คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 607 อิ๋งจื่อจิน ‘คนที่เธอพูดถึงคือฉัน’

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 607 อิ๋งจื่อจิน ‘คนที่เธอพูดถึงคือฉัน’

เขาติดตามชิวมั่นมาหกสิบปีแล้ว แม้แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าชิวมั่นมีวรยุทธ์ด้วย!

วรยุทธ์ของพวกคนคุ้มกันที่สหพันธ์จอมยุทธ์ส่งมาไม่ด้อย อย่างต่ำก็เจ็ดสิบแปดสิบปี

แต่ต่อให้มีคนคุ้มกันที่วรยุทธ์เท่านี้สักร้อยคนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชิวมั่น

ทุกคนจึงทำได้แค่มองชิวมั่นออกไปจากสมาพันธ์โอสถ

ในที่สุดผู้อาวุโสสี่ก็ได้สติกลับมา เขาเอามือปิดหน้า ร้องไห้เสียงดัง “ฉันมันสมควรตาย! สมควรตาย!”

คนที่ฆ่าครอบครัวอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่เขาก็ยังจงรักภักดีต่อชิวมั่นมาหลายปีขนาดนี้

เขามันตาบอด มองคนไม่ออก

ผู้อาวุโสใหญ่พูดเสียงขรึม “ผู้อาวุโสสี่ ใจเย็นๆ ไม่มีใครคาดคิดหรอก”

ผู้อาวุโสสี่ตบหน้าตัวเองไปหลายที กัดฟันพูด “จะปล่อยให้หนีไปไม่ได้เด็ดขาด ถ้าชิวมั่นหนีไป พวกเราก็แพ้หมดรูป!”

เรื่องอย่างแปลงโฉมกับเปลี่ยนรูปร่างเป็นเรื่องสบายมากสำหรับแพทย์ผิดจรรยาบรรณ

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าชิวมั่นเป็นถึงตัวบงการแพทย์ผิดจรรยาบรรณ

ถ้าครั้งนี้เธอหนีไปได้ ต่อไปเมื่อเธอกลับมาอีกครั้งจะต้องน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมแน่นอน

ผู้อาวุโสใหญ่หันไปพูด “ครั้งนี้คุณอิ๋งกระชากหน้ากากตัวบงการแพทย์ผิดจรรยาบรรณได้ ย่อมเป็นผลงาน”

“แต่ช่วงนี้คุณอย่าออกมาดีกว่า ชิวมั่นอยู่ในที่ลับ แถมยังเป็นปรมาจารย์จอมยุทธ์ เกรงว่าจะทำคุณอิ๋งบาดเจ็บได้ครับ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ เธอหนีไปไม่ได้หรอก” อิ๋งจื่อจินพูด “อีกหนึ่งชั่วโมงจะมีกลิ่นดอกเหมยแผ่ซ่านออกมาจากตัวเธอ เธอไปอยู่ตรงไหนก็จะมีกลิ่นหอมโชยออกมา”

ผู้อาวุโสใหญ่ตะลึง “คุณอิ๋ง คือ?”

มียาแบบนี้ด้วยเหรอ

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “ผู้อาวุโสฝูซีเคยสอนฉันค่ะ”

“มิน่าล่ะ” ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้า “ได้ยินว่าผู้อาวุโสฝูซีมีลูกศิษย์ที่ถูกชิวมั่นฆ่า ตอนนี้ยังสามารถมีลูกศิษย์เก่งๆ อย่างคุณอิ๋งได้ก็ถือว่าไม่เสียดายแล้วครับ”

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว ตอบรับ “ค่ะ”

ฝูเฉินเดินมาจากด้านนอก ได้ยินคำพูดนี้พอดี

เขาแข้งขาอ่อนแรง ทรุดลงคุกเข่าตรงหน้าอิ๋งจื่อจิน

ผู้อาวุโสใหญ่ตกใจ และก็แอบแปลกใจนิดหน่อย “คุณชายฝูเฉินเป็นอะไรไปครับ กระดูกเข่าเสื่อมเหรอครับ ผมถนัดต่อกระดูก ให้ช่วยดูไหมครับ”

“ไม่ครับไม่” ฝูเฉินพูดอย่างยากลำบาก ผ่านไปสักพักถึงตั้งสติได้ “ผมก็แค่ตกใจมากไปหน่อย นึกไม่ถึงว่าทะ ท่านผู้นำตระกูลจะยังสอนคุณอิ๋งด้วย”

อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้ฝูซีมาได้ยินก็ต้องช็อก

“เอ๊ะ คุณชายฝูเฉินพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะครับ” ผู้อาวุโสใหญ่ทำสีหน้าคาดไม่ถึง “ผู้อาวุโสฝูซีมีจิตใจเมตตา พอเจอเด็กรุ่นหลังที่เก่งๆ ก็ต้องสอนสั่งเป็นธรรมดา นี่เป็นเรื่องดี คุณชายจะหวงผู้อาวุโสฝูซีไว้คนเดียวได้ยังไงครับ”

ฝูเฉินเช็ดเหงื่อ “ใช่ครับใช่”

“ตอนนี้ผมจะไปเชิญท่านเงามาจากศาลสถิตยุติธรรม” ผู้อาวุโสใหญ่สีหน้าเคร่งขรึม “ฮู่ฝ่าซ้ายขวาของศาลสถิตยุติธรรมออกโรงจะต้องจับชิวมั่นได้แน่ ส่วนแพทย์ผิดจรรยาบรรณพันกว่าคนที่เป็นลูกน้องชิวมั่นก็ต้องรับการลงโทษ!”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า ไม่ได้ห้ามเขา

เธอเดินออกจากประตู

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

อีกด้านหนึ่ง

ชิวมั่นขึ้นไปบนเขาลูกโดด หาที่เงียบๆ นั่งลง

สีหน้าเย็นชา มองมือตัวเองที่เต็มไปด้วยริ้วสีดำแล้วหัวเราะ

มือข้างหนึ่งของชิวมั่นฝังเข็มทองสามเล่มบนแขนตัวเอง มืออีกข้างก็ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา

ในสมุดโทรศัพท์มีอยู่เบอร์เดียว เบอร์นั้นไม่สอดคล้องกับรูปแบบเบอร์ของประเทศไหนทั้งนั้น

สัญญาณรอสายดังอยู่ห้าครั้งถึงมีคนกดรับ

ชิวมั่นกระแอมหนึ่งที “ฮัลโหล ฉันเองค่ะ ชิวมั่น ฉันถูกจับได้แล้ว ต้องการกำลังเสริม”

พิษที่อิ๋งจื่อจินอาบไว้บนป้ายแทนตัว เธอไม่เคยพบเจอจริงๆ

ชิวมั่นก็คาดไม่ถึงว่าจะยังมีอัจฉริยะที่เก่งกว่าเธอด้วย

“ถูกจับได้เหรอ” ปลายสายคาดไม่ถึง “ร้อยปีแล้วที่คุณไม่ถูกจับได้ ทำไมอยู่ๆ วันนี้ก็ถูกจับได้ล่ะ”

“ฉันยอมรับว่าตัวเองวางแผนไม่รอบคอบ ถูกคนหาช่องโหว่ได้” ชิวมั่นสูดลมหายใจเข้าลึก แสยะยิ้ม “เป้าหมายของพวกคุณไม่ใช่โลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธ์เหรอคะ”

“ถ้าฉันตายไป พวกคุณก็จะแทรกซึมเข้ามาไม่ได้ หาหุ่นเชิดตัวใหม่ก็ยากยิ่งกว่า”

ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ “ก็ได้ แต่คุณต้องรอสักระยะ”

“ช่วงนี้ออกจากเมืองค่อนข้างลำบาก พวกเราต้องไปขอบัตรผ่านใหม่ เร็วสุดก็อีกสามวัน”

“ได้ค่ะ” ชิวมั่นใจเย็นลง “พวกคุณเร็วหน่อย อีกสามวันฉันต้องมีตัวตนใหม่”

“ฉันรู้ว่าเทคโนโลยีตัดต่อยีนของพวกคุณก้าวหน้ามาก สามารถสร้างคนที่ดีเอ็นเอเหมือนฉันได้ พวกเขาก็สืบไม่พบ”

บทสนทนาจบลง

ชิวมั่นกัดฟัน อดทนต่อความเจ็บปวดบนร่างกาย

จะตายอยู่ที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด

โลกแพทย์แผนโบราณมันจะสักแค่ไหน

เป้าหมายของเธอไม่เคยเป็นที่นี่อยู่แล้ว

เธอต้องการเข้าไปอยู่ในที่ที่เทคโนโลยีก้าวหน้ากว่า

เมืองนั้นเป็นสถานที่ที่มวลมนุษยชาติใฝ่ฝัน

ชิวมั่นนั่งพักอยู่สักพักแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นเดินต่อ

เธอได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกเหมย แต่ไม่ได้สงสัยว่ามันคืออะไร

ชิวมั่นเดินไปจนกระทั่งถึงอาณาเขตของตระกูลฝู ปลอมตัวแล้วไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

สถานที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด

เธอเพิ่งสั่งอาหารเสร็จ พอหันไปสีหน้าก็ชะงัก

อิ๋งจื่อจินยืนพิงประตู เชิดหน้าขึ้น “หนีอีกสิ”

“อิ๋งจื่อจิน เก่งจริงนะ” ชิวมั่นแสยะยิ้ม ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจแล้ว “ยาแบบนี้เธอก็อุตส่าห์คิดออกมาได้ ยังจะมีอะไรที่เธอทำไม่เป็นอีก”

เธอไม่หนีแล้ว ลุกขึ้นยืน “ฉันนี่โง่จริงๆ เธอเป็นแค่แพทย์แผนโบราณ ฉันฆ่าเธอก็ง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย!”

ชิวมั่นยกมือจะปล่อยกำลังภายในไปทางอิ๋งจื่อจิน

อิ๋งจื่อจินมองชิวมั่นด้วยสีหน้าเรียบเฉย

เวลานี้มีเสียงเย็นชาพูดขึ้น

“ชิวมั่น คู่ต่อสู้ของเธอคือฉัน”

ชิวมั่นหยุดชะงัก เงยหน้าขึ้น

ฝูซีเดินเข้ามา แววตาอาฆาต

เธอต้องจัดการตัวบงการแพทย์ผิดจรรยาบรรณอย่างชิวมั่นด้วยตัวเอง

ลูกศิษย์คนโปรดที่สุดของเธอต้องตายไปแบบนั้น

“คุณเองเหรอ” ชิวมั่นยังคงอวดดี “คุณเองก็เป็นแค่แพทย์แผนโบราณ อยากสู้กับฉันเหรอ”

“ตอนนั้นคุณรับเฟิ่งหลานเป็นศิษย์ ไม่รับฉัน นึกเสียใจไหมล่ะ”

เธอฆ่าเฟิ่งหลานก็เพราะฝูซีตาบอดไม่เห็นค่าเธอ

ทั้งๆ ที่เธอต่างหากที่เก่งกว่า แต่ฝูซีกลับไม่รับเธอเป็นลูกศิษย์

ทั่วทั้งโลกจอมยุทธ์กับโลกแพทย์แผนโบราณ คนที่เป็นทั้งจอมยุทธ์และแพทย์แผนโบราณอย่างเธอจะมีอยู่สักกี่คน

ฝูซีไม่พูดอะไรอีก แต่เริ่มขยับแล้ว

พลังลมปราณที่หนักหน่วงถูกปล่อยออกไป ความน่ากลัวเพิ่มเป็นทวีคูณ

คนอื่นๆ ภายในร้านถูกต้อนออกไปหมดแล้ว

“ฝูซี คุณ…” ชิวมั่นตะลึงหนัก ร้องเสียงหลง “คุณก็เป็นทั้งแพทย์แผนโบราณและจอมยุทธ์เหมือนกันเหรอ!”

เป็นไปได้ยังไง

ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนเรื่องที่ฝูซีเป็นจอมยุทธ์

อีกทั้งเธอก็เคยเจอฝูซีหลายครั้ง มองไม่ออกเลยว่าฝูซีมีกำลังภายในอยู่ในร่างกาย

เธอยังไม่ทันหายช็อกเรื่องฝูซีมีวรยุทธ์ก็เห็นฝูซีทำท่าคารวะอิ๋งจื่อจินอย่างนอบน้อม

“อาจารย์ถอยไปก่อน เรื่องนี้ไม่ต้องเปลืองแรงอาจารย์ค่ะ”

ชิวมั่นเงยหน้าขึ้นทันที รู้สึกเหลือเชื่อ “เธอเป็นอาจารย์ของฝูซีเหรอ!”

สมาพันธ์โอสถบันทึกอายุของอิ๋งจื่อจินไว้อย่างชัดเจน

ปีนี้เพิ่งอายุสิบเก้า แล้วจะกลายเป็นแพทย์แผนโบราณอันดับหนึ่งในตำนานได้ยังไง!

“ได้” อิ๋งจื่อจินไม่ปฏิเสธ ถอยหลังหนึ่งก้าว “เธอล้างแค้นไป”

ฝูซีเริ่มขยับขึ้นหน้าทีละก้าว “ฉันไม่เลือกเธอ ไม่เคยนึกเสียใจ เรื่องเดียวที่ฉันเสียใจก็คือ ฉันไม่ได้ปกป้องเฟิ่งหลานให้ดี”

ชิวมั่นลนลานอย่างสิ้นเชิงแล้ว

แต่เธอก็ถอยไปไหนไม่ได้

ฝูซีมีวรยุทธ์สองร้อยกว่าปี ชิวมั่นเป็นปรมาจารย์จอมยุทธ์ก็จริง แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้แน่นอน

ชิวมั่นถูกจัดการโดยไม่ได้แม้แต่จะสู้กลับ

ฝูซีผนึกลมปราณของชิวมั่นไว้อย่างง่ายดาย ตัดเส้นประสาทของเธอ เพื่อไม่ให้เคลื่อนไหวได้อีก

บนพื้นมีโทรศัพท์มือถือสีดำตกอยู่เครื่องหนึ่ง

แววตาของอิ๋งจื่อจินเปลี่ยนไปทันที

เธอเก็บมันขึ้นมาแล้วพลิกไปดูด้านหลัง

บนนั้นมีสัญลักษณ์รูปหัวกะโหลกสีดำฉีกยิ้ม ราวกับกำลังยิ้มเยาะ

“ดี ดีมาก มิน่าล่ะ” ชิวมั่นไออย่างรุนแรง กระอักเลือดหลายครั้ง แววตาดุดัน “มิน่าเธอถึงได้รักษากับปรุงยาพิษเก่งขนาดนั้น ที่แท้ก็เป็นอาจารย์ของฝูซี!”

เธอได้ยินมาว่าฝูซีตามหาอาจารย์อยู่ตลอด ถึงได้รู้ว่าเหนือฝูซีขึ้นไปยังมีแพทย์แผนโบราณที่เก่งยิ่งกว่า

“คุณใช่ไหมที่ให้คนปลอมตัวเป็นฉัน” อิ๋งจื่อจินค่อยๆ นั่งลง ให้ชิวมั่นดูสัญลักษณ์หัวกะโหลกสีดำ “คนพวกนั้นให้คุณทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร”

เธอคาดไม่ถึงยิ่งกว่าว่า ชิวมั่นจะเกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์หัวกะโหลกสีดำนั่นด้วย

ชิวมั่นแสยะยิ้ม “เธอพูดอะไรน่ะ ฉันเนี่ยนะให้คนปลอมเป็นเธอ ไม่ดูตัวเองเสียบ้างว่ามีค่านักเหรอ”

เธอดูถูก “แต่ฉันเคยส่งคนไปปลอมตัวเป็นคนคนหนึ่ง เขาเป็นนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งมีชีวิตอยู่มาแล้วอย่างน้อยสี่ร้อยปี เขาต่างหากที่ปรุงยาพิษเก่งอันดับหนึ่ง”

“ใช่ เธอเก่งมาก แพทย์แผนโบราณอันดับหนึ่งเชียวนะ เก่งขนาดนี้ ฉันสู้เธอไม่ได้ แต่เธอก็สู้เขาไม่ได้เหมือนกัน โมโหมากใช่ไหมล่ะ”

อิ๋งจื่อจินมองชิวมั่นเงียบๆ “ฉันคือนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท