ตอนที่ 105 การฝึกภาคสนามของการต่อสู้ชิงตำแหน่งหัวหน้า 17
คำพูดของชาวเน็ตทำให้ผู้คนรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว
คนจากฝั่งสีแดงได้เรียนรู้การเติบโตมากขึ้นเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องขมวดคิ้วกับความยากลำบาก แต่หลังจากช่วงเวลานี้ผ่านพ้นไป และเมื่อพวกเขาได้กลับเข้าไปสู่สนามรบอีกครั้ง พวกเขาจะมุ่งเอาชนะความยากลำบากนั้นให้ได้
เหล่าผู้บัญชาการทหารทั้งหลายในปัจจุบันนี้มีใครบ้างที่ไม่เคยประสบความล้มเหลวมากก่อน? ใครที่ไม่หมดสภาพเช่นนี้? นี่คือความล้มเหลวที่จะทำให้ผู้คนเติบโตขึ้น
ความกังวลของชาวเน็ตนั้นค่อนข้างสมเหตุสมผล ชาวเน็ตบางคนถึงขนาดส่งจดหมายไปหาคณะกรรมการเพื่อให้ยุติการแข่งขันนี้
เพียงเพราะไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบอีกต่อไป
ดูเหมือนว่าคนจากฝั่งสีเขียวที่เอาแต่กินและดื่มจะเป็นผู้คว้าชัยชนะมาได้ มีอะไรให้ดูอีกบ้าง? ว่าแต่คนจากฝั่งสีเขียวเก่งกาจขนาดนั้นเลยเหรอ?
ไม่สิ! คนที่เก่งกาจคือองค์หญิงสามต่างหาก!
องค์หญิงสามเป็นผู้บัญชาการที่เก่งกาจ แต่ไม่ใช่ผู้ฝึกสอนที่ยอดเยี่ยม
พูลแมนส่ายหัว และตอบคำถามชาวเน็ต
“ประการแรกองค์หญิงสามไม่ใช่ผู้ฝึกสอนครับ เพราะฉะนั้นพวกคุณไม่จำเป็นต้องมานั่งตัดสินว่าองค์หญิงสามเป็นคนยังไง”
“สำหรับคนที่พูดถึงทีมสีเขียว พวกคุณคิดจริง ๆ เหรอครับว่าพวกเขาไม่ได้เรียนรู้การเติบโตขึ้นสักนิดเลย? ผิดแล้วครับ! ผมพนันได้เลยว่าทีมสีเขียวได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย!”
“พวกเขาทุกคนก่อสร้างบ้านและเก็บรวบรวมเสบียงภายใต้คำบัญชาการขององค์หญิงสาม พวกเขาได้เรียนรู้วิธีการจัดการกับหนังสัตว์และมองโลกในแง่ดีมากขึ้น แล้วทีมสีแดงล่ะ?”
“ใช่แล้ว! พวกเขาพบเจอกับความพ่ายแพ้และย่อมแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต แต่สนามรบในครั้งหน้า พวกเขาจะทำผลงานได้ดีกว่าทีมสีเขียวหรือไม่? มันเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้!”
“ทั้งสองนี้จะเป็นยังไงต่อไป พวกเราต้องมารอดูกัน!”
คำพูดของคณบดีพูลแมนนั้นค่อนข้างสมเหตุสมผล แต่การพูดคุยบนอินเทอร์เน็ตกลับเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่าความคิดเห็นแบ่งออกเป็นสองฝั่ง
พวกคุณคิดว่าการมีผู้บัญชาการที่ยอดเยี่ยมอย่างองค์หญิงสามเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดี?
และนี่เป็นครั้งแรกที่ผู้คนทั้งหลายรู้สึกปวดหัวราวกับการมีผู้บังคับบัญชาการที่เก่งกาจเกินไปอาจกลายเป็นความผิดพลาดได้ใช่หรือไม่?
และในไม่ช้า การโต้เถียงของพวกเขาก็หยุดลง!
ขณะที่การแข่งขันกำลังจะจบลง นักเรียนระดับ 5 ดาวที่กำลังเลื่อนสเกตอยู่ก็ได้รับการเลื่อนขั้นเป็น 6 ดาวในทันที!
เป็นการเลื่อนขั้นขึ้นโดยตรง!
ช่างน่ากลัวเหลือเกิน…
นักเรียนคนหนึ่งได้ก้าวผ่านช่วงเวลาปรับตัวและได้เลื่อนขั้นไปยังระดับ 6 ดาวในช่วงระยะเวลาอันสั้น! และกลายเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับ 6 ดาวในชั้นปีที่หนึ่ง!
“เป็นไปได้ยังไง!” ชาวเน็ตไม่อยากจะเชื่อ!
และเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น!
คลื่นพลังที่ก่อเกิดจากนักเรียนที่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 6 ดาวทำให้เพื่อนนักเรียนตัวน้อยที่อยู่บริเวณโดยรอบพลิกคว่ำ!
“บัดซบ! คลื่นลูกใหญ่มาก! เด็กคนนี้มีศักยภาพเหลือล้น!”
ชาวเน็ตทั้งหลายลืมเรื่องการสร้างกระทู้ไปในระหว่างนั้น และเริ่มสังเกตอย่างระมัดระวังขณะย้อนดูวิดีโอก่อนหน้า
“พระเจ้า! พวกคุณลองซูมดูบนหน้าจอสิ! คนพวกนั้นกำลังกีดกันคลื่นลมอยู่! ไม่อยากจะเชื่อเลย!”
“พวกเขาเปิดระบบป้องกันอยู่หรือเปล่า? มันควรจะเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ? พวกเขาไม่น่าทำแบบนั้นได้ด้วยพลังจิตของพวกเขาหรอกใช่ไหม?”
“ตอนนี้ฉันไม่รู้เลยว่าการประสบความสำเร็จในการเลื่อนขั้นของนักเรียนคนนี้เป็นความตั้งใจขององค์หญิงสามหรือไม่?”
“ฉันอยากจะพูดเหมือนคอมเมนต์บน จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่ามีคำหนึ่งที่สามารถอธิบายความรู้สึกนี้ได้ นั่นคือพอคิดแล้วก็รู้สึกกลัว!”
“ใช่เลย พอคิดแล้วก็กลัว! ฉันคิดว่าองค์หญิงสามน่าจะตั้งใจทำแบบนี้!”
“คนอย่างพวกเราจะคาดเดาได้ยังไงว่าองค์หญิงสามกำลังทำอะไรอยู่?”
……..
ไม่ว่าเธอจะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
สิ่งสำคัญที่สุดคือองค์หญิงสามไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับการเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 6 ดาวของนักเรียนคนนั้น และยังบอกให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นเกมต่อไป!
ถูกต้อง! เริ่มเกมต่อไปได้! เพราะว่าอีกฝ่ายได้รับการเลื่อนขั้น จึงทำให้เกมถูกยกเลิกอย่างกะทันหัน เพื่อให้ทุกคนได้ผ่านเข้ารอบไปอย่างยุติธรรม และแล้วเกมรอบต่อไปก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
ชายหนุ่มคนที่เพิ่งได้รับการเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 6 ดาวรีบวิ่งไปยังจุดเริ่มต้นอย่างเชื่อฟัง พร้อมกับวิ่งแข่งกับเพื่อนร่วมสถาบันอีกครั้ง
เบนเน็ตเองก็ยืนอยู่ที่จุดเริ่มต้นเช่นกัน เขาเป็นคนที่อ้วนที่สุดในทีม และทักษะที่แปรปรวนนี้ทำให้เพื่อนตัวน้อยทั้งหลายที่อยู่ด้านข้างพูดจาดูถูกเขา!
“นี่ ฉันจะบอกอะไรให้นะเบนเน็ต รีบเข้าล่ะ! คนอ้วนอย่างนายแค่วิ่งได้ก็พอแล้ว นายคิดว่านายจะเอาชนะได้หรือไง?”
“ฮึ่ม! ใครจะรู้ล่ะ!” ใบหน้าของเบนเน็ตแดงก่ำด้วยความโมโห และพูดออกไปอย่างโกรธจัด
เพื่อน ๆ รอบตัวเขาต่างพากันหัวเราะ
หลังจากที่ทุกคนเตรียมพร้อม เบนเน็ตก็เริ่มมีแรงจูงใจในการทำสมาธิเพื่อเรียกพลังจิตของตัวเองมากขึ้น เขาเชื่อในเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น! นั่นคือการบิน!
เขากำลังจะชนะ! เกิดอะไรขึ้นกับเด็กอ้วนคนนั้น? องค์หญิงสามเคยกล่าวไว้ว่าเขาเป็นคนอัจฉริยะที่หาใครเปรียบไม่ได้! ตราบใดที่เขาเต็มใจจะพยายามอย่างหนัก เขาจะกลายเป็นดวงดาวที่เจิดจรัส!
ทันทีที่เสียงนกหวีดของสวี่หลิงอวิ๋นดังขึ้น และธงถูกสะบัดลงมา เบนเน็ตก็พุ่งตัวออกไปอย่างว่องไวราวกับลูกธนู!
รวดเร็ว!
ต้องเร็วกว่านี้! นักเรียนทั้งหลายยังไม่ทันสังเกต เขาก็ได้เปลี่ยนพลังดวงดาวเป็นเครื่องช่วยวิ่งบริเวณด้านหลังโดยตรง!
ใช่เลย! นี่เป็นวิธีการแรกที่สวี่หลิงอวิ๋นสอนให้พวกเขาแปรสภาพพลังดวงดาว มันคือเครื่องส่งเสริมการวิ่ง!
เครื่องส่งเสริมการวิ่งกับรองเท้าสเกตช่วยทำให้เขารวดเร็วยิ่งขึ้น!
แต่เท่านี้ยังไม่พอ! ไม่พอ!
เพื่อนร่วมทีมคนอื่นที่อยู่จุดเริ่มต้นเหมือนกันต่างรู้สึกตกตะลึง! ไอ้หมอนั้นเอาน้ำมันทาไว้ที่เท้าหรือยังไง? ทำไมถึงวิ่งเร็วขนาดนั้น?!
ความสนใจทั้งหมดของเบนเน็ตอยู่ที่การ ‘วิ่ง วิ่ง และวิ่ง’ เท่านั้น!
สวี่หลิงอวิ๋นยิ้ม เธอพยักหน้าด้วยความพอใจ ใช่แล้ว! นี่คือสิ่งที่เธอต้องการมาตลอด!
การกระทำของเบนเน็ตทำให้นักเรียนทั้งหลายตกตะลึง!
เครื่องส่งเสริมการวิ่งที่ขาช่วยให้เขาสไลด์ด้วยความเร็วสูง เป็นผลให้นักเรียนทุกคนถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งแผ่นบางเบาที่ยังสามารถมองเห็นรอบข้างได้
และสิ่งสำคัญที่สุดคืออีกฝ่ายกำลังได้รับการเลื่อนขั้น! ได้เลื่อนขั้น! เลื่อนขั้น!
มันเป็นเช่นนั้น พวกเขาเห็นได้ว่าทั่วทั้งร่างกายของเบนเน็ตเต็มไปด้วยพลังดวงดาวที่แข็งแกร่ง!
พลังดวงดาวมีจำนวนเพียงพอที่จะไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของเขา และบีบอัดเข้าด้วยกัน! จากนั้นจึงส่งต่อไปยังทุกซอกทุกมุมของร่างกาย พลังในช่องการเปลี่ยนแปลงพลังจิตได้ใช้พลังดวงดาวเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและดัดแปลงร่างกาย!
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้เหล่าผู้นำกองทัพทหารทั้งหลายมองมาที่เขา
ใครเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้บ้าง?! ไม่เพียงแต่จะทำให้เขาเลื่อนขั้นไปถึงระดับห้าเท่านั้น แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น การเลื่อนขั้นของอีกฝ่ายยังไม่จบลงเลยด้วยซ้ำ!
เขากำลังก้าวไปสู่ระดับ 6 ดาว!
ขั้นตอนนี้จะต้องใช้พลังงานจำนวนมหาศาล ร่างกายของเบนเน็ตจะต้องตอบรับพลังงานเหล่านี้ให้ได้อย่างรวดเร็ว ขั้นตอนนี้เปรียบเสมือนกับใครบางคนมาเหยียบเครื่องเร่งบนร่างกาย จนในที่สุดช่วงเวลาทั้งหมดสิ้นสุดลงไปพร้อมเขา!
“เด็กคนนี้ชื่อว่าอะไร? เขาเป็นนักเรียนจากกองบัญชาการกำลังพลหรือเปล่า?” จอมพลก็อดวินถามคณบดีแกลลาเกอร์ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ดวงตาของคณบดีแกลลาเกอร์เปล่งประกาย แต่เมื่อลองคิดดูแล้ว ไม่มีนักเรียนหลายเลขนี้ในแผนกของเขา “ไม่ใช่ครับ! บางทีอาจจะมาจากหน่วยรบพิเศษ”