คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 537 วรยุทธของอิ๋งจื่อจิน

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 537 วรยุทธของอิ๋งจื่อจิน ไล่เหยียนรั่วเสวี่ยกับหลานออก

อิ๋งจื่อจินไม่ได้มองเหยียนอันเหอ หันข้างให้

ขนตาดกดำหลุบต่ำลง ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์อะไร แต่ยังคงสวยจนน่าตะลึง

โลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธไม่ได้ให้ความสำคัญกับหน้าตาเท่าฝีมือ

อย่างไรเสียแพทย์แผนโบราณก็สามารถใช้ยากับการฝังเข็มเพื่อเปลี่ยนแปลงหน้าตาได้

จอมยุทธเมื่อถึงขั้นปรมาจารย์ หรือก็คือเมื่อมีวรยุทธร้อยปีก็จะสามารถแปลงโฉมหน้าได้

อยากให้ตัวเองสวยดูดีเป็นเรื่องที่ง่ายดาย

ดังนั้นตอนอิ๋งจื่อจินปรากฏตัวจึงไม่ได้เป็นที่ฮือฮาอะไร แต่ก็ดึงดูดสายตาได้ไม่น้อย

ความงามเป็นที่เลื่องลือ

เมื่อเทียบกันแล้ว เหยียนอันเหอที่เป็นดาวมหาวิทยาลัยตี้ตูดูหม่นหมองไปเลยทีเดียว คนอื่นๆ ที่ต่อแถวอยู่ไม่ได้ชายตามองเธอ

เหยียนอันเหอไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง พูดเสียงหลง “ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่!”

ที่นี่คือสมาพันธ์โอสถนะ!

ไม่ใช่ที่อื่นในโลกแพทย์แผนโบราณที่ขอแค่เข้ามาได้ก็จะเดินไปไหนก็ได้

หากไม่มีป้ายอนุญาตจะเข้ามาได้ยังไง

ผู้สืบทอดของตระกูลจี้ยังอยู่ในช่วงแข่งขัน อิ๋งจื่อจินไม่ใช่ผู้สืบทอด ไม่มีทางได้รับความสนใจจากตระกูลเดิม แล้วจะเอาป้ายอนุญาตมาจากไหน

อิ๋งจื่อจินไม่มีท่าทีตอบสนอง

แต่อวิ๋นซานกลับระแวง เอาตัวไปบังหน้าอิ๋งจื่อจิน

ภารกิจเดียวที่ฟู่อวิ๋นเซินมอบหมายให้เขาก็คือ ต้องคุ้มกันความปลอดภัยของอิ๋งจื่อจินให้ดี

ตระกูลจี้เคยมีคนโพสต์ค่าหัวบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเค มีนักล่ามาหลายคน แต่ก็ถูกเขาจัดการหมด

นอกจากพวกนี้แล้ว อวิ๋นซานก็ยังได้ติดตามโซเชียลต่างๆ ด้วย เพื่อดูว่ามีคนไม่ประสงค์ดีหรือเปล่า

เขารู้เรื่องที่เกิดในมหาวิทยาลัยตี้ตู แถมยังอ่านกระทู้แฉกระทู้นั้นจนจบ

ต่อให้เหยียนอันเหอกลายเป็นผุยผงเขาก็จำได้

เยี่ยหลิงสงสัย “คุณอิ๋งคะ เพื่อนเหรอคะ”

อิ๋งจื่อจินตอบ “ไม่รู้จัก”

เหยียนอันเหอเม้มริมฝีปาก รู้สึกเสียหน้า

แต่คราวนี้เธอสังเกตเห็นอวิ๋นซานแล้ว ทั้งยังเห็นป้ายอนุญาตระดับสวรรค์กับกระสอบในมือเขา

ใบหน้าเด็ดเดี่ยว เครื่องหน้าคมชัด

กล้ามเป็นมัดๆ รูปร่างสูงใหญ่ แรงอาฆาตแผ่ซ่าน ราวกับมีกลิ่นคาวเลือดอบอวล

บุคลิกแบบนี้เป็นจอมยุทธแน่นอน

อีกทั้งยังไม่ใช่จอมยุทธฝึกหัดระดับล่าง วรยุทธอย่างต่ำก็สิบปีขึ้นไป

แววตาของเหยียนอันเหอวูบไหว ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา “นี่น่ะเหรอแฟนเธอ”

ขณะพูดก็กำป้ายอนุญาตในมือแน่น

เธอพยายามแทบตายกว่าจะได้ป้ายอนุญาตสีเหลือง

แต่อิ๋งจื่อจินพึ่งแฟนก็เข้ามาในคลังสมุนไพรได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีสิทธิพิเศษของระดับสวรรค์

นี่คือจุดที่ไม่ยุติธรรม

คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงักแบบที่เห็นได้ยาก

ในที่สุดเธอก็หันไปมองเหยียนอันเหอ

เหยียนอันเหอยิ้มมุมปาก พูดเสียงอ่อนโยน “ดีกว่าพวกคนทั่วไปในมหาวิทยาลัยตี้ตูเยอะเลยนะ มิน่าถึงไม่เคยเห็นในมหาวิทยาลัยเลย”

ถ้าเธอมีแฟนเป็นจอมยุทธก็ไม่มีทางให้คนอื่นเห็นแน่นอน

เหยียนอันเหอยิ้ม “เฝ้าให้ดีนะ ระวังคนมาแย่งไปล่ะ”

เรื่องแย่งแฟนคนอื่น เธอล่ะชอบจริงๆ

แววตาของอิ๋งจื่อจินเย็นชาลง

อวิ๋นซานที่อยู่ข้างๆ สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นเข้ากระดูก เขาอดสั่นไม่ได้

เหยียนอันเหอส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยให้อวิ๋นซานแล้วไปต่อแถวด้านหลัง

ต่อให้อีคิวของอวิ๋นซานจะต่ำแค่ไหนก็มองออกในเวลานี้

เขาแอบงง

ผ่านไปสักพักถึงพูดขึ้น “คุณอิ๋งครับ ผม ผมสกปรกแล้ว”

เขาถูกผู้หญิงที่น่าขยะแขยงแบบนี้หมายตาเข้าแล้ว

“พอไหว” อิ๋งจื่อจินละสายตา เธอหันไปล้วงลูกอมจากในกระเป๋าออกมาหนึ่งเม็ด “เอาไปปลอบใจ”

ในเวลานี้เองหมอแผนโบราณที่ต่อแถวอยู่ตรงนั้นก็ได้กลิ่นหอมอบอวลของยา

แต่กลิ่นหอมนี้หายไปในชั่วพริบตา ยังไม่ทันได้สืบหาก็สลายไปหมดแล้ว พวกหมอแผนโบราณอดสงสัยไม่ได้

หมอแผนโบราณจำเป็นต้องมีประสาทการดมกลิ่นที่ดี เพราะสมุนไพรบางอย่างต้องอาศัยการดมกลิ่นเพื่อจำแนกอายุ

อวิ๋นซานดีใจมาก ลืมเหยียนอันเหอทันที รับลูกอมเม็ดนั้นมากิน

เขาครุ่นคิด จากนั้นก็ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาส่งข้อความรายงานฟู่อวิ๋นเซิน

[ซานซานน้อยเกาะขาคุณอิ๋งแน่น : คุณชายครับ ผมมีเรื่องจะเล่า แต่อย่าลอบฆ่าผมได้เปล่า]

[ฟู่อวิ๋นเซิน : ?]

[ซานซานน้อยเกาะขาคุณอิ๋งแน่น : มีคนที่มีตาหามีแววไม่หาว่าผมเป็นแฟนคุณอิ๋ง ผมสาบานเลยนะครับว่าผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น ผมไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ]

ถ้าเหยียนอันเหอเป็นจอมยุทธ ตอนนี้อวิ๋นซานคงประลองยุทธกับเธอไปแล้ว จัดการน็อกในรวดเดียว

เขาแค่อยากเกาะขาคุณอิ๋ง ต่อให้มีโอกาสคลุมกระสอบคนไปอัดแค่ครั้งเดียวก็ยังดี

เขาจะกล้ามีความคิดเกินเลยแม้แต่น้อยได้ยังไง!

อวิ๋นซานจ้องหน้าจอโทรศัพท์ ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ

ในที่สุดห้านาทีต่อมาก็มีข้อความใหม่ปรากฏ

[ฟู่อวิ๋นเซิน : อยากให้ฉันสอนแต่งหญิงไหม หรืออยากหาแหล่งซื้อชุดผู้หญิงไหม หืม?]

อวิ๋นซาน “…”

เขารีบล็อกอินเข้าเถาเป่าทันที ซื้อชุดผู้หญิงกับวิกผม จากนั้นก็แคปภาพส่งให้ฟู่อวิ๋นเซิน

อิ๋งจื่อจินซื้อสมุนไพรเสร็จออกจากคลังสมุนไพร ทันใดนั้นได้ถามขึ้น “วรยุทธนายเท่าไร”

วรยุทธของจอมยุทธพูดไปก็คลุมเครือ

อย่างน้อยตอนแรกสุดที่เธอถ่ายทอดวิทยายุทธก็ไม่ได้แบ่งเป็นปีๆ

แค่ตัดสินจากกำลังภายในที่แสดงออกว่าเป็นระดับปรมาจารย์จอมยุทธรือไม่

จอมยุทธยุคหลังๆ ออกแบบเครื่องมือทดสอบ ถึงได้มีการแบ่งเป็นปีๆ

จอมยุทธหลายร้อยปีมานี้จึงใช้แบบนั้น

แม่นยำพอสมควร

คราวก่อนเธอไปทดสอบ ตอนนี้วรยุทธของเธอฟื้นกลับมาที่ประมาณแปดสิบปีแล้ว

“ผมไม่ค่อยมีพรสวรรค์ ปีนี้ยี่สิบหก วรยุทธก็แค่สามสิบปีครับ” อวิ๋นซานเกาหัว “พี่ใหญ่ของผมเก่งที่สุด ถึงแม้เขาจะคลานออกมาเกิดก่อนผมแค่หนึ่งนาที แต่เขาก็มีวรยุทธห้าสิบปีแล้วครับ”

นับตั้งแต่อวิ๋นสุ่ยทำงานพลาดที่ฮู่เฉิงจนอิ๋งจื่อจินเกือบเป็นอะไรไป

อวิ๋นสุ่ยก็ถูกฟู่อวิ๋นเซินส่งไปฝึกคนที่โซนพิเศษที่เจ็ด ตอนนี้ยังไม่กลับมา

“ส่วนน้องสาม…” อวิ๋นซานนึกถึงอวิ๋นอู้แล้วก็โมโห แสยะยิ้ม “เขาอ่อนแอกว่าผม วรยุทธน่าจะเกือบสามสิบมั้งครับ”

“คุณอิ๋ง ต่อไปอย่าเรียกใช้เขา เขามันซื่อบื้อทุกเรื่อง”

ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง ไอ้น้องเวร

เยี่ยหลิงที่ได้ยินชัด “…”

อายุยี่สิบหก วรยุทธสามสิบปี ถ้าเป็นในตระกูลหลิน เซี่ย เย่ว์ ถือเป็นคนเก่งที่ต้องบ่มเพาะให้ดี เป็นลูกหลานคนสำคัญ

แล้วนี่มาบอกว่าไม่ค่อยมีพรสวรรค์งั้นเหรอ!

เยี่ยหลิงชักมึน รู้สึกเหมือนตัวเองบังเอิญหลงมาในแวดวงสุดยอดบอส

การทดสอบเลื่อนระดับของสมาพันธ์โอสถมีทุกวัน แต่ต้องนัดล่วงหน้า

ระดับหนึ่งต่ำสุด ระดับเจ็ดสูงสุด

วัดระดับฝีมือการปรุงยา

คนที่ได้ระดับหกขึ้นไปล้วนเป็นระดับผู้อาวุโสของสมาพันธ์โอสถ

ครั้งนี้เยี่ยหลิงผ่านการทดสอบได้สำเร็จ ได้ใบรับรองเป็นศิษย์ระดับสอง

พอเธอออกมาก็เห็นอิ๋งจื่อจินกำลังมองภูเขาที่อยู่ไกลๆ

เป็นภูเขาเขียวชอุ่ม แมกไม้นานาพันธุ์

ในนั้นมีสีสันหลายหลากแซมประดับ

“คุณอิ๋ง สวนของฉาเซิ่งอยู่ที่นั่น” เยี่ยหลิงเดินเข้ามาแล้วยิ้มพลางพูด “ถึงพวกเราจะเรียกเธอว่าฉาเซิ่ง แต่ในความเป็นจริงเธอไม่ได้ปลูกแค่ชา เธอปลูกสมุนไพรด้วย”

“มีสมุนไพรหายากจำนวนมาก มีแค่ฉาเซิ่งที่ปลูกได้ แต่เธอมีนิสัยพิลึก ตระกูลหลินตระกูลเมิ่งไปซื้อก็ไม่ยอมขาย แต่บางครั้งกลับเอาสมุนไพรหายากให้คนอื่นฟรีๆ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “น่าสนใจ”

ชื่อเสียงของฉาเซิ่งโด่งดังทั้งในโลกจอมยุทธ และโลกแพทย์แผนโบราณ อวิ๋นซานก็เคยได้ยิน แต่ไม่เคยเจอ แค่เคยได้ยินว่าเป็นหญิงชราที่ไม่ควรมีเรื่องด้วย

เขามีหน้าที่ถือถุงสมุนไพรที่อิ๋งจื่อจินซื้อ เดินตามหลังเธอ

ขณะที่อวิ๋นซานกำลังจะถามเขาก็เหลือบเห็นหน้าจอโทรศัพท์ของอิ๋งจื่อจิน อดอึ้งไปไม่ได้

ในนั้นเป็นข้อมูลคลิปเสียงคลิปภาพจำนวนมาก

เป็นเรื่องสกปรกโสมมที่เหยียนอันเหอเคยทำทั้งหมดหลังเข้ามหาวิทยาลัยตี้ตู ถูกขุดคุ้ยออกมาหมด

รวมถึงเรื่องนักศึกษาหญิงรุ่นเดียวกันที่เธอเคยกลั่นแกล้งจนเป็นโรคซึมเศร้าต้องลาออกไป

นอกจากเรื่องของเหยียนอันเหอแล้วยังมีหลักฐานที่เหยียนรั่วเสวี่ยเจตนาถอนทะเบียนนักศึกษา

อวิ๋นซานเห็นอิ๋งจื่อจินจัดระเบียบหลักฐานข้อมูลพวกนี้แล้วทยอยส่งให้เฉินจวิ้นเซียน คณะแพทย์ และคณบดีของสาขาชีวะเคมี

อวิ๋นซานติดตามอิ๋งจื่อจินมานาน รู้จักเธอดี

แต่ไหนแต่ไรมาเธอเพิกเฉยกับทุกสิ่ง แทบจะไม่อยากยุ่งกับอะไร และก็ไม่มีทางสนใจคนอื่น

แต่พอมาคบกับฟู่อวิ๋นเซิน อิ๋งจื่อจินก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นไม่น้อย

อวิ๋นซานนึกถึงคำพูดของเหยียนอันเหอก่อนหน้านี้ ทำเสียงจึ๊

ฟู่อวิ๋นเซินก็เป็นขีดจำกัดความอดทนของอิ๋งจื่อจินเหมือนกัน

ห้ามแตะต้อง

ใครแตะต้องก็รับความซวยไป

เหยียนอันเหอซื้อสมุนไพรที่จำเป็นเสร็จก็กลับที่พักพร้อมหมอโอสถคนนั้น เตรียมเริ่มปรุงยา

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้

เหยียนรั่วเสวี่ยโทรมา

เหยียนอันเหอเพิ่งจัดสมุนไพรเสร็จ อยู่ๆ ถูกขัดจังหวะก็ชักหงุดหงิด “มีอะไรคะป้า”

“เหยียนอันเหอ!” เหยียนรั่วเสวี่ยตะคอกใส่ “เธอทำอะไรอีก คราวนี้มหาวิทยาลัยตี้ตูถึงกับไล่เธอออกแล้ว ฉันก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย! เธอรีบกลับมาจากโลกแพทย์แผนโบราณเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท