ตอนที่ 43 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (43)
“ท่านแช่แข็งปลาหมึกไว้ให้ฉันเหรอ? อุ๊ย! ท่านใจดีจัง! มามะ ให้พี่สาวคนนี้จุ๊บเป็นรางวัล!” หลังจากหลิงสวี่อวิ๋นพูดจบ เธอก็เขย่งเท้าและจุ๊บเข้าที่แก้มของพลเอกโอคาซี
ใบหน้าของโอคาซีร้อนฉ่า ราวกับได้ยินเสียง ‘ตู้ม’ ออกมา!
เขาโตมากพอแล้วจนไม่มีสาวคนไหนกล้ามาจุ๊บแก้มของเขา!
ริมฝีปากบางของสวี่หลิงอวิ๋นนุ่มมาก!
แพทย์ทหารที่อยู่ด้านข้างถึงกับตกตะลึง!
องค์หญิงสามก็ยังเป็นองค์หญิงสามวันยังค่ำ! กล้าขนาดทำกิริยาที่ไม่สำรวมกับท่านพลเอก!
การจู่โจมกะทันหันของสวี่หลิงอวิ๋น ทำให้เธอลืมไปว่าตัวเองกำลังจุ๊บพลเอกโอคาซีผู้เป็นที่รักของทุกคนอยู่!
เขาเป็นชายหนุ่มในฝันของสาววัยกลางคน เป็นตัวเลือกแรกที่แม่สะใภ้ต่างปลาบปลื้ม และเป็นไอดอลของหญิงสาวทั้งหลาย…
ทว่าชายหนุ่มคนนี้กลับมีมลทินมัวหมองเพราะสวี่หลิงอวิ๋น! รับไม่ได้! แพทย์ทหารทั้งสองคนกำลังกรีดร้องอยู่ในใจ! สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือพลเอกโอคาซีไม่มีท่าทีโกรธเธอแม้แต่นิดเดียว!
สวี่หลิงอวิ๋นร้องฮัมเพลงก่อนจะวิ่งออกไปตรวจสอบปลาหมึกยักษ์ด้วยเท้าเปลือยเปล่า เดิมทีโอคาซีกำลังคิดบางอย่างอยู่ ทว่าเขากลับต้องสลัดความคิดนั้นทิ้งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะติดตามผู้หญิงที่ใจร้อนคนนี้ออกไป
องค์หญิงสามกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ทำไมเธอถึงจุ๊บเขาอย่างนั้น? หรือว่าบางทีเธออาจจะมีใจให้เขา? อาจจะใช่ เพราะก่อนหน้านี้เธอมักจะทูลขอจักรพรรดิให้จัดงานแต่งงานให้เธอเสียที ทว่าเธอกลับถูกปฏิเสธ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ความเศร้าก็ก่อเกิดในหัวใจของเขา
เขาสามารถแต่งงานกับใครก็ได้ แต่ทำไมไม่เป็นองค์หญิงสามคนนี้ล่ะ? อย่างน้อยองค์หญิงสามคนนี้ก็น่าสนใจไม่ใช่หรือ?
ทันทีที่องค์หญิงสามเดินออกไปข้างนอก เธอก็พบเข้ากับทหารของตระกูลแอนดรูว์จำนวนมากที่อยู่ตามทางเดิน ก่อนหน้านี้ทหารเหล่านั้นมักจะก้มหัวให้กับคนในราชวงศ์แบบขอไปที และส่งยิ้มให้อย่างไม่จริงใจเท่านั้น
แต่ว่าตอนนี้ เมื่อพวกเขามองดูการแสดงออกขององค์หญิงสาม พวกเขากลับรู้สึกสับสน แม้ว่าความชื่นชมและความเคารพจะยังมีอยู่ก็ตาม
แต่ในอดีต พวกเขาก็เกลียดองค์หญิงสามเป็นอย่างมาก เพราะเธอมักจะเข้ามาพัวพันกับพลเอกโอคาซีของพวกเขาตลอดทั้งวันทั้งคืน ทว่าตอนนี้องค์หญิงสามดีขึ้นมากแล้ว แถมเธอยังช่วยชีวิตพลเอกโอคาซีอีก นั่นหมายความว่าเธอได้ช่วยตระกูลแอนดรูว์เอาไว้!
ในฐานะผู้ติดตามตระกูลแอนดรูว์ พวกเขาจะไม่รู้สึกขอบคุณได้อย่างไร?
“สวัสดีครับ องค์หญิงสาม!” ทุกคนทำความเคารพอย่างนอบน้อม บางส่วนสังเกตเห็นว่าเท้าขององค์หญิงสามกำลังเปลือยเปล่า พวกเขาจึงเร่งรีบหารองเท้ากันจนวุ่น เพราะเกรงว่าเธอจะไม่สบาย
โอคาซีมองดูความวุ่นวายของเหล่าทหาร ก่อนจะกล่าวว่า “พวกนายจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ ฉันจะไปเป็นเพื่อนองค์หญิงสามเอง”
“แต่ท่านพลเอก ท่านไม่ได้นอนมาทั้งคืน ท่านควรไปพักผ่อนได้แล้วนะคะ” หญิงสาวรูปงามคนหนึ่งเดินเข้ามา เธออยู่ในชุดเครื่องแบบสีเงินที่เป็นเครื่องแบบประจำตระกูลแอนดรูว์ แฝงไปด้วยความสวยงามและมีสกุล
ชื่อของเธอคือเด็บบี ลิวอิส เป็นลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลลิวอิส หลังจากจบการศึกษาด้านกรมยุทธจากสถาบันทางการทหารของจักรวรรดิ เธอก็เข้าร่วมกองทัพของตระกูลแอนดรูว์และทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานให้กับกองทหารของพลเอกโอคาซี
ครั้งนี้เธอไม่ได้ติดตามเขามาด้วย เพราะว่าเธอติดธุระบางอย่างที่ต้องทำกับตระกูลลิวอิส และคาดไม่ถึงว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะได้เปรียบมากขึ้น
เธอเหลือบมองสวี่หลิงอวิ๋นด้วยสายตาดูถูก ทว่ากลับเอ่ยออกไปด้วยวาจาสุภาพ “ขอบคุณท่านองค์หญิงสามมากนะคะที่ช่วยชีวิตของโอคาซี และในนามของตระกูลแอนดรูว์ ฉันอยากจะขอบคุณที่ช่วยชีวิตเขาอย่างใจจริง”
“นอกจากนี้ ถ้าท่านต้องการใครสักคนที่จะไปเป็นเพื่อนกับท่าน ฉันสามารถขอให้พลทหารชาร์ลไปกับท่านได้นะคะ คิดว่ายังไงคะ? พลเอกโอคาซีทำงานหนักมามากแล้ว เขาไม่ได้นอนมาทั้งคืนเลย ฉันหวังว่าท่านจะเข้าใจนะคะ”
“ฮะ?” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอ เยี่ยมมาก! ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าค่ายทหารจะเต็มไปด้วยผู้หญิงสารเลวแบบนี้?
“คุณเป็นใคร?” สวี่หลิงอวิ๋นจงใจยืนกอดอก จ้องมองไปที่เธอ และถามโอคาซีด้วยรอยยิ้มว่า “ภรรยาของท่านเหรอคะ?”
โอคาซีขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ครับ เธอไม่ใช่คนในตระกูลแอนดรูว์ของเรา”
“เนื่องจากคุณไม่ใช่สมาชิกในตระกูลแอนดรูว์และยังไม่ใช่ภรรยาของพลเอกโอคาซี ฉันอยากจะรู้เหลือเกินค่ะว่าทำไมคุณถึงกล้าพูดขอบคุณในนามของตระกูลแอนดรูว์?” สวี่หลิงอวิ๋นเชิดหน้าขึ้น “นอกจากนี้ ถ้าฉันต้องการใครสักคนให้ไปเป็นเพื่อน แล้วคุณจะมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้? ดูชุดเครื่องแบบคุณสิ คุณเป็นแค่เจ้าหน้าที่ประสานงาน คุณกล้าดียังไงถึงมาพูดแบบนี้กับฉัน?”
เธอก่นด่าออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ “พอป่าใหญ่ขึ้นแล้ว มีนกหลายประเภทดีนะคะ ฉันอยากจะบอกกับโอคาซีเหลือเกินว่าท่านมีคนหลายประเภทอยู่ในกองทัพของท่าน!”
สวี่หลิงอวิ๋นพูดอย่างนั้น แม้ว่าเธอจะไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรให้คนอื่นได้เห็น ทว่าเด็บบี้ ลิวอิสคนสวยกลับโกรธจัดและไม่สามารถพูดอะไรต่อได้ เธอกำหมัดแน่น ราวกับว่าจะยกมันขึ้นมาต่อสู้กับสวี่หลิงอวิ๋น
ทหารหญิงคนอื่นของตระกูลแอนดรูว์ต่างรู้สึกยินดีปรีดา!
เด็บบี้คนนี้อาศัยความเป็นลูกสาวของตระกูลลิวอิส อวดอ้างยศอันสูงศักดิ์ต่อหน้าพวกเธอ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเธอเหลือบมองพลเอกโอคาซีเพียงครั้งสองครั้ง เธอก็ทำราวกับว่าพวกเธอทำผิดกับท่านพลเอกโอคาซีอย่างไรอย่างนั้น ไม่ต้องพูดถึงความประชดประชัน เธอถึงขนาดทำบางอย่างเพื่อไล่คนออกจากค่ายทหารได้อีกด้วย
ทหารหญิงธรรมดาจะเอาชนะผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไร? ทำได้เพียงอดทนเท่านั้น
คาดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าทำตัวหยิ่งยโสต่อหน้าองค์หญิงสาม เธอคิดว่าองค์หญิงสามจะเป็นแบบพวกเธอหรือไง? ฮิฮิ! เธอเจอของแข็งเข้าแล้วไหม?
ตระกูลลิวอิสของเธอนั้นเป็นเพียงตระกูลขนาดเล็ก ถึงจะสูงศักดิ์กว่าตระกูลของพวกเธอ แต่ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับองค์หญิงสามแล้ว ต่างกันราวกับฟ้ากับเหว
ดวงตาสีฟ้าแสนสวยของเด็บบี้ ลิวอิสเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เธอมองดูพลเอกโอคาซีอย่างเว้าวอน “ท่านพลเอก ฉันไม่ได้ความว่าอย่างนั้นนะคะ องค์หญิงสามพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไงกัน?!”
“อุ๊ย เธอไม่ได้พูดแบบนั้น แล้วเธอพูดแบบไหนล่ะ?” สวี่หลิงอวิ๋นเริ่มหมดอดทน ก่อนจะหันไปพูดกับโอคาซี “ฉันไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้อีกแล้วค่ะ พูดมาสิคะว่าท่านจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?!”
พลเอกโอคาซีพยักหน้าขณะจ้องมองเด็บบี้ “หลังจากที่คุณกลับไปครั้งนี้ คุณไม่ต้องกลับมารายงานตัวที่กองทัพของผมอีก”
“อะไร…อะไรนะ?!” เด็บบี้มองดูโอคาซีอย่างสิ้นหวัง เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนนี้ เธอถึงกับยอมสละชีวิตอันสุขสบายของเธอ และมาอยู่กับเขาในกองทัพ นั่นไม่ใช่เพราะว่าเธออยากจะแต่งงานกับชายผู้นี้หรือ?
ทำไมตลอดหลายปีที่ผ่านมาผู้ชายคนนี้ถึงไม่เคยมองมาที่เธอเลย หนำซ้ำยังไล่เธอออกจากกองทัพเพียงเพราะองค์หญิงสามผู้ไม่มีอะไรดีคนนี้อีก?!
เธอไม่เห็นด้วย!
เธอชำเลืองมององค์หญิงสามด้วยสายตาดุร้าย รอก่อนเถอะ เธอคนนี้จะทำให้องค์หญิงสามกลายเป็นศัตรูของประชาชนทั้งหมดทั้งมวล!
สวี่หลิงอวิ๋นใช้นิ้วแหย่รูหูของเธอ นังผู้หญิงสาวเลว กล้าดียังไงถึงจ้องมองฉันแบบนั้น? เธอได้รับการคุ้มครองมานานเกินพอแล้ว! ฉันคนนี้จะจดจำทุกคำพูดและการกระทำของเธอ!
เธอกล้าดียังไงถึงมาใส่ร้ายฉัน ฉันจะทำให้ตระกูลของเธอพังพินาศ!
เมื่อเด็บบี้บิดเอวของเธอและเดินจากไปพร้อมกับรองเท้าส้นสูงที่ดัง ‘กึกกึกกึก’ ทหารหญิงที่เหลือก็อดไม่ได้ที่จะปรบมือออกมา และทุกคนในห้องโถงก็เริ่มปรบมือ
สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองโอคาซีและถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะตบไหล่ของโอคาซี ทว่าชายผู้นี้กลับสูงมาก ทำให้เธอทำได้เพียงตบเข้าที่แขนของเขาแทน “พี่ชาย ท่านเลือกเจ้าหน้าที่ประสานงานแบบไหนมาเนี่ย? จะต้องให้ทหารรู้สึกอึดอัดใจอีกนานแค่ไหน? อยากให้ฉันล้างแค้นให้พวกเขาไหม?!”
** มาแล้วผู้อ่านจ๋าาา เปิดนิยายให้อ่านฟรี กว่า 700 ตอน **
คัดสรรนิยาย 4 เรื่อง 4 แนว สุดฮิตมาให้อ่านกันตลอดช่วงซัมเมอร์นี้ ต้องรีบไปอ่านแล้ววว
⏰ ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย – 18 เม.ย. นี้
ติดตามผลงานและข่าวสารจากเราได้ที่ เพจ EnjoyBook