ตอนที่ 814 เจ้าชะตาน้อย ตื่นสิ
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่กลับเหมือนมีฟ้าผ่าที่ข้างหูชาวเมือง เกิดเสียงฮือฮาขึ้นอีกรอบ
ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน
ฟู่อวิ๋นเซินไม่ได้พูดว่า ‘เธอเป็นคู่หมั้นของฉัน’ แต่พูดว่า ‘ฉันเป็นคู่หมั้นของเธอ’
แม้จะไม่ต่างกัน แต่แสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับอิ๋งจื่อจินขนาดไหน
อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา จับมือเขาแน่น “ยังไม่ได้หมั้นเลยนะแฟนหนุ่ม”
“ในไม่ช้าก็เร็ว” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม พูดอย่างใจเย็น “อีกอย่าง ไม่ว่ายังไงพี่ชายก็ต้องทำให้คุณลุงยอมยกลูกสาวให้อย่างวางใจ”
นับตั้งแต่ฟู่อวิ๋นเซินออกมา ลูเอลก็ตกอยู่ในห้วงความเงียบ
นี่ลูกเขยของเขากลายเป็นผู้วิเศษเดวิลไปแล้วเหรอ!
ตอนนี้ยังมาได้ยินแบบนี้อีก ในที่สุดลูเอลก็พูดขึ้น มือยังสั่นอยู่ “ซู่ซู่ หยิกผมหน่อย ผมฝันไปหรือเปล่า”
ซู่เวิ่นหยิกต้นขาของเขาเต็มแรง สองวินาทีต่อมาก็หยิกแบบไร้ความปรานีอีกครั้ง
ลูเอลเจ็บ พูดด้วยความน้อยใจ “ซู่ซู่ ทำไมคุณหยิกผมสองครั้งล่ะ”
ซู่เวิ่นพึมพำ “ฉันก็อยากลองดูเหมือนกันว่าตัวเองฝันไปหรือเปล่า แต่ฉันกลัวเจ็บเลยหยิกคุณดีกว่า”
ลูเอล “…”
บรรดาชาวเมืองต่างก็กำลังตกตะลึง ร้องเสียงหลงพร้อมกัน
ทันใดนั้นมีเสียงตวาดด้วยความโมโห
“ฉันไม่อนุญาต!”
ซาโรห์กำคฑา หน้าซีดเหมือนกระดาษ ไม่มีเลือดหล่อเลี้ยง
เป็นแบบนี้ได้ยังไง
ทำไมถึงเป็นแบบนี้!
ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น แต่กลับไม่ได้มองซาโรห์แม้แต่น้อย
เขายกมือ ช่วยเอาผมทัดหูให้อิ๋งจื่อจินอย่างอ่อนโยน พูดด้วยเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคน “นั่งตักไหม”
“ได้” อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “ขอหมอนอิงคนจริงด้วย”
“ซาโรห์ เธอโกรธอะไร” หลิงเหมียนซีมองซาโรห์ด้วยสายตาสงสัย พูดกึ่งยิ้ม “ทำไม สองคนนั้นสมกันเหมือนกิ่งทองใบหยก นังปีศาจอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมาคัดค้านไม่ทราบ”
ซาโรห์รู้สึกมือเท้าเย็นเฉียบ เลือดในกายอุณหภูมิลดต่ำลง
หลุยส์รู้สึกดีกับอิ๋งจื่อจิน อย่างมากเธอก็แค่รู้สึกว่าน่าตลก
ต่อให้อิ๋งจื่อจินเอาชนะเธอได้ เธอก็ไม่เคยเห็นอิ๋งจื่อจินในสายตา
แค่มนุษย์ธรรมดาจะมีชีวิตอยู่ได้นานสักเท่าไร
อย่างมากก็แค่ร้อยปี
ก็เป็นได้แค่แขกที่ผ่านเข้ามาในช่วงชีวิตอันยาวนานของผู้วิเศษ
ต่อให้ก่อนหน้านี้เธอรู้อยู่แล้วว่าคุณชายใหญ่ตระกูลอวี้กับคุณหนูใหญ่ตระกูลเรนเกลใกล้ชิดสนิทสนมกัน สองครอบครัวก็เคยคุยเรื่องแต่งงานกันแล้ว
เธอก็ยังคงแค่มองอย่างไม่แยแส
แต่ตอนนี้สถานะของฟู่อวิ๋นเซินเปลี่ยนไปแล้ว
เขาคือผู้วิเศษเดวิล
เธอไม่มีทางยอม เธอทนไม่ได้
ซาโรห์สูดลมหายใจเข้าลึก พูดเสียงเย็นชา “แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีผู้วิเศษแต่งงานกับมนุษย์ธรรมดา รับเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนในสำนักผู้วิเศษน่ะได้ แต่เรื่องแต่งงานเป็นไปไม่ได้”
“มนุษย์ทั่วไปอายุขัยสั้น จะเทียบกับผู้วิเศษได้ยังไง”
“ปัญหาไม่ใหญ่” ฟู่อวิ๋นเซินโอบอิ๋งจื่อจิน พูดเสียงเนือย “ฉันเปลี่ยนภพเป็นเพื่อนคู่หมั้นฉันได้”
สมองของซาโรห์ตื้อไปชั่วขณะ ริมฝีปากเริ่มสั่น แทบไม่อยากเชื่อ
อิ๋งจื่อจินต้องถูกให้ความสำคัญขนาดไหน เดวิลถึงพูดแบบนี้ออกมาได้
ชาวเมืองยังคงไม่กล้าพูดอะไร
“เอาล่ะ เรื่องอายุสั้นจบไปแล้ว แต่เธอบอกว่าผู้หญิงคนนี้ฝีมือแย่เหรอ” หลิงเหมียนซีพูด “งั้นได้ พวกเธอลองสู้กันก็จบแล้ว ต่อหน้าคนเยอะๆ แบบนี้จะได้เป็นพยานด้วย”
“สู้กันเหรอ” อิ๋งจื่อจินยืนขึ้น ขยับข้อมือ “ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ มาสิ”
ใช้กำลังมันน่าสนุกกว่า
ฟู่อวิ๋นเซินวืดกอดอากาศ เขาเงยหน้าเหลือบมองหลิงเหมียนซี
หลิงเหมียนซีแสร้งทำเป็นไม่เห็น “ซาโรห์ เธอล่ะว่าไง”
ซาโรห์สีหน้าย่ำแย่ ขบฟันพูด “เธอ…”
“งั้นฉันถือว่าเธอตอบตกลงนะ” หลิงเหมียนซียกมือขึ้น “มาๆๆ ฉันจะเป็นกรรมการให้พวกเธอเอง ยังไงซะที่นี่ก็พื้นที่กว้าง ไม่ต้องไปหาสถานที่ใหม่แล้ว”
ซาโรห์อยากปฏิเสธ แต่เธอไม่มีที่ให้ถอยแล้วท่ามกลางสายตาจำนวนมากที่มองอยู่
หลุยส์หลีกทางอย่างรวดเร็ว พยายามทำเหมือนไม่มีตัวตน
ซาโรห์กำคฑา วางอำนาจเต็มเปี่ยม “ฉันคือผู้วิเศษ ฉันจะทำให้เธอ…”
แต่เธอยังไม่ทันพูดจบ
พลั่ก!
มีศอกโจมตีเข้าที่ช่องท้องของเธอ ทั้งเร็วและแรง
ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซาโรห์ถูกซัดหมอบพื้น ไม่มีแม้แต่โอกาสได้สู้กลับ
ทุกคนต่างได้ยินเสียงอิ๋งจื่อจินพูดอย่างเย็นชา “พูดมาก ไร้น้ำยา”
“…”
เกิดความเงียบ
ชาวเมืองอยากจะบ้า
อัดไชโลห์น่วมยังไม่เท่าไร
แต่นี่ผู้วิเศษจักรพรรดินีเชียวนะ!
แถมยังเป็นครั้งแรกที่คนธรรมดาทำผู้วิเศษกลายเป็นแบบนี้
ศรัทธาที่ชาวเมืองมีต่อผู้วิเศษจักรพรรดินีค่อยๆ แตกสลายไปอย่างสิ้นเชิง
ซาโรห์ทรุดอยู่บนพื้น หายใจไม่ทัน
สายตาของเธอเลือนราง แต่หูยังคงตั้งใจฟัง
หัวใจดั่งถูกมดกัดกร่อน
“ออกแรงโหดขนาดนี้เลยเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินหันมา “เกิดมือเจ็บขึ้นมาจะทำยังไง”
“นี่ก็เพื่อปกป้อง…” อิ๋งจื่อจินมองเขา “ชื่อเสียงของผู้บัญชาการสูงสุดไอบีไอกับประธานใหญ่วีนัสกรุ๊ปไม่ใช่หรือไง”
กฎข้อนี้ถูกบรรจุในระเบียบของไอบีไอและวีนัสกรุ๊ปแล้ว
พวกพนักงานก็ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด
แววตาของฟู่อวิ๋นเซินวูบไหวเล็กน้อย เขายิ้ม “พี่ชายดีใจมาก”
“ยังมีอีกเรื่อง” ฟู่อวิ๋นเซินปล่อยมืออิ๋งจื่อจินแล้วยืนขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “นักมายากลถูกฆ่าตายแล้ว เขาทำยาพิษออกมามากมายขนาดนั้น ทำร้ายชีวิตคนนับพัน ผิดต่อหน้าที่ของผู้วิเศษ ไม่คู่ควรเป็นผู้วิเศษอีก”
“ส่วนหลักฐาน มีอยู่ในเว็บดับบลิวแล้ว เชิญทุกคนดูได้”
ซาโรห์ฝืนกลับมามองเห็นชัดอีกครั้ง
พอได้ยินแบบนี้เธอก็เงยหน้าทันที สบตากับหลุยส์ ในดวงตาของทั้งคู่มีแต่ความตกตะลึง
ผู้วิเศษเดวิลเก่งมากอันนี้ยอมรับ แต่ผู้วิเศษไม่มีทางถูกฆ่าตายได้!
นักมายากลตายแล้วงั้นเหรอ!
ซาโรห์ชักหวั่นใจ
“เอาล่ะ แยกย้าย” ฟู่อวิ๋นเซินปัดอกเสื้อ “จัดเตรียมงานเลี้ยงไว้แล้ว ทุกคนฉลองต่อ พวกเราไปก่อนล่ะ”
ทุกคนได้แต่มองฟู่อวิ๋นเซินพาอิ๋งจื่อจินออกไป แม้ในใจจะมีข้อสงสัยมากมาย แต่ก็ยังคงอยู่ต่อเพราะอาหารรสเลิศ
ไม่มีใครให้ความสนใจผู้วิเศษสังฆราชกับผู้วิเศษจักรพรรดินีแล้ว
พิธีฉลองปีใหม่ครั้งนี้ทำบารมีของผู้วิเศษทั้งสองคนหมดไปไม่มีเหลือ
หลุยส์ลังเล สุดท้ายก็เข้าไปประคองซาโรห์ขึ้นมา “เอาล่ะ ไปเถอะ อยู่ที่นี่ก็ขายหน้า”
“ขายหน้าเหรอ” ซาโรห์ทนเจ็บ แสยะยิ้ม “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเมื่อครู่คุณจะบอกว่าแต่งงานกับใคร ทำไม พอเดวิลตัดหน้าก็ทำหงอไม่กล้าแล้วเหรอ”
หลุยส์เม้มริมฝีปากแน่น ไม่พูดอะไร ประคองเธอกลับสำนักผู้วิเศษ
ซาโรห์นั่งบนบัลลังก์ สีหน้ายังคงซีดเซียว
ในเวลานี้เอง นักบวชหญิงที่อยู่ห้องข้างๆ ได้เรียกด้วยความตื่นตระหนก “ซาโรห์! แย่แล้ว ซาโรห์ แอสโตรแลบแตกแล้ว!”
ซาโรห์สีหน้าเปลี่ยน
พอเธอเข้าไปก็เห็นแอสโตรแลบสีน้ำเงินม่วงขนาดใหญ่ค่อยๆ แตกออกทีละน้อย
สุดท้ายกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่บนพื้น
นี่ก็หมายความว่าพลังสุดท้ายเพียงน้อยนิดที่วงล้อแห่งโชคชะตาทิ้งไว้บนโลกได้สูญสลายไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
ซาโรห์มองด้วยสีหน้าอึมครึม
วงล้อแห่งโชคชะตาร่างกายอ่อนแอ แต่พลังของเธอกลับเหมือนมีบัคอย่างรุนแรง
พยากรณ์ภัยพิบัติต่างๆ ออกมาได้ พร้อมทั้งวางแผนรับมือ
พอไม่มีวงล้อแห่งโชคชะตา สำนักผู้วิเศษก็รับมือกับภัยพิบัติได้ยากขึ้นมาก จำนวนผู้วิเศษที่ดับสูญก็เพิ่มขึ้น
สาเหตุที่หลายปีมานี้พวกเขาตรึงผู้วิเศษเดวิลไว้บนเสาอัปยศก็เพราะต้องการสื่อเป็นนัยๆ ว่าผู้วิเศษเดวิลฆ่าวงล้อแห่งโชคชะตา
“แตกแล้วก็แตกไปสิ” ซาโรห์ตอบอย่างไม่แคร์ “อยู่มาได้นานขนาดนี้ก็ควรแตกได้แล้ว”
คนที่เธอเกลียดมีไม่มาก
วงล้อแห่งโชคชะตาหนึ่ง อิ๋งจื่อจินก็อีกหนึ่ง
นักบวชหญิงอ้าปากอยากพูด มองซาโรห์เดินออกไปอย่างเย็นชา เธอสงสัย “ซาโรห์เป็นอะไรไปเหรอ”
หลุยส์ยักไหล่ “สะเทือนใจน่ะ อย่าไปสนใจเลย”
ภายในห้องส่วนตัว
“ฆ่ามันซะ” ซาโรห์กลับไปนั่งที่บัลลังก์อีกครั้ง เธอหลับตาลง มือจับคฑาแน่น พูดพึมพำ “จะต้อง…ฆ่ามันให้ได้!”
ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร ต่อให้เธอต้องตาย เธอก็ต้องฆ่าอิ๋งจื่อจินให้ได้!
มนุษย์ธรรมดาคู่ควรเคียงข้างเดวิลเหรอ
…
อีกด้านหนึ่ง
พวกอิ๋งจื่อจินกลับบ้านตระกูลเรนเกลกันอย่างอารมณ์ดี
“วันนี้ได้ชัยชนะใหญ่เลยนะ” ฉินหลิงเยี่ยนมีความสุข “ผู้วิเศษฝั่งเรามีเยอะขนาดนี้ จักรพรรดินีกับสังฆราชสู้ไม่ได้ เหล่าฟู่ สำนักผู้วิเศษมีตำแหน่งอะไรให้ฉันทำบ้างไหม”
ฟู่อวิ๋นเซินเหล่มอง “ขาดนายทวาร”
ฉินหลิงเยี่ยน “…”
“อาอิ๋ง” หลิงเหมียนซีหันไป ชะงักเล็กน้อย “อาอิ๋ง เธอว่า…อาอิ๋ง!”
ร่างกายของอิ๋งจื่อจินโงนเงน อยู่ๆ ก็อ่อนยวบทรุดลงไป
คนรอบตัวตื่นตระหนก
“เยาเยา!”
“พ่ออิ๋ง!”
“คุณหนูใหญ่!”
เธอล้มลงในอ้อมกอดที่อบอุ่น
ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและลึกซึ้ง ราวกับเมื่อนานมาแล้วเขาก็เคยมองเธอแบบนี้
อิ๋งจื่อจินปวดหัวอย่างรุนแรง เหมือนจะระเบิดออก เธออยากพูดบางอย่าง แต่กลับหมดสติไป
เบื้องหน้ามืดมิด
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร มีคนเรียกเธออยู่ในความมืด
“เจ้าชะตาน้อย ตื่นสิ เจ้าชะตาน้อย”