ตอนที่ 588 ล่วงเกินตระกูลลอเรนท์ คุณอิ๋งเป็นใคร
ตอนนี้นักข่าวไปกันหมดแล้ว เรื่องก็ถูกแฉเรียบร้อย เดวิดเป็นประธานคณะกรรมการก็ขายหน้าจนไม่เหลืออะไรอีก
เขาเองก็ขี้เกียจจะรักษาภาพพจน์ต่อ
แต่เดวิดกลับพบว่า พอเขาพูดแบบนี้ออกไป พวกคนของชูกวงมีเดียกลับไม่รู้สึกอะไร
มีแค่ผู้จัดการส่วนตัวที่ขมวดคิ้ว
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “คุณหมายถึงตระกูลลอเรนท์เหรอ”
“คุณเดวิด คุณนี่ช่างรู้จักสาดโคลนใส่คนอื่นจริงๆ” เลขาสาวแสยะยิ้ม “คนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมคือคุณ คนที่ทำให้ตระกูลลอเรนท์ขายหน้าก็คือคุณ พวกเขาจะไม่ปล่อยใครกันแน่นะ”
ฟังถึงตรงนี้เดวิดก็หัวเราะ “ประเทศจีนของพวกคุณมีสำนวนที่ว่า คนเราวัดกันที่ฐานะและความสำคัญ”
“ที่นี่คือยุโรป ใครสำคัญไม่สำคัญ ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ”
คนเรามีสองมาตรฐานกันทั้งนั้น มักเข้าข้างคนกันเอง
ตระกูลลอเรนท์ยังจะเข้าข้างประเทศจีนได้อีกเหรอ
คนตะวันออกพวกนี้แม้แต่หลักการแค่นี้ก็ไม่เข้าใจ
ไม่แปลกที่โง่เขลา
เดวิดฮึดฮัด หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา “ผมจะโทรหาทางตระกูลลอเรนท์ พวกคุณรอดูได้เลย!”
อิ๋งจื่อจินยังคงไม่สะทกสะท้าน “โทรสิ”
เดวิดอัดอั้นตันใจ โมโหจนเจ็บไปถึงหัวใจ
เขาไม่อยากอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว โมโหฟึดฟัดเดินออกไป “ฮัลโหล สวัสดีครับ…”
ผู้จัดการส่วนตัวตบบ่าซังเย่าจือด้วยมืออันสั่น “เย่าจือ ระ หรือว่าคุณอิ๋งกับตระ ตระกูลลอเรนท์จะ…”
ซังเย่าจือครุ่นคิดแล้วพูด “พี่จำหินหยกที่ผมซื้อจากจงซื่อกรุ๊ปได้ไหม”
ผู้จัดการส่วนตัวพยักหน้า
อิ๋งจื่อจินเคยช่วยชีวิตซังเย่าจือเอาไว้ แค่ช่วยอุดหนุนหยกไม่เหลือบ่ากว่าแรง
ซังเย่าจือยิ้ม “ตอนนั้นผมได้คุยกับคุณตาของคุณอิ๋ง คุณตาพูดกับผมด้วยความภูมิใจว่า คุณอิ๋งรู้จักคนในของตระกูลลอเรนท์แล้ว”
ตอนนั้นผู้เฒ่าจงพูดเหมือนโม้ แต่ดูจากตอนนี้เห็นทีจะจริง
ผู้จัดการส่วนตัวโล่งอก
อันที่จริงพวกเขาจะได้รางวัลหรือไม่ก็ไม่สำคัญ ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามสร้างความเดือดร้อนให้อิ๋งจื่อจิน
ต่อให้เป็นชนชั้นสูงของยุโรปก็มีแค่ไม่กี่คนที่ได้คลุกคลีกับตระกูลลอเรนท์
ตระกูลลอเรนท์แสดงถึงความรุ่งเรืองสูงสุดของอิทธิพลในยุโรป
ดูจากสีหน้าของทุกคน คลาร์คก็นึกไปถึงรถคันนั้นที่ขับเข้ามาภายในงานเทศกาลภาพยนตร์
ตอนนั้นไดน่าถามเขาว่าแน่ใจไหม เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจ
แต่ตอนนี้มาคิดดู ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลลอเรนท์จริงๆ!
ไม่ถูกสิ แต่ถ้าอิ๋งจื่อจินรู้จักกับคนของตระกูลลอเรนท์จริง มีเหรอที่พวกเขาจะสืบไม่ได้
คุณหนูคุณชายของตระกูลลอเรนท์ที่มีอิทธิพลในยุโรปมีอยู่ไม่เกินห้าคน ไม่มีสักคนที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีน
อีกทั้งถ้าอิ๋งจื่อจินมีความเกี่ยวข้อง มีเหรอจะเป็นแค่บอสในวงการบันเทิงของประเทศจีน
เรื่องแบบนี้เหนื่อยและไม่ค่อยได้อะไร ไม่สบายเหมือนเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์ส
ไม่ว่าอย่างไรคลาร์คก็ไม่อยากเชื่อ แต่ก็คิดไม่ออก
แต่ไม่ว่าอิ๋งจื่อจินจะมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลลอเรนท์หรือไม่ ครั้งนี้ไทม์มีเดียก็เสียหายหนักไปแล้ว
เมื่อบริษัทสูญเสียความเชื่อมั่น แถมยังเป็นบนเวทีระดับโลก ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ
คลาร์คเดินลากเท้าที่หนักอึ้งออกจากห้องจัดงาน โทรศัพท์มือถือดังขึ้นรัวๆ
“เกิดเรื่องแล้วครับบอส หุ้นของพวกเราดิ่งหนัก ดิ่งลงไปสามจุดแล้วครับ”
คลาร์คยังไม่ทันได้พูด เลขาก็พูดต่อด้วยความร้อนรน “แล้วก็มีนักแสดงแถวหน้าหลายคนบอกว่ากลัวชื่อเสียงเสียหาย ต้องการยกเลิกสัญญากับพวกเราครับ!”
นักแสดงที่ถูกเรียกว่านักแสดงแถวหน้าระดับโลกมีน้อยมาก
คลาร์คหน้ามืด
แย่แล้ว คราวนี้จบเห่แล้ว
…
ตามคาด ไม่ต้องรอนาน
คืนวันนี้
เรื่องการโกงรางวัลตุ๊กตาทองของงานไอเอฟเอฟถูกแฉได้ขึ้นพาดหัวข่าวของแต่ละประเทศ
ชาวเน็ตในประเทศจีนต่างเดือดมาก
[เห็นประเทศจีนน่ารังแกใช่ไหม อยากจะฉีกหน้าประธานคณะกรรมการคนนี้ให้เละจริงๆ อะไรคือบอกว่าประเทศจีนของพวกเราได้รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็พอแล้ว ทำไม ต้องรำถวายขอบคุณด้วยไหม]
[ไม่มีใครอยากรู้เหรอว่าใครเป็นคนปล่อยคลิปภาพกับคลิปเสียง]
[พนันด้วยปลาเส้นหนึ่งห่อ ฉันว่าเทพอิ๋ง]
[ว่ากันตามตรง ถึงจะสะใจ แต่อยู่เมืองนอก ไม่ใช่บ้านเรา ชูกวงมีเดียไม่มีอิทธิพล วันหน้าคงไม่มีคนอยากร่วมงานกับชูกวงมีเดียแล้ว มีแต่คนระแวงกลัวเรื่องที่คุยจะถูกปล่อยออกไป]
นี่ก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน
เพราะเมื่อก่อนก็มีเหตุการณ์แบบนี้
ราชินีภาพยนตร์ระดับโลกคนหนึ่งจับได้ว่าสามีมีชู้ เอาเสียงบันทึกตอนคุยกับสามีและเมียน้อยไปปล่อยด้วยความโมโห
สามีเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่เขาเป็นชนชั้นสูงของยุโรป ใช้อิทธิพลสั่งแบนราชินีภาพยนตร์คนนี้ได้ทันที
ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
ถ้าชูกวงมีเดียถูกตระกูลลอเรนท์กับตระกูลแพชช์ร่วมมือกันเล่นงาน แบบนั้นวีนัสกรุ๊ปก็ช่วยปกป้องไม่ได้
คนในประเทศจีนกำลังเป็นห่วงเรื่องนี้ แต่อิ๋งจื่อจินพอมีหมอนข้างที่เป็นคนจริงๆ กลับหลับฝันดี
เช้าวันต่อมา ฟู่อวิ๋นเซินไปสำนักงานใหญ่ของวีนัสกรุ๊ป
ตอนเที่ยงชูกวงมีเดียกินข้าวกันที่ฟลอเรนซ์
“ฉันจะอยู่ที่นี่ต่ออีกหลายวัน พวกคุณกลับไปก่อน” อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ “มีเครื่องบินส่วนตัว รับรองพวกคุณปลอดภัย”
เคยสู้กันมาหลายครั้ง เธอรู้จักสไตล์ของตระกูลแพชช์ดี
ทำได้ทุกวิถีทาง
เลขาสาวพยักหน้า อยู่ๆ ก็พูดขึ้น “บอสคะ ตระกูลลอเรนท์มีความเคลื่อนไหวแล้วค่ะ”
อิ๋งจื่อจินเงยหน้า “หืม?”
เธอไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ซีซาร์ฟัง
เพราะไม่จำเป็น
ขณะที่เลขาสาวกำลังจะพูด ประตูห้องกินเลี้ยงส่วนตัวก็ถูกถีบออก
คนที่เข้ามาคือเดวิดกับกลุ่มทหารรับจ้าง
เดวิดแสยะยิ้ม “คนพวกนี้นี่แหละ เอาตัวพวกเขาไปที่คฤหาสน์ลอเรนท์!”
ทุกคนที่อยู่ตรงโต๊ะอาหารอดสีหน้าเปลี่ยนไม่ได้
เดวิดเห็นสีหน้าของพวกเขาแล้วก็สะใจ “บอกแล้วว่าตระกูลลอเรนท์ไม่มีทางปล่อยพวกคุณไปหรอก”
“เดี๋ยวนะ…” เลขาสาวมองเขาด้วยสายตาประหลาด “คุณยังไม่ได้อ่านข่าวเหรอ”
เดวิดอึ้ง “ข่าวอะไร”
เลขาสาวทำเสียงฮึดฮัด “ดูเอาเอง!”
เมื่อครู่เว็บนอกเพิ่งมีข่าวใหม่
เวยปั๋วก็ขึ้นพร้อมกัน แถมยังติดคำค้นยอดนิยมอันดับหนึ่งอย่างรวดเร็ว
#ตระกูลลอเรนท์IFF#
ด้านล่างเป็นโพสต์เวยปั๋วที่แปลเนื้อข่าวมาแล้ว
[ตระกูลลอเรนท์ประกาศจัดระเบียบเทศกาลภาพยนตร์ไอเอฟเอฟและรางวัลตุ๊กตาทอง ปลดประธานคณะกรรมการของครั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก
ไอเอฟเอฟเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดสำหรับสาขาภาพยนตร์ ยินดีอย่างยิ่งหากทุกท่านจะช่วยกันจับตาดูและร้องเรียน
สำหรับเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตระกูลลอเรนท์ขอประกาศลงทุนในชูกวงมีเดียพันล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งแสดงความขอโทษชูกวงมีเดีย]
[ตระกูลลอเรนท์สุดยอด!]
[ตระกูลอันดับหนึ่งไม่เหมือนใครเลยจริงๆ]
[เทพอิ๋ง รวยแล้ว ดีใจไหม!]
อิ๋งจื่อจินอ่านจบ “…”
เอาเงินฟาดโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า นิสัยนี้
แต่ในคลังสมบัติของซีซาร์ก็มีทองของเธออยู่ครึ่งหนึ่ง
นับไปนับมาก็เงินของเธอดีๆ นี่เอง
ตอนนี้ในที่สุดเธอก็สัมผัสได้ถึงความเป็นเศรษฐินี
เดวิดรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เขาถอยหลังไปหลายก้าว “เป็นไปได้ยังไง!”
ปลดเขายังไม่เท่าไร แต่นี่ยังจะไปลงทุนในชูกวงมีเดียอีกเหรอ
ตระกูลลอเรนท์บ้าไปแล้วเหรอ
โยกเงินจำนวนมากขนาดนี้ ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะผู้อาวุโส
แม้แต่นายใหญ่ก็ยังไม่มีสิทธิ์นี้!
นี่มันเรื่องอะไรกัน
เดวิดเหงื่อแตก ครั้งนี้เขาตื่นตระหนกอย่างสิ้นเชิงแล้ว
เขาอยากรีบออกจากที่นี่ แต่ ตึง เสียงประตูถูกถีบ มีกลุ่มคนเข้ามา
ทีมคุ้มกันของตระกูลลอเรนท์
เมื่อเทียบกับกลุ่มทหารรับจ้างที่เดวิดจ้างมา ระดับสูงกว่าไม่รู้ตั้งเท่าไร
หัวหน้าทีมคุ้มกันมองเดวิดด้วยสายตาเย็นชา เอามือชี้ “คนนี้ เอาตัวไป!”
…
เดวิดถูกทีมคุ้มกันเอาตัวไปที่คฤหาสน์ลอเรนท์ จากนั้นก็ถูกส่งตัวไปห้องสอบสวน
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ย่อมรู้ถึงหูสมาชิกคนอื่นและคณะผู้อาวุโสของตระกูลลอเรนท์
เมื่อพวกเขารู้ว่าเล่นใหญ่เพราะแค่งานรางวัลตุ๊กตาทอง ต่างก็รู้สึกงงนิดหน่อย
แม้แต่ผู้อาวุโสสามก็ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงทำผู้กุมอำนาจสูงสุดของตระกูลลอเรนท์โมโหได้
แต่พวกเขาที่อยู่ต่ำกว่าก็ไม่สะดวกจะถาม
แต่คิดๆ ดูก็จริง ถ้าผู้กุมอำนาจจะออกมาก็ต้องสร้างบารมี
เดิมทีผู้กุมอำนาจก็เป็นคนลงทุนงานไอเอฟเอฟ เกิดเรื่องโกงแบบนี้ขึ้น มีเหรอจะทนได้
ผู้อาวุโสสามลูบเครา คิดในใจ ก็ไม่รู้ว่าผู้กุมอำนาจหน้าตาเป็นยังไง
จนกระทั่งจ็อบเดินมา
ผู้อาวุโสสามดวงตาเป็นประกาย เรียกจ็อบทันที “พ่อบ้านจ็อบ นายท่านได้บอกไหมว่าเมื่อไรจะมาเจอพวกเราอย่างเป็นทางการ”
ทุกคนต่างรู้ว่าจ็อบเป็นตัวแทนของผู้กุมอำนาจเวลาออกหน้า
คนรับใช้ข้างกายผู้กุมอำนาจมีการคัดเลือกอย่างเข้มงวด พวกผู้อาวุโสต่างอยากส่งลูกตัวเองเข้าไปอยู่ในใจกลางของคฤหาสน์
“น่าจะใกล้แล้วครับ” จ็อบยิ้ม พูดเสียงเบา “จริงสิ ผู้อาวุโสสามครับ ถ้าท่านอยากทำอะไรให้นายท่านก็ช่วยรวบรวมข้อมูลพร้อมรูปถ่ายของพวกคุณหนูชนชั้นสูงให้หน่อยครับ”
“นายท่านอาจไปเจอเรื่องสะเทือนใจรุนแรงมา อยากแต่งงานแล้ว ผมกล่อมไม่อยู่จริงๆ”
ผู้อาวุโสสาม “?”
ภายในห้องสอบสวน
เดวิดเกร็งไปหมด เนื้อตัวเย็นเฉียบ
ในที่สุดประตูก็เปิดออก มีแสงสว่างเข้ามา
เดวิดเงยหน้า สายตาเริ่มมีความหวัง
จ็อบยิ้ม แววตาสงสาร “รู้หรือเปล่าว่าคุณอิ๋งเป็นใคร”
