คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 587 แฉ!

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 587 แฉ!

รางวัลตุ๊กตาทองของงานไอเอฟเอฟไม่เพียงแต่จะสามารถทำให้ชูกวงมีเดียยืนอยู่ในระดับสากลได้อย่างเป็นทางการ ยังแสดงถึงหลักชัยแห่งใหม่ของวงการบันเทิงประเทศจีนอีกด้วย

มีความหมายมาก

นี่เป็นผลจากความพยายามร่วมกันของทั้งบริษัท

แต่กลับถูกทำลายไปอย่างง่ายดายแบบนี้

เลขาสาวขมวดคิ้ว “บอสคะ ต่อให้พวกเขาติดสินบนกรรมการจริง พวกเราก็ไม่มีหลักฐานอยู่ดี รางวัลที่ไม่ได้เปิดโหวตสาธารณะแบบนี้ เดิมทีก็ไม่ได้ยุติธรรมอยู่แล้ว”

พวกคณะกรรมการก็มีรสนิยมความชอบของตัวเอง

อย่างรางวัลตุ๊กตาทองงานไอเอฟเอฟครั้งก่อน มีภาพยนตร์สองเรื่องสมควรได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง แต่สุดท้ายคณะกรรมการก็ชอบเรื่องที่ได้ที่หนึ่งมากกว่า

พอพูดถึงตรงนี้เลขาสาวก็ลังเล “ไม่แน่พวกเขาอาจไม่ได้โกงก็ได้ ผลเป็นแบบนี้อยู่แล้ว”

อิ๋งจื่อจินไม่เงยหน้า น้ำเสียงยังคงราบเรียบ “รอดูเดี๋ยวก็รู้”

เลขาสาวอึ้ง

รอดูเหรอ

ดูอะไร

อิ๋งจื่อจินกดหน้าต่างหนึ่งจากในโทรศัพท์มือถือ ขณะที่เตรียมจะใส่โค้ดลงไปก็มีข้อความวีแชทเข้ามาก่อน

[ฟู่อวิ๋นเซิน : คลิปวิดีโอ.mov]

[ฟู่อวิ๋นเซิน : เสียงบันทึก.mp3]

[ฟู่อวิ๋นเซิน : ยกให้หมด]

แต่ไหนแต่ไรมาทักษะคอมพิวเตอร์ของฟู่อวิ๋นเซินไม่ด้อยไปกว่าฉินหลิงเยี่ยนที่เป็นประธานสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนาม

ไม่อย่างนั้นด้วยความสามารถในการสร้างศัตรูของไอบีไอ ไฟร์วอลคงถูกพังไปนานแล้ว

อิ๋งจื่อจินเปิดคลิปวิดีโอกับคลิปเสียง พอดูจบสายตาก็เย็นชาลง

ต่อให้พวกคณะกรรมการลงคะแนนให้ภาพยนตร์เรื่องความทรงจำที่หายไป เธอก็จะไม่ว่าอะไร

แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าลบชื่อทิ้งโดยตรง

เวลานี้ข้อความของฟู่อวิ๋นเซินก็เข้ามาอีก

ครั้งนี้เป็นข้อความเสียง

น้ำเสียงกึ่งหยอกเย้า พูดช้า

“ชู่ว เดี๋ยวดูที่หน้าจอนะ”

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้วเล็กน้อย สายตามองไปที่เวทีอีกครั้ง

ตอนนี้การมอบรางวัลมอบไปจนถึงรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมแล้ว

“รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมในครั้งนี้คือ ผู้กำกับจากภาพยนตร์เรื่องความทรงจำที่หายไป คุณไดน่า แพชช์ครับ!” พิธีกรพูด “ยินดีกับคุณไดน่าของเราด้วยครับ คุณไดน่ากำกับภาพยนตร์ครั้งแรกก็ประสบความสำเร็จขนาดนี้แล้ว เก่งมากจริงๆ ครับ”

ไดน่ายกกระโปรง เดินขึ้นไปรับรางวัลอย่างสง่างาม

“อืม รางวัลสุดท้ายเป็นรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ทุกท่านจับตามองครับ ภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในครั้งนี้คือ…”

“ความทรงจำที่หายไป! ยินดีด้วยครับ!” พิธีกรปรบมือก่อน “สำหรับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม คุณเดวิดประธานคณะกรรมการตัดสินจะขึ้นมามอบด้วยตัวเองครับ”

เดวิดจับเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เผยรอยยิ้ม “ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่ได้เป็นตัวแทนคณะกรรมการมายืนอยู่ตรงนี้ ผมขอพูดอะไรกับทุกท่านสักหน่อย”

เขาถือไมโครโฟน “งานไอเอฟเอฟจัดมาหลายปีขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรับหน้าที่ประธานคณะกรรมการ ผมดูภาพยนตร์ไปหลายเรื่อง ต้องยอมรับเลยว่าภาพยนตร์ที่เข้ารอบครั้งนี้ยอดเยี่ยมหมดทุกเรื่อง ทำได้ดีมากครับ”

“ถ้ารางวัลชนะเลิศมีสิบรางวัล พวกคุณสมควรได้รับกันหมด”

“สุดท้ายพวกเราได้หารือกัน และก็เลือกภาพยนตร์เรื่องความทรงจำที่หายไป” เดวิดพูด “อาจมีคนถามว่า ทำไมภาพยนตร์เรื่องชีวิตใหม่ถึงไม่ได้รางวัลสำคัญแม้แต่รางวัลเดียว”

“คือแบบนี้นะครับ พวกเราปรึกษากันแล้วคิดว่า ในภาพยนตร์เรื่องชีวิตใหม่ ตอนที่บทนักแสดงนำชายแบ่งออกเป็นสามตัวละคร การแสดงดูเกินจริงไปหน่อย มีด้อยอยู่บ้าง อีกทั้ง…”

[เฮ้อ ช่างเถอะ ได้รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็โอเคแล้ว อย่างน้อยก็คว้าสักรางวัลมาให้ประเทศจีน]

[เฮีย อย่าท้อนะ ปีหน้าเอาใหม่!]

[ประธานคณะกรรมการคนนี้หมายความว่าไง นี่ไม่ได้ให้กำลังใจแต่ทับถมมากกว่า]

[สรุปว่าทักษะการแสดงของซังเย่าจือที่พวกเธออวยกันอยู่ทุกวัน สุดท้ายก็โดนดูถูกในระดับโลก โกอินเตอร์ไม่ได้ ฮ่าๆ สมน้ำหน้า]

ขณะที่เดวิดยังคงอวยภาพยนตร์ความทรงจำที่หายไป ทับถมภาพยนตร์เรื่องชีวิตใหม่ บนหน้าจอขนาดใหญ่ก็ได้เปลี่ยนภาพ

บรรดาผู้ชมต่างตะลึง

คณะกรรมการที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งเฉพาะของตัวเองต่างนั่งตัวตรง มองหน้าจอใหญ่ด้วยความตกใจ

นี่มันภายในห้องประชุมของพวกเขาไม่ใช่เหรอ

คลิปจากกล้องวงจรปิดถูกนำมาฉาย

บทสนทนาระหว่างคณะกรรมการกับเดวิด

‘แต่ก่อนหน้านี้คุณยังบอกว่าชีวิตใหม่ทำได้ดีมากอยู่เลยนะครับ’

‘ใช่ ดีมาก แต่คุณดูแล้วกันว่าเรื่องความทรงจำที่หายไปใครกำกับ ไดน่า แพชช์ ในบรรดาพวกเรามีใครบ้างกล้าล่วงเกินตระกูลแพชช์ อยากตายเหรอ’

‘งานประกาศรางวัลสมัยนี้ก็มีเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งนั้น เอาตามนี้แหละ’

ด้านล่างเวทีเงียบกริบ ทั้งงานเหลือเพียงเสียงของเดวิด

ประโยคนี้เข้าหูของทุกคน

‘อีกอย่างถ้าพวกเราไม่พูด ใครจะรู้’

ผู้จัดการส่วนตัวเงยหน้าทันที “เย่าจือ!”

ที่แท้ไม่ใช่เพราะทักษะการแสดงของซังเย่าจือไม่ดีพอ แต่เป็นเพราะเดิมทีคณะกรรมการในครั้งนี้ก็ไม่ยุติธรรม

เดวิดเอารางวัลที่ควรเป็นของซังเย่าจือกับภาพยนตร์เรื่องชีวิตใหม่ไปให้เรื่องความทรงจำที่หายไป!

แววตาของซังเย่าจือขรึมลง แต่กลับค่อยๆ ถอนหายใจ เขายิ้มอีกครั้ง “แบบนี้ค่อยยังชั่ว ผมกลับมามั่นใจตัวเองอีกครั้งแล้ว”

ผู้จัดการส่วนตัวพูด “เย่าจือ นายสุดยอดมาตลอด อย่าสูญเสียความมั่นใจเลยนะ”

ใครก็ตามต้องมาโดนดูถูกบนเวทีสาธารณะในงานประกาศรางวัลระดับโลกแบบนี้ก็ต้องเสียศูนย์เป็นธรรมดา

ซังเย่าจือยิ้ม

คนที่ทำได้แบบนี้ และกล้าทำเรื่องแบบนี้คงมีแค่คนเดียวแล้วหรือเปล่า

ซังเย่าจือมองอิ๋งจื่อจินที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งแขก เขาเงียบไปชั่วขณะ

เดวิดที่อยู่บนเวทีตกใจมาก รู้สึกเหลือเชื่อ

ภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องประชุมของพวกเขาทำไมมาปรากฏที่นี่ได้

อีกทั้งนี่ยังไม่จบ

พอคลิปวิดีโอเล่นจบยังตามมาด้วยคลิปเสียง

เดวิดได้ฟังก็รู้ทันทีว่าเป็นตอนโทรคุยกับไดน่าเมื่อวานนี้ เขาเหงื่อแตกพลั่ก

ไดน่าที่อยู่ด้านข้างก็มีสีหน้าขรึมลง

ระหว่างไม่ได้รางวัลกับขายหน้า อย่างหลังย่อมสำคัญกว่า

แน่นอนว่าถ้าทั้งสองอย่างเป็นไปในทางที่ดีย่อมดีที่สุด

ไดน่าไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าข้อตกลงระหว่างเธอกับเดวิดจะถูกแฉ

ใครจะรู้เรื่องนี้ได้

อีกอย่าง ใครกันที่หลังจากรู้เรื่องนี้ก็แฮกโทรศัพท์มือถือเธอ ขโมยข้อมูลสนทนาของเธอและบันทึกเสียง

อยากตายหรือไง

สายตาจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มองมาทางนี้ โดยเฉพาะพวกไฮโซสาวที่มีอยู่ในงานจำนวนไม่น้อย ล้วนเป็นคนในแวดวงชั้นสูงของยุโรปทั้งนั้น

พวกเธอกระซิบกระซาบ สายตาก็มองมาทางไดน่า

ไดน่าหน้าบึ้ง รู้สึกเสียหน้าอย่างรุนแรง

เธอยืนขึ้นทันที จากนั้นก็หันตัวเดินออกด้านนอก

ไม่อยากอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว

ไดน่าเป็นคุณหนูตระกูลแพชช์ พวกนักข่าวอยากขวางก็ไม่กล้าขวาง

“ปิดซะ!” เดวิดหยิบอุปกรณ์สื่อสาร ตะโกนบอกทีมงานหลังเวที

“รีบปิด! พวกคุณทำงานกันอย่างไร”

สตาฟที่อยู่หลังเวทีก็เหงื่อแตกพลั่ก ลนลานทำอะไรไม่ถูก

“ขะ…ขอโทษครับ คุณเดวิด พวกเราควบคุมไม่ได้แล้วครับ ปิดไม่ได้”

คลิปเสียงยังคงเล่นต่อ

‘ครับคุณไดน่า วางใจได้ ชูกวงมีเดียเป็นแค่บริษัทเล็กๆ พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรหรอก และก็ไม่มีทางคาดคิดว่าผมจะยกรางวัลของพวกเขาให้คุณ’

คราวนี้ผู้ชมที่อยู่ในงานฮือฮาคุยกันสนั่น

ทางด้านการถ่ายทอดสดของประเทศจีน ชาวเน็ตเดือดมาก

[แล้วนี่ยังจะมามีหน้าดูถูกการแสดงของซังเย่าจืออีกเหรอ คู่ควรเหรอ]

[เก่งมาก เก่งจริงๆ เห็นชูกวงมีเดียเป็นบริษัทเล็กๆ ก็เลยคิดจะรังแกยังไงก็ได้เหรอ ถ้าภาพยนตร์เรื่องชีวิตใหม่เป็นของยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์ส คณะกรรมการไอเอฟเอฟคงไม่กล้าแม้แต่จะผายลม(อีโมชันยิ้ม)]

[ตระกูลแพชช์นี่สุดยอดจริงๆ ยื่นมือเข้ามาแทรกขนาดนี้ แต่โทษทีนะ พวกคุณยุ่งเรื่องในประเทศจีนของพวกเราไม่ได้หรอก]

[ฉันจำได้ว่าตระกูลลอเรนท์ลงทุนเป็นสปอนเซอร์จัดงานไอเอฟเอฟใช่หรือเปล่า หรือตระกูลใหญ่พวกนี้ของยุโรปเป็นพวกเดียวกัน ชอบรังแกคนอื่น]

เรื่องที่ตระกูลแพชช์เป็นศัตรูคู่แค้นกับตระกูลลอเรนท์ อันที่จริงโลกภายนอกมีแค่ไม่กี่คนที่รู้

อย่างไรเสียนับตั้งแต่ซีซาร์ ลอเรนท์ ฟื้นขึ้นมา ตระกูลลอเรนท์ก็มุ่งมั่นพัฒนามาตลอด มองผิวเผินเหมือนไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับตระกูลแพชช์

คนที่เรียนประวัติศาสตร์ยุโรปในช่วงนั้นก็ไม่เอาเหตุการณ์เมื่อหลายศตวรรษก่อนมารวมกับตอนนี้

ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ นักข่าวของแต่ละประเทศก็หยิบอุปกรณ์ถ่ายภาพรัวชัตเตอร์กันไม่หยุด

เก็บภาพตอนเดวิดจนตรอกแต่จะอาละวาดก็ไม่ได้

นี่ถือเป็นข่าวใหญ่จริงๆ

โกงผลรางวัลตุ๊กตาทองงานไอเอฟเอฟ ไม่ต้องรอให้ถึงวันรุ่งขึ้น คืนนี้ก็ลือไปทั้งวงการภาพยนตร์ทั่วโลกได้แล้ว

นี่เป็นรางวัลที่ใหญ่มาก ต่อให้เป็นคนที่ไม่สนใจภาพยนตร์ก็ต้องเคยได้ยิน

เดวิดเหงื่อแตก

เขาตะคอกเสียงบอกให้หลังเวทีตัดไฟ ในที่สุดภาพบนหน้าจอใหญ่ก็หายไป

แต่เดวิดก็ยังไม่โล่งอก มีคนเดินขึ้นมาบนเวทีประกาศรางวัล

พวกนักข่าวจำได้ นี่คือนักแสดงหญิงชาวจีนที่เมื่อครู่ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม เซี่ยมั่นอวี่

เซี่ยมั่นอวี่ก็เป็นคนแรกที่คว้ารางวัลในฐานะคนจีน

ก็แค่ฝ่ายเจ้าของภาพยนตร์เป็นบริษัทยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์ส ไม่ถือเป็นภาพยนตร์ภายในประเทศจีน

“ขอโทษทีค่ะ ฉันไม่ขอรับรางวัลนี้แล้ว” เซี่ยมั่นอวี่ยัดรางวัลใส่อกเดวิด ยิ้มเล็กน้อย

“เพราะฉันสงสัยในความยุติธรรมของพวกคุณ กลัวว่าเป็นเพราะพวกคุณเกรงกลัวบริษัทยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สก็เลยเขียนชื่อฉันลงไป”

“ถ้าฉันรับไว้ก็ดูจะไม่เหมาะสมเท่าไร ฉันหวังว่าฉันจะคู่ควรได้รับรางวัลนี้เพราะทักษะการแสดงของฉันจริงๆ”

คำพูดนี้ทำให้พวกคณะกรรมการที่นั่งอยู่พากันนั่งไม่ติด

กรรมการคนหนึ่งยืนขึ้น เดินขึ้นหน้าสองก้าว

“คุณเซี่ยครับ พวกเรารับรองได้ว่ารางวัลของคุณคัดจากคุณภาพจริงๆ พวกเราพิจารณาบทบาทที่คุณแสดงอย่างรอบคอบแล้วครับ”

พอเปรียบเทียบแบบนี้ แมตต์ บิลิชก็รู้สึกกระอักกระอ่วนมาก

มือของเขายังถือรางวัลตุ๊กตาทองอยู่ พอหันไปก็สบตากับซังเย่าจือพอดี

ซังเย่าจือแค่นั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ไม่ได้ตัดพ้ออะไร

แมตต์ บิลิชถือรางวัลไว้อย่างร้อนตัว

เซี่ยมั่นอวี่ไม่สนใจคณะกรรมการ เธอเดินลงจากเวทีไปหาอิ๋งจื่อจิน “บอสคะ”

อิ๋งจื่อจินมองเธอ “รางวัลนั่นเป็นของคุณ”

“ไม่เป็นไร ฉันไม่เอาแล้วค่ะ” เซี่ยมั่นอวี่ยักไหล่

“ฉันเกิดมาจากชูกวงมีเดีย รุ่งก็รุ่งด้วยกัน ดับก็ดับด้วยกัน ยังไงซะฉันก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับรางวัลมากอยู่แล้ว”

ขณะพูดเธอก็โน้มตัว “บอสเคยช่วยชีวิตฉันไว้ เรื่องแบบนี้ฉันขอยืนแค่ข้างบอสค่ะ”

สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงัก

เซี่ยมั่นอวี่หันไป “เสี่ยวซัง นายยังหนุ่ม รางวัลตุ๊กตาทองครั้งนี้ ไม่เอาก็ได้”

ซังเย่าจือก็ยิ้ม “อาจารย์เซี่ยพูดถูกครับ”

อย่างน้อยตอนนี้เขาก็แน่ใจแล้วว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่การแสดงของเขา

แค่นี้ก็โล่งอกแล้ว

จะได้รางวัลหรือไม่ก็ไม่เป็นไร

ภายในงานวุ่นวายอย่างสิ้นเชิง

พวกนักข่าวที่ใจกล้าหน่อยแบกอุปกรณ์วิ่งขึ้นเวทีไปแล้ว ต่างยื่นไมโครโฟนไปที่เดวิด

“คุณเดวิดครับ คุณโกงแบบนี้ คุณกลัวคนมีอิทธิพลขนาดนี้เลยเหรอครับ”

“คุณเดวิดคะ ไอเอฟเอฟสูญเสียความยุติธรรมที่เดิมมีไปแล้ว ต่อไปถ้าไม่มีบริษัทภาพยนตร์ส่งภาพยนตร์มาร่วมงานไอเอฟเอฟอีกจะทำไงคะ”

สีหน้าของเดวิดแย่จนปั้นหน้าไม่ถูก ฟันกระทบกันดังกึกๆ

รางวัลตุ๊กตาทองงานไอเอฟเอฟมีประวัติศาสตร์ร้อยกว่าปี จัดขึ้นปีละครั้ง ก็เท่ากับว่าจัดมาร้อยกว่าครั้งแล้ว

เมื่อก่อนก็ใช่ว่าจะไม่มีการโกงเกิดขึ้น พวกคณะกรรมการก็รู้กันแต่ไม่พูด

พอเดวิดมารับหน้าที่ครั้งนี้ถึงได้กล้ายกรางวัลสำคัญที่ภาพยนตร์ชีวิตใหม่ได้รับไปให้ภาพยนตร์เรื่องความทรงจำที่หายไป

แต่กลับเป็นครั้งนี้ที่เรื่องถูกแฉก่อนพิธีประกาศรางวัลจะจบลง

ความแตกได้อย่างไรกัน

ใครมันกล้าได้ขนาดนี้!

จนถึงตอนนี้เดวิดก็ยังไม่เข้าใจ

แต่ไม่ว่าอย่างไร งานประกาศรางวัลตุ๊กตาทองไอเอฟเอฟครั้งที่หนึ่งร้อยยี่สิบสามก็ได้กลายเป็นเรื่องขบขันไปแล้ว

บรรดาผู้ชมต่างแยกย้าย

รางวัลตุ๊กตาทองที่เซี่ยมั่นอวี่วางไว้ที่กรรมการราวกับกำลังเย้ยหยัน

คลาร์คยังคงนั่งนิ่งบนเก้าอี้นวม

เขาเงยหน้าอย่างอึ้งๆ มองสีหน้าเย็นชาของอิ๋งจื่อจิน ใบหน้าของเขาเริ่มซีดลงทีละนิด

ไทม์มีเดียปั้นราชาราชินีภาพยนตร์ออกมาได้มากมาย ตอนนี้ถึงแม้คนเหล่านี้จะออกจากไทม์มีเดียไปตั้งบริษัทของตัวเองแล้ว แต่เวลาทางบริษัทมีเรื่องอะไรก็จะกลับมาช่วย

แต่คราวนี้ไทม์มีเดียก็ได้ล่วงเกินราชาราชินีภาพยนตร์ที่ตัวเองปั้นมาเหมือนกัน

ขนาดรางวัลตุ๊กตาทองงานไอเอฟเอฟยังโกงกันได้ หลังจากความแตก จุดจบก็คือเป็นที่หัวเราะเยาะ ยังจะมีใครกล้าร่วมแสดงหนังของไทม์มีเดียอีก

แต่เรื่องมันแดงออกมาได้ยังไง

อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น “บอกแล้วว่าแค่เริ่มต้น”

เดิมทีเธอยังมีแผนรัดกุมกว่าที่จะเล่นงานไทม์มีเดีย

แต่ตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้ว

ในที่สุดเดวิดก็หลุดจากนักข่าว

เขารีบลงจากเวที มองอิ๋งจื่อจินแล้วแสยะยิ้ม

“พวกคุณอย่าคิดว่าจะออกจากฟลอเรนซ์ได้อย่างสงบสุขเลย!”

เป็นแค่บริษัทบันเทิงเล็กๆ ของประเทศจีนกลับทำให้ตระกูลลอเรนท์ขายหน้าได้ขนาดนี้ คิดเหรอว่าตระกูลลอเรนท์จะปล่อยไป

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท