ตอนที่ 221 อย่ายอมแพ้นะเยล 2
สถานการณ์ยังไม่แย่สักหน่อย มันจะเลวร้ายได้อย่างไร?
ความวิตกกังวลของคณบดีพูลแมนผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“ดูเหมือนว่าพลังจิตของเขาจะถูกของบางอย่างที่แปลกประหลาดกั้นเอาไว้ เพราะงั้นร่องรอยพลังจิตจะยังคงอยู่กับเขา…”
หมอหนุ่มมองดูเครื่องตรวจจับพลางขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ผมอยากรู้ว่าของแปลกประหลาดอันนี้คืออะไร ที่ปรากฏอยู่บนเครื่องตรวจจับน่าจะเป็นพลังจิตหรือเปล่า?”
เขาส่ายหัวและกล่าวว่า “แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง?!”
หากพลังจิตสามารถรักษาตัวมันเองได้ ก็คงจะไม่สูญเสียพลังจิตไปทั้งหมดหรอกใช่ไหม?!
นอกจากนี้ เขาก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าคนที่มีพลังจิตจะสามารถต้านทานฤทธิ์ยาได้!
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในเมื่อเขาไม่ได้สูญเสียพลังจิตไปทั้งหมด จักรวรรดิจะค้นหาวิธีการฟื้นฟูพลังจิตกลับมาให้อยู่ดี และยังค่อย ๆ ฟื้นฟูพลังดวงดาวให้อีกด้วย
นับว่านั่นเป็นข่าวดี!
เยลลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย…
เดิมทีเขาคิดว่าตนเองจะรู้สึกตื่นเต้นที่สามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่งของตนเองขึ้นมาได้ หรือเขาอาจจะไปแก้แค้นคนที่เคยกลั่นแกล้งเขาก่อนหน้านี้ ทว่าตอนนี้…
ความสงบสุขกลับปกคลุมความโศกเศร้าและความปีติยินดี
เดือนนี้เปรียบดั่งกับความฝันที่ฝูงชนต่อต้าน ญาติมิตรหนีหาย
เยลคิดว่าคนเหล่านั้นจะดีกับเขา แต่กลับหักหลังเขาท่ามกลางวิกฤต
เด็กหนุ่มคิดว่าศัตรูจะเลวร้ายที่สุด แต่ศัตรูกลับเป็นคนมอบยาเสริมพลังให้กับเขาท่ามกลางช่วงเวลาคับขัน
เรื่องราวของเยลโด่งดังภายในชั่วข้ามคืน!
หัวหน้าประจำชั้นปีที่สองกลับมาแล้ว! อีกทั้งยังเลื่อนขั้นจากระดับ 6 ดาวเป็นระดับ 8 ดาวโดยตรง!
นักเรียนทั้งหลายรอคอยการปะทะกันอย่างรุนแรงของนักเรียนชั้นปีที่สองกับนักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง
เยลคนก่อนหน้ามักจะมุ่งเป้าไปที่นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งไม่ใช่เหรอ?
ในเมื่อตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งทะยานขึ้นแล้ว เขาจะต้องการแก้แค้นคืนหรือไม่? เพราะอย่างไรเสีย องค์หญิงสามก็อยู่ในระดับ 7 ดาวเท่านั้น!
นักเรียนชั้นปีที่สองรู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้หัวหน้าต้องอยู่ในสถานการณ์ทุกข์ยาก เขากลับเอาแต่ซ้ำเติม และตอนนี้หัวหน้ากลับมาแล้ว พวกเขาจะทำอย่างไรดี?
ไม่กล้าแม้แต่จะไปขอโทษ!
คนที่อยู่ฝั่งเดียวกับโทนี่และเคยกลั่นแกล้งเยลกำลังรู้สึกตื่นตระหนกอยู่ในตอนนี้!
เมื่อก่อนเคยก๋ากั่นมากเท่าไหร่ ตอนนี้ก็เกรงกลัวมากเท่านั้น!
ทุกวันนี้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเดินไปตามซอกตึก เพราะกลัวว่าจะเจอเข้ากับเยล
นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งเริ่มรู้สึกหดหู่ ได้แต่สงสัยว่าเยลจะมายั่วยุพวกเขาหรือไม่?
สวี่หลิงอวิ๋นปลูกอ้อยอย่างสงบสุข ไม่ได้รู้สึกรีบร้อนอะไร
“ท่านหัวหน้า ท่านก็เห็นว่าเยลเลื่อนขั้นเป็น 8 ดาวแล้ว ทำไมท่านถึงไม่กังวลเลยล่ะครับ?”
เพื่อนร่วมชั้นในแผนกเกษตรกรรมต่างรู้สึกวิตกกังวล ตลอดสองวันที่ผ่านมา พวกเขาคอยออกไปสืบถามข่าวสารเกี่ยวกับหัวหน้าประจำชั้นปีที่สอง เพียงเพราะรู้สึกหวาดกลัวที่ได้ยินข่าวการฟื้นตัวของเขา
“จะกังวลทำไม? นักเรียนปีสองพวกนั้นต่างหากที่ต้องรู้สึกกังวลไม่ใช่เหรอ? ให้พวกเขาจัดการกันภายในก่อนก็ยังไม่สายเกินไป”
“ดีจะตายที่ได้ฝึกฝนพลังจิตด้วยทักษะพวกนี้! ถ้าเกิดความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น แรงสนับสนุนก็จะเพิ่มขึ้นด้วย!”
หากคิดจะป้องกันภัยจากภายนอก จะต้องทำให้ภายในปลอดภัยเสียก่อน!
ในที่สุดความแข็งแกร่งทางจิตใจของเยลก็ฟื้นคืนมาอีกครั้งหลังจากผ่านมาหนึ่งเดือน เขากำหมัดแน่นและรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่ทำให้เขารู้สึกคลั่งไคล้และสงบสุขยิ่งขึ้น
ตระกูลออสมอนด์ไม่เพียงแต่จะได้ยินว่าเยลฟื้นคืนความแข็งแกร่งได้เท่านั้น แต่ยังได้ยินว่าเขาเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 8 ดาวอีกด้วย
แฮโรลด์ ออสมอนด์ ผู้นำตระกูลออสมอนด์และพ่อผู้ให้กำเนิดเยลรู้สึกตกตะลึงเมื่อได้รับข่าวสารดังกล่าว
ลูกชายที่ถูกเขาไล่ออกจากตระกูลกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?
อาเบล ควินซี่ แม่ผู้ให้กำเนิดเยลรีบถกกระโปรงวิ่งเข้ามายังห้องทำงานของแฮโรลด์ “คุณเห็นข่าวของลูกหรือยังคะ?!”
อาเบลที่มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสนั่งลงตรงข้ามแฮโรลด์อย่างภาคภูมิใจ “สมควรแล้วที่เยลเป็นลูกของฉัน เขาสืบทอดสายเลือดดี ๆ จากตระกูลควินซี่ กล้าหาญและมุ่งมั่น!”
หลังจากกล่าวเช่นนั้น เธอจึงจ้องมองแฮโรลด์และเย้ยหยัน “ลูกของฉันเพิ่งล้มลง คุณไม่ควรรีบแต่งตั้งลูกนอกสมรสด้วยซ้ำ เหอะ ๆ ทีนี้ล่ะ มารอดูกันว่าเรื่องนี้จะจบยังไง!”
แฮโรลด์สูดลมหายใจ และเยาะเย้ย “ผมก็แค่ละเลยในฐานะพ่อ แล้วคุณในฐานะแม่ล่ะ? ไม่ได้เป็นแบบนั้นเหมือนกันหรือไง!”
หลังจากที่เยลถูกไล่ออก อาเบลทำอะไรบ้าง? เธอเคยทำหน้าที่ในฐานะผู้เป็นแม่บ้างไหม? วันแล้ววันเล่าเอาแต่แต่งหน้าแต่งตัวสวยไปงานเลี้ยงเต้นรำ
ในอดีตเธอเอาแต่พูดเกี่ยวกับเยลและโอ้อวดหญิงสาวร่ำรวยคนอื่น ๆ ไปทั่ว แล้วตอนนี้ล่ะ?! หวาดกลัวว่าทุกคนจะรู้ว่าลูกชายของตนเองกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ ถึงได้เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่บ้านและสาปแช่งเสียงดังทุกวัน โดยหวังว่าลูกชายจะจบชีวิตลงภายในเร็ววัน
เขาที่ไม่มีคุณสมบัติความเป็นพ่อได้ให้เงินจำนวนหนึ่งแก่ลูกชาย โดยหวังว่าลูกจะกินหรูอยู่สบายแม้จะเป็นคนธรรมดาก็ตาม
อาเบลหัวเราะเยาะ “ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เขาก็เป็นลูกชายของฉันและเป็นสมาชิกในตระกูลควินซี่! พ่อของฉันจะร่างจดหมายและฝึกเยลให้เป็นผู้สืบทอดตระกูลควินซี่”
“ส่วนคุณก็ดูแลลูกนอกสมรสนั่นให้ดีแล้วกัน!”
อาเบลเยาะเย้ย ขณะหยิบกระเป๋าพร้อมกับหมวกทรงสูง ลุกขึ้นยืนและบิดเอวเดินจากไป
แฮโรลด์ขมวดคิ้ว ลูกชายของเขาจะเลือกหันหลังให้ตระกูลออสมอนด์ได้อย่างไร?! เยลจะต้องได้รับการยอมรับอีกครั้ง!
เยลมองดูจดหมายเชิญมากมายในมือของเขาอย่างเฉยเมย และหนึ่งในนั้นเป็นจดหมายของเอริก้า
หากนางฟ้าส่งจดหมายมาให้เขาก่อนหน้านี้ เขาคงสุขใจยิ่งนัก จะรีบแต่งกายเรียบร้อยและซื้อเครื่องประดับราคาแพงเพื่อเป็นของขวัญเอาใจเธอ
แต่เมื่อมองดูจดหมายเชิญชวนในมือพวกนี้แล้ว เขากลับหัวเราะเยาะและโยนจดหมายทั้งหมดลงในถังขยะ
สำหรับตระกูลออสมอนด์และตระกูลควินซี่ ตอนที่เขาตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ทั้งสองตระกูลที่เป็นครอบครัวของเขากลับเลือกจะทิ้งเขาแทบปางตาย
เขามักจะนึกถึงเกียรติยศของตระกูลที่พ่อเคยพูดถึง แต่กลับไม่เคยใส่ใจจนกระทั่งเขาสูญเสียความแข็งแกร่ง จึงเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ว่าคำว่าเกียรติยศของตระกูลเป็นคำที่เย็นชาขนาดไหน
แข็งกระด้างจนเขาเย็นชา แข็งกระด้างจนทำให้เขารู้สึกคลางแคลงใจกับชีวิตและความเป็นมนุษย์ของทุกคน
หากจะมีใครบางคนทำให้เขาเปลี่ยนใจไปเล็กน้อย นั่นคงจะเป็นองค์หญิงสินะ?!
เดิมทีเขาคิดว่าคนที่เขาควรจะเกลียดมากที่สุดคือเธอ แต่หลังจากที่เขาสูญเสียพลังดวงดาวไป องค์หญิงสามกับนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งกลับไม่เคยกลั่นแกล้งเขาเลยสักครั้งเดียว…
แม้แต่ตอนที่ได้รับการเลื่อนขั้นก็ไม่มีใครกล้าส่งยามาให้เขา มีเพียงองค์หญิงสามที่ยอมเสี่ยงบาดเจ็บและยื่นมือเข้ามาหาเขา
สำหรับคนคนนี้ เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ
แต่นั่นกลับทำให้เขารู้สึกอุ่นใจ
ดวงตาของเยลจ้องมองไปทางแผนกเกษตรกรรมที่มีองค์หญิงสามอยู่
หากเป็นไปได้ เขาก็อยากจะเข้าไปถวายความจงรักภักดีกับองค์หญิงสามเช่นกัน
ความอบอุ่นที่แท้จริงของเธอทำให้เขารู้สึกอุ่นใจ
โอคาซีได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิให้ไปจัดการที่ดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ ขณะที่เขานั่งมองว่าที่ลูกเขยนั่งอยู่ตรงข้ามในวิดีโอ
“เมื่อไม่นานมานี้เอเลี่ยนที่นี่เริ่มอาละวาดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเกรงว่าถ้าออกไปแล้วจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้” โอคาซีกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
จักรพรรดิยิ้มเยาะเมื่อได้ยินเช่นนั้น!
“ก็ได้ เจ้าไม่สนใจใช่ไหม? งั้นเราจะให้ลูกสาวไปเยี่ยมเยียนจักรวรรดิเอเดนสักพักหนึ่ง องค์ชายแลนเซล็อตเพิ่งถามเราเกี่ยวกับองค์หญิงสามไปน่ะ!”