คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 461 จุดจบของอิ๋งเย่ว์เซวียน

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 461 จุดจบของอิ๋งเย่ว์เซวียน

การทดลองนั้นบนเกาะ จี้อี้หยวนก็ลงชื่อสมัครไปด้วย

ถึงแม้จะได้รับเลือกแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ได้แค่อยู่รอบนอก เข้าไปในโซนใจกลางไม่ได้

แต่จี้อี้หยวนก็รู้สึกโชคดีที่เขาไม่ได้เข้าไป

ไม่อย่างนั้นตอนนี้คนที่นอนป่วยอยู่บนเตียงก็คือเขาแล้ว

จี้อี้หยวนก็มีไปสืบว่าเวินเฟิงเหมียนรอดมาได้อย่างไร ถึงขั้นที่สงสัยว่ามีแพทย์แผนโบราณช่วยชีวิตเขาไว้หรือเปล่า

พวกนักวิจัยที่ตายไปตอนนั้น จนถึงตอนนี้ซากต่างๆ ก็ยังมีการปล่อยรังสี

โดยเฉพาะควันพิษเดธ ตระกูลจี้ก็มีกักเก็บเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่กล้าไปแตะต้องง่ายๆ

แต่จี้อี้หยวนสืบอยู่นาน ทุกร่องรอยได้บ่งชี้ว่าเวินเฟิงเหมียนหอบร่างกายที่กระเสาะกระแสะไปอำเภอชิงสุ่ยด้วยตัวคนเดียว

ต่อมามีภรรยา ภรรยาก็หอบลูกสาวคนโตหนีไป

ไม่ใช่แค่น่าสงสารธรรมดา

ถ้ายังมีใครช่วยเวินเฟิงเหมียนอีก มีเหรอที่เขาจะอยู่อาศัยในอำเภอแร้นแค้นอย่างอำเภอชิงสุ่ยนานขนาดนั้น

ดวงตาของจี้อี้หยวนฉายแววอาฆาตอย่างรุนแรง

กว่าเขาจะมีสถานะแบบทุกวันนี้ในตระกูลจี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาไม่มีทางปล่อยให้ทุกอย่างพังทลายลงเพราะเวินเฟิงเหมียนเป็นอันขาด

ต้องกำจัดเวินเฟิงเหมียนทิ้ง

เดิมทีข้างกายเขามีจอมยุทธ์สองคนที่ฝึกมาสิบปีขึ้นไป

แต่ก่อนหน้านี้ไม่รู้เกิดความโกลาหลอะไรภายในโลกจอมยุทธ

ถ้าทางตระกูลไม่ได้เรียก จี้อี้หยวนก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปในโลกจอมยุทธ แค่ได้ยินมาว่าเกี่ยวข้องกับศาลสถิตยุติธรรม

ตระกูลจอมยุทธน้อยใหญ่ต่างเรียกจอมยุทธ์ที่อยู่ข้างนอกกลับไป เหลือเพียงจอมยุทธฝึกหัดที่ฝีมือต่ำสุด

จอมยุทธฝึกหัดสู้กับนักเทควันโดสายดำได้สบาย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะลอบฆ่าเวินเฟิงเหมียนให้สำเร็จได้หรือเปล่า

ทำแบบเงียบๆ ยังพอไหว แต่ถ้าแหวกหญ้าให้งูตื่นก็จะได้ไม่คุ้มเสีย

“ไป เข้าเว็บบอร์ดเอ็นโอเค” จี้อี้หยวนครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน

“โพสต์งานขึ้นไปก่อน ไม่ต้องบอกว่าฆ่าใคร ประกาศข้อมูลแค่ส่วนเดียว”

“เอาแค่นักแม่นปืนหรือนักสะกดจิต ไม่เอานักฆ่า เดี๋ยวจะถูกสังเกตเห็นได้ง่าย”

ขอแค่อาวุธพร้อมมือ อยู่ห่างหลายร้อยเมตรนักแม่นปืนก็สามารถระเบิดหัวได้

นักสะกดจิตยิ่งปลอดภัยเข้าไปใหญ่

ชายวัยกลางคนพยักหน้า “ครับ นายท่าน”

“จริงสิ ยังมีตระกูลอิ๋งที่อยู่ฮู่เฉิงอีก” จี้อี้หยวนขมวดคิ้ว “ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เพราะเวินเฟิงเหมียน เขาถึงได้ดูรายการสายใยหมื่นลี้จนจบ แต่ผลลัพธ์ในตอนท้ายสุดกลับไม่ใช่อย่างที่เขาคิด

“นายท่านครับ นายท่านให้ผมตามข่าวในเน็ต ผมอ่านมาแล้วครับ” ชายวัยกลางคนพูด “ลูกเลี้ยงคนนั้นที่คุณนายอิ๋งรักมาก แท้จริงแล้วเป็นลูกเมียน้อย ตอนนี้ดูเหมือนคุณนายอิ๋งจะอยู่โรงพยาบาล ยังไม่ฟื้นครับ”

“อย่างนั้นเหรอ” จี้อี้หยวนขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “งั้นนายใหญ่ตระกูลอิ๋งล่ะ”

“เดิมทีหาตับที่เข้ากันได้แล้ว” ชายวัยกลางคนพูดต่อ “แต่ตอนนี้ทางโรงพยาบาลหาตัวลูกนอกสมรสคนนั้นไม่เจอ ก็เลยต้องเลื่อนผ่าตัดออกไป เกรงว่านายใหญ่ตระกูลอิ๋งจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้วครับ”

“จึ๊” จี้อี้หยวนแสยะยิ้ม

“ช่างเถอะ เดิมทียังคิดอยากร่วมงานกับตระกูลอิ๋ง เห็นทีจะไม่มีความจำเป็นแล้ว”

ถึงแม้เขาจะขี้เกียจเข้าหาอิ๋งจื่อจิน แต่ก็ไม่ได้คิดจะไปแตะต้อง

ตระกูลจี้มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยตี้ตู อีกทั้งอิ๋งจื่อจินก็เป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นดีที่มหาวิทยาลัยตี้ตูให้ความสำคัญ

“โปรเจ็กต์ที่แย่งกับจี้อี้หางฉันพอมีหนทางแล้ว” จี้อี้หยวนกำชับอีกเรื่อง

“ไปเชิญคุณเหยียนมาหน่อย ฉันจะปรึกษาเธอ”

ครั้งนี้เขาจะต้องจัดการเวินเฟิงเหมียนกับจี้อี้หางไปเลยทีเดียว เอาให้สองคนนั้นลุกขึ้นมาไม่ได้อีก

ชายวัยกลางคนทำความเคารพเสร็จก็ออกไปจัดการ

ณ เมืองฮู่เฉิง

วันนั้นหลังจากอิ๋งเย่ว์เซวียนออกจากคฤหาสน์บ้านตระกูลอิ๋งก็กลับไปยังห้องที่จิ่งหงเจินเช่าไว้

แต่เธอไม่ได้เข้าไป

เพราะเจ้าของห้องบอกว่าจิ่งหงเจินคืนห้องไปแล้ว

อิ๋งเย่ว์เซวียนมีบัตรธนาคารหลายใบติดตัว จึงต้องไปกดเงินที่ธนาคาร

ทว่าก็กดเงินออกมาไม่ได้

เพราะบัตรธนาคารพวกนี้เป็นบัตรเสริมของอิ๋งเจิ้นถิงกับจงมั่นหวา ภายใต้สถานการณ์ที่ถูกแวดวงธุรกิจในตี้ตูแบนหมด เงินทั้งหมดของตระกูลอิ๋งจึงถูกแช่แข็งไว้ เธอย่อมเอาออกมาใช้ไม่ได้

อิ๋งเย่ว์เซวียนลนลานอย่างสิ้นเชิงแล้ว

เมื่อก่อนเธออยากแทนที่อิ๋งจื่อจิน กลายเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลอิ๋ง ทำให้สายตาของทุกคนมารวมอยู่ที่เธอ

แต่ตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า อิ๋งเย่ว์เซวียนคิดแค่ว่าอยากมีชีวิตที่เหลืออยู่โดยไม่ต้องกังวลชีวิตความเป็นอยู่

แต่ความคิดนี้ก็เป็นจริงไม่ได้แล้ว

ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่ที่อยู่

วันนี้อิ๋งเย่ว์เซวียนเร่ร่อนอยู่ข้างนอกเป็นวันที่สาม หิวจนท้องร้อง ในที่สุดเธอก็โทรหาจิ่งหงเจินติด

อิ๋งเย่ว์เซวียนพูดเสียงเบา “แม่อยู่ที่ไหน หนูไม่มีเงินแล้ว หนูขอเงินหน่อยได้ไหม”

“พูดอะไรน่ะ” จิ่งหงเจินที่อยู่ปลายสายทำเสียงเหมือนตกใจมาก

“เธอเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลอิ๋งไม่ใช่เหรอ เธอเกี่ยวข้องอะไรกับฉัน ทำไมฉันต้องสนใจเธอด้วย เงินฉันก็ไปเอามาด้วยตัวฉันเอง ทำไมฉันต้องแบ่งให้เธอ”

คำพูดนี้เหมือนฟ้าผ่ากลางหัวอิ๋งเย่ว์เซวียน

เธอแทบไม่อยากเชื่อ “…แม่?”

“เอาล่ะ ฉันจะไปจากประเทศจีนแล้ว” จิ่งหงเจินยังมีความอดทนพูดต่อ “ฉันจะไม่ใช้เบอร์นี้แล้ว ไม่ต้องโทรมาอีก ฉันไม่เคยเลี้ยงเธอ แม่ของเธอคือจงมั่นหวา”

ถูกตัดสายทิ้งไปทั้งแบบนี้

พอกดโทรไปอีกครั้งก็ได้รับแจ้งว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ว่าง

จิ่งหงเจินยกเลิกเบอร์นี้ไปแล้ว

อิ๋งเย่ว์เซวียนหน้าซีด เหงื่อออกท่วมตัว

เธอไปต่างประเทศไม่ได้ เข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้

ตอนนี้เธอไม่มีเงินติดตัว และก็ไม่มีใครต้องการเธอ เธอควรทำอย่างไร

อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก เดินไปยังสถานที่ที่เมื่อวานเธอพักแล้วค่อยๆ นั่งลง

เธอกุมหัว อดปล่อยโฮออกมาไม่ได้

อิ๋งเย่ว์เซวียนไม่โง่ เธอรู้ว่าอิ๋งจื่อจินเป็นคนส่งจดหมายฉบับนั้นมาแน่นอน

ถ้าเธอไม่ทำอะไรเลยตั้งแต่ต้น รู้จักหยุดความเสียหายก็คงดี

ถ้าเธอยอมอยู่ในบ้านตระกูลอิ๋งดีๆ ไม่ไปหาเรื่องอิ๋งจื่อจิน เรื่องก็คงไม่มีทางเป็นอย่างทุกวันนี้

ตอนนี้ไม่เพียงแต่เธอจะไม่ได้มีอะไรเพิ่มมากขึ้น กลับสูญเสียทั้งหมดด้วยซ้ำ

แต่บนโลกนี้ก็ย้อนเวลาไม่ได้แล้ว

อวิ๋นซานรับแจ้งข่าวจากทางฮู่เฉิงเสร็จก็รายงานให้ฟู่อวิ๋นเซินฟัง

“คุณชายครับ อิ๋งเย่ว์เซวียนมีเงินติดตัวไม่มาก เริ่มเร่ร่อนแล้วครับ”

จิ่งหงเจินก็โหดเหี้ยมจริงๆ ไม่เคยเก็บอิ๋งเย่ว์เซวียนเอามาใส่ใจตั้งแต่แรก

ไม่เหมือนจงมั่นหวาที่อย่างน้อยก็เคยรักและเอาใจใส่อิ๋งเย่ว์เซวียนจริงๆ มาสิบกว่าปี

เหมือนอย่างคำพูดที่ว่า คนในครอบครัวเดียวกันย่อมมีสายใยผูกพัน

ฟู่อวิ๋นเซินพยักหน้าเล็กน้อย นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ “ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองล่ะ”

“จับตาดูอยู่ครับ” อวิ๋นซานพยักหน้า “จิ่งหงเจินออกนอกประเทศไม่ได้แน่นอนครับ”

พวกเขาไม่เคยยุ่งกับจิ่งหงเจินมาตลอด เพราะต้องการให้เธอทำลายตระกูลอิ๋ง

ทรัพย์สินที่จิ่งหงเจินโยกย้ายไปจากตระกูลอิ๋ง พอถึงเวลาก็จะต้องมอบให้อิ๋งเทียนลี่ว์

อีกทั้งตอนนั้นจิ่งหงเจินสั่งให้อิ๋งลู่เวยเอาอิ๋งจื่อจินไปทิ้ง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางปล่อยเธอลอยนวล

ผ่านไปยี่สิบกว่าปีคดีความหมดอายุแล้ว แต่ลำพังแค่เรื่องที่เธอแอบโยกย้ายทรัพย์สินก็สามารถส่งเข้าคุกได้

ฟู่อวิ๋นเซินตอบอืม

ก่อนอวิ๋นซานจะออกไป แอบทนไม่ไหว ถามด้วยความเป็นห่วง

“คุณชายไม่ได้เจอคุณอิ๋งมาสามวันแล้วใช่ไหมครับ”

ช่วงนี้อิ๋งจื่อจินอยู่กับเวินเฟิงเหมียนตลอด กำลังจัดการเรื่องตระกูลจี้ ช่วงนี้จึงยุ่งมาก

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้นอย่างใจเย็น สีหน้ากึ่งยิ้ม

เวลานี้อวิ๋นซานสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านอยู่รอบตัว ขาเริ่มสั่น

เขารีบวิ่งหนีออกไปทันที

หุบปากดีกว่า เดี๋ยวตายไม่รู้ตัว

อีกด้านหนึ่ง

บ้านของจี้อี้หาง

จี้อี้หยวนไม่ได้ส่งคนมาอีก แต่กลับมีคนจากศูนย์ในมา

ข้อเสนอนั้นของจี้อี้หยวน ศูนย์ในเห็นด้วย ไม่ใช่เพราะลำเอียงเข้าข้างจี้อี้หยวน แต่เป็นเพราะมันเป็นวิธีที่ดีจริงๆ

โปรเจ็กต์ทดลองนี้ไม่เคยมีคนรับมาตลอด กลายเป็นปัญหาหนึ่ง

เวินเฟิงเหมียนกลับมาพอดี ให้เขาสร้างผลงานชดเชย

เมื่อเป็นแบบนี้ พอถึงเวลาส่งมอบผลการทดลองให้ทางยุโรป หากทำออกมาไม่ได้ พวกเขาก็จะถือโอกาสผลักเวินเฟิงเหมียนออกไป

แต่ถ้าสำเร็จ ในขณะเดียวกันศูนย์ในก็จะปกป้องเวินเฟิงเหมียน ส่งจอมยุทธมา ทั้งยังจะยกย่องเชิดชู

การแก่งแย่งชิงดีในตระกูลจี้ก็โหดร้ายแบบนี้ หากไม่เก่งจริง อย่าคิดจะอยู่รอด

“เฟิงเหมียน นายรับโปรเจ็กต์นี้ไม่ได้เด็ดขาด” จี้อี้หางส่งคนของศูนย์ในกลับไปเสร็จก็ทุบโต๊ะอย่างแรง โมโหจนหัวเราะ

“จี้อี้หยวนจงใจ เขารู้ว่าไม่มีใครทำโปรเจ็กต์นี้ได้ เลยจงใจโยนให้นาย”

คุณนายจี้ก็พูด สีหน้าหนักใจ “ห้ามรับเลยนะ ถ้ารับก็คือตาย ฉันจะไปถามทางคุณพ่อ ลองดูว่าบอกปัดได้หรือเปล่า”

ช่วงหลายปีมานี้จี้อี้หยวนเล่นตุกติกมากมายเหลือเกิน

เขาใช้วิธีแบบนี้กับหลายโปรเจ็กต์เพื่อทำให้คู่ต่อสู้เก่งๆ ที่มาแก่งแย่งกับเขาต่างต้องจนมุม

ป้องกันอย่างไรก็ยังพลาด

โดยเฉพาะจี้อี้หยวนรวบรวมอัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์มาได้มากมาย ในตระกูลจี้ยังไม่มีใครที่แข็งแกร่งพอจะต่อกรกับเขาได้

เวินเฟิงเหมียนไม่พูดอะไร เขากำลังอ่านเอกสารที่ศูนย์ในส่งมาให้พลางครุ่นคิด

“ลุงรอง ป้ารอง ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ” อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ แววตาไม่เคร่งเครียด

“หนูกับพ่อจะรับโปรเจ็กต์นี้ค่ะ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน