ตอนที่ 22 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (22)
ผู้ชมทั้งหลายเคยเห็นการต่อสู้ของสวี่หลิงอวิ๋นมาก่อน ทว่าพวกเขากลับเพิ่งเคยเห็นความคล่องแคล่วของเธอ เพราะก่อนหน้านั้น พวกเขาไม่มีเวลาได้เรียนรู้และพบเห็นสิ่งนี้
แต่ในที่สุด…ตอนนี้พวกเขาก็ได้เรียนรู้มันแล้ว!
การเคลื่อนไหวของเธอไม่ได้น่าทึ่งมากนัก เพียงแต่มุ่งเป้าไปที่เป้าหมายโดยตรงแล้วก็แทง! แทง! แทง!
ทุกการเคลื่อนไหวของเธอเต็มไปด้วยซากศพและหนวดของปลาหมึก!
เหล่าทหารมองดูความแตกต่างระหว่างพวกเขากับองค์หญิงสาม ก่อนจะติดตามเธอไป!
คำถามมากมายจากผู้ชมก่อนหน้านั้นเริ่มจางหายไป มีเพียงของรางวัลมากมายลอยขึ้นมาบนจอแสดงผลอีกครั้ง ซึ่งมันสม่ำเสมอราวกับร่วมใจกัน!
“ฉันยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว! ใช่! ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าเธอเอาแต่อาศัยอำนาจของจักรวรรดิอย่างเดียว ไม่คิดว่าเธอแข็งแกร่งและจักรวรรดิต่างต้องพึ่งพาเธอ! ฉันคิดผิดไป!”
“บัดซบ! ฉันจบมาจากโรงเรียนเดียวกับองค์หญิงสาม ถึงฉันจะไม่เคยดูถูกเธอ แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะแกล้งโง่มาตลอด!”
“ฉันไม่คิดว่ารุ่นสองจะมาอยู่จุดนี้ได้ ไม่คาดคิดจริง ๆ!”
“ไม่เอาน่า ถ้าอย่างนั้นคนรุ่นสองจะพูดถึงองค์หญิงสามว่าเป็นคนแบบไหน?”
“คงพูดกันตามข่าวลือ”
“เอ่อ…ก็ดี อย่างน้อยก็ไม่ใช่แค่ชาวบ้านอย่างพวกเราเท่านั้นที่โดนหลอก คุณก็ด้วย พวกเราโล่งใจแล้วล่ะ!”
“เหมือนความเห็นบน!”
“เหมือนความเห็นบน!”
……..
คนรุ่นสองกำลังรู้สึกหดหู่! แม้จะได้รับคำปลอบโยนจากพลเมืองก็ได้!
ฮึ!
สวี่หลิงอวิ๋นกล้าหาญมากยิ่งขึ้นทุกครั้งที่ต่อสู้ ส่วนเหล่าทหารกลับเหนื่อยล้าเต็มทน! เพราะปลาหมึกยักษ์นับหมื่นนั้นไม่สามารถกวาดล้างได้ในคราวเดียว ทว่าการกวาดล้างครึ่งหนึ่งของที่นี่ได้ถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่!
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เหล่ากองทัพจะสามารถจัดการได้!
“เอาล่ะ! ถอนกำลังได้!” หลังจากช่วยเหลือทหารเสร็จ สวี่หลิงอวิ๋นขมวดคิ้วก่อนจะป่าวประกาศคำสั่ง “กลับไปที่ค่าย! ปิดพลังดวงดาวและบินกลับไปซะ!”
เหล่าทหารมองดูปลาหมึกยักษ์ที่ยังคงหลบหนีอยู่ ก่อนจะถอนหายใจออกมา หากกองทัพขนาดใหญ่อยู่ที่นี่ ปลาหมึกยักษ์พวกนั้นคงถูกจัดการจนราบคาบไปแล้ว!
ผู้คนต่างรู้สึกโศกเศร้าเพราะนี่คือโอกาสที่ดีในการกำจัดพวกเอเลี่ยน! แต่พวกเขารู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง การรักษาความแข็งแกร่งเอาไว้ต่างหากที่เป็นตัวเลือกที่ถูกต้องและดีที่สุด!
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูพลทหารที่บินกลับไปและเหลือบมองปลาหมึกยักษ์ที่เหลืออยู่ ก่อนจะหยิบถังน้ำมันเบนซินออกมาจากปุ่มมิติกักเก็บของเธอและราดมันลงไป ปลาหมึกยักษ์เริ่มวิ่งไปมาอีกครั้ง เธอจุดไฟเผาและจากไปโดยไม่รอดูผลลัพธ์
โอคาซีบินกลับไปโดยไม่ลืมที่จะตัดราชาปลาหมึกยักษ์ออกเป็นชิ้น ๆ แล้วจึงเก็บมันใส่ไว้ในปุ่มมิติกักเก็บของตัวเอง เขาต้องการเอามันกลับไปให้เหล่าทหาร เพราะเนื้อของมันจะช่วยเพิ่มพลังของพวกเขาอย่างแน่นอน
แน่นอนว่ายังมีอวัยวะภายในและสิ่งอื่นที่คล้ายกันหลงเหลืออยู่บ้าง แต่สิ่งเหล่านั้นกลับถูกเผาไปจนหมด
จะยังไงก็ไม่สมควรเหลืออะไรไว้ที่นี่ เพราะเกรงว่ามันจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับปลาหมึกเอเลี่ยนตัวอื่น
เหล่าทหารกลับถึงค่ายอย่างไม่เต็มใจนัก พวกเขาหมดแรงและทรุดตัวลง
ตอนนี้ฐานทัพชั่วคราวของพวกเขาเต็มไปด้วยทุ่งพริกไทย เพียงเพื่อใช้มันปกป้องแร่พลังงานเท่านั้น
ทันทีที่พ่อครัวเห็นว่าเหล่าทหารกลับมา จิตใจที่ร้อนรนของเขาก็เริ่มผ่อนคลายลงและเริ่มเตรียมอาหาร
คราวนี้สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้ห้ามปรามการโชว์ทักษะของพ่อครัว แต่เธอกลับหยิบเครื่องปรุงอาหารมากมายออกมาและบอกวิธีการทำอาหารแก่พ่อครัว โอคาซีกลับมาพร้อมกับเศษซากราชาปลาหมึกยักษ์ก่อนจะกล่าวว่า “รีบกินนี้ซะ!”
ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ
พวกเขารู้สึกปลาบปลื้มใจ เพราะสิ่งนี้คือปลาหมึกยักษ์ที่มีพละกำลังถึง แปดดาว
ในกองทัพอื่น ๆ จะมีเพียงนายพลเท่านั้นที่ได้รับปลาหมึกยักษ์ที่มีพละกำลังแปดดาว หรืออีกทาง มันจะกลายเป็นเพียงรางวัลอันทรงเกียรติแก่ผู้ทำดีเท่านั้น
แต่ท่านพลเอกจะให้พวกเขากินมันทุกครั้ง!
การถ่ายทอดสดยังไม่จบลง ผู้ชมทั้งหลายจึงได้เห็นภาพอันแสนอบอุ่น
“ฮือ ๆๆ! ฉันบอกแล้วไงว่าท่านพลเอกของฉันดีเลิศที่สุด พวกเธอดูสิ เขาไม่ได้เก็บมันไว้กินคนเดียว!”
“นี่คือคุณสมบัติที่ท่านพลเอกที่ดีควรมี!”
“ท่านพลเอกครับ! ผมใกล้จะเรียนจบแล้ว ให้ผมรับราชการในกองทัพของท่านได้ไหมครับ?!”
…….
สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัวขณะมองดูยอดไลค์จำนวนมาก เธอรู้สึกเหนื่อยล้ามากและไม่อยากจะพูดอะไร
บรรดาผู้ชมเฝ้ามองดูใบหน้าอันงดงามของเธอ พร้อมทั้งนึกถึงฐานะอันสูงส่งของเธอ หากพวกเขาต้องออกจากห้องถ่ายทอดสดนี้ ก็จะพากันออกไปเป็นคนสุดท้าย
ไม่ใช่ว่าผู้ชมไม่รู้สึกประทับใจ แต่ในใจลึก ๆ พวกเขาต่างรู้สึกขอบคุณความสามารถขององค์หญิงสามเป็นอย่างมากในคราวนี้ต่างหาก องค์หญิงสามมีไหวพริบและมีกลอุบายที่หลากหลาย ไม่เช่นนั้นพวกทหารคงไม่สามารถปกป้องแร่พลังงานไว้ได้ และคงไม่รอดชีวิตกลับมา!
“อันที่จริงองค์หญิงสามก็ไม่แย่นะ!” ผู้ชมพิมพ์ข้อความแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างงุ่มง่าม
“ฮึ่ม! ฉันก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะ แต่เธอน่าจะแข็งแกร่งกว่าทุกคนในนี้!”
“ช่างมันเถอะ ส่งจรวดแล้วพูดตามความรู้สึกเหอะ!”
“พวกเธอมันซับซ้อนซ่อนเงื่อน มันยากนักหรือไงที่จะบอกว่าองค์หญิงสามทรงพลัง? เฮ้อ! ฉันจะพูดเอง องค์หญิงสาม ท่านเก่งที่สุด!”
“องค์หญิงสามสู้ ๆ!”
ผู้ชมกำลังร้องส่งกำลังใจให้เธอ ทว่าหญิงสาวกลับไม่สามารถรับรู้สิ่งเหล่านี้ได้ เพราะเธอผล็อยหลับไป
เช่นเดียวกับพลทหารที่ยังอยู่ในเครื่องแบบ พวกเขานอนราบกับพื้นและผล็อยหลับไปเช่นกัน
คราวนี้ผู้ชมไม่พูดอะไร เพียงแต่เฝ้ามองหญิงสาวอย่างเงียบสงบ
“อันที่จริงองค์หญิงสามเพิ่งอายุ 18 ปี เธอยังเด็กอยู่เลย!”
จะมีสักกี่คนที่ไปสนามรบตั้งแต่อายุสิบแปดปี? หลายคนเพิ่งจะเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย แต่หญิงสาวคนนี้กลับนำกองทหารไปคว้าชัยชนะมาได้
เมื่อพลเอกโอคาซีมาถึง และพบว่าองค์หญิงสามได้ผล็อยหลับไป ชายหนุ่มรูปงามจึงช้อนตัวคนตรงหน้าขึ้นมา และพาเธอกลับไปยังเต็นท์ หลังจากเขาตั้งอุณหภูมิเสร็จแล้ว ก็ลุกขึ้นและมองตรงไปที่กล้องถ่ายทอดสด
กล้องถ่ายทอดสดยังคงปฏิบัติตามคำสั่งของผู้เป็นนายเป็นยังดี มันยังคงถ่ายทอดสดอยู่
หลังจากที่พวกเขาเห็นท่านพลเอกพาองค์หญิงสามกลับไปที่เต็นท์อย่างอ่อนโยน ความรู้สึกชื่นชมจากผู้ชมก่อนหน้านี้ก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นอิจฉาริษยาในทันที
“ทำไมไม่เป็นฉันล่ะ? ถ้าท่านพลเอกดูแลฉันดีอย่างนี้นะ ฉันคงจะลงไปสู้รบกับปลาหมึกยักษ์พวกนั้นแล้ว!”
“ฉันมีหวานใจแล้ว และเขาก็ชื่อว่าโอคาซี ฉันฝันว่าวันหนึ่งเขาจะมารีบฉันที่เมฆสีรุ้ง!”
“มองมาที่ฉัน มองมาที่ฉัน มองมาที่ฉัน…”
“โอ้ย ทำไมท่านพลเอกโอคาซีถึงเป็นสุขภาพบุรุษขนาดนี้ ทำไมคนตรงนั้นถึงไม่เป็นฉัน? ฉันจะนอนหลับไปสักร้อยปีถ้าเขาโอบกอดฉันไว้แบบนั้น!”
……..
แม้ว่าพลเอกโอคาซีจะรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่เขากลับไม่สามารถพักผ่อนได้ เพราะตัวเองมีหลายอย่างที่ต้องจัดการ และต้องตื่นตัวต่อการจู่โจมของเอเลี่ยนทุกครั้ง
“ผมจะปิดการถ่ายทอดสดแล้วนะครับ” ทันทีที่ใบหน้าของโอคาซีเขยิบเข้ามาใกล้กล้องถ่ายทอดสด หญิงสาวหลายพันล้านคนถึงกับกลั้นหายใจ!
หล่อแบบไม่มีที่ติ…คิ้วเรียวยาวเชิดสูง ริมฝีปากเผยให้เห็นสีชมพูอ่อน ช่างเป็นความงามที่ตราตรึงใจเสียจริง!
“พอได้แล้วพอ! ฉันแต่งงานใหม่ไม่ได้หรอกนะ!” ผู้ชมสาวรายหนึ่งพึมพำกับตนเอง
ใครก็ตามที่ได้เห็นใบหน้าอันแสนงดงามนี้ อาจมองเห็นสิ่งรอบตัวเขาเป็นเพียงฝุ่นหยาบกระด้างเท่านั้นก็เป็นได้?