ตอนที่ 763 ผู้วิเศษเปลี่ยนภพ หัวใจจะระเบิดแล้ว
ฉินหลิงอวี๋ยิ่งหวาดระแวงมากกว่าเดิม “อีกฝ่ายเก่งมากเหรอ”
“พอไหว” อิ๋งจื่อจินหรี่ตาลงเล็กน้อย “ฝีมือน่าจะเทียบได้กับจอมยุทธ์ที่มีวรยุทธ์สองร้อยปี เธอไม่มีวรยุทธ์ กลับก่อน”
เมืองแห่งโลกไม่มีจอมยุทธ์
สามารถดัดแปลงขีดจำกัดของมนุษย์ได้ นอกจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุแล้วก็มีแค่พันธุวิศวกรรม
ฉินหลิงอวี๋ค่อยๆ กำมือแน่น
ตอนแรกสุดเธอคิดว่าการดัดแปลงพันธุกรรมของตัวเองล้มเหลว ถึงได้ถูกพ่อแม่ทิ้ง
แต่ในความเป็นจริง เธอก็แค่เด็กทารกที่คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์อาศัยยีนสร้างขึ้นมา เป็นตัวอ่อนที่เกิดจากตู้อันเย็นเฉียบ
ผลงานล้มเหลว
เธอเป็นผลงานการทดลองที่ล้มเหลว
สมควรตาย
ฉินหลิงอวี๋สูดลมหายใจเข้าลึก เชื่อฟังคำพูดของอิ๋งจื่อจิน รีบเดินกลับตามทางที่มา
อิ๋งจื่อจินหยิบหน้ากากที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์สามมิติขึ้นมาใส่
หน้ากากแนบเป็นเนื้อเดียวกับใบหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ
ใบหน้าของอิ๋งจื่อจินเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา
“ตึง ตึง!”
เสียงของหนักกระแทกพื้นดังขึ้น
เหนือศีรษะยังมีเสียงจากเฮลิคอปเตอร์
เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่เฮลิคอปเตอร์อยู่ในโหมดล่องหน ตอนนี้เพิ่งเปลี่ยนโหมด
อิ๋งจื่อจินขยับข้อมือ กวาดตามอง พยักหน้าเล็กน้อย “ห้าคน”
พอให้สนุกได้หลายวินาที
“เธอไม่ใช่ฉินหลิงอวี๋” หัวโจกอัศวินหยิบรูปถ่ายออกมาเทียบ พูดเสียงเย็นชา “อย่าเสียเวลากับเธอ ใครขวางกำจัดทิ้งให้หมด”
พอได้ยินแบบนี้อัศวินสองคนก็เดินขึ้นหน้าทันที
ในสายตาของพวกเขา ผู้หญิงอ่อนแอแค่คนเดียวไม่ต้องให้พวกเขาใช้แรงมากนัก
พวกเขาเป็นถึงอัศวินดัดแปลงพันธุกรรมระดับเอส
แต่ทว่าเรื่องเกิดเพียงชั่วขณะ
อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น เธอขยับตัว
โจมตีด้วยศอกอย่างเฉียบคมสองครั้ง พุ่งตรงเข้าอกซ้ายของอัศวินทั้งสอง
ปล่อยกำลังภายในทะลวงใส่ชีพจรหัวใจ
อัศวินสองคนดวงตาเบิกโพลง ร่างกายทรุดลงบนพื้น ไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้ลุกขึ้นมา
หัวโจกอัศวินตะลึง สีหน้าช็อกมาก
ชั่วขณะนั้นเขานึกถึงคนประเภทหนึ่ง เขาตะโกนออกมา “จอมยุทธ์ รีบ…”
ยังไม่ทันพูดคำว่า ‘ถอย’ อิ๋งจื่อจินก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
เธอออกท่าอย่างคล่องแคล่ว ไม่มีวาดลวดลายให้เสียเวลา แค่หมุนเท้าเตะธรรมดาๆ
“ผัวะ!”
หัวโจกอัศวินร่างกายอ่อนยวบ ล้มลงไปอีกคน
เขาเองก็ดวงตาเบิกโพลง ใบหน้ายังมีความรู้สึกเหลือเชื่อหลงเหลืออยู่
อิ๋งจื่อจินพูด “ไม่ได้เรื่อง”
เธอมองตัวจับเวลา
ไม่ถึงสิบวินาที
เธอยกมือขึ้น ยิงปืนใส่เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นที่อยู่เหนือศีรษะ
“ปัง!”
เฮลิคอปเตอร์กลายเป็นผุยผงภายใต้การโจมตีของเลเซอร์
อิ๋งจื่อจินย่อตัวนั่งลง หยิบกระสอบออกมาแล้วเตะอัศวินดัดแปลงพันธุกรรมห้าคนนี้เข้าไปอย่างใจเย็น
…
ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง
ฟู่อวิ๋นเซินพิงต้นไม้ กำลังมองรูปถ่ายที่หยิบจากซิวมา
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เงยหน้าขึ้น ดวงตาดอกท้อหรี่ลง
นิ้วเรียวยาวเอารูปถ่ายใส่ไว้ตรงปกคอเสื้อ
“เหล่าฟู่ เดี๋ยวก็กินข้าวได้แล้ว” ฉินหลิงเยี่ยนเดินเข้ามา “หึ ตาแก่นั่นจะให้ฉันเรียกเขาว่าปู่ด้วยนะ เฮอะ ฉันไม่เรียกหรอก เอาให้โมโหตายไปเลย”
ฟู่อวิ๋นเซินพูด “หมอบลง”
ฉินหลิงเยี่ยนงง “ว่าไงนะ”
ขณะที่เขาจะหันหน้าไป ทันใดนั้นก็ถูกถีบหัวทิ่มพื้น
“โอ๊ย!” ฉินหลิงเยี่ยนร้องด้วยความเจ็บปวด “เหล่าฟู่ อะไรวะเนี่ย หน้าฉัน!”
เขายังไม่ได้หาเมียเลยนะ
แต่ต่อมาฉินหลิงเยี่ยนก็หุบปาก
เขาเห็นผู้ชายใบหน้าหล่อเหลาจัดการอัศวินสิบคนที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ทั้งหมดล้มลงด้วยความเร็วแบบที่ฟ้าผ่ายังไม่ทันปิดหู
ฉินหลิงเยี่ยนตะลึง “โอ้โห!”
เขารู้ว่าฟู่อวิ๋นเซินฝีมือดีมาก แต่นึกไม่ถึงว่าจะเก่งถึงขั้นนี้
อัศวินดัดแปลงพันธุกรรมที่ฝีมือเทียบเท่าปรมาจารย์จอมยุทธ์ที่วรยุทธ์สองร้อยปียังไม่ทันได้สู้กลับเลย
“นายอยู่ที่นี่ก่อน” ฟู่อวิ๋นเซินพูดแค่นี้แล้วไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
เขาปล่อยกำลังภายในจากร่างกาย ใช้เวลาแค่สามวินาทีก็ไปถึงจุดที่ไกลออกไปหนึ่งร้อยเมตร
อิ๋งจื่อจินกำลังลากกระสอบที่บรรจุอัศวินดัดแปลงพันธุกรรมห้าคนเดินลง
เธอนี่มันเป็นลูกพี่ที่เยี่ยมมากจริงๆ หาร่างไปให้ลูกน้องชำแหละเล่นด้วย
พอเห็นเธอไม่เป็นอะไร หลังที่หดเกร็งของฟู่อวิ๋นเซินถึงผ่อนคลาย “กี่คน”
“แค่ห้าคนเอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่” อิ๋งจื่อจินโยนกระสอบให้เขา “มือยังไม่ทันร้อน คุณหอบลงไปแล้วกัน เดี๋ยวเอาไปให้นอร์ตัน”
ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบมอง ถือกระสอบไว้ มืออีกข้างก็จูงมืออิ๋งจื่อจิน บีบแน่น
อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “ผู้บัญชาการ ช่วงนี้เป็นโรคขาดแคลนการสัมผัสทางผิวหนังเหรอ”
“อืม เฉพาะกับเธอ”
“…”
อิ๋งจื่อจินเบือนหน้าหนี
สุดจะไร้ยางอาย
…
การโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่เงียบๆ ทำตกใจไปทั้งสมาพันธ์แฮกเกอร์
ประธานสมาพันธ์รีบมา พอเห็นว่าฉินหลิงเยี่ยนกับฉินหลิงอวี๋ไม่เป็นอะไรก็โล่งอก “ยังดีๆ”
ฉินหลิงเยี่ยนยังกลัวไม่หาย “น้องพี่ เธอไม่รู้หรอกว่าพี่เธอเกือบตายแล้ว”
ฉินหลิงอวี๋ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาทันที
“ทำอะไร จะซื้อบะหมี่ถ้วยปลอบใจเหรอ”
“เปล่า สั่งจองโลงศพ”
ฉินหลิงเยี่ยนโมโห “ยัย…ทำไมฉันถึงได้มีน้องสาวใจดำแบบนี้นะ”
“สสารเล่นแร่แปรธาตุ” นิ้วของฟู่อวิ๋นเซินเคาะโต๊ะเบาๆ “เป็นพวกเขา หรือว่าคณะพันธุศาสตร์”
“คณะพันธุศาสตร์” อิ๋งจื่อจินชี้รูป “อัศวินดัดแปลงพันธุกรรมระดับเอสจะมีรหัสติดตัว เป้าหมายครั้งนี้คือหลิงอวี๋กับหนุ่มหน้าเด็ก”
ทั้งสองคนมองหน้ากัน นึกถึงโปรเจ็กต์ดัดแปลงพันธุกรรมตัวอ่อนทันที
คณะพันธุศาสตร์ต้องการฆ่าผลงานล้มเหลว
เห็นได้ชัดว่าประธานสมาพันธ์ก็นึกออกแล้ว เขาทุบโต๊ะ “ไอ้คณะพันธุศาสตร์!”
“ใจเย็นๆ ค่ะท่านประธาน” อิ๋งจื่อจินพูด “พวกเราจะจัดการคณะพันธุศาสตร์ให้ อีกอย่าง เรื่องมันก็ไม่ได้เลวร้ายมากค่ะ”
ประธานสมาพันธ์อึ้ง “คุณหนูใหญ่หมายความว่า?”
“หลิงอวี๋ เธออาจเป็นผู้วิเศษ” อิ๋งจื่อจินหันหน้าไป “ฉันต้องพาเธอไปที่สำนักผู้วิเศษสักครั้งเพื่อลองดูผลลัพธ์”
พอคำพูดนี้ออกมาก็อึ้งกันไปหลายคน
ฉินหลิงอวี๋ก็ตะลึง “ฉันเหรอ”
เธอมาอยู่เมืองแห่งโลกย่อมรู้เรื่องของผู้วิเศษยี่สิบสองคน
ผู้วิเศษยี่สิบสองคนคือการมีตัวตนที่สูงส่งที่สุด
พวกเขาพิทักษ์ความปลอดภัยของพลเมืองโลก ด้วยเหตุนี้จึงได้รับศรัทธาจากทุกคน
“เธอเนี่ยนะผู้วิเศษ” ฉินหลิงเยี่ยนพ่นน้ำโค้ก รู้สึกตลกมาก “อยากให้ฉันเอาคลิปตอนเด็กๆ ที่เธอร้องไห้งอแงให้พวกแฟนคลับเธอดูไหม”
ฉินหลิงอวี๋ปาขวดเบียร์ใส่เขา “อยากตายเหรอ”
ฉินหลิงเยี่ยนรีบกุมหัวร้องขอชีวิต “ฉันผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว ถ้าเธอเป็นผู้วิเศษเธอต้องคุ้มครองฉัน ชีวิตที่มีความสุขของพี่ชายในวันข้างหน้าฝากไว้ที่เธอแล้วนะ”
ฉินหลิงอวี๋ไม่สนใจเขา ขมวดคิ้ว “ฉันเป็นผู้วิเศษ ไม่น่าใช่หรือเปล่า”
แค่เธอละเมอวาดรูปที่คล้ายพระจันทร์บนไพ่ทาโรต์เนี่ยนะ
คิดง่ายเกินไปหน่อยแล้ว
“แค่ลองดู” อิ๋งจื่อจินเงยหน้า “เดี๋ยวพวกเราไปสำนักผู้วิเศษ ฉันจะส่งคนมารับเธอ”
“ถ้าเธอไม่ใช่ เขาจะส่งเธอออกมา”
เธอไม่รู้ฝีมือต่อสู้ของผู้วิเศษหอคอย แต่อย่างมากก็คงสูสีกับนอร์ตันที่เป็นอัศวินรถม้า
นอร์ตันย่อมคุ้มกันฉินหลิงอวี๋ออกมาได้ง่ายๆ
ฉินหลิงอวี๋พยักหน้า “ได้ ลองไปดู”
เมืองแห่งโลกทำให้เธอตระหนักได้ว่า ความสามารถของเธอมันอ่อนแอเกินไป ต้องรีบพัฒนาให้เร็วที่สุด
แต่ฉินหลิงอวี๋ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
เธอเป็นผลงานล้มเหลว มีเหรอจะคู่ควรกับการกลับชาติมาเกิดของผู้วิเศษ
“เพิ่งใช้กำลังไป กินข้าวก่อนดีกว่า” ฟู่อวิ๋นเซินพูด “ไปเถอะ”
ประธานสมาพันธ์หันหน้าไปอย่างเกร็งๆ “เจ้าบ้าเอ๊ย แกไปรู้จักคนแบบไหนกันเนี่ย”
“ผม…ถามผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฉินหลิงเยี่ยนน้อยใจถูกปรักปรำ “เอาเป็นว่าพวกเขาสุดยอดมาก เก่งกาจขึ้นเรื่อยๆ จนผมชินแล้ว”
ประธานสมาพันธ์ “…”
เขาชินไม่ไหว หัวใจของเขามันจะระเบิด
ประธานสมาพันธ์เอามือจับตรงหัวใจ “ผู้วิเศษ…”
ถ้าฉินหลิงอวี๋เป็นผู้วิเศษ งั้นไม่สุดยอดเลยเหรอ
สมาพันธ์แฮกเกอร์เดินกร่างได้เลยล่ะงานนี้
…
ทางด้านสำนักวิจัย
คณบดีคณะพันธุศาสตร์รอด้วยความร้อนใจ
จนกระทั่งคนสนิทเข้ามารายงาน
“ท่านคณบดีครับ อัศวินดัดแปลงพันธุกรรมระดับเอสสิบห้าคนตายหมดเลยครับ!” คนสนิทตัวสั่น “ชิปก็ไม่ได้ส่งข้อมูลตอนพวกเขาตายมาด้วยครับ”
คณบดีคณะพันธุศาสตร์ตกใจหน้าถอดสี “ตายหมดเลยเหรอ!”
“ใครกันที่เก่งถึงขั้นฆ่าอัศวินดัดแปลงพันธุกรรมระดับเอสจำนวนมากขนาดนี้ได้”
“มะ ไม่ทราบครับ” คนสนิทพูดตะกุกตะกัก “แต่ละวันสมาพันธ์แฮกเกอร์มีแขกมากมาย หรืออาจไปเจอสมาชิกสายตรงของตระกูลอวี้ก็ได้มั้งครับ”
คณบดีขมวดคิ้ว “มีเหตุผล บุกไปลงมือที่สมาพันธ์แฮกเกอร์โดยตรงออกจะประมาทไปหน่อย”
“สืบเบาะแสของฉินหลิงอวี๋กับฉินหลิงเยี่ยน รอพวกเขาออกจากสมาพันธ์แฮกเกอร์ค่อยส่งคนไปอีกครั้ง!”
คนสนิทขานรับแล้วรีบร้อนออกไป
สิบกว่านาทีต่อมาก็กลับมาอีกครั้ง “ท่านคณบดีครับ ฉินหลิงอวี๋ออกมาแล้ว มีคนอยู่กับเธอหนึ่งคน ดูจากเส้นทางเหมือนพวกเขากำลังไปสำนักผู้วิเศษครับ”
“ไปสำนักผู้วิเศษตอนดึกเหรอ” มือของคณบดีชะงัก “ไปที่นั่นทำไม”