คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 507 ปวดหัวที่รู้ตัวตนมากมายของบอส

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 507 ปวดหัวที่รู้ตัวตนมากมายของบอส

พอได้ยินแบบนี้ พวกคนรับใช้ที่ตามมาก็ลังเล ยืนนิ่งไม่ขยับ

อย่างไรเสียที่ร่างกายเธอเป็นแบบนี้ก็เพราะฤทธิ์ยา ทำให้ตัวหดเล็กลงเหมือนเด็ก

แต่เธอก็ยังคงเป็นคุณหนูห้าของตระกูล คนรับใช้อย่างพวกเขาจะไปกล้าล่วงเกินได้ยังไง

ถ้าวันไหนคุณหนูห้าร่างกายกลับคืนสภาพ พวกเขายังจะรอดชีวิตอีกเหรอ

“ทำไม เธอเป็นเจ้านายแล้วฉันไม่ใช่หรือไง” หญิงสาวมองออกว่าพวกคนรับใช้ลังเล

“พวกนายไม่อยากล่วงเกินเธอ แต่อยากล่วงเกินฉันงั้นเหรอ”

คำพูดนี้ทำให้พวกคนรับใช้เลือกได้

พวกเขาตัดสินใจเดินขึ้นหน้า จับเด็กน้อยไว้ “คุณหนูห้า ขออภัยด้วยครับ”

ด้วยสภาพร่างกายของเด็กน้อยในเวลานี้ ทำให้มีข้อจำกัดมากมาย ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สูสีกับพวกคนรับใช้

เธอรู้ว่าตัวเองหนีไม่รอดแล้วก็ไม่ได้ขัดขืน แค่มองหญิงสาวด้วยสายตาอาฆาตแค้น

หญิงสาวถูกมองก็แอบหวาดหวั่น แต่ไม่แสดงออกทางใบหน้า ยังคงวางมาดดุดัน

“คุณหนูห้าคะ ก็แค่ส่งคุณหนูห้าไปอยู่บนหอคอยระยะหนึ่ง คุณหนูห้าเลิกเพ้อเจ้อเมื่อไรก็จะปล่อยออกมาค่ะ”

คนรับใช้สองคนรีบเอาตัวเด็กน้อยไปอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวขมวดคิ้ว เป็นครั้งแรกที่ทำสีหน้ารังเกียจ

“วันๆ เอาแต่ตามหาศพทารกนั่น ไม่ใช่แค่ร่างกายมีปัญหา สมองก็มีปัญหาด้วย”

คนรับใช้คนหนึ่งลองถามหยั่งเชิง

“อยากให้ลองหานักสะกดจิตมาให้คุณหนูห้าไหมครับ ลองรักษาโรคช่างจินตนาการเพ้อฝันของเธอ”

“ตอนนี้เธอเป็นเด็ก ทำอะไรไม่ได้ วันๆ ได้แต่กระโดดโลดเต้น มีเหรอที่ทางตระกูลจะยอมเปลืองเงินกับเธอ” หญิงสาวพูดอย่างไม่เห็นด้วย

“ไม่ต้อง ขังไว้สักระยะเดี๋ยวก็ว่านอนสอนง่ายเอง”

เธอกระชับผ้าคลุมบ่า ยกมือขึ้นมากดหน้าปัดนาฬิกาดิจิตัล

ไม่นานก็มีหน้าจอสีน้ำเงินขนาดใหญ่โปร่งแสงลอยกลางอากาศ

บนหน้าจอเป็นภาพชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเครื่องแบบ

“ฉันขอถามเรื่องหนึ่ง” หญิงสาวพูด

“ครั้งล่าสุดที่คุณหนูห้าไปข้างนอก อ้อใช่ ก็คือสถานที่ที่เรียกว่ายุโรป เจอใครแล้วจริงๆ เหรอ”

ชายหนุ่มอึ้งไปชั่วขณะ สืบค้นแล้วตอบอย่างรวดเร็ว “ไม่มีครับ”

หญิงสาวสบายใจแล้ว จบการสนทนา

ตามคาด

เธอเคยบอกแล้ว

ลูกสาวของคุณนายใหญ่เป็นซากศพ

คนตายไม่มีประโยชน์อะไร แย่งชิงอะไรไม่ได้

ทางยุโรป

การแข่งรถแรลลี่ที่น่าตื่นตาตื่นใจได้ปิดฉากลงไปแล้ว ตระกูลแมนสันให้ทรัพยากรแก่ตระกูลซิวอย่างจัดเต็ม รวมถึงให้กลุ่มทหารรับจ้างระดับเอ

เพียงแต่กลุ่มทหารรับจ้างเข้าประเทศจีนไม่ได้ จึงทำได้แค่ปักหลักอยู่ยุโรป รับหน้าที่ดูแลการขนส่งข้าวของทั้งหมด

มีตระกูลแมนสันรับประกัน ทางยุโรปย่อมไม่มีใครกล้าเล่นตุกติก

“คุณหนูซิว” เรื่องที่เหนือความคาดหมายก็คือ นายใหญ่แมนสันพูดภาษาจีนคล่องมาก

“ขอบคุณที่แสดงการแข่งรถอันน่าตื่นตาตื่นใจให้ผมชมครับ”

“ไม่ใช่แค่ฉันหรอกค่ะ” ซิวอวี่จับมือเขา “เป็นผลงานของเนวิเกเตอร์เหมือนกันค่ะ”

เธอขับรถแข่งมาแล้วห้าหกปี รู้ว่าการแข่งขันครั้งนี้อิ๋งจื่อจินช่วยเธอไว้มากขนาดไหน

“ใช่ครับใช่ เนวิเกเตอร์สุดยอดมากจริงๆ ครับ” นายใหญ่แมนสันถึงได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของอิ๋งจื่อจิน อดตะลึงในความงามไม่ได้

“คุณอิ๋ง ถ้าคุณอยากเข้าวงการแข่งรถ บอกผมมาได้เลยครับ”

อิ๋งจื่อจินถือแก้วน้ำผลไม้ นับวุ้นผลไม้ที่อยู่ในนั้นอย่างจริงจัง “ไม่เป็นไรค่ะ”

เธอแค่ช่วยซิวอวี่ ไม่ได้คิดจะเข้าวงการแข่งรถ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ส่วนใหญ่เธอไม่มีทางขับรถเอง

คำเดียว เหนื่อย!

ยังไงซะก็มีคนขับรถฟรี

“เพื่อนฉันไม่ค่อยชอบออกงานน่ะค่ะ” ซิวอวี่บอก “รบกวนนายใหญ่แมนสันอย่าพูดออกไปนะคะ”

นายใหญ่แมนสันพยักหน้า “เข้าใจครับ ก็แค่เสียดายที่วงการรถแข่งขาดคนเก่งๆ ไปหนึ่งคน”

พอได้ยินแบบนี้ ซิวอวี่ก็ตบบ่าเขาประหนึ่งลูกผู้ชายคุยกัน

“ไม่ต้องเสียดายหรอกค่ะ นายใหญ่อยู่ทั้งคน”

นายใหญ่แมนสัน “?”

ต่อมาเป็นการหารือทางธุรกิจระหว่างตระกูลแมนสันกับตระกูลซิว

อิ๋งจื่อจินก็ไม่ได้อยู่ต่อ กลับโรงแรมที่จองใหม่

กลุ่มวีแชทที่เงียบเป็นป่าช้ามานานกลุ่มหนึ่งอยู่ๆ ก็มีการโทรสนทนาที่หลายคนอยู่ในสาย

เป็นหน่วยอีจื้อ

ภายในกลุ่มนี้มีเนี่ยอี้กับพวกหัวหน้าทีมของหน่วยอีจื้อ รวมถึงทีมชั้นยอด

“คุณอิ๋ง ผมเองๆ พวกเรากำลังจะมีการประลอง คุณอิ๋งช่วยมาชี้แนะพวกเราหน่อยได้ไหมครับ”

“คุณอิ๋ง พาเหาะหน่อยครับ”

“ใช่ๆ คุณอิ๋ง มาสอนหน่อยครับ ผมขอฝากตัวเป็นศิษย์!”

หัวหน้าทีมชั้นยอดสองคนตื่นเต้นมาก พวกสมาชิกทีมก็แย่งกันพูด

เห็นได้ชัดว่าทางนั้นเปิดลำโพงคุย มีเสียงรบกวนเยอะทีเดียว

อิ๋งจื่อจินยังไม่ทันพูด โทรศัพท์มือถือในมือก็ถูกดึงไป

จากนั้นก็มีอีกมือสอดเข้ามาแทน

“…”

อิ๋งจื่อจินตีมือฟู่อวิ๋นเซินออก ถือป๊อบคอร์น นั่งดูหนังบนโซฟา

ฟู่อวิ๋นเซินนั่งลงข้างเธอ ใช้มือนวดศีรษะให้เธอพลางพูด

“เนี่ยอี้ ดูลูกน้องตัวเองบ้าง อย่ามารบกวนแฟนฉันจะได้ไหม”

“…”

ทางนั้นเงียบไปสิบวินาที

ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจดังต่อเนื่อง

“ว้าก!”

“แม่เจ้า ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า!”

“มันเรื่องอะไรกัน ฉันยังอยากแอบรักคุณอิ๋งไปอีกสักระยะ หัวใจวัยหนุ่มของฉัน แหลกสลายเสียแล้ว”

สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินชะงักเล็กน้อย พูดกึ่งยิ้ม

“เนี่ยอี้ มองไม่ออกเลยนะว่าลูกน้องหลายคนของนายคิดจะตีท้ายครัวฉัน หืม?”

เนี่ยอี้ที่ถูกลากเข้ามาคุยด้วย “…”

เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน

“ลูกน้องของฉันหลายคนก็หาแฟนไม่ได้มาตลอดเหมือนกัน” ฟู่อวิ๋นเซินครุ่นคิด หัวเราะเบาๆ

“อยากให้ฉันแนะนำแฟนสาวของนายไหม”

เนี่ยอี้อีกครั้ง “…”

เขารู้ว่าลูกน้องที่ฟู่อวิ๋นเซินพูดถึงหมายถึงใคร

ไม่ใช่ลูกน้องที่ศาลสถิตยุติธรรม แต่เป็นลูกน้องไอบีไอ

โดยเฉพาะทางไอบีไอที่มีผู้บริหารระดับสูงที่ทั้งหนุ่มทั้งเก่งหลายคน

อย่างเช่นผู้บัญชาการแอนโทนี่ของหน่วยรบทางอากาศ ถึงแม้นิสัยจะติงต๊องไปหน่อย แต่โดยรวมใช้ได้เลยทีเดียว

ภายใต้สถานการณ์ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้โฉมหน้าของฟู่อวิ๋นเซิน หลายครั้งที่แอนโทนี่ถูกพูดถึงบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเคว่าเป็นหนุ่มหน้ามนที่บรรดาบอสสาวอยากรับเลี้ยงดูมากที่สุด

นี่เป็นการการันตีในตัวแอนโทนี่

หลิงเหมียนซีก็เคยบอกเขาว่า สิ่งที่เธอถูกใจในตัวเขาก่อนคือหน้าตากับรูปร่าง

เป็นครั้งแรกที่เนี่ยอี้รู้สึกปวดหัวที่ตัวเองรู้ว่าฟู่อวิ๋นเซินมีหลายตัวตน

เขายอมไม่รู้อะไรเลยดีกว่า

และก็เป็นครั้งแรกที่เนี่ยอี้รู้สึกว่าเป็นเนี่ยเฉาช่างมีความสุขจริงๆ

ไม่รู้ย่อมไม่กลัว

“ฉันจะสั่งสอนพวกเขา” เนี่ยอี้นวดหว่างคิ้ว ไม่ได้วางสาย พูดต่อ “แต่ละทีมเลือกออกมาหนึ่งคน ไปฝึกที่โซนพิเศษที่เจ็ด”

“…”

ทีมชั้นยอดทั้งสองทีมชักไม่สนุกแล้ว

ใครต่างก็รู้ว่าโซนพิเศษที่เจ็ดเป็นสถานที่ที่พวกพิสดารเท่านั้นถึงจะอยู่รอด

อีกทั้งให้เลือกคนไปแบบนี้ก็บ้าระห่ำมาก นี่ไม่เท่ากับบังคับให้พวกเขาตีกันเองเหรอ

“อีกหนึ่งชั่วโมงฉันต้องการรายชื่อ” เนี่ยอี้พูดซ้ำอีกครั้ง “เลือกไม่ได้ก็ไสหัวออกไป”

การสนทนาทางไกลนี้ยังไม่ทันเริ่มก็ยุติกลางคันเสียแล้ว

หูของอิ๋งจื่อจินขยับ รู้สึกสนใจมาก “ถ้าเลือกไม่ได้จะทำยังไง”

ฟู่อวิ๋นเซินวางโทรศัพท์มือถือลง ชนหน้าผากอิ๋งจื่อจินด้วยความออดอ้อน

เสียงของเขาแหบเล็กน้อย ทุ้มต่ำเย้ายวน ดูเพลย์บอยนิดๆ “ไม่ใช่เรื่องของพวกเรา”

“ถามจริงๆ” อิ๋งจื่อจินเอานิ้วดันใบหน้าที่ทำให้เกิดหายนะได้ออกไป หาวออกมา “ฉันอยากรู้”

เมื่อก่อนรบราฆ่าฟันมาจนชิน อยากเห็นสักวันหนึ่งชีวิตสงบลง

ตอนนี้บ้านเมืองมีกฎหมาย เธอรักษากฎหมาย โอกาสที่ลงมือมีน้อย กลับชักจะคันไม้คันมือ

ดูเหมือนว่าถ้าวันไหนไม่อัดคนก็จะครั่นเนื้อครั่นตัว

“อืม จริงสิเยาเยา” ฟู่อวิ๋นเซินพยักหน้า “หนุ่มหน้าเด็กอยากให้เธอเกลี้ยกล่อมน้องสาวของเขาหน่อย ว่าอย่าบุ่มบ่ามไปที่ตระกูลแมนสัน”

“ตระกูลแมนสันเหรอ” ดวงตาของอิ๋งจื่อจินวูบไหวเล็กน้อย “เข้าใจแล้ว ฉันจะบอกให้”

“เด็กน้อย มีอยู่เรื่องที่พี่ชายรู้สึกแปลกใจ” ฟู่อวิ๋นเซินหยิกแก้มเธอเล่น

“ทำไมหลายคนถึงเชื่อฟังเธอ มีเวทมนตร์อะไรเหรอ”

หลิงเหมียนซีเอย เจียงหรานเอย

ทั้งสองคนนี้อยู่ตระกูลหลิงคือพวกจอมวายร้าย

“อืม คงเพราะ…” อิ๋งจื่อจินค่อยๆ หลับตาลง “หน้าตาเป็นเหตุแหละมั้ง”

ฟู่อวิ๋นเซินขมวดคิ้ว

“หรือสำหรับคนพวกนี้ ถ้าไม่ยอมก็สู้ สู้จนกว่าจะยอมเชื่อฟัง”

“…”

เมืองตี้ตู

บ้านตระกูลจี้

ช่วงนี้จี้อี้หางอารมณ์ดีขึ้นมาก

ด้านหนึ่งเป็นเพราะทางตระกูลเดิมเปลี่ยนยุคสมัยแล้ว จี้อี้หยวนเลยเจียมตัวลงมาก พอเห็นพวกเขาก็เดินเลี่ยง

โปรเจ็กต์ทดลองใหม่ที่เวินเฟิงเหมียนกับเขารับมาก็สำเร็จแล้ว ได้รับคะแนนผลงานอยู่ไม่น้อย

อีกด้านหนึ่งเป็นเพราะหลังจากจี้อี้หางประมูลยาเม็ดนั้นจากโลกจอมยุทธมาได้สำเร็จโดยมีอิ๋งจื่อจินช่วยเหลือ เขาทำตามคำแนะนำ แบ่งยาเป็นห้าส่วนแล้วทยอยป้อนพ่อของคุณนายจี้

อย่างไรเสียยาของโลกจอมยุทธก็มีไว้สำหรับจอมยุทธ ถึงแม้ยาเม็ดนี้จะไม่ใช่ แต่ฤทธิ์ยาก็รุนแรงมาก คนทั่วไปห้ามกินหมดในครั้งเดียว

วันนี้เป็นครั้งสุดท้าย

สี่ครั้งก่อนหน้าที่กินไปทำให้ร่างกายของชายชราดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมากทีเดียว อาการก็ไม่กำเริบอีก

“คุณพ่อ ครั้งสุดท้ายแล้วครับ” จี้อี้หางประคองชายชราให้ลุกขึ้น “กินหมดเดี๋ยวก็หายแล้วครับ”

คุณนายจี้ถือน้ำ

“ลำบากเราแย่เลยนะ อี้หาง” ชายชรากลืนยาส่วนสุดท้ายลงไป

คุณนายจี้แอบกังวล “เป็นไงบ้างคะคุณพ่อ”

“พ่อรู้สึก…” ชายชราเอามือทาบอก หายใจถี่แน่นอก ทันใดนั้นก็หายใจไม่ออก ใบหน้าเริ่มเป็นสีม่วง

จี้อี้หางสีหน้าเปลี่ยน รีบประคองชายชรา “คุณพ่อ!”

อยู่ๆ ประตูก็ถูกถีบออก

มีเสียงเย็นชาพูดขึ้น

“จี้อี้หาง บังอาจทำร้ายคนที่สร้างคุณงามความดีให้ตระกูลจี้!”

ครั้งนี้ต้องการเอาจี้อี้หางถึงตาย

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท