ตอนที่ 65 ศึกใหญ่ขององค์หญิงสามในแผนกเกษตรกรรม 10
วิทยาเขตเสมือนจริงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจำลองสถานการณ์ให้เหล่านักเรียนได้ต่อสู้กัน
ในวิทยาเขตเสมือนจริงแห่งนี้ สามารถใช้เครื่องจักรกลในการต่อสู้กันได้ รวมทั้งยังเพลิดเพลินไปกับการใช้พลังดวงดาวในการต่อสู้ กล่าวโดยรวมคือสถานที่แห่งนี้ไว้ใช้สำหรับเรียนรู้การต่อสู้
และยังเป็นสถานที่สำหรับต่อสู้อีกด้วย
การต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าทั้งหมดจะถูกจัดขึ้นในวิทยาเขตเสมือนจริงแห่งนี้ และเปิดกว้างสู่โลกภายนอกโดยสามารถถ่ายทอดสดได้!
ตอนนี้แผนกเกษตรกรรมกำลังทำเช่นนั้น ผู้คนทั้งจักรวรรดิต่างรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว
พูลแมน เคย์ซี่ อาจารย์ใหญ่ของสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิทราบข่าวและมีคำสั่งให้ถอดป้ายประกาศออกโดยด่วน ซึ่งส่งผลให้ผู้คนจากแผนกเทคนิคออกมาอย่างรวดเร็ว พวกเขาลังเลและไม่พูดอะไรออกมาอยู่นาน
“พูดอะไรออกมาสักที!” พูลแมนโพล่งออกไปอย่างเหลืออด
“คือว่า จักรพรรดิชื่นชอบสิ่งนี้เป็นการส่วนตัว ท่านบอกว่าแผนกเกษตรกรรมทำได้ดีมาก! ถึงกับมีรับสั่งส่วนตัวมาว่าห้ามถอดป้ายประกาศนี้ออกครับ”
ใบหน้าของพูลแมนเปลี่ยนเป็นโกรธจัด! จักรพรรดิกำลังคิดบ้าอะไรอยู่?!
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกสงสารลูกสาวมากแค่ไหน แต่ก็ควรนึกถึงความเป็นจริงขององค์หญิงสามด้วยหรือเปล่า? ถ้าเธออยู่ในกองบัญชาการรบหรือกองบัญชาการ และไม่ว่าจะแย่แค่ไหน เธอก็ควรอยู่ในแผนกเทคนิคหรือแผนกซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล ไม่ต้องพูดเลย ทางสถาบันจะติดป้ายประกาศด้วยตนเองด้วยซ้ำ
ตำแหน่งป้ายประกาศขององค์หญิงสามผู้ไม่สามารถเอาชนะได้กลับอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด แล้วแบบนี้จะเอาป้ายประกาศของผู้เข้าชิงคนอื่นไปแขวนไว้ที่ไหน?!
ทุกวันนี้สถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิแทบจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวบนอินเทอร์เน็ตไปแล้ว นาน ๆ ทีจะมีผู้คนเข้ามาเดินเล่น ถ่ายรูปและโพสต์รูปลงบนอินเทอร์เน็ต แต่ถ้าหากผู้คนจำนวนมากแวะมาเยี่ยมชมที่นี่ มันอาจทำให้ผู้เข้าชิงตำแหน่งหัวหน้าคนอื่นจะรู้สึกไม่พอใจเป็นได้!
พวกเขาจะไม่โฆษณาตัวเองได้อย่างไร? หากไม่โฆษณาตัวเอง ผู้คนจะรู้จักพวกเขาได้อย่างไร? และถ้าหากไม่เป็นที่รู้จัก แล้วใครจะเป็นคนออกเงินค่าอุปกรณ์ให้?
องค์หญิงสามนี่ก็เหลือเกิน เธออยู่ทุกที่เสียจริง!
พลเอกโอคาซีรู้ถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี ผู้ช่วยชาร์ลเองก็รู้สึกมีความสุขมากเช่นกัน เขาถึงกับโพสต์บนอินเทอร์เน็ตว่า ‘องค์หญิงสามมีคุณสมบัติความเป็นหัวหน้ามากที่สุด’ เป็นกรณีพิเศษ และยังขอให้ทุกคนช่วยสนับสนุนโดยการซื้ออุปกรณ์ให้แก่องค์หญิงสาม!
เฮ้ อย่าเอ็ดไป มีคนจำนวนมากมาตอบโพสต์ของเขาเชียวนะ หนึ่งคนเรียกหาร้อยคนขานรับ!
แน่นอนว่ามีคนบางส่วนที่แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ใต้โพสต์อย่างบ้าคลั่ง โดยบอกว่าผู้คนที่บริจาคสิ่งของและเงินให้นั้นไร้สมอง มองสถานการณ์ไม่ออก และแน่นอนว่าชาร์ลได้เตะเขาออกไปอย่างไร้ความปรานี
คิดว่าแกเป็นใครกันวะ! องค์หญิงสามเป็นคนแบบไหน ฉันรู้จักเธอดีกว่าพวกแกเยอะ!
ในช่วงเวลาที่เอเลี่ยนปลาหมึกออกอาละวาด ไม่ใช่องค์หญิงสามคนนี้เหรอที่นำพากลุ่มคนขี้แพ้ไปคว้าชัยชนะจากปลาหมึกยักษ์ที่พวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้?!
ไอ้พวกโง่ทั้งหลาย! พวกแกไม่รู้จักองค์หญิงสามคนนี้ดีพอด้วยซ้ำ!
สวี่หลิงอวิ๋นที่กำลังหลับใหลจึงไม่รู้เลยว่าบัดนี้โลกทั้งใบได้เปลี่ยนไปแล้ว!
ขณะเดินออกมาจากตึกขนาดเล็ก แม่บ้านจำนวนนับไม่ถ้วนติดสอยห้อยตามระหว่างทางเดิน ทำท่าทางส่งเสียงให้กำลังใจทันทีที่เห็นหญิงสาว เหมือนกับเห็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่กำลังใกล้ตาย ผู้คนรอบข้างยังคงจับจ้องมาที่เธอด้วยสายตาคาดหวัง ราวกับว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ได้!
นั่นทำให้เธอค่อนข้างรู้สึกสับสน
และที่ไม่เป็นธรรมชาติที่สุดคือพ่อผู้เป็นจักรพรรดิของเธอที่ดูไม่ปกติเลยสักนิด
ทันทีที่เขาเห็นเธอ ดวงตาคู่นั้นเปรียบดั่งถังน้ำขนาดใหญ่ก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา “ลูกรัก! พ่อขอฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ลูกด้วย!”
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกงงงวยกับสัญชาตญาณของจักรพรรดิ จากนั้นเธอจึงเหลือบเห็นหน้าเว็บไซต์การพนันเฉพาะด้าน
“ท่านกำลังทำอะไร?”
“พ่อเอาเงินหนึ่งในสามไปพนันชื่อของลูก บอกได้เลยว่าลูกจะต้องชนะการต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งหัวหน้า! ลูกรัก! พ่อจะกลายเป็นยาจกหรือไม่ นั่นขึ้นอยู่กับลูกทั้งหมด!”
“เดี๋ยวก่อน ท่านพูดว่าอะไรนะ? หนึ่งในสามของอะไร?!” สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับแคะหู เธอคิดว่าเธอไม่ได้ฟังผิด! แล้วอะไรคือการต่อสู้เพื่อตำแหน่งหัวหน้า?
“มันเป็นเงินออมส่วนตัวของพ่อ! เงินจำนวนนับพันล้านเงินดวงดาว!”
จักรพรรดิกะพริบดวงตากลมโต ขณะมองดูลูกสาวสุดที่รัก ก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างขุ่นเคือง “เจ้าคนพวกนั้นบอกว่าลูกรักเป็นหัวหน้าไม่ได้หรอก และยังบอกอีกว่าอยากจะเห็นว่าลูกจะคำนับยังไงเมื่อเจอกับหัวหน้า ฮึ่ม! ให้มันรู้เสียบ้างว่าเป็นลูกสาวของใคร!”
“ลูกรัก ลูกจะช่วยให้พ่อชนะการเดิมพันใช่ไหม?!” จักรพรรดิจ้องมองสวี่หลิงอวิ๋นด้วยสายตาจริงจัง
สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับกุมขมับ พ่อแก่ชราของเธอช่างตลกสิ้นดี!
เป็นคนชอบกดขี่ข่มเหงเสียจริง!
“ขอโทษค่ะ! ลูกทำไม่ได้!” สวี่หลิงอวิ๋นนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะอาหารอย่างไร้อารมณ์ ด้านหน้าของเธอมีเกี๊ยว บะหมี่ ผงเปรี้ยวเผ็ดและอื่น ๆ
นี่คืออาหารที่เธอทำกับหุ่นยนต์ก่อนหน้านี้ หุ่นยนต์มีโปรแกรมจดจำเรื่องราว หากเธอทำอาหารเพียงครั้งเดียว มันก็สามารถทำออกมาได้เหมือนเธอทุกประการ
“ทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ?! ลูกรัก! ลูก! เงินออมส่วนตัวของพ่อขึ้นอยู่กับลูกนะ!” จักรพรรดิรู้สึกตกตะลึง จนแทบจะวิ่งไปกอดขาของลูกสาวแล้วร้องไห้!
“แม่ของลูกเองก็ไม่รู้ว่าพ่อแอบเอาเงินออมส่วนตัวออกมาเพื่อวางเดิมพัน ถ้าเกิดรู้เข้า แม่ของลูกจะต้องโกรธเป็นแน่ แล้วถ้าแม่โกรธ แม่ก็จะทุบตีพ่อ ลูกรัก! ลูกเต็มใจจะเห็นพ่อสุดที่รักของลูกถูกแม่ทุบตีหรือไง!”
จักรพรรดิอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
สวี่หลิงอวิ๋นนั่งกินเกี๊ยวด้วยท่าทีสงบนิ่ง โดยไม่สนใจไยดีการแสดงที่เกินหน้าเกินตาของจักรพรรดิ
“ฮือ ๆๆๆ ลูกสาวคนดีของฉันคงไม่รักฉันอีกต่อไปแล้ว!”
สวี่หลิงอวิ๋นหักข้อนิ้วของตนเอง ก่อนจะถอนหายใจออกมา “ทำไมท่านไม่คิดบ้างว่าลูกอยู่ในแผนกเกษตรกรรม จะไปแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าได้ยังไง? พาเหล่านักเรียนทั้งหลายที่ทำได้แค่ปลูกดอกไม้กับหญ้าไปร้องเพลงและเต้นรำเหรอ?! ลูกไม่ใช่พระเจ้านะ!”
“ไม่ ๆๆ! ลูกรัก! ลูกทำได้!” จักรพรรดิคิดเกี่ยวกับมันและกัดฟันราวกับกำลังตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ “ตราบเท่าที่ลูกเอาชนะได้ เงินออมส่วนตัวของพ่อก็จะกลับคืนมา พ่อเต็มใจจะแบ่งให้ลูกครึ่งหนึ่งถ้าเดิมพันชนะ ถือว่าเป็นรางวัลสำหรับชัยชนะของลูก เป็นไง?!”
“สองในสาม!” สวี่หลิงอวิ๋นชูสองนิ้วขึ้นมาและเจรจากับพ่อของเธอ
จักรพรรดิฟังอย่างเข้าใจ “ไม่ ไม่ ให้ลูกไปเลยสามในห้า!”
“ไม่เป็นไร” สวี่หลิงอวิ๋นนั่งกินข้าวต่อไปโดยไม่ขยับเขยื้อน
“เฮ้ ๆ ตกลง ๆ! สองในสามก็สองในสาม!” เมื่อจักรพรรดิมองเห็นความแน่วแน่ของลูกรัก เขาจึงลดละความพยายาม
ตราบเท่าที่ลูกสาวสามารถคว้าชัยชนะมาได้ หึหึ! ไม่เพียงแต่จะได้เงินออมส่วนตัวของตนเองกลับมาเท่านั้น แต่ยังได้เงินจำนวนมหาศาลกลับมาด้วย
สมบูรณ์แบบ!
“ลูกรัก! อย่าบอกแม่ของลูกล่ะ ไม่อย่างนั้นเราทั้งสองคนจะอดได้เงินทั้งหมด!”
จักรพรรดิกล่าวเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สวี่หลิงอวิ๋นรู้คำเตือนเกี่ยวกับเรื่องเงินเป็นอย่างดี ดังนั้นเธอจึงสามารถทำมันได้
พ่อลูกสองคนต่างมีมติเป็นเอกฉันท์และมีความสุขกันถ้วนหน้า ทำให้อาหารมื้อนี้กลมกล่อมเป็นอย่างมาก
หลังจากมาถึงแผนกเกษตรกรรมด้วยรถเหาะ ทันทีที่สวี่หลิงอวิ๋นออกมาจากรถ เธอก็เห็นนักเรียนคนหนึ่งวิ่งออกมาจากประตูของแผนกเกษตรกรรม
“องค์หญิงสามท่านอยู่นี่แล้ว! ผู้คนจากกองบัญชาการรบและกองบัญชาการมาที่แผนกของเราเพื่อขอให้เราถอดป้ายประกาศของท่านออก”
“ป้ายประกาศ? ป้ายประกาศอะไร?” สวี่หลิงอวิ๋นยังไม่รู้ว่ารุ่นพี่ชายหญิงทั้งหลายได้เตรียมป้ายประกาศเพื่อ ‘เซอร์ไพรส์’ เธอ!
“มันเป็นป้ายประกาศตรงทางเข้าวิทยาเขตเสมือนจริงของเรา” นักเรียนแผนกเกษตรกรรมมองดูองค์หญิงสามและดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงอธิบายอย่างคร่าว ๆ ให้เธอฟัง