คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 502 ปราบอธรรม รู้หรือเปล่าว่าวิชาแพทย์ของหลิน

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 502 ปราบอธรรม รู้หรือเปล่าว่าวิชาแพทย์ของหลินชิงจยามาจากสำนักไหน

เขาอายุยี่สิบต้นๆ มาดเท่ผึ่งผาย

ขอบตาเว้าลึกเผยให้ใบหน้าดูคมคาย ผิวพรรณขาวซีดเมื่ออยู่ภายใต้แสงแดด

“นายน่ะเหรอ นายมันก็แค่ไอ้เด็กกระจอก นาย…” นายใหญ่โคเฮนยังคงพูดจาดูถูก แต่ทันใดนั้นคำพูดของเขาก็หยุดชะงัก สายตาจับจ้องไปบนฟ้า

ภายนอกของเครื่องบินสิบกว่าลำนี้มีรหัสและสัญลักษณ์

สิ่งที่นายใหญ่โคเฮนให้ความสนใจไม่ใช่สัญลักษณ์ แต่เป็นรหัส

ถึงแม้ตระกูลโคเฮนจะไม่ใช่ตระกูลใหญ่ของยุโรป แต่เนื่องจากลักลอบทำการค้าผิดกฎหมายบ่อย นายใหญ่โคเฮนจึงให้ความสนใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับไอบีไอมาตลอด

รหัสของเครื่องบินพวกนี้มีแค่ของไอบีไอเท่านั้น!

ตระกูลน้อยใหญ่ในยุโรปกลัวอะไร

กลัวไอบีไอ

บนหน้าผากของนายใหญ่โคเฮนมีเหงื่อผุด เริ่มยืนไม่ไหวในชั่วขณะ

ตระกูลโคเฮนระมัดระวังมาตลอด ไม่มีทางทิ้งจุดอ่อนไว้ต่อหน้าคนมากมาย แล้วทำไมครั้งนี้แค่เพราะงานแข่งรถถึงเรียกไอบีไอมาได้

ล้อเล่นอะไรกัน

ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทียุโรปไม่อนุญาตให้มีโลกใต้ดิน

นายใหญ่โคเฮนย่อมไม่กล้าลงมือกับซิวอวี่ที่ประเทศจีน แต่ขอแค่ออกมาข้างนอกก็ได้แล้ว

“ว้าว ปราสาทนี่มันช่างอลังการงานสร้างจริงๆ” แอนโทนี่กอดอก “ออกแบบเจ๋งเลยนะสหาย”

“ไม่งั้นเอางี้ ฉันขอเชิญนายไปเป็นสถาปนิกออกแบบในคุกนานาชาติหน่อยเป็นไง”

คำพูดนี้กวนประสาทมาก นายใหญ่โคเฮนพยายามนึกถึงข่าวลือที่เกี่ยวกับไอบีไอ สีหน้าเปลี่ยนไป

คนที่สอดคล้องกับรูปร่างหน้าตาแบบนี้ อายุและนิสัย ก็มีแค่คนเดียว

สองขาของเขาสั่น คอแห้งผาด “ผะ ผู้บัญชาการแอนโทนี่เหรอ”

ไอบีไอถึงกับส่งคนระดับสูงมาที่เมืองเฮบาร์ของพวกเขาเลยเหรอ

แถมยังเป็นผู้บัญชาการหน่วยรบทางอากาศด้วย

นายใหญ่โคเฮนได้รับเกียรติจากไอบีไอขนาดนี้เลยเหรอ

สองขาของนายใหญ่โคเฮนอ่อนแรง คุกเข่าลงไปบนพื้น “ผู้บัญชาการแอนโทนี่ครับ พวกเรา พวกเราทำผิดอะไรเหรอครับ”

ถ้าคนระดับสูงของไอบีไอมาด้วยตัวเอง ย่อมไม่ใช่แค่เรื่องงานแข่งรถแน่นอน

แต่นายใหญ่โคเฮนพยายามนึกแล้วก็นึกไม่ออกว่าเขาทำพลาดตรงไหนกันแน่

“ฉันไม่สนหรอกว่าผิดอะไร” แอนโทนี่ทำเสียงหึ “ฉันแค่รับผิดชอบมาจับคนที่นี่ที่ทำผิดกฎหมายกลับไป อย่าพูดมาก นายจะมาเองหรือให้ฉันเข้าไปหา”

นายใหญ่โคเฮนหมดแรง ไม่มีแม้แต่แรงจะยืนขึ้น

ตอนนี้เขาไม่หลงเหลือความอวดดีแบบก่อนหน้านี้ ใบหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด แม้แต่จะหายใจยังลำบาก

แอนโทนี่เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของนายใหญ่โคเฮนขึ้นมา “แค่นี้ยังจะกล้าเบ่งอีกเหรอ นายเท่กว่าฉันเหรอ”

นายใหญ่โคเฮนปากสั่น พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

“ขยะ” แอนโทนี่ลากเขา “ไป”

มีเสียงหนึ่งดังจากด้านหลัง

“เดี๋ยวก่อน”

แอนโทนี่หันไป ชะงัก เขาพูดขึ้น “พี่สะ…”

อิ๋งจื่อจินมองเขา

แอนโทนี่กลืนคำพูดที่เหลือลงไปหมด

“ฉันขอให้ลูกอมเขาเม็ดนึง”

นายใหญ่โคเฮนยังไม่ทันตั้งตัวแอนโทนี่ก็จับปากเขาหันไป เอา ‘ลูกอม’ เม็ดนั้นยัดใส่ปาก

‘ลูกอม’ เข้าปากก็ละลายทันที มีรสหวาน

แต่นายใหญ่โคเฮนรู้สึกเพียงว่าอวัยวะภายในเหมือนไปกองรวมกัน คล้ายถูกแมลงนับหมื่นกัดกร่อน เจ็บปวดจนหายใจไม่ออก

“ทำตัวดีๆ” ทันใดนั้นแอนโทนี่ก็ถีบเขาหนึ่งที “ถ้านายทำให้ฉัน…ขายหน้า ฉันจะเอานายไปโยนให้ฝูงฉลามกิน”

นายใหญ่โคเฮนเหงื่อแตก ตัวสั่นไม่หยุด ใบหน้าซีดเซียว

เขาถึงได้นึกข่าวลืออีกอย่างออก

ข่าวลือบอกว่า พวกคนระดับสูงของไอบีไอแท้จริงแล้วเป็นพวกชอบใช้กำลัง

ไอบีไอทำงานเร็วมาตลอด

หลังจากแอนโทนี่เอาตัวนายใหญ่โคเฮนกับคนอื่นๆ ในตระกูลโคเฮนที่ทำผิดกฎหมายกลับมาแล้ว ไม่นานทีมตรวจสอบกับฝ่ายความปลอดภัยก็รวบรวมคดีทั้งหมดเสร็จ

ระดับความรุนแรงที่ต่างกัน โทษก็จะไม่เหมือนกัน

ทางเมืองเฮบาร์ก็มีหัวหน้านักสืบกับนักสืบเก็บงานที่เหลืออยู่

“ฮ่าๆๆ ลิซิเนียส นายมันโง่เง่า!” แอนโทนี่บุกเข้าไปที่ห้องทำงานประธานทันที ตบโต๊ะหัวเราะเสียงดัง “นึกไม่ถึงใช่ไหมล่ะ คราวก่อนนายไปทำภารกิจ ครั้งนี้ฉันไป! แถมไปกับพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยนะเว้ย!”

“ถึงฉันจะไม่ได้เห็นหน้าตาของเธอ แต่ก็ได้เห็นรูปร่าง สุดยอด!”

แอนโทนี่ทำเสียงจึ๊ “เฮ้อ นายคิดดูนะ พี่สะใภ้ใหญ่หุ่นดี หน้าตาสวย ต่อสู้ก็เก่ง นี่มันนางฟ้านางสวรรค์ชัดๆ ทำไมถึงได้ชอบนักพรตตบะแตกอย่างผู้บัญชาการได้”

เขาน่ารักกว่าผู้บัญชาการด้วยซ้ำ หนุ่มหล่อรูปงาม

พอได้ยินแบบนี้ลิซิเนียสก็ละสายตาจากคอมพิวเตอร์ เหล่มองแอนโทนี่ เคาะแป้นพิมพ์อย่างใจเย็น

ขณะที่แอนโทนี่กำลังถอนหายใจก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้น

นี่เป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เขากับฟู่อวิ๋นเซินใช้ติดต่อกัน

“ฮัลโหลผู้บัญชาการ เรียกหาผมเหรอ” ดวงตาสีน้ำเงินของแอนโทนี่เปล่งประกาย ยืนตัวตรงทันที “งานเสร็จเรียบร้อยครับ ยึดอาวุธอันตราย ที่ดินก็คืนให้ชาวบ้านคนอื่นๆ ทุกคนอยู่ในความปลอดภัยแล้วครับ เชิญชี้แนะได้”

“ไดอาใกล้กลับมาจากโซนพิเศษที่เจ็ดแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซินที่อยู่ปลายสายพูดเสียงเนือย เจือไปด้วยเสียงหัวเราะ “นายไปเปลี่ยนกับเขา ก่อนกลับมานายต้องฝึกทีมชั้นยอดออกมาให้ได้หนึ่งทีม อย่าทำให้ผู้บัญชาการผิดหวัง”

แอนโทนี่ที่กำลังรอคำชมถึงกับช็อกในชั่วขณะ “?”

ทำไมเขาเพิ่งสร้างผลงานก็ถูกเนรเทศแล้วล่ะ

ถึงแม้โซนพิเศษที่เจ็ดจะเป็นสถานที่ฝึกของไอบีไอ แต่ทำไมเขาต้องไปทนหนาวในพื้นที่เย็นสุดขั้วแบบนั้นในตอนนี้ด้วย

แถมยังต้องฝึกทีมชั้นยอดออกมาให้ได้อีก

ให้เขาไปบัญชาการเครื่องบินรบยังพอว่า แต่เรื่องฝึกไม่ใช่หน้าที่ที่รองประธานไดอาควรทำเหรอ

“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ตอบแบบขอไปที “เด็กดี จัดการบัตรผ่านให้นายแล้ว ไปได้ทันที”

แอนโทนี่ถูกวางสายใส่

เขาเงียบไปหลายวินาที ทันใดนั้นได้หันไปมองลิซิเนียส

ลิซิเนียสยกมือทันที ทำสีหน้าไม่รู้เรื่อง “ไม่เกี่ยวกับฉันนะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย เมื่อกี้ฉันดูข้อมูลคนใหม่อยู่ตลอด เตรียมสัมภาษณ์อยู่”

“ถุย ใครเชื่อนายก็เป็นหมูแล้ว!” แอนโทนี่โมโหอีกรอบ “วันไหนฉันเอาชนะนายได้จะนั่งตำแหน่งแทนนาย”

เขาไม่เคยเจอใครหน้าด้านเท่านี้มาก่อน

เรื่องที่ตระกูลโคเฮนถูกไอบีไอบุกจับอย่างกะทันหันได้ถูกลือไปยังอิทธิพลใหญ่ๆ ของยุโรปทันที

แต่ก็ไม่มีใครเก็บเอามาใส่ใจ อย่างไรเสียเรื่องแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีมาก่อน

ใครใช้ให้ตระกูลโคเฮนซวยแบบนั้น เจอไอบีไอพอดี

ต่อให้เป็นสี่ตระกูลมหาเศรษฐีของยุโรปก็ยังต้องให้เกียรติไอบีไอ

ไม่ว่าอย่างไรไอบีไอก็เป็นเพียงองค์กรเดียวที่พิทักษ์สันติสุขของโลก ไม่สนดินแดน ไม่สนชาติพันธุ์ สนแค่ช่วยชีวิตคน

เรื่องเล็กๆ แบบนี้ไม่นานก็ถูกลืม คนที่รักการแข่งขันจำนวนไม่น้อยต่างทุ่มความสนใจไปที่การแข่งขันเอฟวันที่ตระกูลแมนสันจัดขึ้น

ซิวอวี่ฟื้นฟูร่างกายเร็วมากภายใต้การดูแลของอิ๋งจื่อจิน และก็รู้เรื่องที่ตระกูลโคเฮนถูกไอบีไอจัดการ

แม้แต่ซิวอวี่ก็ตะลึง “พะ พ่ออิ๋ง เธอคงไม่ได้รู้จักกับผู้บัญชาการไอบีไอจริงๆ ใช่ไหม”

เธอยังจำได้เรื่องเมื่อปีที่แล้วที่เฝ่ยชุ่ยไจของตระกูลจงถูกขโมยของล้ำค่าไปได้ ไอบีไอยังได้ลงทะเบียนเปิดแอ๊กเคานท์เวยปั๋วด้วยตัวเอง

สองเรื่องนี้ถ้าแยกกันมองก็ดูปกติมาก ไอบีไอจัดการผู้ร้ายข้ามชาติ

แต่เมื่อนำมารวมกันมันก็น่าเก็บมาคิดแล้ว

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่ “ไม่ใช่แค่นั้น”

ยังเคยจูบกันด้วย

ซิวอวี่ “?”

เธอลูบคาง “ฉันจะไปเตรียมแข่งแล้ว พ่ออิ๋ง เดี๋ยวเชียร์ฉันด้วยนะ”

อิ๋งจื่อจินตบบ่าซิวอวี่ ยิ้มให้ “แน่นอน”

คำนี้เหมือนเรียกความฮึกเหิมให้ซิวอวี่ เธอกอดหมวกกันน็อกแล้วเดินไปเปลี่ยนชุดแข่งรถที่ห้องแต่งตัว

อิ๋งจื่อจินกวาดตามองด้านนอก สายตาชะงัก

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือได้ดังขึ้น จั่วหลีโทรมา

อิ๋งจื่อจินตัดสายทิ้งอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็ตอบกลับเป็นข้อความเสียงทางวีแชท

“นักศึกษาอิ๋ง” จั่วหลีงงมาก “ทำไมตัดสายอาจารย์ล่ะ”

“หนูอยู่ยุโรป เปลืองค่าโทรข้ามประเทศค่ะ”

จั่วหลี “…”

เธอเป็นถึงอภิมหาเศรษฐินีแห่งอาณาจักรบันเทิง แคร์เศษเงินโทรข้ามประเทศด้วยเหรอ

ไม่เหมือนเขา ซื้อมาร์คหน้าขาวใสให้เมียหลายลังจนเงินเก็บหมดแล้ว

“อาจารย์แค่จะโทรไปบอกว่าทางมหาวิทยาลัยตี้ตูเปิดเทอมแล้ว” จั่วหลีถอนหายใจ “ยังมีเรื่องอื่นอีก รอเธอกลับมาค่อยว่ากัน ไม่รีบ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ค่ะ”

“งั้นแค่นี้แหละ” จั่วหลีอารมณ์ดี “รอเธอกลับมานะ”

อิ๋งจื่อจินวางสาย เธอเดินไปยังที่นั่งผู้ชม

โซนนั่งพักของนักแข่งรถ

ตำแหน่งที่นั่งใกล้หน้าต่างก็เป็นทีมที่มาจากเอเชียเช่นกัน

ทีมที่เข้ารอบชิงชนะเลิศมีทั้งหมดสี่สิบแปดทีม เป็นทีมจากประเทศจีนเจ็ดทีม แต่มีห้าทีมที่เป็นทีมสำรอง

นอกจากทีมรถแข่งของตระกูลซิวแล้ว ทีมที่ได้โควตาลงแข่งอย่างเป็นทางการยังมีทีมจากประเทศจีนอีกหนึ่งทีม

หัวหน้าของทีมนี้ก็เป็นผู้หญิงอายุน้อยแบบซิวอวี่เหมือนกัน อายุแค่ประมาณยี่สิบปี

“คุณป้า วางใจได้ค่ะ” เด็กสาวพูดอย่างใจเย็น “หนูก็จะลงแข่งรถครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ต่อไปจะตั้งใจเรียนหมอให้ดีค่ะ”

มือของเธอไว้ใช้สำหรับเรียนหมอ แข่งรถก็แค่เอาสนุก ไม่ได้จริงจัง

พ่อแม่ของเธอตายในปีที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอได้เหยียนรั่วเสวี่ยที่เป็นป้าช่วยเอาไว้

ดังนั้นเธอย่อมเชื่อฟังคำพูดของเหยียนรั่วเสวี่ย

“อันเหอ รู้แบบนั้นก็ดี” น้ำเสียงของเหยียนรั่วเสวี่ยถึงได้อ่อนลง “วิชาการแพทย์มีประโยชน์กว่าแข่งรถเยอะ ปกป้องมือของเธอให้ดี ไว้แข่งเสร็จกลับมาป้าจะพาเธอไปหาคุณชิงจยา”

เธอชอบเหยียนอันเหอที่เป็นหลานสาวคนนี้มาก ขยัน มีพรสวรรค์สูงในด้านการเรียนหมอ

พูดถึงตรงนี้ อยู่ๆ น้ำเสียงของเหยียนรั่วเสวี่ยก็ตื่นเต้นขึ้นเป็นครั้งแรก “อันเหอ รู้หรือเปล่าว่าวิชาการแพทย์ของคุณชิงจยาได้รับการถ่ายทอดมาจากใคร”

เหยียนอันเหอก็สงสัย “ใครเหรอคะ”

เธอได้ยินชื่อหลินชิงจยาจากเหยียนรั่วเสวี่ยหลายครั้งมาก

เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งที่เป็นทั้งจอมยุทธ์และแพทย์แผนโบราณ

“สำนักที่เธออยู่เป็นของผู้ก่อตั้งสำนักแพทย์แผนโบราณคนแรก วิชาการแพทย์ของเธอก็เป็นสายตรงของโลกแพทย์แผนโบราณ” เหยียนรั่วเสวี่ยบอก “คุณชิงจยาจิตใจดีมาก ชอบช่วยเหลือผู้คน ป้าเองกว่าจะเอาโควตามาให้เธอได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ ถ้าเป็นคนอื่นไม่มีทางสนใจคนธรรมดาอย่างพวกเราหรอก”

“เธอต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดีๆ เข้าไปเป็นศิษย์สำนักเดียวกับคุณชิงจยาให้ได้”

ขอแค่ได้กลายเป็นแพทย์แผนโบราณ แม้จะมีวิชาแพทย์แผนโบราณเพียงน้อยนิดก็จะสามารถตั้งตัวในวงการแพทย์ได้ แบบนี้ก็ไม่ต้องกลุ้มเรื่องอนาคตของเหยียนอันเหอแล้ว

เหยียนอันเหอยิ้มพลางพยักหน้า “ทราบแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะคุณป้า”

“จริงสิ ป้าได้ยินมาว่าประเทศจีนของพวกเรายังมีนักแข่งที่มากพรสวรรค์อีกคนเหรอ” เหยียนรั่วเสวี่ยไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ ก็แค่ลองถามดู “ก็ไปเข้าร่วมแข่งครั้งนี้ด้วยเหรอ”

“ค่ะ” เหยียนอันเหอเหลือบมองซิวอวี่ที่อยู่ตรงข้าม พูดเสียงเย็นชาลง “เธอเก่งจริงค่ะ หนูเคยดูการแข่งที่ตอนนั้นเธออายุสิบห้าปี แต่เธอไม่ได้แข่งรถมาห้าปีแล้ว พรสวรรค์ดีแค่ไหนก็หมดลงได้ค่ะ”

เหยียนรั่วเสวี่ยพูดต่ออีกนิดหน่อยแล้ววางสาย

ขณะที่เหยียนอันเหอกำลังเล่นมือถือเรื่อยเปื่อยก็เห็นนักแข่งคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน มาหาซิวอวี่

สายตาของคนที่อยู่ในห้องจำนวนไม่น้อยมองไป

“พี่อวี่” นักแข่งคนนี้กัดฟันพูด “ผมเพิ่งไปด้านหลังมา รถของพวกเรา…”

ซิวอวี่สีหน้าเปลี่ยน “พาฉันไปดูหน่อย”

เธอลุกขึ้นแล้วรีบตามนักแข่งคนนี้ไปยังจุดจอดรถแข่ง

แววตาของเหยียนอันเหอวูบไหว ยืนขึ้นแล้วเดินตามออกไป

นักแข่งที่อยู่ทีมเดียวกันกับเธอมองเธอ “หัวหน้าเหยียน?”

“รอก่อนนะ” เหยียนอันเหอตอบ “ฉันจะไปดูหน่อย”

จุดจอดรถแข่งอยู่ไม่ไกลจากโซนนั่งพัก ไม่นานก็ไปถึง

สายตาของซิวอวี่เย็นชาลง

ทีมรถแข่งของตระกูลซิวมีรถแข่งทั้งหมดเจ็ดคัน แต่ตอนนี้ยางรถกับเครื่องยนต์พังหมด

ฝีมือคนทำแน่นอน อีกทั้งตระกูลแมนสันที่เป็นฝ่ายจัดงานก็หนีไม่พ้นความเกี่ยวข้อง อย่างไรเสียที่นี่ก็มีคนคอยคุมโดยเฉพาะ

รถของนักแข่งสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะยางรถหรือเครื่องยนต์ต่างก็ไม่ใช่แบบที่รถยนต์ทั่วไปจะมาเทียบได้

การแข่งขันใกล้เริ่มแล้ว รถพังก็ลงแข่งไม่ได้

“รถพังเหรอ” เหยียนอันเหอที่ตามเข้ามาด้วยย่อมสังเกตเห็นแล้ว “คุณซิว ไม่งั้นมาเป็นเนวิเกเตอร์ให้ฉันไหม”

ซิวอวี่หันไปแสยะยิ้ม “ฝันกลางวันเหรอ”

เธอไม่รู้จักเหยียนอันเหอ แต่เคยดูข้อมูลของพวกผู้เข้าแข่งขันก่อนแข่ง

ตอนเธออายุสิบห้าปีเป็นแค่เนวิเกเตอร์เพราะปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย

ครั้งนี้เธอมาในฐานะนักแข่ง

เธอเป็นเนวิเกเตอร์ให้นักแข่งทีมตัวเองได้ แต่ถ้าไปเป็นให้ทีมอื่น ครั้งนี้ตระกูลซิวก็เสียแรงเปล่าแล้ว

“ไม่ยินดีเหรอ” น้ำเสียงของเหยียนอันเหอเจือไปด้วยความดูถูก “นักแข่งที่เข้ารอบมีใครไม่รู้บ้างว่าเธอไม่ได้แข่งรถมาห้าปีแล้ว ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่รถ อยากทำประเทศจีนขายหน้าเหรอ เธอก็เป็นได้แค่เนวิเกเตอร์แล้ว”

“คุณซิว ฉันให้โอกาสคุณได้ลงสนามมันก็ดีมากแล้วนะ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท