“เพ้อเจ้ออีกแล้ว!” โอคาซีพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจนัก มีเพียงผู้หญิงคนนี้เท่านั้นที่สามารถพูดหยอกล้อเกี่ยวกับเขาได้ ถ้าเป็นคนอื่น ใครจะมากล้าทำให้เขาขุ่นเคืองล่ะ?
แลนเซล็อตมองดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน และรู้อยู่แก่ใจว่าทั้งสองคนนี้น่าชอบกันและกันใช่ไหม? แต่มีคำกล่าวไว้ว่าไม่มีมุมไหนที่แงะไม่ได้ มีแต่ชะแลงเท่านั้นแหละที่ไม่ต้องทำงานหนัก
ตราบใดที่ทั้งสองยังไม่ได้แต่งงานกัน อะไรก็ย่อมเป็นไปได้!
“องค์หญิงสาม ท่านกำลังทำอะไรอยู่ครับ? อยากให้ผมช่วยไหม?” แลนเซล็อตเดินเข้าไปข้างหน้าแล้วเอ่ยถาม
“ช่วย?” สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า “แน่นอนสิคะ…”
“ไม่ต้อง ผมจะอยู่ช่วยเอง ท่านไปอยู่เป็นเพื่อนคุณหนูเถอะครับ” โอคาซีชี้นิ้วไปที่เอริก้าที่ยืนอยู่ด้านหลังแลนเซล็อต
เอริก้ารู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาคู่นั้นของโอคาซี? ทำไมเขาถึงมองไม่เห็นความงามของเธอเลย? แต่กลับตกหลุมรักผู้หญิงที่หยาบคายและโง่เขลาคนนั้นแทน?
“ฉันก็อยากช่วยเหมือนกันค่ะ ไม่รู้ว่าพอจะมีอะไรให้ฉันพอช่วยได้บ้างไหมคะ?” เอริก้าถามออกมาเชิงบ่งบอกสัญญาณบางอย่าง
สวี่หลิงอวิ๋นยกยิ้ม เยี่ยมมาก เธอมองหาเรื่องใส่ตัวเองนะ!
“โอ้ ทำไมคุณสองคนต้องมาลำบากอย่างนี้ด้วยคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นหัวเราะ ‘ฮิฮิ’ และชี้เรียวนิ้วไปที่ลำไส้ที่กองอยู่บนพื้น “ถ้างั้นคุณทั้งสองช่วยเฝ้าแขนกลให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ จะได้มั่นใจว่ามันเอาลำไส้ออกมาล้างสะอาดพอ!”
ผู้ดีทั้งสองมองลำไส้ที่ส่งกลิ่นเหม็นอยู่บนพื้น ก่อนที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นพะอืดพะอม
สวี่หลิงอวิ๋นกำลังเล่นตลกกับพวกเขาใช่ไหม?
“ไม่อยากทำเหรอคะ? ถ้าคุณไม่อยากทำก็ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงซะ ที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้พวกคุณช่วยอยู่แล้ว” สวี่หลิงอวิ๋นบอกปัด ขณะที่โอคาซีพยักหน้า
ทั้งสองจะจากไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร! แน่นอนว่าพวกเขาจะหาหนทางติดตามสองคนนี้ไปให้ได้!
“ไม่ไม่ คือว่า พวกเราอยากทำมัน” ทั้งสองพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า
ต้องบอกว่าแลนเซล็อตคนนี้เฉลียวฉลาดมากและเข้าใจเกมการเมืองเป็นอย่างดี ในการที่ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคเช่นนี้ ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นใคร จะเป็นผู้บัญชาการหรือไม่ แต่ถ้าไม่แสดงออกว่าเป็น
สวี่หลิงอวิ๋นปรบมือและยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินว่าทั้งสองเต็มใจช่วย “โอ้ เยี่ยมไปเลยค่ะ ในเมื่อคุณทั้งสองเต็มใจจะช่วย ฉันก็ขอไปทำธุระกับโอคาซีก่อนนะคะ ขอบคุณพวกคุณทั้งสองมากนะคะ!”
แลนเซล็อตและเอริก้าถึงกับนิ่งงัน…
ไม่ต้องขอบคุณ…ไม่ต้องขอบคุณเลย ยัยปีศาจ!
เขามาที่นี่เพื่อมาหาเธอ แต่เธอกลับจากไปเสียอย่างนั้น?
ทั้งสองร้องคำรามในใจ แต่สวี่หลิงอวิ๋นกลับไม่ได้ใส่ใจนัก เธอเพียงดึงโอคาซีให้รีบเดินจากไป!
“ฮึ่ม! ตั้งใจตามพวกเรามาจริงด้วยสินะ! พวกเขาต้องอยากรู้แน่ ๆ เลยว่าทำไมพวกเราถึงมาสร้างฐานทัพที่นี่!” สวี่หลิงอวิ๋นพยายามแอบมองดู เมื่อเห็นว่าทั้งสองไม่ได้ตามมาด้วย เธอจึงพูดกับเขาอย่างระมัดระวัง
โอคาซีคิดกับตนเองในใจ ท่านคิดผิดแล้ว พวกเขามาที่นี่เพราะท่านต่างหาก!
แต่เมื่อมองดูอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วว่าไม่พูดทำลายมิตรภาพคงจะดีกว่า ดังนั้นพลเอกหนุ่มจึงไม่พูดอะไรออกไป เพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อยทำเป็นเห็นด้วย
“ท่านไม่รู้สึกเสียดายคนที่ตามจีบท่านบ้างเหรอคะ? เธอออกจะสวยขนาดนั้น!” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูตัวเอง จากนั้นจึงคิดเกี่ยวกับหญิงสาวอีกคน
เฮ้อ…เธอรู้สึกว่ารูปร่างหน้าตาของตัวเองยังไม่ดีมากเท่าไหร่
“ผมมีคนตามจีบหลายคนน่ะครับ” โอคาซีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
จะว่าไปแล้ว เธออายุเท่าไหร่กันนะ!
ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันและดูเหมือนคุยกันกะหนุงกะหนิง แต่ความจริงแล้วพวกเขากำลังถือเครื่องตรวจจับขนาดเล็กไว้ในมือแล้วตรวจสอบดูว่ามีพืชพลังงานอยู่ในชั้นใต้ดินนี้จำนวนมากเท่าไหร่ นอกจากใต้ฐานทัพแล้ว มีที่ไหนอีกบ้าง
หลังจากมองไปบริเวณโดยรอบประมาณหนึ่งร้อยเมตรจากด้านหลังของฐานทัพ พวกเขาค้นพบพืชพลังงานชนิดนี้อีกครั้ง
“ก็ยังได้ผลดีอยู่แฮะ!” สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกมีความสุข โดยหวังว่าพืชชนิดนี้จะถูกนำมาทำเป็นยาชั้นดี จากนั้นแค่เธอนั่งอยู่เฉย ๆ เงินทองก็ไหลมาเทมาแล้ว
โอคาซีอดใจรอไม่ไหวที่วาดฝันถึงความมั่งคั่ง
เธอเป็นคนในราชวงศ์ และไม่ว่าใครก็ตามในราชวงศ์ที่ค้นพบพืชพลังงาน อาหาร หรือสิ่งใดก็ตาม ของพวกนั้นย่อมต้องบริจาคให้แก่ราชวงศ์ไปโดยปริยาย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอจะได้รับผลตอบแทนแค่บางส่วนเท่านั้น
ทั้งสองคนกำลังตรวจสอบ ขณะที่นักวิจัยยาทั้งหลายรีบปลอมตัวเข้ามา แทรกซึมมากับกองทัพกำลังเสริมและกำลังมาที่ฐานทัพแห่งใหม่ของโอคาซี
โอคาซีจัดห้องรับรองขนาดเล็กในแผนกเภสัชให้กับพวกเขาอย่างลับ ๆ
“องค์หญิงสาม” ชายผู้นี้คือนักวิจัยยาอาวุโสที่อยู่ในชุดเกราะของนักรบ มันยากมากที่คนอายุเยอะอย่างเขาจะต้องวิ่งเต้นไปมา
“สวัสดีค่ะ ท่านผู้อาวุโส นี่เป็นชิ้นส่วนขนาดเล็กที่พวกเราเก็บรวบรวมมาก่อนหน้านี้ ได้โปรดลองทดสอบมันดูนะคะ”
ชายชราตื่นเต้นมาก ผู้ช่วยของเขาเอาเครื่องตรวจจับออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวางมันไว้บนโต๊ะ ทันทีที่เหง้าชนิดนี้ถูกวางไว้บนเครื่อง เสียงสัญญาณก็ดังขึ้นว่า ‘ติ๊ด’ ก่อนจะหยุดลง
“ใช่เลย! นี่คือพืชระดับพลังงานของจริง!” นักวิจัยยาเริ่มมีความหวังเต็มเปี่ยม “แต่ยังไม่รู้ว่ามันมีสรรพคุณอะไรบ้าง”
นักวิจัยยาอาวุโสไม่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ขององค์หญิงอีกต่อไป เขาเพียงแต่สั่งการให้ผู้ช่วยของเขารีบเอาสมุดออกมาจุดรายละเอียดและบันทึกค่าต่าง ๆ เพิ่มเติม
อาณาจักรชิงเหย้าได้พัฒนาพืชมาหลายพันปีแล้ว และมีเพียงสิบสองสายพันธุ์เท่านั้นที่ถูกค้นพบ
พืชระดับพลังงานที่องค์หญิงสามเป็นคนค้นพบ เป็นการค้นพบในรอบหลายร้อยปีที่ผ่านมา
เขาวางชิ้นส่วนพืชไว้อย่างระมัดระวัง ขณะรอเครื่องตรวจสอบค่าตัวเลขที่ของความหลากหลายด้วยท่าทีเงียบสงบ
สวี่หลิงอวิ๋นและโอคาซีเดินออกจากห้องไป ก่อนจะสั่งเหล่าทหารทั้งหลายคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด ไม่อนุญาตให้ใครบุกรุกเข้ามาในห้องนี้เด็ดขาด
หากพบบุคคลที่น่าสงสัย ให้ฆ่าทิ้งก่อนแล้วค่อยรายงานทีหลัง
….
นี่จัดเป็นอีกคืนหนึ่งที่นอนไม่หลับ
จักรพรรดิยังคงรอคอยอย่างวิตกกังวล สวี่หลิงอวิ๋นเองก็รอคอยเช่นกัน ในขณะที่นักวิจัยยาอาวุโสคอยจดบันทึกอยู่ตลอดทั้งคืนโดยไม่ได้หลับไม่ได้นอน
เมื่อเห็นค่าตัวเลขที่ออกมาแล้ว นักวิจัยยาอาวุโสแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
เขารีบเปิดคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์และส่งข่าวดีให้กับจักรพรรดิ
“ดาวเคราะห์ดวงนี้เต็มไปด้วยพืชระดับพลังงานครับ น่าจะเป็นเพราะมีปล่องภูเขาไฟอยู่ทุกหนทุกแห่ง แร่ธาตุที่มีอยู่ถึงเอามาใช้งานได้ ถ้าเอามาทำเป็นยา มันจะช่วยฟื้นฟูประสิทธิภาพพลังดวงดาวที่เสียไปให้กลับมาใช้งานได้ และมันจะกลายเป็นอาหารเสริมพลังงานที่ทรงคุณค่าให้กับพวกทหารในสนามรบ!”
“ดีมาก…ดีมาก!” จักรพรรดิรู้สึกปีติยินดีเป็นอย่างมาก!
“เจ้ารีบเขียนข้อมูลพวกนี้ลงรายงานที เราจะได้เอาไปยื่นขอจดสิทธิบัตรและประกาศให้ทุกจักรวรรดิในจักรวาลรู้ว่าสิ่งนี้คือยาของเราแต่เพียงผู้เดียว!” จักรพรรดิพูดต่อว่า “เก็บไว้เป็นความลับด้วยล่ะ”
“ไม่ต้องกังวลไปครับ ท่านจักรพรรดิ กระหม่อมจะระมัดระวัง” นักวิจัยยาอาวุโสให้คำมั่นสัญญา
ทั้งฐานทัพปิดเป็นความลับขั้นสุดยอด และจะไม่มีใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ยกเว้นเพียงสวี่หลิงอวิ๋นกับโอคาซีเท่านั้น
ในเมื่อถูกสั่งให้เก็บเป็นความลับ สวี่หลิงอวิ๋นจึงไม่ได้เข้าออกห้องนี้อีกเลย
ในสายตาของคนนอกรู้เพียงแค่ว่าหมอกลุ่มหนึ่งได้ส่งตัวมาที่นี่ด้วย และนั่นไม่ได้ทำให้คนอื่นเกิดความสงสัยอะไร
ช่างพวกเขาเถอะ ตอนนี้พวกเรากลับมาที่แลนเซล็อตและเอริก้ากันเถอะ
แลนเซล็อตและเอริก้ามองดูลำไส้ที่ถูกล้างจนสะอาด พวกเขาทั้งสองไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ก่อนจะถอยออกไปพูดคุยกัน