ในแง่ของความแข็งแกร่ง สวี่หลิงอวิ๋นยังด้อยกว่าเอเลี่ยนเกอหลัวนัก แต่ก่อนที่เธอจะเคลื่อนไหวอะไร เอเลี่ยนเกอหลัวก็กระโดดไปบนเครื่องจักรกลของเธอเสียก่อน
พวกมันสัมผัสและแทะรอบ ๆ เครื่องจักรกล ราวกับกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูเจ้าตัวเล็ก และอดไม่ได้ที่จะใช้มือเหล็กขนาดใหญ่สัมผัสขนนุ่มของพวกมัน ก่อนจะเอื้อมมือไปเกาคางให้ด้วย
เอ๊ะ เจ้าตัวเล็กทั้งหลายยังคงแทะชุดนี้อยู่ ยกหางขึ้นสะบัดไปมา ก่อนจะส่งเสียงร้อง ‘เจี๊ยบ ๆๆๆ’ และนอนแผ่เพื่อให้เธอสัมผัสพวกมัน
เครื่องตรวจจับลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือสวี่หลิงอวิ๋นอีกครั้ง ทุกคนถึงกับเหงื่อตกเพราะไม่รู้ว่าองค์หญิงสามจะใช้วิธีการอะไรจัดการกับเอเลี่ยนเกอหลัว
หรือว่าเอเลี่ยนเกอหลัวจะปล่อยองค์หญิงสามไป?
[เอเลี่ยนเกอหลัวกำลังทำอะไร? นอนเล่นบนเครื่องจักรกลขององค์หญิงเหรอ?]
[แปลกจัง เป็นวิธีการโจมตีแบบใหม่หรือเปล่า?]
[ฉันรู้แล้ว พวกมันตัวเล็กเกินไป และเมื่อวางแผนหลอกล่อให้องค์หญิงเลิกระมัดระวังตัวจนออกมาจากเครื่องจักรกลได้ พวกมันก็จะโจมตีเธอ!]
[คอมเมนต์บนนี่ยังอยู่ชั้นประถมใช่ปะ? เธอคิดว่าสิ่งมีชีวิตสง่างามระดับ 8 ดาวจะจำเป็นต้องให้คู่ต่อสู้ออกมาจากเครื่องจักรกลเพื่อทำการโจมตีด้วยหรือไง?]
[เห็นด้วย! เมนต์บนโง่ชะมัด!]
ชาลีอีไลรู้สึกอยากตาย
“องค์หญิงสาม ฝ่าบาทรีบวิ่งหนีไป!”
“วิ่ง? วิ่งยังไง? นายคิดว่าฉันจะวิ่งหนีพวกมันได้หรือไง?” เมื่อดูจากความเร็วในตอนนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะเปิดปุ่มเร่งความเร็ว แต่เธอก็ไม่สามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วนัก
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง?” ชาลีอยากจะร้องไห้!
สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านหน้าเธอด้วยจิตใจที่สงบสุข “พวกนายไปกันก่อนเถอะ ต่อให้อยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ทำไมไม่วิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปซะ?”
เธอมีชีวิตอยู่มาสองชั่วชีวิตคนแล้ว ได้เห็นทุกอย่างที่อยากเห็น ได้ทำทุกอย่างที่อยากทำ
ไม่เสียใจเลย แค่ได้จูบกับหนุ่มหล่อ ก็ถือว่าชีวิตนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ท้ายที่สุด เธอก็หยิบปลาหมึกกระป๋องขึ้นมาโดยไม่ได้กล่าวอะไรออกไป ทันทีที่เอเลี่ยนเกอหลัวได้กลิ่นหอมกรุ่น พวกมันก็เคลื่อนตัวด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า และอาหารกระป๋องในมือเหล็กขนาดใหญ่ของสวี่หลิงอวิ๋นก็หายวับไปกับตา…
เมื่อก้มลงมามองอีกครั้ง เอเลี่ยนเกอหลัวได้ใช้มือของมันเปิดอาหารกระป๋องนี้เสียแล้ว และหลังจากนั้นกลิ่นหอมก็ฟุ้งกระจาย…
เอเลี่ยนเกอหลัวกำลังเป็นบ้า!
พวกมันเริ่มเบียดเสียดและต่อสู้กัน!
สวี่หลิงอวิ๋นตกตะลึง ชาวเน็ตทั้งหลายก็ตกตะลึงเช่นกัน!
[พวกมันแค่อยากกินอาหารกระป๋องเหรอ?]
[ที่พวกมันต่อสู้กันเองเป็นเพราะต้องการปลาหมึกกระป๋องหรอกเหรอ?]
[อาหารช่างอยู่ยงคงกระพันนัก! องค์หญิงสามรีบฉวยโอกาสตอนพวกมันต่อสู้กัน และวิ่งหนีไปซะ!]
[จะวิ่งหนีไปเพื่ออะไร? อย่างที่องค์หญิงสามบอกไว้ ถ้าเอเลี่ยนเกอหลัวไล่ตามเธอจริง ๆ เธอจะหนีทันได้ยังไง?! นอกจากว่าอาหารกระป๋องนี้จะมีพิษ!]
[ใช่แล้ว ใช้ยาระบายพวกนั้นไง!]
ผู้ชมทั้งหลายติดตามองค์หญิงสามมาเป็นเวลานาน และได้เรียนรู้ถึงกลยุทธ์ต่าง ๆ เช่นกัน รวมถึงเรียนรู้วิธีการหลีกเลี่ยงความยุ่งเหยิงจากยาพิษ
ความคิดชั่วร้ายก็เป็นอีกหนึ่งอย่าง
เอเลี่ยนเกอหลัวต่อสู้กันอย่างว่องไวจนเผยให้เห็นเพียงเงาสีดำ ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที การต่อสู้ของพวกมันก็สิ้นสุดลง
เจ้าตัวเล็กสุดที่มีเส้นผมบนหัวชี้โด่เด่หยิบอาหารกระป๋องขึ้นมาอย่างมีชัย ก่อนจะใช้กรงเล็บหยิบหนวดปลาหมึกยักษ์ขึ้นมาเคี้ยวอย่างออกรส
บางทีนี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่มันได้กินพริก เอเลี่ยนเกอหลัวตัวนี้นั่งลงในสภาพงุนงงหลังจากเคี้ยวไปไม่กี่คำ และหลังจากนั้นมันก็เริ่มแลบลิ้นออกมา รวมถึงหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาตามขนสีขาวของมัน
มันเช็ดน้ำตาด้วยอุ้งเท้า ทว่าอุ้งเท้าของมันกลับมีน้ำพริกติดอยู่ ในไม่ช้าน้ำพริกก็กระเซ็นเข้าไปในดวงตาของมันจนทำให้ดวงตาของมันแสบร้อนและแดงก่ำ
“เจี๊ยบ ๆๆๆ!” เอเลี่ยนเกอหลัวตัวนี้กระโดดไปมาอย่างน่าสงสาร!
เมื่อเอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นเห็นเช่นนั้น พวกมันก็รีบเข้ามาคว้าอาหารกระป๋องไว้ทันที เอเลี่ยนเกอหลัวตัวน้อยผู้น่าสงสารกัดกินเข้าไปได้เพียงไม่กี่คำ อาหารกระป๋องก็ตกไปอยู่ในกำมือของเอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่น ๆ
เอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่น ๆ ต่างหยิบอาหารกระป๋องขึ้นมาลองชิม
ไม่นานนัก พวกมันก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กสุด หยุดอยู่ตรงนั้นและเริ่มปาดน้ำตาอย่างเอกเป็นเอาตาย ก่อนจะกระโดดโลดเต้นไปมา
น่าสงสารชะมัด
ช่างซื่อบื้อกันเหลือเกิน! สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกขบขันกับท่าทางอันอัศจรรย์ของเอเลี่ยนเกอหลัวเหล่านี้ ช่างเหมือนหมาฮัสกี้ในชาติที่แล้วเสียจริง!
[เอเลี่ยนเกอหลัวซื่อบื้อขนาดนี้เลยเหรอ?]
ชาวเน็ตทั้งหลายโพสต์ถึเอเลี่ยนที่กำลังถูกทรมาน
ทั้งที่เห็นเพื่อนตัวน้อยกินเผ็ดจนน้ำตาไหลมาแล้ว แต่ทำไมถึงยังอยากจะกินอยู่อีกล่ะ? ไม่กลัวว่าจะเป็นกับดักหรือไง?!
[อันที่จริงแล้วเอเลี่ยนเกอหลัวพวกนี้ไม่ได้ซื่อบื้อหรอก ที่พวกคุณเห็นอยู่เป็นแค่การแสดงของพวกมัน ความสามารถในการต่อสู้ของพวกมันแข็งแกร่งมาก!]
นี่คือโพสต์จากชายชราผู้ที่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้กับเอเลี่ยนเกอหลัว โดยกล่าวไว้ว่า
เอเลี่ยนเกอหลัวทรงพลังมากจนสามารถกระโดดประจันหน้ากับคู่ต่อสู้ได้ กล่าวโดยทั่วไปแล้ว นักสู้ทั้งหลายไม่ค่อยอยากจะรบกวนเอเลี่ยนเกอหลัวมากนักหรอก
จนถึงตอนนี้ พวกเราก็ยังไม่รู้ว่าเอเลี่ยนเกอหลัวเป็นสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ประเภทไหน
สวี่หลิงอวิ๋นลูบคางและจ้องมองท่าทางซื่อบื้อของพวกมัน พวกมันส่งเสียงคำรามออกมาอย่างเจื้อยแจ้ว
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบอาหารกระป๋องและมองดูปฏิกิริยาของพวกมัน
ผลลัพธ์คือ…
กลุ่มเอเลี่ยนเกอหลัวลุกขึ้นยืนและส่งเสียงร้อง “เจี๊ยบ ๆๆๆ” ออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
ดูเหมือนกับพวกนักกิน? สวี่หลิงอวิ๋นคิดเกี่ยวกับมัน ก่อนจะหยิบกุนเชียงออกมาอีกหนึ่งชิ้น และโยนไปตรงหน้าพวกมัน
กุนเชียงนี้ไม่มีพริก มาดูกันว่าพวกมันจะกินได้ไหม
“เจี๊ยบ?” เอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กแข็งแกร่งที่สุด ริเริ่มหยิบกุนเชียงขึ้นมาและลิ้มลองรสชาติ
“เจี๊ยบ!” ราวกับว่าเอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กกำลังลิ้มลองอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก มันรู้สึกเพลิดเพลินขณะเอนตัวลงกับพื้น ดวงตาหรี่ลงจนกลายเป็นเส้นตรง ปากกำลังเคี้ยวอย่างอ้อยอิ่ง จนดูเหมือนว่ามันไม่อยากกลืนกินให้หมดภายในคำเดียว!
เมื่อเอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นเห็นเช่นนั้น พวกมันก็ส่งเสียงร้อง ‘เจี๊ยบ ๆๆๆ’ อย่างบ้าคลั่ง ขณะเข้ามารายล้อมสวี่หลิงอวิ๋น
สวี่หลิงอวิ๋นหยิบกุนเชียงขึ้นมาอีกหนึ่งกอง
กุนเชียงเหล่านี้ถูกทำขึ้นมาบนดาวเคราะห์กาตาร์ เดิมทีเธอทำขึ้นมาเพื่อขาย แต่เพราะอะไรหลายอย่าง มันจึงถูกหลงลืมอยู่ในปุ่มมิติกักเก็บ และไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าเจ้าพวกขนปุยสีขาวพวกนี้จะถูกใจมัน
กลุ่มเอเลี่ยนเกอหลัวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจเมื่อเห็นว่าสวี่หลิงอวิ๋นมีไหวมากพอที่นำเอากุนเชียงจำนวนมากออกมา ท้ายที่สุดเอเลี่ยนก็กัดกินกุนเชียง
“เจี๊ยบ!”
หลังจากที่เอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นได้กุนเชียงเหมือนกับเอเลี่ยนเกอหลัวตัวแรกแล้ว พวกมันก็ทรุดตัวลงไปกองกับพื้นอย่างมีความสุข ขยับเขยื้อนปากของมันอย่างเชื่องช้า กลัวว่ากุนเชียงจะหายไปหลังจากกัดกินเพียงครั้งเดียว
สวี่หลิงอวิ๋นรู้ดีว่าสิ่งมีชีวิตประเภทนี้คืออะไร พวกมันคือนักกิน!
พรรคพวกกับชาลีอีไลต่างวิตกกังวล!
“องค์หญิงสาม จะทำยังไงดีพ่ะย่ะค่ะ?”
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น พวกนายไปก่อนเลย”
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกสนใจ!
เธอเดินออกมาจากเครื่องจักรกล และความกล้าหาญของเธอกำลังทำให้ผู้ชมทั้งหลายเหงื่อตกอีกครั้ง
[องค์หญิงสามกำลังก่อเรื่องเกินไปหรือเปล่า? เอเลี่ยนพวกนั้นดุร้ายมากนะ! กล้าออกไปแบบนั้นได้ยังไง?!]
[จบเห่แล้ว! ต้องมีการนองเลือดแน่เลย! ฉันไม่อยากดูต่อแล้ว!]
[ใครมาช่วยทีได้ไหม? เร็วเข้า!]
—
แค่ทำให้ดีที่สุด
เมื่อเห็นลูกสาวผู้ดื้อรั้นของตนเองเดินออกมาจากเครื่องจักรกล ความหวาดกลัวก็เข้ามาปกคลุมจนหยาดเหงื่อไหลรินทั่วร่างกาย