สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际 – ตอนที่ 82 ศึกชิงตำแหน่งหัวหน้าของแผนกเกษตรกรรมเริ่มดำเนินการ 9

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

ตอนที่ 82 ศึกชิงตำแหน่งหัวหน้าของแผนกเกษตรกรรมเริ่มดำเนินการ 9 

“อีกสองสามวันครับ” โอคาซีกล่าว

อย่างน้อยก็รอจนกว่าการฝึกภาคสนามของหน่วยรบพิเศษกับแผนกเกษตรกรรมจะจบลง

“ถ้างั้นกระหม่อมขอตัวก่อนนะครับ” คณบดีพูลแมนพยักหน้าด้วยความรู้สึกพึงพอใจ ก่อนจะโบกมือและออฟไลน์ไป

คณบดีแกลลาเกอร์ที่ซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง จึงกล้าออกมาทันทีที่พบว่าคณบดีจากไปแล้ว “โอ้ ตกใจหมดเลย!”

“ท่านกลัวท่านคณบดีเหรอคะ? ฉันคิดว่าท่านไม่กลัวอะไรซะอีก!” สวี่หลิงอวิ๋นเหล่มองคณบดีแกลลาเกอร์แล้วหัวเราะ

“ดูท่านพูดสิ ใครบ้างที่ไม่กลัวคณบดีของเรา?” คณบดีแกลลาเกอร์กล่าวขึ้นเกรี้ยวโกรธ “นอกจากท่านแล้ว ก็คงมีไม่กี่คนที่กล้าต่อรองกับเขา”

คนหลายคนกำลังพูดคุยกัน เหล่านักเรียนจากแผนกเกษตรกรรมที่กำลังขับขี่เครื่องจักรกลก็หยุดเครื่องจักรกลนั้นเช่นกัน พลังจิตและพลังดวงดาวของพวกเขาพร่องลงจนหมด ดังนั้นจึงออกมาจากเครื่องจักรกลเพื่อพักผ่อน

“วันนี้ทุกคนทำได้ดีมาก หลังจากที่พวกเราออกไปแล้ว พี่สาวคนนี้จะทำอาหารอันแสนอร่อยให้พวกเธอเอง และพวกเธอจะต้องไม่เคยกินมันมาก่อนแน่นอน” สวี่หลิงอวิ๋นปรบมือและมองดูเพื่อนร่วมชั้นที่หมดแรง

“เยี่ยมไปเลย!” นักเรียนทั้งหลายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นเมื่อไหร่คำว่าอาหารอันแสนอร่อย

“ฝ่าบาท พวกเราจะกินอะไรกันดีครับ?” สิ่งที่พวกเราไม่เคยกินกันมาก่อน มันคืออะไร?

สำหรับนักเรียนที่ต้องการอาหารอันโอชะมากเป็นพิเศษ เพียงแค่องค์หญิงสามทำอาหารด้วยน้ำเปล่า นั่นก็อร่อยสำหรับพวกเขาแล้ว

เมื่อนึกถึงเมนูปลาหมึกตุ๋นที่เคยกินมาก่อนหน้านี้ แล้วนึกถึงอาหารที่องค์หญิงสามกำลังพูดถึง น้ำลายก็เริ่มหยดลงมา จนไม่สามารถหยุดได้

แม้แต่หูของคณบดีแกลลาเกอร์ก็ตั้งขึ้นเช่นกัน เอ๊ะ มีอะไรอร่อยเหรอ? ต้องติดตามจังหวะขององค์หญิงสามให้ทัน!

ผู้คนเริ่มทำการออฟไลน์ สวี่หลิงอวิ๋นเตรียมมันเทศหวานและแป้ง ไข่ น้ำมัน และน้ำตาลทรายขาวที่สุดแสนจะลึกลับ

ใช่แล้ว มันคือน้ำตาลทรายขาว! ที่ถูกทำขึ้นมาจากอ้อยในมิติกักเก็บของสวี่หลิงอวิ๋น!

หลุมดำมีผลที่ตามมาอันน่าอัศจรรย์ อ้อยเหล่านี้สุกงอมเร็วขึ้น และสวี่หลิงอวิ๋นก็เปลี่ยนมันเป็นน้ำตาลทรายขาว

มันเทศหวาน องค์หญิงสามจะทำอะไรกับมันเทศหวาน? นึ่งเหรอ? หรือว่าต้มน้ำ?

เหล่านักเรียนคาดเดาต่าง ๆ นานา

“ไม่น่าจะเอามานึ่งหรือต้มหรือเปล่า เธอไม่เห็นเหรอ? มีน้ำมันอยู่ด้วยนะ” นักเรียนผู้รอบคอบสังเกตเห็นและพูดมันออกมา

“ทำไมถึงมีไข่อยู่ที่นั่นด้วย? หรือว่าทำเป็นไข่ข้น?” พวกเขายังคงประทับใจกับไข่ข้นที่องค์หญิงสามสวี่หลิงอวิ๋นทำให้กับจักรพรรดิ

สีแบบนั้น กลิ่นแบบนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำได้เพียงดมกลิ่น และยังไม่สามารถลิ้มลองรสชาติของมันได้ แต่ก็จินตนาการได้ว่ามันต้องอร่อยมากแน่นอน…

“สีขาวในขวดนั่นคืออะไร? ใช่เกลือไหม?” พวกเขาไม่เคยเห็นน้ำตาลทรายขาวมาก่อน เมื่อเห็นเครื่องปรุงรสสีขาว พวกเขาเพียงนึกถึงเกลือเท่านั้น

การทำแป้งได้เผยแพร่ไปยังโลกอินเทอร์เน็ต และผู้คนจำนวนมากได้เรียนรู้วิธีการทำบะหมี่ ต่างกล่าวกันว่านี่ถือว่าเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกอย่างแท้จริง!

โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มันถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนที่มีปัญหาทางด้านการย่อยของกระเพาะอาหาร ไม่เพียงแต่จะอร่อย ทว่ายังย่อยง่ายอีกด้วย

“มันต้องอร่อยแน่นอน” เหล่านักเรียนมองดูสวี่หลิงอวิ๋นใช้ทักษะในการปอกเปลือกมันเทศหวาน หั่นเป็นชิ้นเล็ก และใส่มันไว้ในหม้อขนาดใหญ่เพื่อนึ่ง

จากนั้นจึงเห็นว่าเธอนำเอาเมล็ดงาขนาดเล็กใส่ลงไปคั่วในหม้อ ไม่นานพื้นที่กว้างก็อบอวลไปด้วยกลิ่นงาที่ถูกนำเอาไปคั่ว

ห้านาทีผ่านไปมันเทศหวานก็ถูกนึ่งจนสุก

สวี่หลิงอวิ๋นหยิบมันเทศหวานออกมา แขนกลที่อยู่ภายใต้คำสั่งการของเธอก็บดขยี้มันอย่างรวดเร็วจนเละเหมือนโคลน จากนั้นจึงเทแป้งลงไป เติมน้ำเล็กน้อย และใส่ไข่ขาว

“องค์หญิงสามกำลังทำอะไร? ดูซับซ้อนจัง” เหล่านักเรียนทั้งหลายจะเคยเห็นขั้นตอนที่น่าซับซ้อนเช่นนี้ได้ที่ไหนกัน? เติมแป้งอีกครั้งเติมมันเทศหวานบดอีกครั้ง แถมยังใส่ไข่ ใส่เมล็ดงาคั่วอีก

“ยิ่งซับซ้อนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น” ความซับซ้อนเท่ากับความละเอียดรอบคอบ ความละเอียดรอบคอบเท่ากับความอร่อย

“ดูสิ องค์หญิงสามใส่เกลือนั้นลงไปด้วย” เหล่านักเรียนน้ำลายไหล เมื่อสังเกตทุกการกระทำขององค์หญิงสามอย่างถี่ถ้วน

บางคนถึงกับเอาเครื่องโทรจิตออกมาเพื่อบันทึกขั้นตอนขององค์หญิงสาม และคิดว่าจะทำมันเมื่อกลับไป

มันเทศหวานนี้มีรสชาติหวานมาก แค่น้ำตาลเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว

ขั้นตอนต่อไปคือเอาของพวกนี้มารวมกันและลงมือนวด แขนกลนั้นมีพละกำลังมหาศาล แค่ยืนเคียงข้างและคอยมอบคำสั่งให้แก่มันเท่านั้น

เหล่านักเรียนเบิกตากว้างมองดูแป้งเปลี่ยนเป็นสีทอง แขนกลตัดแป้งเป็นเส้นบางด้วยมีดคม และปั้นเป็นพาย ก่อนจะโรยงาลงไปอีกครั้ง

“ว้าว! ดูน่าอร่อยสุด ๆ ไปเลย!”

“พวกเธอช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่ามันจะมีรสหวานหรือเค็ม?” ทุกคนต่างคิดว่าน้ำตาลทรายขาวคือเกลือ

“ไม่ว่าจะหวานหรือเค็ม มันก็น่าอร่อยอยู่ดีนั่นแหละ”

นั่นคือสิ่งที่องค์หญิงสามทำ และองค์หญิงสามคือตัวแทนแห่งอาหารที่แสนอร่อย!

สวี่หลิงอวิ๋นต้มน้ำมันในหม้อ เมื่อน้ำมันเริ่มกลายเป็นฟอง สวี่หลิงอวิ๋นก็ใส่แป้งที่ทำจากมันเทศหวานลงไป

ด้วยเสียง ‘ซ่า’ กลิ่นหอมแปลกประหลาดก็พุ่งออกมา

“โอ้พระเจ้า กลิ่นหอมมาก”

“ไม่ว่ากี่ครั้งก็ตามที่ได้กลิ่นของทอด ฉันกลับรู้สึกต้องการมากขึ้น!”

เหล่านักเรียนของจักรวรรดิชิงเหย้าที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับของทอดจะต้านทานกลิ่นเช่นนี้ได้อย่างไร?

ทอดและผัดให้รสหวานออกมาจากด้านในของหม้อทอด

“หอมหวานมาก รสชาติของมันเทศหวาน หอมจัง!”

ทุกคนในที่นี้ต่างพากันยกศีรษะของพวกเขาขึ้นสูง ใช้จมูกสูดดมสุดแรง ทนรอแทบไม่ไหวที่จะเข้าไปใกล้หม้อและหยิบมันออกมาลิ้มรส

ในไม่ช้า…หลังจากโยนมันลงไป พายมันเทศหวานก็ถูกทอดจนเสร็จสิ้น แขนกลใช้กระชอนช้อนพายมันเทศหวานทั้งหมดขึ้นมาวางไว้บนถาด

สวี่หลิงอวิ๋นหยิบขึ้นมาหนึ่งชิ้นและยื่นให้กับโอคาซี “ลองชิมสิคะ ว่ามันอร่อยไหม?”

ทั้งหวานทั้งหนึบ รสชาตินี้แตกต่างจากรสเผ็ดที่สวี่หลิงอวิ๋นเคยทำมาก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ราวกับเปลี่ยนรูปแบบที่แตกต่างออกไป

“อร่อยมาก” โอคาซีกล่าวเพียงสั้น ๆ “หวานด้วย”

“แน่นอนว่ามันต้องหวานสิคะ หรือท่านคิดว่ามันมีรสชาติยังไงคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้ตระหนักว่าทุกคนเข้าใจผิดว่าน้ำตาลทรายขาวในขวดของเธอคือเกลือ เธอหยิบมันขึ้นมาอีกชิ้นด้วยท่าทีตื่นเต้น และใส่มันเข้าไปในปากของตนเอง ภายใต้สายตาที่อิจฉาริษยาและน้ำลายไหลของเพื่อนร่วมชั้น

“โอ้ ไม่เลวนี่น่า” สวี่หลิงอวิ๋นกินเต็มปากเต็มคำ “แต่ปัญหาหนึ่งเดียวคือของทอดทำให้น้ำหนักขึ้นได้ง่าย”

คราวหน้าอย่าทำของทอดแบบนี้อีก

“องค์หญิงสามมีอะไรให้พวกเรากินไหมครับ?” เหล่านักเรียนจะต้านทานต่อสิ่งล่อตาล่อใจเช่นนี้ได้อย่างไร? มองดูองค์หญิงสามและพลเอกโอคาซีผงกศีรษะกินครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะได้ลิ้มลองมัน

“ไปหยิบกันเอง” สวี่หลิงอวิ๋นโบกมือของเธอ “มีอาหารอยู่ตั้งเยอะแยะ ถ้าไม่พอ ฉันจะทำเพิ่มให้”

“ขอบคุณมากครับองค์หญิงสาม องค์หญิงสามจงเจริญ!” เหล่านักเรียนทั้งหลายส่งเสียงเชียร์และวิ่งเข้าไปหาถาดขนาดใหญ่ หยิบคนละไม้คนละมือโดยไม่เกรงกลัวความร้อน จากนั้นจึงหยิบเข้าปากตนเอง

“ว้าว อร่อยมาก ทั้งหวานทั้งหนึบ นี่คือของที่เทพเจ้าเท่านั้นถึงกินได้ใช่ไหม?” เพียงเหล่านักเรียนได้ลิ้มลองแค่คำเดียว น้ำตาของพวกเขาก็แทบจะไหลออกมา

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

Status: Ongoing
เมื่อมาเกิดใหม่ในที่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย เรื่องอะไรจะต้องอยู่เฉยกันล่ะ อย่างนี้มันต้องจับหั่น ยัดลงหม้อไฟร้อนๆ แล้วก็ถ่ายทอดสดออกอากาศสิถึงจะถูก!สวี่หลิงอวิ๋น หญิงสาวที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้มาหลายปีแล้ว แถมยังมีนิสัยชอบกินอีกตังหากก็ต้องมีชีวิตที่ถึงคราวจากไปก่อนวัยอันควร เพราะดันไปกินเนื้อแกะที่ติดเชื้อซอมบี้เข้าให้!จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของเจ้าหญิงองค์ที่สาม แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ในโลกยุคอวกาศ ซึ่งดูท่าทางไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ แต่ใครสนกันล่ะ! ตอนนี้เธอสนแต่เรื่อง กิน กิน และกินเท่านั้น แถมเอเลี่ยนดาวดวงนี้ยังมีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด! เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องจับพวกมันมาหั่น มาต้ม มาย่าง แล้วก็อะไรอีกดีนะ? อ้อ…สตีมเมอร์ออกอากาศด้วยเลย!ทั้งหมดนี้จะถือเป็นสงครามอวกาศที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอไปด้วยอาหารแบบต่าง ๆ ที่สวี่หลิงหยุนไปพิชิตและสรรค์สร้างมาได้ สวี่หลิงอวิ๋นหรือองค์หญิงสามนี้จะสามารถล่าเอเลี่ยนและคิดเมนูอะไรออกสตรีมเมอร์บ้าง ไปตามลุ้นเอาใจช่วยกันได้ที่ สตีมเมอร์สาวกินพิชิตอวกาศ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท