คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 619 เสียใจอย่างสุดซึ้ง เจ็บหน้า เทียบกันไม่ได้

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 619 เสียใจอย่างสุดซึ้ง เจ็บหน้า เทียบกันไม่ได้

เจียงหรานมีสีหน้าตกใจ “พะ…พ่ออิ๋ง กลับมาแล้วเหรอ”

ไม่รู้ทำไม ทุกครั้งที่เขาเห็นอิ๋งจื่อจินจะรู้สึกปลอดภัยมาก

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา ไม่พูดอะไร

แต่ความหมายชัดเจนมาก

ทำไมนายยังไม่ถูกขังอีก

เจียงหราน “…”

นายใหญ่ฝานถูกขัดจังหวะก็โมโหมาก

เขามองอิ๋งจื่อจิน สีหน้าบึ้งตึง “เธอเป็นใครอีกล่ะ”

ไม่ใช่แค่นายใหญ่ฝาน แม้แต่คณะผู้อาวุโสของตระกูลหลิงก็เพิ่งเจออิ๋งจื่อจินอย่างเป็นทางการครั้งแรกเหมือนกัน

ภาพเหมือนของอิ๋งจื่อจินถูกฟู่อวิ๋นเซินสั่งเก็บไปนานแล้ว ไม่มีตระกูลไหนจะเก็บซ่อนไว้ได้

แต่หน้าตาของเธอก็โดดเด่นเหลือเกิน

ผู้อาวุโสใหญ่มองอยู่สักพัก ทันใดนั้นก็นึกถึงข่าวลือในช่วงหลายวันนั้น

อิ๋งจื่อจิน อันดับหนึ่งในรุ่นหนุ่มสาวของโลกแพทย์แผนโบราณ

ฝีมือการรักษาล้ำเลิศ ทั้งยังหน้าตาดี

อยู่ต่อหน้าเธอ แม้แต่เซี่ยเนี่ยนก็ยังหม่นหมอง

หรือว่า…

“ทะ…คุณอิ๋ง!” ฝูเฉินดวงตาเป็นประกาย “ผมมาอยู่บ้านตระกูลหลิงเกือบวันแล้ว ในที่สุดก็ได้เจอคุณ”

“อืม” อิ๋งจื่อจินตอบ “นายไม่ได้มานอนเหรอ”

ฝูเฉิน “…”

ในที่สุดเวลานี้ผู้อาวุโสใหญ่ก็หาเสียงของตัวเองเจอ

เขาเดินขึ้นหน้า พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงท่านนี้ใช่คุณอิ๋งจื่อจินไหมครับ”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้าเล็กน้อย ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เกรงใจเกินไปแล้วค่ะ”

ผู้อาวุโสใหญ่ตกใจ “ใช่คุณอิ๋งจริงด้วย ตระกูลหลิงเสียมารยาทที่ไม่ได้ต้อนรับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “ไม่ได้มาเพื่อตระกูลหลิง ไม่ต้องต้อนรับค่ะ”

ผู้อาวุโสใหญ่อึ้ง

เขาย่อมเข้าใจความหมายของอิ๋งจื่อจิน

ไม่ได้มาเพื่อตระกูลหลิง มาเพื่อสายของหลิงฉงโหลว

มีอิ๋งจื่อจินอยู่ ตำแหน่งนายใหญ่ของหลิงฉงโหลวก็ไม่มีทางสั่นคลอน

นายใหญ่ฝานรู้สึกเหลือเชื่อ “เธอ เธอก็คืออิ๋งจื่อจินเหรอ!”

นับตั้งแต่ชื่อของอิ๋งจื่อจินโด่งดังมาถึงโลกจอมยุทธ์ หลายตระกูลก็อยากเข้าหาเธอ

ตระกูลฝานก็เช่นกัน

ขอเพียงแต่ผูกมิตรกับอิ๋งจื่อจินได้ ยังจะต้องกลุ้มเรื่องไม่มีแพทย์แผนโบราณอีกเหรอ

แต่ตระกูลหลิงรู้จักกับอิ๋งจื่อจินได้ยังไง ทั้งยังทำให้อิ๋งจื่อจินช่วยเชิญแพทย์แผนโบราณมาได้ด้วย!

สมองของนายใหญ่ฝานตื้อไปหมด ชักเริ่มยืนไม่มั่นคง

“ยังไม่ถึงกับต้องให้นายใหญ่ฝานมายุ่งเรื่องตระกูลฝูกับสำนักเทียนอี” อิ๋งจื่อจินหันไปพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ตระกูลหลิงจะมีแพทย์แผนโบราณ แต่ตระกูลฝานจะไม่มีแล้ว”

นายใหญ่ฝานยืนตัวแข็ง สับสนไปหมด

ชั่วขณะนั้นความรู้สึกที่เรียกว่านึกเสียใจได้ปกคลุมหัวใจของเขา

แทบหายใจไม่ออก

นายใหญ่ฝานอ้าปากพูด “คุณจื่อจิน ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น ผม…”

“ไม่สนหรอกว่าหมายความยังไง แกถึงกับมาบีบบังคับด้วยตัวเอง มียางอายหน่อยสิ” เจียงหรานโมโห “คนคุ้มกัน ไล่ตาแก่นี่ออกไป!”

ตอนนี้สถานะของหลิงฉงโหลวกับเจียงหรานในตระกูลหลิงไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

คนคุ้มกันก็ไม่รอฟังความเห็นของผู้อาวุโสใหญ่ ตรงเข้าไปจับตัวนายใหญ่ฝานไว้แล้วบังคับลากตัวออกไป

แพทย์แผนโบราณสามคนที่คราวก่อนนายใหญ่ฝานให้พ่อบ้านพามาด้วยก็กลับสำนักเทียนอีแล้ว

พวกเขาไม่มีเยื่อใยต่อตระกูลฝานแม้แต่น้อย ก็แค่เคยร่วมงานกันเท่านั้น

ในสายตาของพวกเขา สถานะของอิ๋งจื่อจินย่อมสูงกว่า

ผู้อาวุโสใหญ่มองตามหลังอิ๋งจื่อจิน “นายรู้จักคุณอิ๋งได้ยังไง ทำไมตั้งนานไม่พูด”

“หา?” เจียงหรานงง “ผมเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเพื่อนมอปลายของผมเก่งมาก เธอก็คือหนึ่งในนั้น”

ผู้อาวุโสใหญ่พูดไม่ออก

เดิมทีเขาคิดว่าเพื่อนมัธยมที่ว่าก็คือพวกคนธรรมดาในโลกปุถุชน

ต่อให้คนธรรมดาเก่งแค่ไหนจะเก่งได้เท่าไหนกันเชียว

ตอนนี้แค่เรื่องที่เจียงหรานสนิทกับอิ๋งจื่อจินก็อุดปากทุกคนในตระกูลหลิงได้แล้ว

ผู้อาวุโสใหญ่มีสีหน้าสับสน

ไม่มีใครคาดคิดว่าตระกูลหลิงจะมีวันนี้

ภายในห้อง

อิ๋งจื่อจินกอดหมอนข้างขึ้นเตียง มองผู้ชายที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ “ทำอะไรอยู่”

“จองตั๋วเครื่องบินไปยุโรปเดือนหน้า โรงแรมก็จองแล้ว อืม…” ฟู่อวิ๋นเซินหยุดเล็กน้อย “หมอนข้างเท่าตัวคนก็มี แล้วก็มีของหวานอร่อยๆ ด้วย”

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “ผู้บัญชาการ บอกมาเถอะ รอบคอบขนาดนี้มีแผนอะไร”

“มีแผนจริงๆ” ฟู่อวิ๋นเซินเดินเข้ามา มือข้างหนึ่งยันบนเตียง ก้มศีรษะลง “ไปร่วมงานเต้นรำภายในของวีนัสกรุ๊ปด้วยกันหน่อยเป็นไง”

แสงไฟสะท้อนแววตาของเขา เจือด้วยความอ่อนโยน

อิ๋งจื่อจินหลบสายตาของเขา “เอาสิแฟนหนุ่ม”

ฟู่อวิ๋นเซินหยิกแก้มเธอ หัวเราะเบาๆ “แฟนผมใจดีจริงๆ”

ก็พอดี เขาไม่อยากไปอยู่รวมกับพวกหมาโสดอย่างเอียน

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้

ฟู่อวิ๋นเซินหันมอง จากนั้นก็หยิบคอมพิวเตอร์ขึ้นมา “เยาเยา พักผ่อนไปก่อนนะ เดี๋ยวมา”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ระวังตัวด้วย”

ฟู่อวิ๋นเซินเดินออกไปถึงสวนกลางแจ้งด้านหลังถึงกดรับ “ฮัลโหล”

ปลายสายคือบาร์เทนเดอร์

“คือแบบนี้ มีภารกิจหนึ่ง เป็นภารกิจลับ โพสต์ผ่านทางเว็บบอร์ดเอ็นโอเค ส่งเข้ากล่องข้อความโดยตรง แต่มีแค่นักล่าที่อยู่ห้าสิบอันดับแรกเท่านั้นที่ได้รับ” บาร์เทนเดอร์พูดเสียงเบา “ฉันก็เลยได้ยินมาจากโลกใต้ดินอีกที นายรับไหม เป้าหมายคือเด็กผู้หญิงอายุหกขวบ พันล้านดอลลาร์”

“นายป่วยเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินหยุดเล็กน้อย “หรือว่าสติฟั่นเฟือนไปแล้ว”

“สองอย่างนี้มันต่างกันเหรอ ไม่ใช่สิ ฉันจริงจังนะ” บาร์เทนเดอร์เกือบมึน “ฉันรู้ว่างานที่นายรับ แต่ไหนแต่ไรมาเป้าหมายคือนักโทษ หรือไม่ก็พวกชนชั้นสูงอย่างตระกูลแพชช์ คนพวกนั้นชื่อเสียงฉาวโฉ่ ไม่ต้องคิดมากอะไร”

“แต่ภารกิจนี้ก็พันล้านดอลลาร์ ครึ่งหนึ่งของนายเลยไม่ใช่เหรอ ไหนนายบอกว่าอยากได้เงินไปซื้อลูกอมให้เด็กน้อยที่บ้านกิน”

ฟู่อวิ๋นเซินหลุบตาลง “พันล้านดอลลาร์ ให้ฉันไปฆ่าเด็กผู้หญิง ศีลธรรมล่ะ”

บาร์เทนเดอร์พูดไม่ออก

ก็จริง

ฆ่าเด็กมันโหดร้ายเกินไป

แต่พันล้านดอลลาร์ก็ชวนให้หวั่นไหวได้ง่ายๆ

เท่าที่เขารู้ นักล่าที่รับภารกิจนี้ทะลุร้อยคนไปแล้ว

ค่าหัวเท่านี้ตัวเลขเท่าของฟู่อวิ๋นเซินเมื่อสองปีก่อน ราคาสูงทะลุเพดาน

ขนาดภารกิจล่าค่าหัวเดวิลที่เป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งยังมีนักล่าอันดับต้นๆ กล้ารับไปสิบกว่าคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงภารกิจนี้เลย

ความยากของการฆ่าเดวิลนักฆ่าอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับเด็กผู้หญิงคนเดียว ใครต่างก็รู้ว่าคนหลังง่ายกว่า เงินก็มาเร็ว

และก็ไม่มีนักล่าคนไหนสนว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ ไปทำใครโกรธมา

ก็แค่รับจ้างได้เงินจบๆ กันไป

ฟู่อวิ๋นเซินถาม “ใครส่งภารกิจนี้”

“เป็นภารกิจนิรนาม ไม่แน่ใจ แต่เงินหนามาก” บาร์เทนเดอร์คิดแล้วลองพูดออกไป “ฉันว่านิสัยชอบเอาเงินฟาดหัวแบบนี้ ถ้าไม่ใช่วีนัสกรุ๊ปก็ตระกูลลอเรนท์”

“นายก็ถือเป็นคนระดับสูงของวีนัสกรุ๊ปไม่ใช่เหรอ นี่อาจเป็นศัตรูที่ซีอีโอของพวกนายอยากฆ่าก็ได้ ถึงได้ตั้งภารกิจค่าหัวพันล้านดอลลาร์”

ฟู่อวิ๋นเซินขี้เกียจคุยด้วยแล้ว “วางละ”

คิดว่าเขาว่างนักเหรอ จะให้ไปฆ่าเด็กผู้หญิง

แต่คำพูดของบาร์เทนเดอร์ก็ได้เตือนสติเขา เขาเองก็อยากรู้ว่าคนส่งภารกิจนี้คือใคร

ฟู่อวิ๋นเซินเข้าเว็บบอร์ดเอ็นโอเคแล้วล็อกอินด้วยแอคเคาท์เดวิล และก็พบภารกิจในกล่องจดหมายตามคาด

นอกจากตัวเลขเงินรางวัลแล้วยังมีรูปอีกหนึ่งรูป

รูปนี้เป็นภาพด้านหลัง

ไม่มีอะไรโดดเด่นนอกจากเสื้อผ้า

นี่ไม่เท่ากับต้องไปจับมั่วเหรอ

คิ้วของฟู่อวิ๋นเซินขยับเล็กน้อย

ด้านล่างของรูปมีตัวหนังสือสีทอง เป็นชื่อ

ซีนาย เรนเกล

ฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปหลายวินาที จากนั้นก็ใส่โค้ดลงไป

สิบกว่าวินาทีผ่านไปก็มีหน้าต่างเด้งขึ้นมา

[สัญญาณหายสาบสูญ]

ใช่ว่าจะแฮกที่อยู่ไอพีของคนที่ส่งภารกิจนิรนามนี้ไม่ได้ แต่ไอพีนี้ได้หายสาบสูญไปแล้ว

หรือไม่ก็ถูกปิดกั้นอย่างสิ้นเชิง

โลกจอมยุทธ์ก็มีอะไรที่คล้ายกันแบบนี้ เพราะโลกจอมยุทธ์เป็นพื้นที่เอกเทศ

ตราบใดที่สถานที่แบบนี้ปิดกั้นอย่างสิ้นเชิง ต่อให้มีตัวส่งสัญญาณก็ไม่มีประโยชน์

แววตาของฟู่อวิ๋นเซินเริ่มขรึมลง

ดูท่าจะเกี่ยวข้องกับสถานที่ลึกลับแห่งนั้นอีกแล้ว

เรนเกล

เขาจดจำชื่อนี้เอาไว้แล้วปิดคอมพิวเตอร์

บ้านตระกูลฝาน

วันนั้นนายใหญ่ฝานช็อกมากที่บ้านตระกูลหลิง กลับบ้านตัวเองด้วยสภาพไม่เหลือเกียรติ ยังอดขวัญผวาไม่ได้

เขารออยู่สองวันด้วยความหวาดหวั่น เห็นแพทย์แผนโบราณของตระกูลฝานไม่มีผิดปกติอะไร ยังคงพักอยู่ในบ้านตระกูลฝานอย่างเงียบๆ ออกไปรักษาคน เขาถึงได้วางใจ

แต่เช้าวันนี้ แพทย์แผนโบราณของตระกูลฝานก็ทยอยร่ำลาโดยที่เขายังไม่ทันตั้งตัว

ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว

นายใหญ่ฝานสังหรณ์ใจไม่ดี ขณะที่กำลังจะรีบไปหาคณะผู้อาวุโส

ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็มีชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามา

ยกมือตบหน้านายใหญ่ฝาน “สารเลว!”

นายใหญ่ฝานล้มหน้าคว่ำ กระอักเลือดพรวด ใบหน้าซีดลง “ทะ ท่านผู้นำตระกูล…”

แย่แล้ว เรื่องนี้สะเทือนไปถึงรุ่นผู้นำตระกูลที่ปกติปลีกวิเวกแล้วเหรอ!

“ก่อนจะลงมือกับตระกูลหลิงเคยคิดให้ดีก่อนหรือเปล่า หา?” ชายชราโมโหมาก “ตระกูลหลิงสนิทกับอิ๋งจื่อจิน เรื่องใหญ่ขนาดนี้พวกนายไม่รู้เหรอ”

นายใหญ่ฝานไม่กล้าเงยหน้า พูดเสียงสั่น “ท่านผู้นำตระกูล ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ได้สืบนะครับ แต่พวกเราไม่คาดคิดว่าจะเป็นอิ๋งจื่อจินที่คุณชายน้อยตระกูลหลิงรู้จักในโลกปุถุชน”

ใครจะอยู่ว่างๆ ไปนั่งสืบเรื่องของโลกปุถุชนล่ะ

“นี่ไม่ใช่เหตุผล!” ชายชราตวาดใส่ “ตอนนี้ตระกูลฝานของฉันไม่มีแพทย์แผนโบราณแล้ว จะทำยังไง”

หากไม่มีแพทย์แผนโบราณ ศักยภาพโดยรวมของตระกูลจอมยุทธ์ก็จะหายไปกว่าครึ่ง

ตระกูลใหญ่อื่นๆ กำลังหัวเราะเยาะตระกูลฝาน

นายใหญ่ฝานตัวสั่น คำนับไม่หยุด “ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตผมด้วย!”

ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลฝานเดินเข้ามา สีหน้าก็แย่มากเหมือนกัน

เขาครุ่นคิดอยู่นานแล้วพูดขึ้น “อิ๋งจื่อจินคนนั้นก็ไม่มีทางมีอำนาจล้นฟ้าในโลกแพทย์แผนโบราณ”

“ท่านผู้นำตระกูล เอาแบบนี้ พวกเราไปบ้านตระกูลหลิน หอบเงินไปขอร้องคุณชิงจยา อาศัยเส้นสายของเธอในสำนักเทียนอี เธอจะต้องช่วยเชิญแพทย์แผนโบราณมาให้พวกเราได้แน่ครับ”

อิ๋งจื่อจินเป็นแค่แพทย์แผนโบราณ

แต่หลินชิงจยาเป็นทั้งจอมยุทธ์และแพทย์แผนโบราณ

ยังมีความแตกต่างกันอยู่

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท