สุดท้ายคนร้ายได้รับการลงโทษ เธอก็ต้องถอนตัวออกจากวงการบันเทิงอยู่ดี!]

[แบนชูกวงมีเดีย ชูกวงมีเดียออกไป!]

ถงอวี่เฟยใจเย็นมาก “เรื่องเป็นแบบนั้นหรือเปล่ายังต้องให้ฉันพูดอีกเหรอคะ”

เธอพับแขนเสื้อของตัวเองขึ้น เผยให้เห็นรอยแผลที่แขน ก้มหน้าพูด

“นี่คือสิ่งที่พวกคุณทำ ฉันมีรูปถ่าย ไม่ได้ตัดต่อ” เลขาสาวพยักหน้าแล้วถามต่อ

“คุณยังคงยืนยันว่าซีอีโอของพวกเราเป็นคนสั่ง เป็นคนบงการทั้งหมดเหรอคะ”

ฟังถึงตรงนี้ในแววตาของถงอวี่เฟยก็เต็มไปด้วยความหยามเหยียด

“ถ้าไม่ใช่เขา พวกผู้อำนวยการกับหัวหน้าของพวกคุณจะกล้าทำแบบนี้กับฉันเหรอคะ”

“อย่างน้อยฉันก็ถือว่ามีชื่อเสียงระดับหนึ่ง ทำผลงานให้บริษัทไม่น้อย พวกคุณทำแบบนี้กับฉัน ดาราคนอื่นจะไม่รู้สึกหมางใจได้เหรอ”

นี่เป็นแผนที่สำคัญที่สุดของลั่วเหวินปิน

ให้ถงอวี่เฟยสร้างเรื่องนี้จนดังกระฉ่อนไปทั่วเน็ต

ดาราในสังกัดของชูกวงมีเดียก็จะทยอยออกตามไปด้วย

พอถึงเวลาชูกวงมีเดียก็จะโดดเดี่ยว ยังจะทำยังไงได้

[อวี่เฟยใจเย็นมาก ฉันสงสารจริงๆ]

[สร้างประสบการณ์เลวร้ายแบบนี้ให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ชูกวงมีเดียน่าขยะแขยงจริงๆ]

[ซีอีโอของชูกวงมีเดียเป็นใคร ไหนว่าจะมาไม่ใช่เหรอ]

“ค่ะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ขอให้คุณถงจำคำพูดของตัวเองไว้ให้ดีๆ นะคะ” เลขาสาวแสยะยิ้มอีกครั้ง

“ลำดับถัดไปซีอีโอของพวกเราจะมาเจอคุณด้วยตัวเองค่ะ”

ถงอวี่เฟยก็แสยะยิ้ม “เอาสิคะ มาเลย”

ชูกวงมีเดียไม่มีทางหาหลักฐานมาได้ เมื่อไม่มีหลักฐานก็ยืนยันความบริสุทธ์ของตัวเองไม่ได้

เลขาสาวพยักหน้า ยิ้มพลางพูด “ตามต้องการค่ะ”

ลั่วเหวินปินยิ้ม ทันใดนั้นได้พูดขึ้น

“ไหนว่าซีอีโอของพวกคุณจะมาไงครับ ทำไมผมไม่เห็นเลย”

ซีอีโอของชูกวงมีเดียกล้ามาในงานจริงเหรอ

แบบนั้นต้องถูกโจมตีถึงขนาดไหน

เลขาสาวไม่สนใจเขา

เธอโค้งตัว ยื่นไมโครโฟนให้อิ๋งจื่อจินอีกครั้งท่ามกลางสายตาของทุกคน

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท