คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 824 ผู้วิเศษยมทูต!

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 824 ผู้วิเศษยมทูต!

แต่ละคำเสียดแทงใจ

ซาโรห์รู้สึกเหมือนหัวใจมีมดกัดกร่อน เธอกรีดร้องออกมา “ฉันไม่เชื่อ! เธอจะเป็นวงล้อแห่งโชคชะตาคนนั้นได้ยังไง!”

“เห็นๆ อยู่ว่าเธอตายไปแล้ว! ตายไปแล้ว!”

เธอเกลียดวงล้อแห่งโชคชะตา เพราะทุกครั้งที่มีการประชุมผู้วิเศษ เธอจะเห็นเดวิลเอาแต่มองวงล้อแห่งโชคชะตา

ย่อมปิดบังไม่อยู่ว่าชอบ

เธอเองก็ชอบเดวิล จึงยิ่งสนใจทุกการกระทำของเขา

เมื่อซาโรห์รู่ว่าคนที่เดวิลชอบคือวงล้อแห่งโชคชะตาที่ร่างกายอ่อนแอถึงขั้นเดินไปไหนไม่ได้ไกล เธอรู้สึกเพียงว่าตัวเองถูกหยามศักดิ์ศรี

หลังจากที่รู้ข่าวว่าวงล้อแห่งโชคชะตาตายแล้ว เธอก็ไม่เสียใจสักนิด มีเพียงความสะใจ

แต่ตอนนี้!

ไม่ว่าอย่างไรซาโรห์ก็ไม่อยากเชื่อ เจ็บปวดราวกับมีเข็มทิ่มแทงหัวใจ

“สิ่งที่เธอชอบมีแค่อำนาจเท่านั้น” นิ้วของอิ๋งจื่อจินเริ่มออกแรงมากขึ้น สายตาเย็นชา “เขาแข็งแกร่ง พลังต่อสู้สูง อีกทั้งมีเกียรติที่ไม่สิ้นสุด เธอถึงได้ชอบเขา”

“สิ่งที่เธอชอบไม่เคยเป็นเขา แต่เป็นชื่อเสียงที่เลื่อนลอย”

ซาโรห์ตัวสั่นอย่างรุนแรง แผดเสียง “เหลวไหล! พูดเหลวไหล!”

“ดังนั้น…” มือของอิ๋งจื่อจินออกแรงแน่นขึ้น “เธอไม่คู่ควร”

ซาโรห์กระอักเลือดพุ่ง

แต่ยังเหลือลมหายใจ

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดพลางพูด “ดูท่านักมายากลจะเป็นกรณีพิเศษ ผู้วิเศษที่ถูกซ้อมจนตายมีไม่มาก”

ซาโรห์ตัวเย็นเฉียบ

นักมายากลถูกอิ๋งจื่อจินฆ่างั้นเหรอ!

เธออยากพูดอะไรต่อ แต่ร่างกายถูกโซ่ตรวนช็อตอีกครั้ง ขยับไม่ได้

อิ๋งจื่อจินกลับมาที่ห้องรับแขกอีกครั้ง

ฟู่อวิ๋นเซินยังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่โซฟาอยู่

ตอนนี้เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้ามาก แต่เขาก็ยังคงชอบอ่านแบบกระดาษมากกว่า

“ทำไมระบายอารมณ์แล้วยังดูอารมณ์ไม่ดีอยู่เลยล่ะ” ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้ายิ้มพลางดึงเธอมา “ใครทำคุณอิ๋งของเราโมโหกันนะ”

“ไม่มีใครหรอก” อิ๋งจื่อจินหาวหวอด “ฉันจะพยากรณ์เบาะแสของยมทูตหน่อย”

พอได้ยินฉายายมทูต สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินก็ชะงัก พูดเสียงเบา “ได้”

สิบกว่าวินาทีต่อมาก็ได้ผลลัพธ์

คำตอบของการพยากรณ์คือ…

ตาย

ฟู่อวิ๋นเซินหรี่ตาลงทันที “เขาตายแล้วเหรอ”

“ไม่แน่” อิ๋งจื่อจินส่ายหน้า “ยมทูตควบคุมความตาย พลังพิเศษของเขาแตกต่างจากพลังซ่อนเร้นของซิว เปลี่ยนดวงชะตาได้”

“ตัวเขาก็คือตัวแทนของ ‘ความตาย’ พยากรณ์ได้ว่าตายไม่ได้หมายความว่าเขาตายแล้วจริงๆ”

ยมทูตกับผู้วิเศษวันพิพากษาที่หมายถึง ‘คืนชีพ’ ตรงกันข้ามกันพอดี

อิ๋งจื่อจินเท้าศีรษะ “เมื่อก่อนฉันไม่เคยคลุกคลีกับผู้วิเศษคนอื่น ยมทูตเป็นคนยังไง”

“เขาน่ะเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปชั่วขณะแล้วตอบ “น่าจะถือว่าเป็นคนที่มีน้ำใจคนหนึ่ง ถือเป็นเพื่อนของฉันที่เมื่อก่อนมีอยู่ไม่มาก”

“ก่อนเกิดสงครามศักดิ์สิทธิ์เขาไม่ได้ถามว่าทำไมก็มายืนอยู่ข้างฉันทันที”

แต่ต่อให้เคยเป็นเพื่อนกันเขาก็ไม่มีทางยอมให้ยมทูตทำเรื่องเลวร้ายเป็นอันขาด

ไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นศัตรูกัน

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้า “เดอะเวิลด์กับวันพิพากษาล่ะ”

“ผู้วิเศษที่ถือกำเนิดสี่คนแรกสุดมีความพิเศษมาก” อิ๋งจื่อจินหยุดเล็กน้อย “ตอนนั้นที่ฉันพยากรณ์หาปู่ผู้โง่เขลากับพี่เทวทูตก็รู้ได้แค่ว่าพวกเขาดับสูญอย่างสิ้นเชิงแล้ว แต่เกิดอะไรขึ้นฉันไม่รู้”

“ก็เลยพยากรณ์ได้แค่ว่าเดอะเวิลด์กับวันพิพากษายังไม่ดับสูญอย่างสิ้นเชิง”

“งั้นก็แสดงว่ายังมีชีวิตอยู่” ฟู่อวิ๋นเซินยืดตัวขึ้น “น่าแปลก พวกเขาควรเป็นคนแรกๆ ที่กลับถึงสำนักผู้วิเศษสิ”

ผู้วิเศษสี่คนแรกสุดก็มีพลังที่เหนือกว่าผู้วิเศษคนอื่น

สัมผัสถึงภัยพิบัติได้เร็วกว่า

“ตามคาด” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “คนทรยศที่ฉันมองไม่เห็นอยู่ในสามคนนี้นี่แหละ”

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าเล็กน้อย หลับตาลง “งั้นก็ถือเป็นงานหนักแล้ว”

ยังไม่ต้องพูดถึงผู้วิเศษที่ถือกำเนิดสี่คนแรกสุด เอาแค่ผู้วิเศษยมทูตก็แข็งแกร่งมากแล้ว

“อืม” อิ๋งจื่อจินหันไป “เย็นนี้พวกเราก็จะรู้ได้แล้วว่าคนทรยศคนนี้คือใคร”

ภายในคุกไฟฟ้าที่เงียบสงัด

ซาโรห์แน่นิ่งอยู่บนพื้น หมดสง่าราศีแบบเมื่อก่อนนานแล้ว

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เธอได้ยินเสียงฝีเท้าอีกครั้ง

เธออยากมองว่าใคร แต่ดวงตาของเธอบอดสนิท แถมยังรักษาด้วยการเยียวยาตัวเองไม่ได้

“อ่อนแอจริงๆ เลยนะ ซาโรห์ วิกตอเรีย” มีเสียงพูดเย็นชาดังอยู่เหนือศีรษะเธอ “เป็นผู้นำที่มีพลังควบคุมเหมือนกัน แต่เธอกลับไม่มีค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดิ”

ซาโรห์แม้แต่จะพูดยังลำบาก นี่ยังมองไม่เห็นอะไรอีก

เวลานี้มีเพียงความรู้สึกขนลุก

กลิ่นอายความตายลอยเข้ามา ทำให้เธอหายใจแทบไม่ออก

ซาโรห์พยายามพูด “แก…แกจะทำอะไร แกเป็นใคร อิ๋งจื่อจินส่งแกมาฆ่าฉันเหรอ!”

“อิ๋งจื่อจินเหรอ นั่นก็เก่งอยู่หรอก” คนคนนี้ยิ้มพลางพูด “ต้องยอมรับเลยว่าขนาดฉันยังถูกอิ๋งจื่อจินต้มซะเปื่อย อิ๋งจื่อจินไปฝึกฝนความสามารถที่จักรวาลอื่นได้จริงๆ ทั้งยังถูกเดวิลช่วยกลับมา”

“แต่แล้วไงล่ะ คิดว่าแค่นี้จะหยุดฉันได้เหรอ”

ซาโรห์ฟังไม่เข้าใจ เธอรู้สึกได้เพียงความหวาดกลัว “จักรวาลอื่นเหรอ แกพูดเรื่องอะไรน่ะ แกคิดจะทำอะไรกันแน่!”

“ไม่ทำอะไร” คนคนนี้โน้มตัวลง พูดเสียงเย็นชา “แค่มาช่วยเปิดการกลับหัวให้เธอ”

“กลับหัวเหรอ” เป็นครั้งแรกที่ซาโรห์สัมผัสกับคำนี้ “คิดว่าตัวเองเล่นไพ่ทาโรต์…โอ๊ย!”

ทันใดนั้นเสียงร้องของเธอก็ขาดตอน เสียงที่มาแทนคือเสียงกรีดร้องโหยหวน

แต่ทั้งๆ ที่คุกไฟฟ้าห้องนี้มีกล้องวงจรปิดโดยรอบหลายตัว รวมถึงมีคนเฝ้าอยู่ไม่น้อย แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็น

ไม่มีใครรู้ว่าคนคนนี้เข้ามาได้อย่างไร

คนคนนั้นมองต่ำ มองซาโรห์ที่ดิ้นทุรนทุรายบนพื้นด้วยความเจ็บปวดอย่างใจเย็น ยิ้มพลางพูด “รู้สึกได้ถึงพลังอันแรงกล้าหรือยัง”

“เมื่อเปิดการกลับหัว พลังของเธอก็จะเหนือกว่าจักรพรรดิแล้ว ดีใจไหม”

ซาโรห์อยากพูด แต่กลับรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในกองรวมกัน เจ็บปวดเกินทน

เธอทนไม่ไหวหมดสติไปทันที

คนคนนั้นขมวดคิ้ว “ขยะจริงๆ”

แต่ต่อมาคิ้วของเขาก็คลายออก “แต่มีคนมาเพิ่มก็ย่อมดีกว่า”

การปรากฏตัวของผู้วิเศษเดวิลกับผู้วิเศษวงล้อแห่งโชคชะตาอยู่เหนือความคาดหมายจริงๆ

แต่ก็ยังคงไม่ส่งผลอะไร

อนาคตที่ถูกกำหนดไว้แล้วไม่มีทางถูกเปลี่ยน

คนคนนั้นยกมือ ค่อยๆ ยกตัวซาโรห์ขึ้นมาจากพื้น “นับแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะรับใช้ฉันแค่คนเดียว ชีวิตของเธอก็เป็นของฉัน”

“ห้ามทรยศ ห้ามต่อต้าน”

“มิฉะนั้น ตาย”

ศูนย์บัญชาการใต้ดิน

มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นแผ่วเบาแต่ว่าหนักแน่น

อัลไคด์กำลังเตรียมยาให้โจ้วเหยียนกับหอคอย พอได้ยินเสียงก็ยืนขึ้นทันที พูดด้วยความดีใจและตกใจ “ท่านกลับมาแล้วเหรอ”

หอคอยกับโจ้วเหยียนก็ได้ยินแล้ว ตื่นเต้นไม่แพ้กัน “นายท่าน!”

“อืม” คนคนนั้นปัดอกเสื้อ “เกิดเรื่องนิดหน่อยก็เลยกลับมาก่อน”

อัลไคด์เหลือบมองซาโรห์ที่อยู่ในมืออีกฝ่าย ขมวดคิ้ว “ท่านพายัยนี่กลับมาทำไมคะ ไม่มีประโยชน์ต่อพวกเราเลยสักนิด”

“แค่เอามาไว้เป็นเกราะกำบัง” คนคนนั้นโยนซาโรห์ลงพื้น “แต่ก็ห่วยกว่าที่ฉันคิดไว้ แม้แต่ความเจ็บปวดระหว่างเปิดการกลับหัวก็ยังทนไม่ไหว ไว้ถึงเวลาคงตายก่อนใคร”

อัลไคด์ทำเสียงหึ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็เปิดการกลับหัวให้สังฆราชกับนักบวชหญิงด้วยเลยสิคะ”

“เธอก็เห็นแล้ว เดวิลมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก ขนาดหอคอยกับโจ้วเหยียนที่เปิดการกลับหัวแล้วก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”

คนคนนั้นยิ้ม “ฉันรู้ แต่ยังไม่ถึงเวลา ต้องรอหาโอกาสเหมาะๆ”

อัลไคด์พยักหน้า

เธอรู้ว่าการเปิดการกลับหัวก็มีเงื่อนไขจำกัดเหมือนกัน

“นายท่าน!”

หอคอยได้สติกลับมา

แต่เนื่องจากเขาบาดเจ็บสาหัสเกินไป ยังต้องนอนอยู่บนเตียง ขยับเขยื้อนไม่ได้

“ฉันกลับมาแล้ว เตรียมเริ่มแผนได้แล้ว” คนคนนั้นนั่งลง “แต่ก่อนหน้านั้นนายกับโจ้วเหยียนต้องรักษาตัวให้หายดีก่อน”

“ไว้พวกนายกลับมามีแรงเมื่อไร ฉันจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ ไม่ต้องไปสนเดวิล”

“ฉันจะฆ่าเขาเอง”

หอคอยโล่งอกขึ้นมาบ้าง แต่ก็อยากขยับ “แต่ว่านายท่าน วงล้อแห่งโชคชะตา…”

พวกเขาไม่กลัวใครทั้งนั้น

แม้แต่เดวิล

อยากฆ่าผู้วิเศษให้ตายมันยากเหลือเกิน

พวกเขาไล่ฆ่าผู้วิเศษพลังกับผู้วิเศษยุติธรรมที่เปลี่ยนภพอย่างต่อเนื่อง ฆ่าติดต่อกันเก้าครั้งถึงจะตายอย่างแท้จริง

จักรพรรดิขาดแค่ครั้งสุดท้าย แต่กลับปล่อยให้กลับมาได้แล้ว

ให้ตายเถอะ!

“วงล้อแห่งโชคชะตาเหรอ” คนคนนั้นยิ้ม “วางใจได้ ถ้าวงล้อแห่งโชคชะตาพยากรณ์ได้ เธอไม่มีทางพยายามคิดหาทางเปิดเส้นทางเชื่อมจักรวาลเพื่อส่งเดวิลไปพัฒนาฝีมือหรอก แต่น่าเสียดาย…”

ถ้าคนที่ไปจักรวาลอื่นคือเดวิลจริง แบบนั้นยังพอจะน่ากลัวอยู่บ้าง

คนคนนั้นไม่เห็นด้วย “พวกนายทำตามที่ฉันสั่งก็พอ”

“ครับ นายท่านของพวกเรา” หอคอยนอบน้อม “ท่านยมทูต”

ผู้วิเศษลำดับที่สิบสาม ผู้วิเศษยมทูต

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท