คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 779 เบาะแสของลูเอล

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 779 เบาะแสของลูเอล

“อาจารย์มาแล้ว” เฟิงซิวขยับ เก็บเบ็ดตกปลา ยืนขึ้น “เดิมทีศิษย์คิดว่าอาจารย์จะไปนานเสียอีก”

อิ๋งจื่อจินชะงักเล็กน้อย “เสี่ยวซิว นาย…”

“อาจารย์ เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องปกติ” เฟิงซิวย่อมรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย เขายิ้ม พูดขัดจังหวะเธอ “ถ้าอาจารย์ไม่ปรากฏตัว มีเหรอที่ศิษย์จะอยู่ได้นานขนาดนี้”

สีหน้าของเขาปล่อยวาง ไม่ได้ตัดพ้ออะไรทั้งนั้น “ชีวิตนี้ได้เจออาจารย์ ถือเป็นความโชคดีอันยิ่งใหญ่ของศิษย์แล้ว”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปสักพัก เธอพูดขึ้น “การไม่ได้เจอฉันอาจจะดียิ่งกว่า”

“ตอนนั้นอาจารย์ช่วยชีวิตศิษย์ไว้ ถ้าไม่ได้อาจารย์ ศิษย์คงตายตั้งแต่เด็กแล้ว” เฟิงซิวยิ้ม “ถึงแม้วันนั้นใกล้มาถึง เหลือเวลาอีกไม่กี่ปี”

“แต่ตราบใดที่ศิษย์ยังมีชีวิตอยู่ ศิษย์ก็จะเฝ้าโลกจอมยุทธ์ไว้ ไม่มีทางปล่อยให้ความทุ่มเทของอาจารย์ต้องสูญเปล่า”

เขาไม่เคยคิดเลยว่ายังจะมีวันที่เขาได้เจออิ๋งจื่อจินอีกครั้ง

สมความปรารถนาแล้ว เฟิงซิวไม่มีอะไรต้องเสียดายอีก

อิ๋งจื่อจินมองทะเลสาบสีเขียวหยก ไม่พูดอะไร

มีเพียงผู้วิเศษถึงจะเข้าใกล้ความเป็นอมตะ

ไม่ว่าจะเป็นวิทยายุทธ์หรือวิชาเล่นแร่แปรธาตุ ล้วนแต่แค่ช่วยทำให้ร่างกายของมนุษย์พัฒนาได้ถึงขีดสุด

อายุขัยห้าร้อยปี ไม่มีทางยืดได้นานกว่านี้อีกแล้ว

“อาจารย์ ศิษย์คงไม่ไปเมืองแห่งโลกกับอาจารย์แล้ว” เฟิงซิวสีหน้าจริงจัง “ฟังจากที่อาจารย์บอก ศัตรูอยู่ในที่มืด อีกทั้งยังแข็งแกร่งมาก ไม่แน่วันหน้าโลกจอมยุทธ์ก็อาจถูกรุกรานได้”

“ถึงศิษย์จะสู้ผู้วิเศษประเภทต่อสู้ที่อาจารย์บอกไม่ได้ แต่ถ้าเป็นผู้วิเศษประเภทกองหนุน ศิษย์ก็ยังพอจะช่วยถ่วงเวลาได้ระยะหนึ่ง”

อิ๋งจื่อจินหันไป “อาจารย์ก็ต้องการแบบนั้น”

เธอล้วงขวดยาหลายขวดออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ “เก็บไว้ให้ดี”

เฟิงซิวย่อมไม่มีทางปฏิเสธ เขาเก็บไว้แล้วพูดล้อเล่น “ศิษย์อยู่กับอาจารย์ได้อีกไม่นาน แต่ศิษย์น้องคงอยู่ได้อีกนาน ไม่แน่ยังจะช่วยเลี้ยงลูกให้อาจารย์ได้ด้วย”

เขาหยุดเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “อาจารย์ เรื่องตระกูลหลิน เมื่อกี้ศิษย์ได้ยินผู้อาวุโสใหญ่เล่าแล้ว ศิษย์จะจัดการให้ อาจารย์ไม่ต้องเป็นห่วง”

โลกจอมยุทธ์มีประชากรหลายแสนคน เป็นไปได้เหรอที่จะไม่มีพวกสมองเพี้ยน

ถ้าไม่มี แบบนั้นก็เท่ากับใช้ชีวิตอยู่บนสรวงสวรรค์แล้ว

“ได้” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย “อาจารย์จะไปโลกแพทย์แผนโบราณหน่อย ถ่ายทอดวิธีฝังเข็มรูปแบบใหม่”

ในเวลาเพียงครึ่งวันก็รวบรวมจอมยุทธ์ได้ทั้งหมดแล้ว ล้วนเป็นปรมาจารย์จอมยุทธ์ทั้งนั้น

มีทั้งหมดสามหมื่นคน

จอมยุทธ์ที่วรยุทธ์หนึ่งร้อยปีขึ้นไปเกือบทั้งหมดมารวมตัวกัน

หากสามหมื่นคนนี้ออกไปก็เดินกร่างบนเจ็ดทวีปสี่มหาสมุทรได้อย่างสิ้นเชิง

คนของสหพันธ์จอมยุทธ์เยอะที่สุด รองลงมาคือคนของตระกูลเย่ว์

หลิงเหมียนซีมองหา ไม่พบเย่ว์ฝูอี เธอถาม “ฝูอีล่ะคะ”

พ่อบ้านตระกูลเย่ว์ยิ้มตอบ “คุณฝูอีเก็บตัวฝึกอยู่ครับ พวกเราหาเธอไม่เจอในสถานที่ที่เธอเก็บตัว ไว้รอเธอออกมาพวกเราจะบอกให้ครับ”

“ยังไม่ต้องพูดเรื่องที่คุณฝูอีเป็นเพื่อสนิทกับคุณเหมียนซี เรื่องแบบนี้ ด้วยนิสัยของเธอต้องไปด้วยแน่นอนครับ”

หลิงเหมียนซีพยักหน้า

ฝูซีเดินขึ้นหน้า เรียกด้วยความนอบน้อม “อาจารย์คะ”

อิ๋งจื่อจินหยิบเข็มเงินกับเข็มทองออกมา “พวกเราเริ่มเลย”

แพทย์แผนโบราณร่วมร้อยคนทำการฝังเข็มให้พวกจอมยุทธ์

ในเวลาหนึ่งวันได้ช่วยจอมยุทธ์ห้าพันคนให้บรรลุได้แล้ว

อิ๋งจื่อจินดึงเข็มเล่มสุดท้ายออก หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ

“พักหน่อย” ฟู่อวิ๋นเซินหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดให้เธอ “พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ “อย่าหักโหมเกินไป”

เขายื่นขวดน้ำผลไม้ให้เธอ

อิ๋งจื่อจินรับมาดื่ม

โทรศัพท์ดังติ๊ดในเวลานี้ มีสองข้อความเข้ามาในวีแชท

[ตี้อู่เย่ว์ : หมุนติ้วๆ.jpg]

[ตี้อู่เย่ว์ : อาจารย์ ฉันเจอเบาะแสพ่อของอาจารย์แล้ว!]

สายตาของอิ๋งจื่อจินจับจ้อง กดโทรหาทันที “ฮัลโหล”

“อาจารย์ อยู่ที่ประเทศจีน” ตี้อู่เย่ว์แอบเศร้า “แต่ฉันไม่แน่ใจพิกัด คงต้องตามหาดูแล้ว”

“ไม่เป็นไร เธอทำได้ดีมากแล้ว” อิ๋งจื่อจินยิ้มบาง “ประเทศจีน อย่างน้อยขอบเขตก็แคบกว่าทั้งโลกมาก”

ลูเอลคือปมในใจซู่เวิ่น

ถ้าหาลูเอลไม่เจอ สักวันสุขภาพของซู่เวิ่นก็จะทรุดลง

อิ๋งจื่อจินกำโทรศัพท์มือถือ ทันใดนั้นได้พูดขึ้น “พี่ชาย”

โทนเสียงของเธอเย็นชา แต่น้ำเสียงราบเรียบ

แต่กลับมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างแรงกล้า ทะลวงเข้าเยื่อแก้วหูทีละน้อย

นานแล้วที่ไม่ได้ยินคำเรียกนี้ สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินชะงัก แผ่นหลังหดเกร็ง เขาพูดขึ้น “มีอะไรเหรอ”

“เย่ว์เย่ว์ทำนายเบาะแสของพ่อฉันได้แล้ว” อิ๋งจื่อจินตอบ “ฉันจำเป็นต้องให้ไอบีไอช่วยเปรียบเทียบใบหน้า”

แต่ลูเอลไม่มีตัวตนในประเทศจีน คลังข้อมูลของไอบีไอก็ไม่มีบันทึก นี่เป็นงานใหญ่

หลังของฟู่อวิ๋นเซินถึงได้หายเกร็ง “ได้สิ”

แอบรู้สึกเสียดายอย่างบอกไม่ถูก

ที่แท้ก็แค่เรื่องนี้

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลงเล็กน้อย อยู่ๆ เธอก็ขยับเข้าไปใกล้ ครุ่นคิดพลางพูด “ผู้บัญชาการหน้าแดงแล้ว”

“อืม หน้าแดง” ฟู่อวิ๋นเซินกอดเธอ จับเธอมานั่งบนตัก “เรียกอีกครั้งได้ไหม”

“ไม่เรียกดีกว่า” อิ๋งจื่อจินหาวหวอด พักซบบนบ่าของเขา “กลัวคุณรับไม่ไหวเดี๋ยวกลายร่างเป็นสัตว์ป่า”

“…”

สามวันต่อมา

เมืองแห่งโลก

สำนักผู้วิเศษ

แอสโตรแลบขยับอีกครั้ง นักบวชหญิงแจ้งเตือนเป็นครั้งที่สาม

ผู้วิเศษคู่รักใกล้กลับมาแล้ว!

นอร์ตันฟังอยู่ข้างๆ สีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้

“นอร์ตัน คุณรู้แล้วใช่ไหม” ซาโรห์หันไป พูดเสียงเย็นชา “คู่รักเป็นหนึ่งในตัวการก่อสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งนั้น จะปล่อยให้เธอกลับมาไม่ได้เด็ดขาด ต้องกำจัดเธอทิ้งก่อนที่พลังของเธอจะฟื้นกลับมา”

นอร์ตันแสยะยิ้ม “พวกคุณห่วยแตกถึงขั้นที่ทำนายไม่ได้ว่าคู่รักเป็นใคร แล้วจะฆ่ายังไง”

“ดังนั้นยอมฆ่าคนผิดหมื่นคนดีกว่าปล่อยให้รอดแม้แต่คนเดียว” ซาโรห์พูดขึงขัง “นับจากคืนนี้เป็นต้นไป ต้องฆ่าคนที่กลับมาจากข้างนอกให้หมด!”

แววตาของนอร์ตันเปลี่ยนไปทันที “ล้อเล่นเหรอ”

“ไม่ล้อเล่น งานใหญ่” ซาโรห์ตอบ “ฉันขอให้หอคอยช่วยกันกับคุณ”

“ไม่จำเป็น” นอร์ตันหันไป พูดเสียงแข็ง “อย่าเอาคนอื่นมายุ่งกับผม”

เขาออกจากสำนักผู้วิเศษกลับคฤหาสน์

เห็นซู่เวิ่นเก็บสัมภาระเดินออกนอกประตู

เท้าของนอร์ตันชะงัก “คุณนายใหญ่จะไปแล้วเหรอครับ”

“ใช่ค่ะ เยาเยาใกล้กลับมาแล้ว ฉันไม่ขอรบกวนแล้วค่ะ” ซู่เวิ่นยิ้ม “เยาเยาบอกว่าเธอจะกลับมาคืนนี้ ฉันอยากกลับไปเตรียมทำอาหารให้เธอค่ะ”

นอร์ตันนึกถึงคำพูดของซาโรห์ แววตาเย็นชาลง “คืนนี้เหรอครับ”

ผู้วิเศษคู่รักเป็นใครไม่สำคัญ

สิ่งสำคัญคือเขายืนอยู่ฝ่ายอิ๋งจื่อจินเท่านั้น

“ค่ะ” ซู่เวิ่นตอบ “ต้องรบกวนคุณดูแลซีนายด้วยนะคะ”

นอร์ตันพูดเสียงเนือย “คุณนายใหญ่เกรงใจเกินไปแล้วครับ”

ซีนายดึงเสื้อซู่เวิ่น ไม่อยากให้เธอไป “พี่สะใภ้ใหญ่”

“พี่จะให้เยาเยามาดูเธอนะ” ซู่เวิ่นย่อตัวนั่งยอง “ไม่ต้องกลัว ดูสิคุณฟรานซิสยังทำอาหารเป็นด้วย เธอกับเยาเยากินยากเหมือนกัน แบบนี้พี่ก็ไม่เป็นห่วงแล้ว”

ซีนาย “…”

เธอกินอาหารเปิบพิสดารมานาน ซู่เวิ่นต้องไม่รู้แน่

สำหรับนอร์ตัน เธอเป็นเพียงเครื่องมือไว้ทดสอบอาหาร

อีกทั้งเธอยังต้องระแวงว่านอร์ตันจะแฉเธออีก

ซู่เวิ่นคุยเสร็จก็ออกจากคฤหาสน์ไปพร้อมคนคุ้มกัน

“เลิกมองได้แล้ว ไปไกลแล้ว” นอร์ตันโน้มตัว “เย็นนี้กินอะไรดีล่ะ”

ซีนายเงยหน้า “ถ้าฉันบอกไปคุณจะทำตามที่ฉันต้องการเหรอ”

“นั่นสินะ” นอร์ตันลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน “ไม่มีทาง”

“…”

กะแล้วเชียว

ซีนายไม่อยากสนใจเขา เธอกลับเข้าห้องรับแขกก่อน

นอร์ตันหยิบวัตถุดิบออกมาจากตู้เย็นแล้วเดินเข้าครัว

สามสิบนาทีต่อมาเขาก็ยกอาหารออกมา “เด็กน้อย กินข้าวได้แล้ว”

ไม่มีเสียงตอบ

นอร์ตันก้มมองไปถึงพบว่าเด็กน้อยนอนแผ่หัวเอียงอยู่บนโซฟา ด้านข้างมีขวดไวน์ขวดเบียร์ล้มระเนระนาด

มีทั้งเบียร์ ทั้งไวน์ขาว

และยังมีผลไม้อีกมากมายรวมถึงขนมที่ซู่เวิ่นทำ

ซีนายสลบไปแล้ว ใบหน้าแดงระเรื่อ

“เป็นเด็กเป็นเล็กริอาจกินเหล้า ร่างกายต้านได้ที่ไหน แถมยังกล้าเอาผสมกันด้วย” นอร์ตันทำเสียงจึ๊ “วุ่นวายจริง”

มือข้างหนึ่งของเขาหิ้วซีนายไปโยนไว้ในห้องนอนชั้นบน

จากนั้นก็กลับเข้าห้องทดลอง เริ่มทำการทดลอง

อิ๋งจื่อจินให้เครื่องมือชำแหละมาไม่น้อย ได้ใช้พอดี

นอร์ตันขมวดคิ้วเล็กน้อย

แต่สารตั้งต้นของยาถอนพิษ เขายังไม่เจอที่เหมาะสม

ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะคิดค้นยาถอนพิษออกมาได้

“ตุบ”

มีของบางอย่างหล่น

หูของนอร์ตันขยับ เขาวางขวดสารเคมีลง ขึ้นไปชั้นบน

ประสาทการฟังของเขารับรู้ไวมาก

แม้จะอยู่ห่างขนาดนี้ เขาก็ยังได้ยินเสียงซีนายถีบผ้าห่มหล่นพื้น

เด็กน้อยก็คือเด็กน้อย นอนหลับยังอยู่ไม่เป็นสุข

นอร์ตันเปิดประตูเข้าไป ก้มเก็บผ้าห่มบนพื้นแล้วหันไป

ยังคงเป็นเตียงเดิม

บนเตียงมีหญิงสาวสวมชุดนอน นอนขดตัวอยู่

แสงจันทร์จากด้านนอกสาดส่องลงบนผมสีบลอนด์ของเธอ ขับให้ใบหน้าเปล่งประกาย

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท