คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 549 เวินทิงหลาน ‘มีแค่อิ๋งจื่อจินที่เป็นพี่สาวของผม’

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 549 เวินทิงหลาน ‘มีแค่อิ๋งจื่อจินที่เป็นพี่สาวของผม’

ถึงแม้เวินทิงหลานจะเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยมาได้ปีกว่า แต่ก็มีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยระดับหนึ่งแล้ว

แน่นอนว่าพวกนักศึกษาไม่รู้เรื่องที่รองอธิการบดีอยู่มาได้สามร้อยปีเพราะพึ่งวิชาเล่นแร่แปรธาตุ

เพราะเหตุนี้ก็เลยไม่รู้เช่นกันว่าเวินทิงหลานก็ได้รับความเอาใจใส่จากรองอธิการบดีเป็นพิเศษอีกด้วย

นักศึกษาจีนในมหาวิทยาลัยนอร์ตันมีจำนวนน้อยกว่านักศึกษาจากยุโรป

ไม่ใช่เพราะสู้ยุโรปไม่ได้ แต่เป็นเพราะสี่ตระกูลมหาเศรษฐีแห่งยุโรปชอบส่งสมาชิกในตระกูลมาเข้ามหาวิทยาลัยนอร์ตัน

แต่โลกจอมยุทธกับโลกแพทย์แผนโบราณไม่สนใจเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง

เวินทิงหลานเป็นชาวเอเชียจำนวนไม่มากที่หน้าตาคมคาย ทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของนักศึกษาสาว

แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้คนบางกลุ่มหวาดระแวงและเกรงกลัวก็คือ เวินทิงหลานเรียนเก่งมาก

ภายในระยะเวลาอันสั้นแบบนี้ เวินทิงหลานได้หนังสือรับรองระดับเอจากคณะศิลปะป้องกันตัว ขึ้นสู่ระดับเอสก็เป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วแล้ว

ผลงานชิ้นใหม่ของคณะเครื่องกล เวินทิงหลานเป็นผู้รับผิดชอบอันดับสองถัดจากศาสตราจารย์

มหาวิทยาลัยนอร์ตันเป็นแหล่งรวมอัจฉริยะสติเฟื่อง แต่เวินทิงหลานก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มอัจฉริยะเหล่านั้น

ไม่เป็นที่อิจฉาของคนอื่นต่างหากถึงแสดงว่าไม่เก่งพอ

หากควบคุมอัจฉริยะไม่ได้ ไม่สู้ทำลายทิ้งยังจะดีกว่า

ติดตรงที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเกินไป ใช้ความรุนแรงในมหาวิทยาลัยไม่ได้ ยกเว้นบนเวทีประลอง

ต่อให้ขึ้นเวทีประลองก็ได้แค่พอหอมปากหอมคอ ทำอีกฝ่ายเจ็บหนักไม่ได้

ไม่ว่าอย่างไรก็หาทางลงมือกับเวินทิงหลานไม่ได้

นี่เป็นโอกาสดีจริงๆ

แววตาของฮวนวูบไหว ฉีกกระดาษทิ้งแล้วโยนลงถังขยะ

เขาครุ่นคิดแล้วไปห้องดาราศาสตร์ที่อยู่ชั้นบนสุด เริ่มหมุนแอสโตรแลบพยากรณ์ดวงชะตาที่จะไปประเทศจีนครั้งนี้

เมื่อมีความช่วยเหลือของอาจารย์หลี่ ไม่เพียงแต่อิ๋งจื่อจินจะขายยาได้เร็ว ยังไม่มีปัญหายุ่งยากตามมาด้วย

อาจารย์หลี่กลายเป็นคนดังของสมาพันธ์โอสถขึ้นมาทันที มีหลายคนที่มาขอซื้อยาจากเขา

เขาก็เลยจัดการไปหารองประธานสมาพันธ์ เพิ่มโควตาสมุนไพรให้อิ๋งจื่อจินอีกหนึ่งเท่า

ครั้นแล้วอิ๋งจื่อจินก็เลยให้ยาสงบใจแก่เขาหนึ่งขวด ครั้งนี้เธอควบคุมประสิทธิภาพที่เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์

“คุณอิ๋งเก่งจริงๆ ครับ” อาจารย์หลี่ตะลึง “นี่เพิ่งจะผ่านมานานเท่าไร ก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว”

เพิ่งจะผ่านมาอาทิตย์เดียว ประสิทธิภาพของยาสงบใจก็เพิ่มขึ้นถึงห้าเปอร์เซ็นต์!

แบบนี้มันสุดยอดอัจฉริยะชัดๆ

ยาขวดนี้เขาต้องเก็บไว้เองให้ดี ห้ามให้คนอื่นรู้

“คุณอิ๋งครับ คือแบบนี้” อาจารย์หลี่เก็บขวดยา สีหน้าจริงจัง “โลกจอมยุทธกับโลกแพทย์แผนโบราณแห่กันมาที่สมาพันธ์โอสถเพราะอยากติดต่อคุณอิ๋ง ก็น่าจะมีคนไปหาคุณอิ๋งที่ตระกูลเยี่ยแล้วหรือเปล่าครับ”

ถึงแม้ตระกูลเยี่ยจะยังคงเป็นตระกูลเล็กๆ แต่หลังจากที่ต่อสู้กับตระกูลเหลยก็มีความมั่นคงขึ้นแล้ว

ตอนนี้ยังมามีนักปรุงยาอัจฉริยะอย่างอิ๋งจื่อจินปรากฏตัวอีก ยิ่งเสริมความมั่นคงให้ตระกูลเยี่ย

ไม่มีใครอยากล่วงเกินแพทย์แผนโบราณ

“ค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “ไม่สนใจ”

“งั้นก็ดีครับ งั้นก็ดี” อาจารย์หลี่กลับรู้สึกโล่งอก

“เพราะเมื่อเช้าผมเพิ่งส่งข้อมูลของคุณไปที่สำนักเทียนอีครับ”

“สำนักเทียนอีมีตำราลับทางการแพทย์มากมาย โดยเฉพาะศาสตร์ฝังเข็ม อย่างศาสตร์มืดสิบสามเข็ม”

“คุณอิ๋งเกิดมาเพื่อเป็นแพทย์แผนโบราณจริงๆ ครับ ทางสมาพันธ์ของเราช่วยคุณเรื่องด้านฝังเข็มไม่ได้ มีแค่สำนักเทียนอีที่ช่วยได้ครับ”

เขาจินตนาการไว้แล้วว่าอีกหน่อยจะมีแพทย์แผนโบราณที่เก่งรอบด้านปรากฏในโลกแพทย์แผนโบราณ เก่งทั้งปรุงยาและฝังเข็ม

อิ๋งจื่อจินนวดหัว “ค่ะ”

อาจารย์หลี่ก็เป็นคนที่หวังดี เธอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท

ไว้ถึงเวลาค่อยปฏิเสธแล้วกัน

“การสอบระดับห้าในเดือนมีนาคมปีหน้า ผมส่งชื่อของคุณไปแล้วนะครับ” อาจารย์หลี่พูดต่อ “ผมว่าคุณผ่านได้สบาย ไม่มีปัญหาแน่นอน”

อิ๋งจื่อจินยิ้มพลางพยักหน้า “รบกวนด้วยค่ะ”

เธอศึกษาการสอบระดับห้าไว้แล้ว

แตกต่างจากระดับสี่อย่างสิ้นเชิง ระหว่างการสอบระดับห้าอนุญาตให้สมาชิกพูดคุยกันเองได้ แบบนั้นยิ่งยาก

“ครับ” อาจารย์หลี่นึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้

“เอ่อคือ ที่นี่พวกเราก็ไม่ได้มีไวไวอะไรนั่น ทำไมคุณใช้โทรศัพท์มือถือได้ล่ะครับ”

เขาเองก็เป็นคนดั้งเดิมในโลกแพทย์แผนโบราณ เดิมทีไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งรองประธานสมาพันธ์เอาอันที่โละแล้วมาให้เขา

แต่เขาก็พบว่าโทรศัพท์มือถือของเขาไม่มีสัญญาณ เข้าเน็ตไม่ได้

อิ๋งจื่อจินแก้คำผิด “ไวไฟค่ะ”

“อ่อๆ นี่ไม่สำคัญ” อาจารย์หลี่ตีหัวตัวเอง “สอนผมหน่อยสิครับเข้าเน็ตอย่างไร”

อิ๋งจื่อจินขายตัวปล่อยสัญญาณขนาดจิ๋วได้เงินมาอีก

พออาจารย์หลี่เห็นสัญญาณในโทรศัพท์มือถือของตัวเองเต็มช่องก็เดินออกไปส่งเธอด้วยความดีใจ

ตรงจุดที่ไม่ไกลออกไป

หลินจิ่นอวิ๋นมาซื้อสมุนไพรที่สมาพันธ์โอสถ

“นายใหญ่ครับ คนนั้นไงครับคุณอิ๋งจื่อจินที่ทำลายสถิติของคุณชิงจยาได้ ญาติห่างๆ ของตระกูลเยี่ย”

พ่อบ้านหลินที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างนอบน้อม

“ตอนนี้เธอคือดาวรุ่งที่ทางสมาพันธ์โอสถให้ความสำคัญครับ ตระกูลเมิ่งกับตระกูลฝูเคยส่งคนไปหาแล้ว พวกเราต้องส่งไปไหมครับ”

“ไม่ต้อง” หลินจิ่นอวิ๋นแค่มองแวบหนึ่ง “มีชิงจยาก็พอแล้ว ตระกูลหลินก็ไม่ได้มีทรัพยากรไว้ให้คนอื่นมากนัก”

อย่างน้อยความสามารถปรุงยาที่คุณอิ๋งคนนี้แสดงออกมาก็ยังด้อยกว่าชิงจยาเยอะในตอนนี้

ดังนั้นตระกูลที่เข้าหาเธอล้วนเป็นตระกูลขนาดกลางของโลกจอมยุทธ สามตระกูลใหญ่อย่างหลิน เซี่ย เย่ว์ ถึงได้ไม่มีความเคลื่อนไหว

รอเธอเลื่อนถึงระดับหก ตระกูลหลินอาจลองไปเชิญดู

แต่จะขึ้นระดับหกก็เป็นเรื่องที่ยากมาก

เมื่อก่อนก็มีสมาชิกระดับสี่ที่ถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะ แต่สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่ระดับหก ไม่มีความก้าวหน้าอีก

หลินจิ่นอวิ๋นซื้อสมุนไพรเสร็จก็กลับบ้าน เอาให้หลินชิงจยาแล้วเงียบไปสักพัก

“ชิงจยา ได้เจอฉาเซิ่งหรือยัง”

“ยังค่ะ” หลินชิงจยาส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ หนูค่อยไปใหม่”

หลินจิ่นอวิ๋นเงียบไป

มีสมุนไพรหายากจำนวนมากที่มีแค่ฉาเซิ่งที่ปลูกได้ แถมยังไม่ขาย

แม้แต่ตระกูลเซี่ยก็ยังไม่กล้าบังคับ

เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตระกูลจอมยุทธขนาดกลางบังคับให้ฉาเซิ่งปลูกสมุนไพรชนิดหนึ่ง

สุดท้ายฉาเซิ่งก็เผาสวนสมุนไพรนั้นทิ้งแล้วปิดไปสิบปี

ในสิบปีนั้นถือเป็นความเสียหายที่ไม่น้อยสำหรับโลกแพทย์แผนโบราณ

ตระกูลขนาดกลางตระกูลนั้นเลยถูกตระกูลหลิน เซี่ย และเย่ว์ ร่วมมือกันทำลายทิ้ง

“คุณพ่อคะ อีกสักพักหนูจะออกจากโลกจอมยุทธ์หน่อยนะคะ” หลินชิงจยาเม้มริมฝีปาก พูดด้วยเสียงอ่อนโยน

“คราวก่อนหนูถามนายใหญ่เทเลอร์เกี่ยวกับเรื่องทหารรับจ้างของพวกเขา เขาบอกว่าฝึกโดยครูฝึกที่ออกจากมหาวิทยาลัยนอร์ตัน”

“มหาวิทยาลัยนอร์ตันจะส่งนักศึกษาหลายคนมาที่ประเทศจีน เขาช่วยติดต่อให้แล้ว หนูว่าจะไปดูหน่อยค่ะ”

สีหน้าของหลินจิ่นอวิ๋นผ่อนคลายลง “ถ้ามีโอกาสก็ทำความรู้จักไว้หน่อย”

หลังจากที่ได้พูดคุยกับนายใหญ่เทเลอร์ หลินจิ่นอวิ๋นก็จำต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดมีประโยชน์จริงๆ

บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่โลกจอมยุทธจะต้องนำเข้าเทคโนโลยีบ้าง

วันที่สิบแปดธันวาคม นักศึกษาของมหาวิทยาลัยนอร์ตันเดินทางมาถึงตี้ตู

อิ๋งจื่อจินไปรออยู่หน้ามหาวิทยาลัยก่อนแล้ว

เธอกับเวินทิงหลานไม่ได้เจอกันมาปีกว่าแล้ว

เด็กหนุ่มลงจากรถ อยู่ในชุดเสื้อสีขาวกางเกงสีดำ ท่วงท่าสง่างาม

ยืนอยู่ตรงนั้นเปรียบเสมือนทัศนียภาพอย่างหนึ่ง

ส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนยุโรป

“สูงขึ้นอีกแล้วนะ” อิ๋งจื่อจินหยิบอมยิ้มที่เตรียมไว้ออกมายื่นให้

“สูงกว่าพี่เยอะขนาดนี้ แสดงว่าได้สารอาหารครบถ้วน พี่วางใจแล้วล่ะ”

มือของเวินทิงหลานสั่น รับอมยิ้มไป ดวงตาเริ่มแดง “พี่…”

อยู่ๆ เขาก็นึกถึงฤดูหนาวเมื่อปีที่แล้ว

อากาศหนาวมาก ดวงจันทร์ดวงใหญ่

พี่สาวของเขายืนอยู่ใต้แสงจันทร์ แขนมีแต่รอยเข็มเจาะนับไม่ถ้วน

ทั้งๆ ที่สุขภาพของตัวเองย่ำแย่มาก แต่ยังหยิบอมยิ้มออกมาปลอบใจเขา

เขาถึงได้บอกทุกคนว่า มีแค่อิ๋งจื่อจินที่เป็นพี่สาวของเขา

เวินทิงหลานยกมือ “พี่ ผม…”

“พี่สาว! สวัสดีค่ะพี่สาว!” อยู่ๆ ก็มีนักศึกษาหญิงกระโดดมาจากด้านหลัง ขวางหน้าเวินทิงหลาน ตรงเข้าจับมืออิ๋งจื่อจิน ดวงตาเป็นประกาย

“ฉันชื่ออะเดล มิลตันค่ะ ปีนี้อายุสิบเจ็ดปี เป็นนักศึกษาปีหนึ่งคณะเครื่องกล มหาวิทยาลัยนอร์ตันค่ะ”

“พ่อแม่ของฉันเสียหมดแล้ว ไม่มีพี่น้อง ในบ้านมีแค่แมวเปอร์เซียหนึ่งตัวกับหมาคอลลี่อีกหนึ่งตัว มีทรัพย์สินไม่มาก แค่แปดพันล้านดอลลาร์…”

ร่ายออกมายืดยาว สุดท้ายอะเดลสรุปว่า “พี่สาวคะ ฉันเป็นน้องสะใภ้ที่สุดแสนจะน่ารักของพี่ค่ะ”

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “หืม?”

มือของเวินทิงหลานยังค้างอยู่กลางอากาศ เขาหันไปดุ “คุณอะเดล กรุณาอย่าพูดมั่ว”

“ว้าว ไร้เยื่อใยจัง” อะเดลกอดอก “อย่างน้อยฉันก็เคยร่วมระเบิดห้องทดลองกับนายนะ ช่วยออกเงินค่าซ่อมแซมด้วย”

เวินทิงหลาน “…ฉันไม่ได้ให้เธอมาร่วมระเบิดด้วย”

เขาเพิ่งปีสอง นักศึกษาปีหนึ่งอยู่ในความดูแลของนักศึกษาปีสามปีสี่

“พี่สาว นี่จ้ะ” อะเดลล้วงก้อนทองออกมาหนึ่งก้อนแล้ววางบนมืออิ๋งจื่อจิน พูดอย่างภูมิใจ

“ฉันเป็นน้องสะใภ้ที่น่ารักของพี่สาวจริงๆ นะ”

แสงสีทองเปล่งประกายแสบตาหลีหานที่อยู่ข้างๆ

นี่ก็คือเศรษฐินีเหรอ

อิ๋งจื่อจินย่อมไม่รับไว้ “เดี๋ยวพาไปที่ถนนเส้นของกินก่อนแล้วกัน”

อะเดลเป็นคนชอบกิน ได้ยินมานานแล้วว่าประเทศจีนเป็นโลกแห่งของอร่อย น้ำลายสอมาตั้งแต่อยู่บนเครื่องบิน

เธอกระโดดโลดเต้นเดินอยู่ข้างหน้า “เยี่ยมเลย!”

เวินทิงหลานกับอิ๋งจื่อจินเดินไปด้วยกัน รู้สึกปวดหัว

“พี่ อย่าไปฟังเธอพูดพล่าม ผมก็แค่เคยทำการทดลองกับเธอ แถมแค่ครั้งเดียวด้วย”

“ใช้ได้” อิ๋งจื่อจินตบบ่าน้องชาย พูดอย่างใจเย็น “รู้จักพาสาวมาด้วย พี่ภูมิใจ”

เวินทิงหลานเม้มริมฝีปากแน่น สีหน้าเหมือนอยากจะบ้า “ไม่ใช่จริงๆ นะพี่”

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด ก้มหน้าส่งข้อความหาเวินเฟิงเหมียน

[พ่อคะ เสี่ยวหลานอาจแค่ได้ความฉลาดมาจากพ่อ ตอนนี้ก้าวหน้านำพ่อไปแล้วค่ะ]

เวินทิงหลานไม่ได้มีอีคิวเลย

ฮวนกับนักศึกษาอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังมองหน้ากัน เดินรั้งท้ายสองสามก้าว

พวกเขานึกไม่ถึงว่าเวินทิงหลานจะยังมีพี่สาวอยู่มหาวิทยาลัยตี้ตูด้วย

“ฮวน อะเดลถูกหนุ่มจีนหลอกไปแล้วนะ” นักศึกษาชายมองไปข้างหน้าแล้วพูดเสียงเบา

“นายกับเธอต่างหากที่เป็นคู่รักมาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นใคร ศัตรูหัวใจเหรอ”

โรคจิตเวชที่เวินทิงหลานเป็นถูกอวี้เสวี่ยเซิงรักษาหายแล้ว ไม่ต่อต้านการเข้าสังคมอีก

แต่นิสัยชอบเก็บตัวไม่เคยเปลี่ยน เป็นคนเย็นชามาแต่ไหนแต่ไรยากจะใกล้ชิดสนิทสนม

ฮวนไม่พูดอะไร แต่สีหน้าที่แย่ลงแสดงถึงทุกสิ่ง

เกาะเล็กๆ ที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันตั้งอยู่ นอกจากพวกนักศึกษาแล้วยังมีตระกูลท้องถิ่นอยู่หลายตระกูล

ตระกูลเหล่านี้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนอร์ตันมาตั้งแต่นายใหญ่รุ่นแรก

ลูกหลานของพวกเขาสามารถเข้าร่วมการสอบของมหาวิทยาลัยนอร์ตันได้ก่อน เมื่อเข้าข่ายเงื่อนไขการรับเข้าเรียนก็ยังจะมีคลาสเตรียมพร้อมให้เข้าเรียนอีก

อย่างไรเสียบนโลกนี้ก็มีคนที่มีพรสวรรค์เล่นแร่แปรธาตุกับดาราศาสตร์น้อยมาก นักศึกษาส่วนใหญ่ก็มาจากตระกูลท้องถิ่นเหล่านี้

ฮวน เฮอร์เชลเป็นคนท้องถิ่น อะเดล มิลตันก็ด้วย

พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

เดิมทีอะเดลควรเข้าคณะดาราศาสตร์ไปพร้อมเขา

ฮวนสีหน้าเย็นชา พูดออกมาแค่ว่า “เวินทิงหลาน…”

เขาพยากรณ์เวลาและสถานที่ที่จะทิ้งเวินทิงหลานไว้ในประเทศจีนแล้ว

กลับมหาวิทยาลัยนอร์ตันไม่ได้ เวินทิงหลานก็ใกล้ชิดกับอะเดลไม่ได้

อะเดลยังต้องกลับเข้าตระกูลมิลตัน

วันหน้าสองคนนี้จะไม่มีทางเกี่ยวข้องกันอีก

ข่าวที่สถานีโทรทัศน์กลาง มหาวิทยาลัยตี้ตู และชูกวงมีเดียร่วมกันสร้างรายการฉลาดแบบนี้ยกนิ้วให้เลย! ซีซั่นสามได้ลือไปทั่วโลกไซเบอร์อย่างรวดเร็ว

นอกจากนักศึกษาห้าคนของมหาวิทยาลัยนอร์ตันแล้ว มหาวิทยาลัยตี้ตูก็ได้ส่งนักศึกษามาห้าคนโดยมีอิ๋งจื่อจินเป็นหัวหน้า หลีหานก็เป็นหนึ่งในนั้น

หลังจากได้รับอนุญาตจากทั้งสองมหาวิทยาลัย ทางสถานีโทรทัศน์กลางก็ได้ปล่อยภาพ และประวัติย่อของนักศึกษาทั้งสิบคน

[ฉันเห็นอะไรน่ะ มหาวิทยาลัยนอร์ตัน!]

[ในที่สุดมหาวิทยาลัยนอร์ตันก็จะเปิดม่านที่ลึกลับนั้นแล้วเหรอ! อยากดูสุดๆ ขอให้ซีซั่นนี้มีหลายตอน ขอซีนของเทพอิ๋งเยอะหน่อย เธอไม่มีแม้แต่แอคเคาท์เวยปั๋ว(อีโมชั่นใจสลาย)]

[มหาวิทยาลัยนอร์ตันก็ยังเป็นมหาวิทยาลัยนอร์ตันอยู่วันยังค่ำ! สุดยอด!]

[ดูนี่ๆ ฮวน เฮอร์เชล สุดยอดไปเลย อายุสิบเก้า เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน และมหาวิทยาลัยศิลปะรอยัลแห่งยุโรป แต่ทำไมทักษะพิเศษคือไพ่ทาโรต์กับดูดวงดาวล่ะ นี่มันทักษะอะไรกัน]

[พูดตามตรง นักศึกษาสองมหา’ลัยแบบนี้ หากว่าด้วยเรื่องประวัติการศึกษา ฮวนอยู่เหนือกว่าอิ๋งจื่อจินจริงๆ เหนือฟ้ายังมีฟ้าสินะ]

เป็นนักศึกษาของสองสถาบันคือมหาวิทยาลัยนอร์ตันกับมหาวิทยาลัยศิลปะรอยัลแห่งยุโรป

สถาบันหนึ่งเป็นอันดับหนึ่งในด้านศิลปะ อีกสถาบันหนึ่งเป็นอันดับหนึ่งในด้านวิชาการ

ปกติหนึ่งคนจะขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาได้แค่สถาบันเดียว ห้ามเป็นนักศึกษาสองสถาบัน

เว้นเสียแต่สองมหาวิทยาลัยจะเห็นพ้องต้องกัน ต่างหลีกทางให้ อนุญาตเป็นกรณีพิเศษ

ฮวน เฮอร์เชล เป็นกรณีพิเศษเพียงหนึ่งเดียว

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท