สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际 – ตอนที่ 84 ศึกชิงตำแหน่งหัวหน้าของแผนกเกษตรกรรมเริ่มดำเนินการ 11

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

ตอนที่ 84 ศึกชิงตำแหน่งหัวหน้าของแผนกเกษตรกรรมเริ่มดำเนินการ 11 

“องค์หญิงสาม ทำไมผมถึงเสียเวลามาหาท่านถึงที่นี่ล่ะ?” รุยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมและเพื่อนร่วมชั้นทั้งหลายที่อยู่ด้านหลังต่างคิดว่าท่านคือผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดกับตำแหน่งหัวหน้า”

“หวังว่าท่านจะเต็มใจให้พวกเราเป็นผู้ติดตามของท่าน และต่อสู้ไปกับท่าน” รุยคุกเข่าลง ก้มศีรษะและกล่าวต่อหน้าสวี่หลิงอวิ๋น

“ผมหวังว่าพวกเราจะได้เป็นผู้ติดตามของท่าน ได้โปรดยอมรับพวกเราด้วยเถอะครับ!” เมื่อรุยคุกเข่าลง เหล่านักเรียนทั้งหลายจากกองบัญชาการรบที่อยู่ด้านหลังเขาก็คุกเข่าลงทีละคน

ฉากตรงหน้าดูยิ่งใหญ่มาก นักเรียนทั้งหลายจากแผนกเกษตรกรรมที่กำลังกินปลาหมึกเริ่มรู้สึกอาหารในปากของพวกเขาไม่อร่อยอีกต่อไป

“บ้าเอ๊ย คนสารเลวพวกนี้กำลังจะขโมยงานของพวกเรา” เหล่านักเรียนแผนกเกษตรกรรมกัดพายมันเทศหวานเข้าไปในปาก และมองดูนักเรียนจากกองบัญชาการรบที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

“ถ้าองค์หญิงสามยอมรับพวกเขา พวกเราจะตกกระป๋องหรือเปล่า? และจะไม่ได้กินอาหารอร่อย ๆ แบบนี้อีก” พวกเขารู้สึกสับสนเมื่อนึกถึงว่าในอนาคตนักเรียนจากหน่วยรบพิเศษจะติดตามพวกเขาและแย่งเอาองค์หญิงสามไป

ไม่มีเหตุผลอะไรที่องค์หญิงสามจะปฏิเสธคนเหล่านี้

รุยรอคอยคำพิจารณาของสวี่หลิงอวิ๋นอย่างใจจดใจจ่อ

เขาเดินออกมาจากแผนกหน่วยรบพิเศษ และถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ หากสวี่หลิงอวิ๋นไม่ยอมรับ พวกเขาจะเสียจุดยืนเล็กน้อยในหน่วยรบพิเศษ

สวี่หลิงอวิ๋นลูบคางและมองดูรุยที่ก้มศีรษะอยู่

“พวกนายไม่คิดบ้างเหรอว่าฉันไม่มีความทะเยอทะยาน และถ้าติดตามฉัน พวกนายจะไม่มีอนาคต?” สวี่หลิงอวิ๋ยถามขึ้นอย่างสงสัย “ความทะเยอทะยานชั่วชีวิตของฉันคือการกินอาหารจากทั่วทุกมุมโลก กินอาหารอร่อย ๆ จากทุกห้วงดวงดาวทั้งหมด หาเงินให้ได้จำนวนมากและใช้ชีวิตอย่างสงบสุข”

“ถ้ามาติดตามฉัน พวกนายจะไม่ได้อนาคตที่พวกนายต้องการ”

“เหตุผลที่ฉันเต็มใจยอมรับนักเรียนแผนกเกษตรกรรม นั่นเป็นเพราะพวกเขามีอนาคตที่น้อยนิด ฉันสามารถหาเงินกับพวกเขาได้ กินอาหารด้วยกัน ดื่มด้วยกัน แต่พวกนายล่ะ เป้าหมายชีวิตของพวกนาย เป้าหมายตลอดชีวิตของพวกนายคือการได้ไปค่ายทหารและประสบความสำเร็จ”

“พวกนายต้องนึกถึงมันด้วย”

รุยกำมือแน่น แน่นอนว่าเขารู้อยู่แล้วว่าองค์หญิงสามเป็นคนแบบไหน แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังคิดว่าองค์หญิงสามเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพวกเขาอยู่ดี

“องค์หญิงสาม ตั้งแต่ที่พวกเรามายืนต่อหน้าท่าน พวกเราคิดมันมาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วครับ” รุยกล่าวอย่างหนักแน่น

โอคาซีมองดูรุย ก่อนจะเดินเข้าไปด้านข้างของสวี่หลิงอวิ๋น “รับไว้เถอะครับ”

ด้วยความช่วยเหลือของรุย โอกาสการชนะการแข่งขันแย่งชิ่งตำแหน่งหัวหน้าของสวี่หลิงอวิ๋นจะสูงขึ้น

กล่าวถึงเรื่องของอนาคต ด้วยตัวตนของเขาเอง ตราบใดที่เขากล้าหาญและหนักแน่น ยังจะกลัวว่าไม่มีอนาคตอยู่อีกเหรอ?

รุยเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ และมองไปยังพลเอกโอเคซีด้วยความตื้นตันใจ

พลเอกเป็นกิ๊กกับองค์หญิงสามจริง ๆ ด้วย!

ถ้าองค์หญิงสามยอมรับเขา นั่นไม่ได้ความหมายว่าพลเอกก็ยอมรับเขาเช่นกันเหรอ? มันเป็นการกระทำที่คุ้มค่ามาก คุ้มค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ไม่เพียงแต่รุยเท่านั้น ทว่านักเรียนคนอื่นจากหน่วยรบพิเศษที่อยู่ด้านหลังเขาก็ดีใจมากเช่นกัน ต่างพากันเงยหน้าขึ้นและมองดูพลเอกโอคาซีผู้สง่างาม

“ก็ได้ เพิ่มมาอีกหน่อยคงไม่เป็นภาระอะไร” สวี่หลิงอวิ๋นยักไหล่ “แต่หวังว่าพวกเขาจะไม่เสียใจ และต่อว่าฉันในอนาคตโดยบอกว่าฉันทำให้พวกเขาเสียอนาคตนะ”

“จะเป็นไปได้ยังไง เป็นโชคดีของพวกเขาที่พวกเขามีหัวหน้าแบบท่าน” โอคาซีกล่าวขณะจ้องมองสวี่หลิงอวิ๋น

สายตาคู่นั้นลึกซึ้งมากเสียจนดูเปลือยเปล่า นั่นทำให้เหล่านักเรียนทั้งหลายคลางแคลงใจว่าพวกเขาไม่ควรอยู่ที่นี่ในตอนนี้

ยกเว้นแต่สวี่หลิงอวิ๋นที่รู้สึกวิตกกังวล ไม่มีความรู้สึกอื่นผสมปนเป

เมื่อรุยได้ยินว่าพวกเขาได้รับการยอมรับแล้ว เขาก็ลุกขึ้นพรวดพราด และเดินไปยืนด้านหลังของสวี่หลิงอวิ๋นด้วยการแสดงความนับถือ ซึ่งนั่นทำให้เหล่านักเรียนจากแผนกเกษตรกรรมที่กำลังมองดูรู้สึกโกรธเคืองด้วยความอิจฉาริษยา

“ไอ้หมอนี้ รู้ซะไว้เถอะว่ากำลังกินอาหารของคนอื่น ก่อนที่องค์หญิงสามจะเข้ามาที่แผนกเกษตรกรรมทำไมถึงไม่เคยคิดมาขอความช่วยเหลือเลยล่ะ? ฮึ่ม! เพราะไม่เห็นว่าพลังของพวกเราอัปเกรดน่ะสิ เหตุผลที่มาที่นี่ก็เพราะอยากเลื่อนขั้นพละกำลังสินะ!”

“ฉันคิดว่าพวกเขาเป็นสายลับของฉินหยวน!”

ทฤษฎีแผนร้ายมากมายผุดขึ้นในหัวของเหล่านักเรียนแผนกเกษตรกรรม ราวกับว่ากลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาเป็นกลุ่มคนโกหกที่น่ารังเกียจที่พยายามหลอกล่อความไว้วางใจจากองค์หญิงสามผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ หลังจากได้รับการเลื่อนขั้นแล้ว พวกเขาจะเตะองค์หญิงสามจนล้มลง

“พวกเราต้องปกป้ององค์หญิงสาม! จะปล่อยให้คนต่ำทรามประสบความสำเร็จไม่ได้!” นักเรียนแผนกเกษตรกรรมทั้งหลายตัดสินใจเด็ดขาด และกินพายมันเทศหวานอีกครั้ง!

อืม! อร่อยจัง!

สวี่หลิงอวิ๋นได้ผู้ติดตามหน้าใหม่ และนั่นทำให้พายมันเทศหวานที่อยู่ในถาดมีจำนวนไม่เพียงพอ เธอจึงหยิบมันเทศหวานออกมาเพิ่ม ทำให้แขนกลก็ยุ่งอยู่กับการเริ่มทำอาหารอีกครั้ง

คณบดีแกลลาเกอร์มีความสุขกับช่วงเวลาแห่งการกิน แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เขาก็แอบเอาพายมันเทศหวานสองสามชิ้นและอาหารกระป๋องสองสามกระป๋องไว้ในมิติกักเก็บของเขา เพื่อเก็บพวกมันไว้เป็นขนมว่างยามดึกให้แก่ตัวเขาเอง

สำหรับนักเรียนจากแผนกของตัวเองที่วิ่งแจ้นเข้ามายอมตนอยู่ในอำนาจนั้น เขาไม่ได้ตำหนิอะไรเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขากลับมีความสุข

ตอนนี้กลับสามารถกินได้อย่างไร้ความละอายใจมากยิ่งขึ้น!

เดิมทีรุยรู้สึกวิตกกังวลเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นคณบดีของตนเอง ทว่าคณบดีกลับทำท่าทีราวกับว่าไม่เห็นพวกเขาทั้ง ๆ ที่มองเห็น ห่วงแต่จะขโมยกินและเพิกเฉยพวกเขา นั่นทำให้รุยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย

คณบดีไม่ได้พูดอะไร แม้ว่าพวกเขาจะมีสติหยั่งรู้ แต่กลับไม่มีใครพูดอะไรออกมา

เหล่านักเรียนจากหน่วยรบพิเศษกำลังรอคอยอาหารอันแสนอร่อย ทุกคนได้รับปลาหมึกกระป๋องสองกระป๋อง ก่อนจะเปิดมันอย่างระมัดระวังและลิ้มรส

“อร่อยมากจริง ๆ! ซี้ด!” แม้ว่ามันจะเผ็ด แต่รสชาติกลับเป็นเอกลักษณ์ และรู้สึกถึงความสบายที่ไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกาย

ไม่นานนักเหล่านักเรียนหน่วยรบพิเศษก็รู้สึกถึงพลังดวงดาวที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น!

“ว้าว! เป็นอย่างที่ลือกันไว้เป๊ะเลย! มันมีประโยชน์ในการเพิ่มพลังดวงดาวจริงด้วย! องค์หญิงสามน่าทึ่งชะมัด!” การได้เห็นกับกับตาตนเองย่อมดีกว่าการได้ยินผ่านหูคนอื่น พวกเขาได้ลิ้มลองปลาหมึกกระป๋องแล้ว และนั่นทำให้พวกเขารู้สึกถึงรสชาติความแตกต่างที่โดดเด่นขององค์หญิงสาม

ปลาหมึกเอเลี่ยนก่อกวนห้วงดวงดาวมาเป็นเวลาหลายปี ใครจะคิดว่าจะสามารถนำเอาสิ่งนี้มาทำเป็นอาหารแสนอร่อยที่เพิ่มพลังดวงดาวได้?

น่าเสียดายตอนที่ผู้คนเริ่มมองเห็นค่าพวกมันก็ตอนที่พวกเขาไม่มีกำลังจะจ่ายแล้ว

ถึงแม้ว่าซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งจะเริ่มวางขายเนื้อปลาหมึกเอเลี่ยนนี้ แต่ฝีมือการปรุงและเครื่องปรุงรสนั้นก็เป็นสิ่งหาได้ยาก เป็นไปไม่ได้ที่จะทำรสชาติได้เหมือนของสวี่หลิงอวิ๋น หลังจากกินไปแล้ว พลังดวงดาวก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก

นี่คือสิ่งที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับมัน

ทำไมอาหารกระป๋องที่องค์หญิงสามทำออกมาถึงได้เพิ่มพลังดวงดาวได้ แต่ทำไมพวกเขาถึงทำไม่ได้? มันเป็นปัญหาเรื่องขอเครื่องปรุงรสหรือเปล่า?

“เป็นยังไง? การตัดสินใจของฉันถูกต้องใช่ไหม?” รุยกินอาหารกระป๋อง และถามเพื่อนร่วมชั้นที่ติดตามเขามาเสี่ยงดวงด้วยอย่างระมัดระวัง “นี่จะต้องเป็นการเสี่ยงโชคที่ดีที่สุดในชีวิตของฉันแน่นอน”

“ถูกต้อง”

“รอจนกระทั่งพวกเราชนะการแข่งขันแย่งชินตำแหน่งหัวหน้าเพื่อองค์หญิงสาม จากนั้นเราจะเป็นคนสนิทที่ทรงพลังและจงรักภักดีที่สุด” ส่วนแผนกเกษตรกรรมน่ะเหรอ? ฮึ! พวกเขาไม่ได้อยู่ในสายตานักหรอก!

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

Status: Ongoing
เมื่อมาเกิดใหม่ในที่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย เรื่องอะไรจะต้องอยู่เฉยกันล่ะ อย่างนี้มันต้องจับหั่น ยัดลงหม้อไฟร้อนๆ แล้วก็ถ่ายทอดสดออกอากาศสิถึงจะถูก!สวี่หลิงอวิ๋น หญิงสาวที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้มาหลายปีแล้ว แถมยังมีนิสัยชอบกินอีกตังหากก็ต้องมีชีวิตที่ถึงคราวจากไปก่อนวัยอันควร เพราะดันไปกินเนื้อแกะที่ติดเชื้อซอมบี้เข้าให้!จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของเจ้าหญิงองค์ที่สาม แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ในโลกยุคอวกาศ ซึ่งดูท่าทางไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ แต่ใครสนกันล่ะ! ตอนนี้เธอสนแต่เรื่อง กิน กิน และกินเท่านั้น แถมเอเลี่ยนดาวดวงนี้ยังมีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด! เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องจับพวกมันมาหั่น มาต้ม มาย่าง แล้วก็อะไรอีกดีนะ? อ้อ…สตีมเมอร์ออกอากาศด้วยเลย!ทั้งหมดนี้จะถือเป็นสงครามอวกาศที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอไปด้วยอาหารแบบต่าง ๆ ที่สวี่หลิงหยุนไปพิชิตและสรรค์สร้างมาได้ สวี่หลิงอวิ๋นหรือองค์หญิงสามนี้จะสามารถล่าเอเลี่ยนและคิดเมนูอะไรออกสตรีมเมอร์บ้าง ไปตามลุ้นเอาใจช่วยกันได้ที่ สตีมเมอร์สาวกินพิชิตอวกาศ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท