สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际 – ตอนที่ 31 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (31)

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

ตอนที่ 31 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (31)  

“ผู้หญิงแบบนี้เกิดมาในราชวงศ์อันดีงามได้ยังไง? ลองปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นคนธรรมดาหรือให้เธอใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาดูสิ แล้วมาดูกันว่าเธอจะหยิ่งยโสได้แค่ไหนเชียว!”

……

ชาวเน็ตเริ่มด่ากราดไปทั่วพื้นที่บนโลกอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ตาสว่างแล้วต่างรู้ดีว่าองค์หญิงสามเคยทำร้ายผู้อื่นมาก่อน ทว่ายังมีผู้คนอีกมากมายที่ยังไม่ตาสว่าง พวกเขาทำร้ายองค์หญิงสามไปทั่วทุกหนทุกแห่ง บางคนถึงกับฉีกป้ายประกาศขององค์หญิงสามและเดินหน้าไปยังราชวังของจักรวรรดิเพื่อประท้วงให้จักรพรรดิส่งตัวองค์หญิงสามให้แก่ประชาชน

พระราชาโกรธจัด!

พระราชินีเองก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกันและสั่งให้คนไปตรวจสอบเรื่องนี้ ทว่าคราวนี้การตรวจสอบกลับไม่ง่ายนัก เพราะดูเหมือนว่าข้อความที่ถูกโพสต์จะปลิวหายไปจากโลกใบนี้และไม่สามารถค้นหาได้อีก

พวกเขารู้สึกเศร้าโศกเมื่อค้นพบหลักฐานแค่บางส่วนเท่านั้น แม้ว่าจะค้นหาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว แต่ก็ยังไม่พบว่าใครคือผู้บงการอยู่ดี

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น! ต้องเป็นฝีมือลูกน้องของเจ้าเด็กสองทั้งคนนั้นเป็นแน่! ทำทุกอย่างเพื่อบัลลังก์จริง ๆ ทำร้ายแม้กระทั่งน้องสาวของตัวเอง!”

พระราชารู้สึกโกรธ

“อย่าเพิ่งด่วนสรุปเลยค่ะ! น้องไม่เชื่อหรอกว่าลูกชายทั้งสองคนของเราจะทำแบบนี้!”

พระราชินีเอ่ยและเอื้อมมือออกไปลูบมือของพระราชาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะให้คำสัญญาว่าเธอจะพูดคุยกับลูกชายทั้งสองด้วยตนเอง

สวี่หลิงอวิ๋นขับเครื่องจักรกลและกวาดล้างปลาหมึกยักษ์ไปทั่วทุกหนแห่ง

ถ้าหญิงสาวรู้สึกเหนื่อย ก็แค่วิ่งหนีไปและซ่อนตัวอยู่สักพัก จากนั้นก็ตามล่าเหล่าปลาหมึกยักษ์ และลงมือฆ่ามันอีกครั้ง

เพียงแค่ความพยายามในช่วงเช้าตรู่ เธอก็กวาดล้างพวกมันไปถึงหกพันตัว!

“ใกล้ถึงแล้ว! ไปกันเถอะ!” สวี่หลิงอวิ๋นปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้ว่าเธอจะจับปลาหมึกยักษ์ที่ไม่มีกลิ่นเหม็นของอึให้แก่ต้าไป๋

ตัดภาพกลับมาที่ค่ายทหาร พลทหารทั้งหลายต่างเตรียมพร้อมการต่อสู้กับเหล่าปลาหมึกยักษ์ในทุกช่วงเวลา

เมื่อนายทหารฝ่ายเทคนิคเห็นสวี่หลิงอวิ๋นกลับมา พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก องค์หญิงสามช่างน่าทึ่งเสียจริง! เธอฆ่าเอเลี่ยนเกือบครึ่งหนึ่งด้วยตัวของเธอเอง!

“องค์หญิงสาม ท่านคงลำบากมากเลยสินะครับ!”

สวี่หลิงอวิ๋นโบกมือ “ไม่ใช่งานหนักอะไรหรอก แค่เรื่องเล็กน้อยน่ะ!”

หลังจากที่เธอปล่อยต้าไป๋ลง ต้าไป๋กลับยังไม่ยอมจากเธอไป ทว่ามันกลับกัดขากางเกงของเธอแทน ดังนั้นสวี่หลิงอวิ๋นจึงวางปลาหมึกยักษ์ที่เธอล่ามาลงบนพื้น

เสียง ‘ตุ้บ’ ดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหวทันทีที่ปลาหมึกยักษ์ถูกโยนลงกับพื้นในค่ายทหาร ไม่นานนักเหล่าทหารก็ได้ยินเสียง ‘จิ๊บจิ๊บ’ ดังมาจากต้าไป๋

ทันใดนั้นฝูงจิ้งจอกตัวเล็กสีขาวทั้งหลายก็วิ่งเข้ามา จิ้งจอกสีขาวนับสิบตัวเริ่มกัดกินปลาหมึกยักษ์ด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย!

สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัว เป็นการให้อาหารแบบหนึ่งต่อหนึ่งสินะ!

“พวกแกกินเข้าไปเยอะ ๆ แล้วอึออกมาเยอะ ๆ ล่ะ!”

ต้าไป๋แทบจะหน้าคะมำล้มลงกับพื้นทันทีที่ได้ยินประโยคดังกล่าว มันสะบัดหางปุกปุยขนาดใหญ่อย่างโกรธเคือง เมินเฉยต่อเธอและก้มหน้าก้มตากินต่อ!

พ่อครัวกล่าวทักทายทุกคนหลังจากที่เตรียมอาหารเสร็จแล้ว

พลทหารทั้งหมดจ้องมองไปที่สวี่หลิงอวิ๋นด้วยสายตาที่มีความหมาย ว่าสวี่หลิงอวิ๋นควรเริ่มรับประทานอาหารเป็นคนแรก

เมื่อโอคาซีกลับมาแล้วเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า รอยยิ้มก็ผุดขึ้นจากนัยน์ตาของเขา

“เดี๋ยวผมไปเอาอาหารมาให้ครับ” เขากล่าวและเดินเข้าไปในโรงอาหาร ก่อนจะกลับมาพร้อมกับกล่องข้าวขนาดใหญ่ในมือ “กินสิครับ!”

สวี่หลิงอวิ๋นไม่ใช่คนอดทนรีรออะไร เธอใช้พลังดวงดาวไปเยอะมาก ดังนั้นเธอจึงหิวโหยจนทนแทบไม่ไหว

เธอเปิดการถ่ายทอดสดขณะทานอาหารไปด้วย “บัดซบ คำด่าเต็มไปหมด!”

“ใช่แล้ว! คนอย่างท่านสมควรได้รับคำด่า!”

“ฉันไม่คิดเลยว่าท่านจะเป็นคนแบบนี้ ท่านยังมีหน้ามากินอาหารที่ท่านพลเอกโอคาซีเอามาให้อีกเหรอ!”

“หยิ่งยโสและเอาแต่ใจตนเอง ฮึ่ม! ต่อให้ท่านดีเลิศแค่ไหน พวกเราก็จะไม่มีวันชอบท่าน!”

……..

สวี่หลิงอวิ๋นยกยิ้มขณะทานอาหาร และกล่าวว่า “พวกคุณจะชอบฉันหรือไม่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”

“พวกคุณรู้ไหมว่ารสชาติแห่งความหิวโหยนั้นเป็นยังไง?” สวี่หลิงอวิ๋นหยิบหนวดปลาหมึกยักษ์ขึ้นมา ก่อนจะกล่าวต่อว่า “เห็นสิ่งนี้ไหม? ในสายตาของฉัน คำด่าทอของพวกคุณไม่มีค่าอะไรเลยจริง ๆ”

“ถ้าพวกคุณคาดหวังให้ฉันแก้ไขความเลวร้ายของตัวเอง หรือให้ฉันยืนร้องไห้อย่างขมขื่นและสำนึกผิด ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฝันไปเถอะ!”

“พี่สาว ฉันจะกินจนอิ่มและใส่เสื้อผ้าแสนอบอุ่น แล้วพวกคุณจะพูดอะไรได้!”

คำพูดของสวี่หลิงอวิ๋นเป็นเหมือนระเบิดลูกใหญ่ที่ทำให้ชาวเน็ตทั้งหลายบ้าคลั่ง

“ทำไมถึงเป็นคนหน้าไม่อายขนาดนี้!”

“คนอย่างท่านสมควรตาย!”

“ทำไมเอเลี่ยนไม่กินท่านไปซะ”

…….

โอคาซีมองดูความคิดเห็นทั้งหลาย ก่อนจะเหลือบมองสวี่หลิงอวิ๋นที่กำลังนั่งกินอาหารอย่างสบายใจ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้เก็บเอาความคิดเห็นแย่ ๆ จากชาวเน็ตไปใส่ใจเลยสักนิด ทว่าความเจ็บปวดกลับปรากฏขึ้นในหัวใจของเขา!

เธอยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นโดยไม่พูดแก้ต่างได้อย่างไร? เธอไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย!

“สวัสดีครับทุกคน!”

ทันทีที่โอคาซีดึงโปรแกรมถ่ายทอดสดออกไป สวี่หลิงอวิ๋นก็เหลือบมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “ทำไม? ท่านพลเอกจะช่วยแก้ตัวแทนฉันเหรอ? ไม่ต้องหรอก! ฉันก็เป็นคนแบบนี้แหละ!”

ผู้คนก็เป็นกันเช่นนี้ ตราบใดที่ใครบางคนบอกว่าคุณเป็นคนไม่ดี คนทั้งหลายก็จะลงความคิดเห็นเช่นนั้นและกลายเป็นเชื้อเพลิงเกื้อหนุนความคิดกัน หากคนสามคนพูดเหมือนกัน คนคนนั้นก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลวในทันที

เดิมทีสวี่หลิงอวิ๋นเป็นคนอารมณ์ร้อน แม้ว่าหญิงสาวจะเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ก็ไม่เคยใช้อำนาจข่มเหงคนอื่นมาก่อน หากผู้คนไปถามเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอ พวกคุณทุกคนก็จะรู้ว่าเธอเป็นคนประเภทไหนกันแน่?

หากพวกเขาบอกว่าเธอเป็นคนอารมณ์ร้อน ทว่ากลับไม่เคยรังแกผู้อื่น

ชาวเน็ตจะเชื่อหรือไม่? แน่นอนว่าไม่! เฉกเช่นถ้ามีคนมาแจ้งข่าวว่าพระราชาเป็นคนชอบตด และในเวลาต่อมามีคนมาแจ้งว่ามันเป็นเรื่องเท็จ แต่ผู้คนก็จะป่าวประกาศข่าวไปทั่วทุกหนแห่งว่าพระราชาชอบตด

การชอบตดจะกลายเป็นป้ายชื่อของพระราชาในอนาคต

ตลกหรือไม่?

“ท่านไม่ใช่คนแบบนั้น!!” ท่านพลเอกโอคาซีจ้องมองเธอด้วยท่าทีสงบนิ่ง “ทำไมถึงไม่พูดชี้แจงครับ?”

“ชี้แจงอะไร?” สวี่หลิงอวิ๋นกำลังกินและเริ่มรื้อฟื้นความทรงจำในอดีตของตนเอง ราวกับว่าเธอได้เห็นเรื่องน่าขบขัน

“ฉันจะพูดถึงคนที่ลาออก เธอลาออกเองแล้วเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ? โอ้ว เธอบอกว่าฉันไม่ชอบนักเรียนที่มาจากดาวเคราะห์นอกระบบเหรอ? จุ๊ ๆ ถ้าฉันจำไม่ผิดเธอต้องลาออกจากโรงเรียนเพราะถูกคุณครูจับได้ว่าเธอขโมยเงินไม่ใช่หรือไง?”

“อ๋อใช่ หลังจากที่เธอลาออกไปแล้ว เธอตั้งใจเรียนไหม? แล้วทำไมถึงกล้ามากล่าวหาว่าฉันไม่ตั้งใจเรียนล่ะ?!”

“สำหรับคนที่ฉันตบหน้า มันก็จริงที่ฉันทำไม่ดีใส่นาย แต่ฉันอยากจะบอกว่า นายเป็นคนวิปริตมากนะ ที่กล้าส่งรูปโป๊ของตัวเองไปให้ท่านพลเอกโอคาซี ถ้าฉันไม่เห็นมันซะก่อน ท่านพลเอกโอคาซีของเราจะไม่ต้องไปล้างตาที่โรงพยาบาลเลยหรือไง?!”

“สำหรับเด็กเสิร์ฟที่ทำน้ำกระเด็นใส่ฉัน ถ้าคุณไม่เอาแต่ส่งสายตาให้พี่ชายรองของฉัน คุณคิดว่าน้ำมันจะกระเด็นใส่ฉันไหม? แล้วคุณเคยรู้บ้างไหมว่าชุดกระโปรงนั้นเป็นของขวัญจากพ่อของฉัน และฉันใส่มันเป็นครั้งแรก?”

สวี่หลิงอวิ๋นมีความสุขที่ได้รื้อฟื้นความทรงจำและยินดีที่จะพูดอธิบาย และหลังจากนั้นชาวเน็ตทั้งหลายก็รู้สึกสับสน

“เฮ้ คนที่เกี่ยวข้อง ออกมาพูดอะไรหน่อยสิ! สิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องจริงไหม?”

“ฮึ่ม! ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้อง แล้วเรื่องอื่นอีกล่ะ? นิสัยแย่ยังไงก็แย่วันยังค่ำ ไม่ต้องมาล้างบาปให้ตัวเองหรอก!”

“ใช่แล้ว!”

………

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

Status: Ongoing
เมื่อมาเกิดใหม่ในที่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย เรื่องอะไรจะต้องอยู่เฉยกันล่ะ อย่างนี้มันต้องจับหั่น ยัดลงหม้อไฟร้อนๆ แล้วก็ถ่ายทอดสดออกอากาศสิถึงจะถูก!สวี่หลิงอวิ๋น หญิงสาวที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้มาหลายปีแล้ว แถมยังมีนิสัยชอบกินอีกตังหากก็ต้องมีชีวิตที่ถึงคราวจากไปก่อนวัยอันควร เพราะดันไปกินเนื้อแกะที่ติดเชื้อซอมบี้เข้าให้!จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของเจ้าหญิงองค์ที่สาม แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ในโลกยุคอวกาศ ซึ่งดูท่าทางไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ แต่ใครสนกันล่ะ! ตอนนี้เธอสนแต่เรื่อง กิน กิน และกินเท่านั้น แถมเอเลี่ยนดาวดวงนี้ยังมีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด! เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องจับพวกมันมาหั่น มาต้ม มาย่าง แล้วก็อะไรอีกดีนะ? อ้อ…สตีมเมอร์ออกอากาศด้วยเลย!ทั้งหมดนี้จะถือเป็นสงครามอวกาศที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอไปด้วยอาหารแบบต่าง ๆ ที่สวี่หลิงหยุนไปพิชิตและสรรค์สร้างมาได้ สวี่หลิงอวิ๋นหรือองค์หญิงสามนี้จะสามารถล่าเอเลี่ยนและคิดเมนูอะไรออกสตรีมเมอร์บ้าง ไปตามลุ้นเอาใจช่วยกันได้ที่ สตีมเมอร์สาวกินพิชิตอวกาศ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท