คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 659 พ่ออิ๋งออกโรง เผยตัวตนเป็นการเตือน

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 659 พ่ออิ๋งออกโรง เผยตัวตนเป็นการเตือน

บอดี้การ์ดสิบกว่าคนเดินขึ้นหน้าเพื่อกดดัน

อิ๋งจื่อจินหันไปมอง เห็นกล้องวงจรปิดที่อยู่ข้างทางถูกทำลายหมดแล้ว

เธอหลุบตาลงเล็กน้อย

ดีมาก

ไม่มีทางทิ้งร่องรอยไว้

“คุณอิ๋ง ถ้าพวกเขาลงมือไม่มียั้งมือนะครับ” ผู้ช่วยพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ “แน่นอนว่าถ้าคุณเลือกถอนตัวออกจากโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลตอนนี้แล้วมาเข้าร่วมห้องทดลองของศาสตราจารย์มานูเอล พวกเราก็ยังจะพูดคุยกันดีๆ ได้”

“คุณน่าจะรู้นะครับว่า ถ้าคุณร่วมทำโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลกับเกอร์เวนต่อ คนของเมืองแห่งโลกก็จะมาฆ่าคุณ”

“ไม่จำเป็น” อิ๋งจื่อจินยกมือหยิบยางมัดผม “พวกคุณนี่มันน่ารำคาญจริงๆ”

ผู้ช่วยขมวดคิ้ว ยังไม่ทันจะทำอะไรก็รู้สึกตาลาย

มีเสียงของหนักกระแทกพื้นดังอยู่ใกล้ๆ หู เสียงดังอย่างต่อเนื่อง

“ตุบ!”

“พลั่กๆ!”

ในเวลาไม่ถึงสามสิบวินาที บอดี้การ์ดสิบกว่าคนก็ถูกจัดการเรียบ

ผู้ช่วยตะลึงตาค้าง แข้งขาอ่อนแรง

เขามองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตื่นตระหนก เส้นประสาทในร่างกายทำงานแปรปรวนในชั่วขณะ ทรุดลงคุกเข่า

สมองของผู้ช่วยราวกับหยุดทำงาน

อิ๋งจื่อจินเป็นนักวิจัยวิทยาศาสตร์ ทำไมถึงได้ต่อสู้เก่งขนาดนี้!

พวกบอดี้การ์ดที่เขาพามาต่างโด๊ปยาต้องห้ามกันทั้งนั้น ความแข็งแรงของร่างกายเทียบได้กับทหารรับจ้างระดับเอส

แต่ถูกล้มได้ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ

ผู้ช่วยตัวสั่นเงยหน้าขึ้น

อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “รู้จักเมืองเซิ่งซ่าหรือเปล่า”

ผู้ช่วยสีหน้าเปลี่ยน ร้องเสียงหลง “คุณเองเหรอ!”

ตอนนั้นตระกูลเทเลอร์จ้างนักฆ่าจำนวนหนึ่งให้ไปลอบฆ่าผู้ช่วยของเกอร์เวนที่เมืองเซิ่งซ่า

แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ กลับถูกจอมยุทธ์หญิงคนหนึ่งเก็บด้วยซ้ำ

หลังจากที่ตระกูลเทเลอร์เทียบข้อมูลกับในคลังข้อมูล คิดว่าเป็นสมาชิกสายตรงของตระกูลในโลกจอมยุทธ์อย่างหลิน เซี่ย เย่ว์ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครตรงกับข้อมูล

นี่เป็นปริศนา

“ฉลาดจริงๆ” แววตาของอิ๋งจื่อจินเย็นชา “สายไปแล้ว”

ผู้ช่วยกัดฟัน ทันใดนั้นเขาได้ล้วงขวดขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วปาไปที่อิ๋งจื่อจิน

“เปร๊าะ!”

เสียงดังชัดเจน เป็นเสียงกระดูกหัก

ในขณะเดียวกันขวดสารเคมีก็ถูกอิ๋งจื่อจินคว้าไว้ได้

แต่มีสองหยดที่ซึมออกจากปากขวด หยดลงบนมือขวาของผู้ช่วย

ผู้ช่วยร้องเหมือนจะขาดใจ “มือฉัน! มือฉัน!”

เขาจ้องมือขวาของตัวเองที่ถูกกัดกร่อนเนื้อหนังและกระดูก ค่อยๆ หายไปทีละนิด

นี่เป็นสารพิษอีกตัวที่ห้องทดลองคิดค้นขึ้นมาได้ใหม่ มีชื่อที่เรียกแบบง่ายๆ ว่ายาอันตรธาน

แค่สิบมิลลิลิตรก็สามารถทำให้คนเป็นสูญสลายหายไปหมดได้ อีกทั้งไม่เหลือร่องรอยใดๆ เอาไว้เลย

“ยาพิษแค่นี้เหรอ” อิ๋งจื่อจินนั่งยอง หยิบขวดยาขึ้นมาตบหน้าเขาเบาๆ แสยะยิ้ม “คุณอาจไม่รู้ เมื่อสองศตวรรษก่อนก็มียาพิษที่ฤทธิ์รุนแรงและหลบซ่อนเก่งกว่านี้สิบเท่าแล้ว”

นักปรุงยาพิษส่วนใหญ่มีนิสัยพิลึก ชอบปรุงยาพิษขึ้นมาเอง แต่ไม่มีทางสร้างห้องทดลองอะไร

นักปรุงยาพิษสิบอันดับแรกของเว็บบอร์ดเอ็นโอเค แต่ละคนสร้างผลงานในด้านชีวะเคมีไม่น้อยไปกว่ามานูเอล

ก็แค่การใช้ชีวิตของนักปรุงยาพิษกับคนธรรมดาทั่วไปห่างไกลกันเยอะมาก หลายคนเลยไม่รู้

ถึงแม้มานูเอลกับผู้ช่วยของเขาจะมีแอคเคาท์ของเว็บบอร์ดเอ็นโอเค ทั้งยังเป็นระดับเอ แต่พวกเขาก็ยังคงเข้าไม่ถึงพวกนักล่าสิบอันดับแรกของชาร์ต

สมองของผู้ช่วยตื้อไปหมด ร่างกายแข็งทื่อ

ทุกอย่างที่ประสบในวันนี้ล้วนเกินกว่าที่เขาจะรับไหว ทำให้เขารับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

อิ๋งจื่อจินเอาขวดยาพิษยัดใส่กระเป๋า เหลือบมองคนที่อยู่บนพื้นแล้วล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา

“วาเลนส์” เธอบอกพิกัด “ส่งคนมาหน่อย งานเข้าแล้ว”

ถึงแม้ยาพิษพวกนี้ที่ห้องทดลองมานูเอลคิดค้นขึ้นมาได้จะไม่ติดแม้แต่สามสิบอันดับแรก แต่ฤทธิ์ก็รุนแรงมาก

ต้องจัดการให้เกลี้ยง

อิ๋งจื่อจินหาวออกมา งอเข่าพิงกำแพงรอ

วาเลนส์รีบร้อนมาจากสำนักงานไอบีไอประจำประเทศเจ แล้วก็เห็นภาพตรงหน้า

ผู้ชายรูปร่างบึกบึนสิบกว่าคนนอนกองอยู่บนพื้น ถูกจัดการราบคาบ

เขาแทบหยุดหายใจ อดเงยหน้ามองไม่ได้

คือ?

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าให้วาเลนส์เบาๆ สีหน้าใจเย็น “ฉันไปก่อนนะ”

อิ๋งจื่อจินสะพายกระเป๋าเป้แล้วเดินออกไป

ไม่กี่วินาทีถัดมาวาเลนส์ถึงตั้งสติได้ “พวกนาย เอาตัวพวกเขากลับไปขังไว้แล้วสอบสวนอย่างเข้มงวด”

ณ ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง

ริต้ามาถึงก่อนแล้ว กวักมือเรียกด้วยความดีใจ “ทางนี้ๆ”

อิ๋งจื่อจินเดินเข้าไปหาแล้วยื่นชานมให้

“เอ๋?” ริต้ามองเธอ “ทำไมอยู่ๆ เธอก็มัดผมล่ะ”

“เพิ่งชกต่อยมา” อิ๋งจื่อจินขยับข้อมือ “ปล่อยผมแล้วไม่ถนัด”

“ชกต่อยเหรอ” ริต้าตะลึง “ทำไมไม่เรียกฉันล่ะ”

“พวกอ่อนหัด ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย”

ริต้า “…”

เธอเกือบลืมไปว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเป็นถึงนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง

แค่ตวัดมือเดียวก็ตายเรียบได้

ยังดีที่ปกติอิ๋งจื่อจินไม่ได้ใส่ชุดดำแบบอาหรับ ไม่อย่างนั้นมีเหรอที่เธอจะกล้ามายืนอยู่ตรงนี้

ริต้ากระแอม “คนสวย พวกเราไปกันเถอะ”

อิ๋งจื่อจินเพิ่งยกเท้า ทันใดนั้นดวงตาหงส์กลับหรี่ลง “เดี๋ยวก่อน”

ริต้าหยุดมองด้วยความสงสัย “มีอะไรเหรอ”

อิ๋งจื่อจินหลับตากึ่งหนึ่ง หมอกขาวจางๆ ปกคลุมที่หางตา

ภาพในอนาคตค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้า

“ผู้บัญชาการ มีคนถือขวดยาพิษไปที่ตึกบริษัทของพวกคุณแล้ว” อิ๋งจื่อจินหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหา “น่าจะถึงตอนบ่ายสองโมงครึ่ง ขอนึกก่อน เขาใส่เสื้อสเวตเตอร์คอสูง สวมหมวกไหมพรม สีดำทั้งหมด”

วีนัสกรุ๊ปกับตระกูลลอเรนท์ร่วมมือกัน วันนี้เช้าฟู่อวิ๋นเซินก็เลยไปที่บริษัทเพื่อสะสางงาน

เขารับสาย สีหน้าชะงัก “ได้ เข้าใจแล้ว”

ซีซาร์ก็อยู่ด้วย เขาเงยหน้า “บอสโทรมาเหรอ”

“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินกดเบอร์ พิมพ์ข้อความแล้วกดส่ง

นี่เป็นการสื่อสารที่ใช้เฉพาะภายในของไอบีไอ

ซีซาร์ตื่นเต้น “บอสว่าไงเหรอ พูดถึงผมหรือเปล่า”

“หืม พูดถึง” ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น “เยาเยาบอกว่า เธอกำลังเดินเที่ยวอยู่กับคู่เต้นรำของนายเมื่อวาน จากนั้นก็กำลังเกลี้ยกล่อมว่าต่อไปถ้ามีโอกาสก็ให้เหยียบเท้านายเยอะๆ”

ซีซาร์ “?”

อีกด้านหนึ่ง

โยเซฟยังไม่รู้ว่าแผนของตัวเองถูกมองออกหมดแล้ว

เขาแต่งตัวอำพราง ถือขวดสารเคมีไปที่หน้าตึกสำนักงานใหญ่วีนัสกรุ๊ป

ในคำอธิบายวิธีการใช้บอกว่า แค่เปิดขวดออก ของเหลวที่อยู่ในนั้นก็จะทำงานอัตโนมัติ

แค่ขวดเดียวเพียงพอที่จะทำอันตรายคนได้ครึ่งตึก

ไร้สีไร้กลิ่น ไม่มีใครรู้สึกตัว

โยเซฟแสยะยิ้ม

เขาก็ไม่ได้อยากฆ่าคนหรอก ถ้าจะโทษต้องโทษฟู่อวิ๋นเซินที่ไม่เหลือทางรอดให้เขา

คนเราพอจนตรอกขึ้นมาก็ทำได้ทุกอย่าง

โยเซฟปะปนเข้าไปกับกลุ่มคนด้วยความระมัดระวังจนไปถึงทางเข้าห้องโถงของชั้นหนึ่ง

ไม่มีใครสังเกตเห็นเขาแม้แต่น้อย

บริเวณรอบๆ ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ที่ชั้นหนึ่ง

โยเซฟแอบดีใจ ค่อยๆ ล้วงขวดสารเคมีออกมากำลังจะปาลงพื้น

“พลั่ก!”

อยู่ๆ ก็มีแรงมหาศาลพุ่งมาจากด้านหลัง กดเขาลงบนพื้น

โยเซฟงุนงง ยังไม่ทันได้ตั้งสติก็ถูกแย่งขวดในมือไป

มีคนส่งเสียงกรีดร้องตรงทางเข้า

วาเลนส์อยู่ในชุดเครื่องแบบ ตรงหน้าอกมีอักษรไอบีไอที่เด่นสะดุดตา

ด้านหลังของเขามีทีมแม่นปืน ต่างเล็งปากกระบอกปืนไปที่โยเซฟ

โยเซฟอยากดิ้นขัดขืน แต่กลับถูกถีบอย่างแรง

เขางงหนักเข้าไปอีก

มันเรื่องอะไรกัน

“ทำตัวดีๆ!” วาเลนส์เหยียบหลังโยเซฟ “ผู้บัญชาการครับ จับคนร้ายได้แล้ว ยึดสารพิษมาได้แล้ว ขอคำชี้แนะด้วยครับ”

ฟังจบเขาก็พยักหน้า สีหน้าเคร่งเครียด “ได้ครับ ผมจะรอท่านมาสอบสวนด้วยตัวเอง”

ใช้สารพิษสร้างอันตรายให้คนหมู่มาก ต้องเข้าคุกสากลแน่นอนแล้ว

โยเซฟถูกเจ้าหน้าที่สืบค้นสองคนคุมตัวไว้ พาไปที่สำนักงานไอบีไอประจำประเทศเจ

ตอนเขาเห็นคำว่า ‘ไอบีไอ’ หัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ

เขายังไม่ทันได้ทำอะไร ทำไมไอบีไอถึงรู้ทันเขา

วาเลนส์จับโยเซฟมัดไว้กับเก้าอี้ แสยะยิ้ม “คุณโยเซฟ เก่งจริงๆ เลยนะครับ ถึงขั้นทำให้ผู้บัญชาการสูงสุดของพวกเราต้องออกโรง ผมควรแสดงความยินดีกับคุณหรือเปล่า”

โยเซฟหน้าซีด “ผะ…ผู้บัญชาการสูงสุดเหรอ”

ผู้บัญชาการสูงสุดของไอบีไอไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน พวกงานต่างๆ จะมีพวกคนระดับสูงอย่างเช่นประธานลิซิเนียสคอยสะสางให้

เขาก็แค่มีเจตนาฆ่าแต่ไม่สำเร็จ เมื่อเทียบกับพวกผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่ก่อการอุกอาจก็ยังเล็กน้อยมาก ควรค่าให้ผู้บัญชาการสูงสุดต้องลงมือด้วยเหรอ

โยเซฟตัวเย็นเฉียบ เขาลนลานสุดขีด “ผู้บัญชาการ ผมไม่ได้คิดฆ่าคน ในขวดนั้นมันคือน้ำ! ไม่มีอันตราย!”

ตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาทำความแตกตอนไหน

ประตูห้องสอบสวนถูกเปิดออกในเวลานี้

วาเลนส์สีหน้าเคร่งเครียด ทำความเคารพทันที “ผู้บัญชาการ!”

โยเซฟหดตัว เงยหน้ามองไป

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท