แต่ถึงอย่างนั้น ภาพลักษณ์ของเขาก็เพียงพอที่จะกวาดต้อนไปทั่วทั้งทวีปแล้ว
“ผมได้ยินมาว่าขนมหวานของคุณอร่อยไม่ใช่เหรอครับ?” แลนเซล็อตกล่าวออกมาอย่างเกียจคร้าน พนักงานผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างยังคงแข็งเป็นหิน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมนูอาหารตกไปอยู่บนพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่
“ค่ะ คุณต้องการสั่งอะไรดีคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้กล่าวทักทายเขา แต่กลับหยิบเมนูอาหารที่พนักงานผู้ช่วยทำตกอยู่บนพื้นขึ้นมา “ฉันขายทุกอย่างเลยค่ะ คุณอยากกินอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ แต่ราคาจะค่อนข้างสูงหน่อยนะคะ”
“ไม่ต้องห่วง ไม่ใช่ว่าผมไม่มีเงินหรอกครับ ผมมีเงินสำหรับเค้กเสมอ” เมื่อกล่าวเช่นนั้น แลนเซล็อตก็เหลือบเห็นใบหน้าดำทะมึนที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง
“นั่นใครเหรอครับ?” แลนเซล็อตตระหนักรู้เป็นอย่างดี เอ่ยถามสวี่หลิงอวิ๋นและชี้นิ้วไปที่โอคาซีอย่างตั้งใจ “มืดเกินไปนะครับ ถ้าตอนกลางคืนคุณไม่เปิดไฟ คุณมองเห็นเขาด้วยเหรอครับ?”
เมื่อโอคาซีได้ยินคำพูดดังกล่าว เขาจึงเดินไปที่เคาน์เตอร์เงียบ ๆ หยิบถุงเกลือออกมา และโรยผงเกลือลงไปบนเค้กของแลนเซล็อต
ไอ้หนู…ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ฆ่าแก!
ถ้าไม่ชอบใจก็อย่ามายุ่งเกี่ยวกันสิโว้ย! แกอยากจะชดใช้ให้กับฉันคนนี้ใช่ไหม?
สวี่หลิงอวิ๋นปิดปากของเธอนิ่งเงียบ ขณะมองดูโอคาซียกเค้กที่ผ่านการตกแต่งด้านบนมาให้กับแลนเซล็อต และอดไม่ได้ที่จะพูดโอ้อวด
“นี่น่ะแฟนของฉันเองค่ะ อันที่จริงฉันก็เคยชินกับสายตาคนนอกแล้วล่ะค่ะ ถึงจะรู้สึกรำคาญนิดหน่อยก็เถอะ”
แลนเซล็อตอดไม่ได้ที่จะมองดูผงขนาดเล็กที่โรยอยู่บนหน้าครีมเค้ก เขาตักมันขึ้นมาและชิมมันเล็กน้อย เค็มเป็นบ้าเลย!
ผู้ชายคนนี้ช่างใจแคบเสียจริง! อีกทั้งยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!
“เป็นยังไงบ้าง? อร่อยไหมครับ?” โอคาซีถามเขาอย่างไม่แยแสมากนัก
“ไม่เลว! ด้านนอกเหมือนกับคุณเลยครับ ดูไม่ได้เรื่อง แต่เนื้อสัมผัสด้านในทั้งนุ่มทั้งหวานเหมือนกับสาวน้อยสวี่ที่ตั้งใจทำงานหนัก!” แลนเซล็อตส่งยิ้มหวานให้กับสวี่หลิงอวิ๋น “คุณอยากจะไปเป็นแม่ครัวส่วนตัวที่อพาร์ตเมนต์ของผมไหมครับ?”
“พระเจ้า! ไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม?! ชนชั้นสูงคนนี้กำลังดึงตัวสวี่หลิงอวิ๋นออกไป!”
“แม่เจ้า! ฉันรู้ว่าสักวันหนึ่งเธอคงจะได้ออกไปจากเมืองต่ำต้อยนี้ในไม่ช้าก็เร็ว แต่ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนี้!”
“มัวรออะไรอยู่? ตอบตกลงซะสิ! ฮ่า ๆๆๆ! สาวน้อยสวี่ต้องการผู้ช่วยไหมคะ? คุณช่วยพาฉันไปที่นั่นด้วยได้ไหม?!”
“ได้เป็นแม่ครัวส่วนตัวให้กับแลนซ์! ช่างโชคดีอะไรขนาดนี้!”
ฝูงชนที่อยู่บริเวณรอบข้างต่างพูดคุยกันเจื้อยแจ้ว ขณะจ้องมองสวี่หลิงอวิ๋นอย่างอิจฉาริษยา การได้กลายเป็นชนชั้นสูงล้วนเป็นความฝันของชนชั้นล่าง!
หญิงสาวที่สวมใส่เครื่องเพชรรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก! ถ้าเธอรู้ว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะได้กลายเป็นชนชั้นสูงรวดเร็วขนาดนี้ เธอคงจะให้ลูกชายตามจีบเด็กสาวเสีย! อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถเปลี่ยนความต่ำต้อยให้กลายเป็นสิ่งที่ดีกว่า และจะไม่มีใครรังเกียจพวกเขาอีก!
“ลืมมันไปซะเถอะ เงินเดือนของฉันสูงมากนะคะ และคนธรรมดาคงไม่มีปัญญาจ่ายให้ฉัน!” สวี่หลิงอวิ๋นที่ไม่พูดไม่จาแต่กลับกล่าวปฏิเสธออกมา เธอคนนี้ยังต้องการทำเงินอีกทั่วทั้งทวีป! เธอไม่สนใจคำเชื้อเชิญของเขานักหรอก!
“ก็แล้วถ้าผมมอบทรัพย์สินทั้งหมดทั้งมวลให้คุณล่ะครับ คิดว่ายังไง?” แลนเซล็อตล่อซื้ออย่างเฉียบขาด วางส้อมในมือของเขา และจ้องมองด้วยสายตาจริงจัง
ฝูงชนที่อยู่บริเวณรอบข้างยกโทรศัพท์มือถือในมือของพวกเขาขึ้นมา และกลั้นหายใจขณะรอคำตอบจากสวี่หลิงอวิ๋น
พวกเขารู้ออกว่าครั้งนี้แลนซ์ดูจริงจังมากแค่ไหน
มือของโอคาซีกำแน่น ขณะรอคำตอบของสวี่หลิงอวิ๋น
สวี่หลิงอวิ๋นเกาศีรษะของเธอและกล่าวออกมาอย่างเกียจคร้าน “พูดเหมือนกับฉันไม่มีทรัพย์สินอย่างนั้นแหละค่ะ เอาล่ะ รีบกินและกลับไปได้แล้วค่ะ”
ชาวเน็ตทั้งหลายถึงกับเงียบสนิทด้วยความอึ้ง
นี่มันหยาบคายเกินไปหรือเปล่า?
เขาคือแลนซ์นะ! แลนซ์ผู้ยิ่งใหญ่! แลนซ์ที่ร้อนแรงมากที่สุดในพื้นทวีป!
เขาคือแลนซ์ที่ทั้งหล่อทั้งเท่!
โอคาซีปรากฏตัวต่อหน้าแลนเซล็อตด้วยท่าทีนิ่งเฉย และหยิบเค้กที่เขายังกินไม่เสร็จออกไปต่อหน้าต่อตา “กินเสร็จแล้วก็กลับไปเถอะครับ!”
แลนซ์เงียบ…
“ผมจะบอกอะไรให้นะสาวน้อยสวี่ ว่าผมจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้ ถ้าคุณอยากจะมาเมื่อไหร่ ก็แค่ยกสายโทรศัพท์แล้วโทรหาผม”
หลังจากกล่าวจบ เขาก็กระซิบเบอร์โทรศัพท์ของเขาใส่รูหูของสวี่หลิงอวิ๋นอย่างอ่อนโยน จากนั้นจึงสวมหมวก ใส่หน้ากาก และเดินจากไปภายใต้การห้อมล้อมของบอดี้การ์ด
พนักงานผู้ช่วยมองดูแลนซ์จากไปอย่างไม่เชื่อสายตา และมองดูเจ้านายของเธอด้วยสายตาเป็นประกาย
“เถ้าแก่เนี้ยคะ ท่านรู้จักกับท่านแลนซ์ด้วยเหรอคะ?”
“เธอหมายถึงผู้ชายคนนั้นเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นถามอย่างเฉยเมย “ไม่รู้จักหรอก!”
”โกหก!” พนักงานผู้ช่วยไม่อยากจะเชื่อ!
ผู้ชมต่างมองดูการจากไปของแลนซ์ด้วยความเศร้าโศก
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ชนชั้นสูงทั้งหลายจะถูกห้อมล้อมไปด้วยชนชั้นล่างในเมืองที่ต่ำต้อยเช่นนี้ นั่นเป็นเพราะว่าชนชั้นสูงส่วนใหญ่ล้วนมีสิทธิ์พิเศษในเมืองที่อยู่ด้อยกว่า และพวกเขาถึงกับยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสิ่งของต่าง ๆ
เพื่อที่พวกเขาจะได้มีอิสรภาพอย่างเต็มที่ ไม่ต้องรอคิวหรือถูกห้อมล้อมด้วยฝูงชน หากมีใครบางคนถ่ายรูปพวกเขาโดยปราศจากความยินยอมจากพวกเขา คนคนนั้นจะถูกส่งตัวเข้าคุกในทันที!
แต่สำหรับแลนซ์ แลนซ์ไม่ได้ยึดโทรศัพท์มือถือจากฝูงชนที่รุมกันถ่ายรูปของเขา ไม่แม้แต่จะปิดกั้น โดยสามารถกล่าวเป็นนัยว่าเขาอนุญาตให้ฝูงชนเผยแพร่รูปภาพของเขา
ในไม่ช้า ร้านของสวี่หลิงอวิ๋นก็มีชื่อเสียงโด่งดัง!
มันคงมีรสชาติอร่อยมากถึงขนาดทำให้แลนซ์ยอมทุ่มทรัพย์สินทั้งหมดของเขาให้แก่ธุรกิจขนาดเล็กแห่งนี้?
ธุรกิจขนาดเล็กแห่งนี้คือร้านประเภทไหน?!
และในที่สุด เมืองหวางเจียก็ได้กลายเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักชิมจากทั่วทั้งทวีป!
“พระเจ้า! เค้กชิ้นนี้อร่อยมากเลย!” และราคาของมันก็ไม่ได้สูงเท่ากับเค้กในเมืองของชนชั้นสูงด้วยซ้ำ แต่รสชาติกลับแตกต่างออกไปจากความหวานเลี่ยนอย่างสิ้นเชิง มันให้รสชาติที่สดชื่นและไม่รู้สึกเลี่ยนเลยสักนิด!
“เครื่องดื่มพวกนี้ก็อร่อยเหมือนกัน! มีรสเปรี้ยวอมหวาน แถมยังได้กลิ่นหอมของนม!” นี่คือชานมผลไม้ที่คนทั่วไปในภูมิภาคแห่งนี้ไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน
“กุนเชียงอันนี้อร่อยกว่าอีก! อร่อยกว่าร้านค้าที่เก่าแก่กว่าร้อยปีเยอะเลย!”
…
เป็นการพูดกันปากต่อปาก จนทำให้ร้านค้าของสวี่หลิงอวิ๋นอยู่ในรายการค้นหายอดนิยม ในขณะที่เกมของโอคาซีก็เปิดตัวแล้วเช่นกัน!
จู่ ๆ แฟนเกมจำนวนนับไม่ถ้วนก็ค้นพบเกมใหม่อันนี้ภายในเวลาหนึ่งวัน เกมตัวนี้มีภาพกราฟิกและเนื้อหาของเองราวที่ยอดเยี่ยม ซึ่งแตกต่างจากเกมเจ้าหญิงเจ้าชายที่ไล่ตีสัตว์ประหลาดอย่างสิ้นเชิง
‘นี่คือเกมที่ผู้ชายจะเล่น!’
เมื่อพบปะกับเอเลี่ยนขนาดใหญ่ เอเลี่ยนพวกนั้นมีความเร็วที่ว่องไวมาก พวกเขาจะต้องร่วมมือกันอย่างรวดเร็วโดยด่วน ซึ่งนั่นทำให้แฟนเกมเก่า ๆ พ่ายแพ้ในทันที พวกเขาจะต้องฆ่าเอเลี่ยนและกอบกู้ทวีปทั้งหมดให้สำเร็จ
อาชีพการงานของคู่รักหนุ่มสาวกำลังเจริญรุ่งเรือง ในขณะที่กัปตันเถียนอู่ผู้แก่ชราที่อยู่ด้านข้างทำได้เพียงนั่งเหงาหงอย
การแสร้งป่วยไปวัน ๆ ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาอยากจะทำอะไร พนักงานผู้ช่วยก็จะคอยช่วยเหลือและนั่งอยู่ด้านข้างเขาเสมอ โดยหวาดกลัวว่าชายชราคนนี้จะไม่ชนเขากับอะไรหรือมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา
เป็นครั้งแรกที่เถียนอู่รู้สึกว่าการแสร้งทำเป็นป่วยไม่ใช่เรื่องดี
สวี่หลิงอวิ๋นเล็งเห็นความโดดเดี่ยวของเขา การที่ชายชราจะนั่งถอนหายใจไปตลอดทั้งวันนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เมื่อมาคิดดูแล้ว ช่างมันเถอะ ลุกขึ้นมาเต้นรำบนลานกันดีกว่า!
เปิดเพลงอะไรดีล่ะ? มีเพลงไหนที่ไพเราะกว่าเพลงตำนานนกฟีนิกซ์บ้าง?
เพลง ‘บนดวงจันทร์’ ได้ถูกเปิด!
สวี่หลิงอวิ๋นไม่เคยมีปัญหากับการร้องเพลง เพลงนี้ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับดีเจที่มีลวดลายการเต้นเท้าไฟ ชายชรายังจะรู้สึกเขินอายอยู่อีกหรือไม่? ฮ่า ๆ!
แน่นอนว่าไม่!
เดิมทีเขารู้สึกเขินอายเล็กน้อย ทว่าสวี่หลิงอวิ๋นกลับใช้เงินจ้างหญิงชราแสนสวยมาเต้นรำกับชายชราโดยตรง เยี่ยมไปเลย ไม่ต้องเอ่ยถึงชายชรา เพราะแม้แต่ชายชราคนอื่นยังอยากจะเข้ามาร่วมกับพวกเรา