“วิลนี่ค่อนข้างเข้าตาฉันแหะ” สวี่หลิงอวิ๋นเดาะลิ้นและมองดูชายหนุ่มที่ถูกลบความทรงจำไปอย่างน่าเสียดาย
โอคาซีเหลือบมองและบีบฝ่ามือของเธอ “ผมยังอยู่ตรงนี้นะครับ!”
สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวขึ้นพร้อมกับยกยิ้ม “ฉันแค่คิดกับเขาแค่น้องชาย! อย่าหึงไปหน่อยเลยค่ะ!”
ทั้งสองคนหัวเราะ ในขณะที่ช่างเทคนิคแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น และทั้งสามคนก็เดินกลับมาพร้อมกัน
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ลืมที่จะแวะไปอ่านหนังสืออะไรเช่นนั้น
แลนเซล็อตถึงกับคอยเตือนตนเองว่าอย่าถือโทษสวี่หลิงอวิ๋นที่ไม่ยอมพาเขาออกไปด้วย อย่าถือสา! อย่าโกรธเธอ!
กระบวนการมันไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือผลลัพธ์ต่างหาก!
ชายผู้นี้เติบโตมาอย่างดี สุภาพอ่อนโยนดุจดั่งหยกอันล้ำค่า ท่าทางของเขาดูดีมาก ไม่นานมานี้หญิงสาวในทีมแพทย์ต่างแอบหลงรักเขา และจ้องมองเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
แลนเซล็อตเพียงแต่ยกยิ้ม ราวกับว่าตัวเองไม่ได้เห็นอากัปกิริยาอะไร
ชายหนุ่มผู้นี้เคยชินกับความชื่นชมทำนองนี้มานานแล้ว ไม่หวั่นเกรงต่อการแทะโลมของเห็บเหาทั้งหลาย มีคนมากมายที่มองเขาด้วยความรัก แล้วจำเป็นจะต้องสนใจอะไรหญิงสาวพวกนั้นด้วยหรือ?
องค์ชายรูปงามสวมใส่ชุดควบคุมอุณหภูมิ ไม่สนใจว่าอากาศจะเหน็บหนาวมากแค่ไหน และสามารถเดินออกไปข้างนอกได้ตามที่ต้องการ
ทว่าหญิงสาวเหล่านั้นกลับไม่สามารถออกไปได้ พวกเธอเพียงกอดกันและกันท่ามกลางความเหน็บหนาว ถึงแม้ว่าพวกเธออยากจะแสดงใบหน้าอันงดงามภายใต้เครื่องสวมใส่ต่อหน้าชายที่ชื่นชอบ แต่น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งของพวกเธอมีไม่มาก!
ความแข็งแกร่งของพวกเธอมีอยู่น้อยนิด และไม่สามารถแปรสภาพพลังดวงดาวให้เป็นเกราะป้องกันตลอดเวลาได้ พวกเธอจึงทำได้เพียงห้อมล้อมอยู่ด้วยกันและกักเก็บความอบอุ่นภายใต้เกราะกำบังเท่านั้น
แลนเซล็อตไม่ได้รู้สึกมีความสุขมากนัก เพราะเขาค้นพบว่าเสน่ห์ของตัวเองไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าสวี่หลิงอวิ๋น!
หากนางพยาบาลสาวน้อยกลุ่มนี้ไม่ได้ถูกเขาดึงดูด เขาคงสงสัยว่าตนเองจะเป็นคนอัปลักษณ์ และไม่มีใครต้องการหรือไม่!
ธารน้ำแข็งสีขาวปกคลุมอยู่ทุกหนทุกแห่ง ขณะที่องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตพบกับสัตว์น้อยน่ารักมากมาย อาทิ สัตว์ขนาดมหึมาสูงกว่าสามเมตรที่กำลังมุ่งหน้าตรงมาทางเขา และต้องจบชีวิตลงด้วยดาบเลเซอร์
เมื่อได้สัมผัสขนของสัตว์ขนาดมหึมาตัวนี้แล้ว เขาจึงพบว่าขนของมันนุ่มมาก
และได้แต่สงสัยว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะชอบสัตว์ตัวนี้หรือไม่? เขาอยากจะมอบขนของสัตว์ตัวนี้ได้แก่เธอ ทว่าจะต้องถลกขนสัตว์ออกมาอย่างไร?
องค์ชายตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“โอ้ว นี่มันสัตว์ประเภทไหนกันคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นมองเห็นชายหนุ่มรูปงามเหยียบย่ำอยู่บนสัตว์ขนาดมหึมาอยู่ในระยะไกล ถึงแม้ว่าสัตว์ชนิดนี้จะสูงแค่เพียงสามเมตร แต่เมื่อเทียบกับองค์ชายที่สูงร้อยแปดสิบเซนติเมตร ก็สามารถกล่าวได้ว่ามันมีขนาดใหญ่อย่างแท้จริง
“ไม่รู้สิครับ มันพุ่งเข้ามาหาผม” แลนเซล็อตหันกลับมายิ้มให้กับพวกเขา “ออกไปสำรวจมา ผ่านไปได้ด้วยดีไหมครับ?”
“อืม ก็ดีค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองสิ่งมีชีวิตดังกล่าว “กินได้ไหมนะ?”
“…อาจจะกินได้หรือเปล่า?” แลนเซล็อตกล่าวออกมาอย่างไม่มั่นใจนัก
หลังจากทดสอบโดยเครื่องมือแล้ว จึงพบว่ามันสามารถกินได้
สวี่หลิงอวิ๋นถลกหนังของสัตว์ออกมาโดยไม่กล่าวอะไรสักคำ วางเนื้อลงบนตะแกรงและเริ่มย่างเนื้อ
สำหรับแหล่งพลังอย่างนั้นเหรอ? ภายใต้ส่วนลึกของชั้นน้ำแข็งจะมีก้อนน้ำแข็งที่สามารถนำมาจุดไฟได้ สวี่หลิงอวิ๋นขุดก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ออกมาเพื่อนำมาใช้สำหรับให้ความอบอุ่นและย่างบาร์บีคิว ทั้งสองสิ่งต่างให้ผลลัพธ์ออกมาอย่างดี
ส่วนเครื่องปรุงรสของบาร์บีคิวถูกจัดเตรียมเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย แต่น่าเสียดายที่คุณภาพของเนื้อค่อนข้างธรรมดา
สวี่หลิงอวิ๋นไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่เธอกินเข้าไปมากนัก รสชาติของมันไม่ค่อยอร่อย ถ้าอย่างนั้นกินกับกุนเชียงดีกว่า!
หวังว่าอาหารพื้นเมืองของดาวเคราะห์ดวงนี้จะทำให้เธอพึงพอใจ
เธอไม่พอใจกับสิ่งที่เธอกิน ทว่าคนอื่นกลับมีความสุขกันถ้วนหน้า!
รสชาติของมันช่างเยี่ยมยอด! แต่แล้วทำไมองค์หญิงสามถึงไม่กินมันเข้าไปล่ะ? ในเมื่อเธอไม่กินมัน พวกเขาก็ไม่เกรงใจที่จะกินมันเข้าไปทั้งหมด!
หลังจากที่คนจำนวนห้าสิบแปดคนอิ่มหนำสำราญแล้ว พวกเขาก็ค่อย ๆ เคลื่อนย้ายกันไปที่ท่าเรือ ซึ่งจะมีเรือบรรทุกสินค้าเคลื่อนตัวเข้ามาภายในครึ่งชั่วโมงและขนเสบียงจำนวนมากมาให้วิล
เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า เรือขนเสบียงก็ปรากฏขึ้นอย่างตรงเวลาในสายตาของทุกคน
ลูกเรือสองสามคนพูดคุยและหัวเราะไปด้วย ขณะลากกระสอบที่หนักอึ้งออกมาจากเรือ จากนั้นจึงวางเสบียงเอาไว้ด้านข้าง รถบรรทุกขนาดเล็กที่อยู่บนเรือทยอยเคลื่อนตัวลงมา พวกเขาวางขนย้ายเสบียงไปไว้บนรถบรรทุก ก่อนที่รถบรรทุกจะขับออกไป
ขณะเดียวกัน ผู้คนจำนวนมากบนเรือที่คล้ายคลึงกับนักท่องเที่ยวกำลังชี้นิ้วไปที่ธารน้ำแข็ง สวี่หลิงอวิ๋นและคนอื่นจึงใช้โอกาสนี้แอบขึ้นไปบนเรือและซ่อนตัวอยู่ในห้องพักที่ไม่มีแขกอาศัยอยู่
ตามเส้นทาง เรือลำนี้จะแล่นไปท่าภาคพื้นกาตาร์ภายในอีกสามวัน
“ในอีกสามวันนี้ ไม่ต้องโยกย้ายไปไหนทั้งนั้น” โอคาซีออกคำสั่งกับคนเหล่านั้น “อย่าทำอะไรกับคนบนเรือ อย่าสร้างปัญหา”
มีเรื่องเล่ามากมายที่ผู้คนต้องการแสดงเทคโนโลยีของตนเองต่อหน้าอารยชนพื้นเมืองเหล่านี้ แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็โดนกลุ่มชนพื้นเมืองพวกนี้ฆ่าตายไม่ใช่เหรอ?
ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องอื่น เพียงแค่กล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบัน หากจักรวรรดิไม่สามารถซ่อมทางเชื่อมมิติได้ ยานอวกาศของพวกเขาก็จะไม่สามารถโบยบินในจักรวาลของพวกเขาได้อีก
ทุกคนรับรู้ถึงความอันตรายและพยักหน้า
สวี่หลิงอวิ๋นสัมผัสท้องและมองดูฝูงชนที่อยู่ด้านนอก ดูเหมือนว่าจะได้เวลาอาหารของพวกเขาแล้ว ทุกคนต่างได้รับอาหารของตนเอง และมันช่างดูน่าอร่อย!
“พวกนายคิดว่าอาหารของพวกเขาอร่อยไหม?” ก่อนหน้านี้ สวี่หลิงอวิ๋นกินบาร์บีคิวไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กล่าวได้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกหิวเป็นอย่างมาก
มื้อนี้มีกุนเชียงอยู่เพียงเล็กน้อย เพราะต้องทำกุนเชียงให้สุกก่อนถึงจะสามารถกินได้ อย่างไรเสียก็ไม่สามารถกินดิบได้อยู่แล้วใช่ไหม?
โอคาซีจ้องมองเธออย่างเหลืออด ช่างเป็นนักกินอย่างแท้จริง
“ท่านอยากกินไหมครับ? ถ้าอยากกิน ผมจะออกไปหามาให้” โอคาซีลูบศีรษะของเธอและกล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน
คนอื่น “…”
พี่ชาย ท่านเพิ่งกล่าวว่าอย่าสร้างปัญหา อย่าทำอะไรกับคนบนเรือตามใจชอบไม่ใช่เหรอ?? แต่ท่านกำลังจะออกไปเอาอาหารกับแฟนสาวของตนเอง นั่นมันไม่เกินกว่าเหตุไปหน่อยเหรอ?
แลนเซล็อตกำมือแน่นและเดินเข้าไปหาสวี่หลิงอวิ๋น “อยากกินอะไร ผมซื้อที่ท่านอยากกินให้ได้นะครับ”
โอคาซีเงยหน้าขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่ต้องหรอกครับ แฟนของผม ผมดูแลเองได้”
แลนเซล็อตกล่าวออกมาเพื่อไม่ให้น้อยหน้า “อย่าลืมสิครับว่าพวกเราทั้งสองนัดดูตัวกัน ถึงการแต่งงานของทั้งสองจักรวรรดิจะยังไม่แน่นอน แต่เธอก็ยังไม่ได้เป็นภรรยาที่ผ่านการแต่งงาน”
“ไม่มีวันนั้นหรอก” โอคาซีกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา “จักรพรรดิไม่มีทางให้องค์หญิงแต่งงานกับคนจากจักรวรรดิอื่น”
“แล้วพวกเรามารอดูกัน”
แลนเซล็อตยิ้มเล็กน้อย เสน่ห์ของเขาไม่ได้น้อยไปกว่าโอคาซี
หญิงสาวในทีมแพทย์รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
ถูกแล้ว หญิงสาวที่สถานะสูงส่งและเก่งกาจอย่างองค์หญิงสามคู่ควรกับองค์ชายรัชทายาท คนธรรมดาอย่างพวกเธอจะคู่ควรกับเขาได้อย่างไร?
องค์หญิงรู้สึกปลาบปลื้มยิ่งนักที่ชายหนุ่มรูปงามทั้งสองแห่งห้วงดวงดาวชื่นชอบเธอ
สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองทางนั้นที ทางนี้ที และยิ้มออกมาหลังจากนั้นไม่นาน “โอ้ นึกไม่ถึงเลยว่าฉันจะเป็นที่นิยมขนาดนี้!”
ทั้งสองจ้องมองไปที่สวี่หลิงอวิ๋นด้วยใบหน้าเย็นชา และปราศจากรอยยิ้ม
สวี่หลิงอวิ๋นโบกมือและเท้าสะโพกของตัวเอง “ฉันขอถามหน่อยท่านทั้งสองไม่คิดจะถามความคิดเห็นของฉันบ้างเหรอคะ?”
“ถึงฉันจะรู้สึกขอบคุณที่พวกท่านชอบฉัน แต่การชอบใครสักคนมันใช่ว่าจะตลอดชีวิต!”