ตอนที่ 229 มุ่งสู่ดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ 7
ยามเช้าตรู่ ทั้งสองยังคงทานอาหารด้วยกันอย่างชื่นมื่น
คนคนหนึ่งยังคงไม่ยิ้มแย้ม แต่กลับจ้องมองไปที่สวี่หลิงอวิ๋นอย่างอ่อนโยน ขณะที่สวี่หลิงอวิ๋นก้มศีรษะลงและยิ้มแย้มเป็นครั้งคราว ราวกับกำลังคิดอะไรที่เพลิดเพลิน
“ทานให้อร่อยนะครับ กำลังคิดอะไรอยู่เหรอครับ?” โอคาซีกล่าวอย่างมีเลศนัยขณะเคาะศีรษะเธอเบา ๆ
“ฮึ่ม! อย่ารู้เลยค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นแลบลิ้น เธอยังคงหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกเมื่อคืนนี้!
โอคาซีส่ายหัว สวี่หลิงอวิ๋นช่างไม่มีความยับยั้งช่างใจเอาเสียเลย แต่การกล้าได้กล้าเสียครั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน
แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้พูดคุยกันมากนัก แต่บรรยากาศสีชมพูตรงกลางก็แทบจะทำให้เหล่าทหารทนไม่ไหว รีบหยิบกล่องข้าวแล้วเดินออกไปไกล
เพียงแค่สองคนนี้อยู่ด้วยกัน คนโสดทั้งหลายก็รู้สึกเหมือนพวกเขากำลังโดนโจมตีนับหมื่นครั้ง!
“อีกไม่นานการประลองของหัวหน้าก็จะเริ่มขึ้นอีกแล้ว ท่านพร้อมหรือยังครับ?” โอคาซียื่นตะเกียบให้เธอ และกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“อ๊ะ? อะไรนะคะ? ประลองหัวหน้าอีกแล้วเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นใช้ตะเกียบคีบอาหาร และกล่าวออกไปอย่างทำอะไรไม่ถูก “ทำไมถึงมีการประลองเยอะจังคะ? ฉันนึกว่ามันจะจบแล้วซะอีก!”
“ไม่ครับ” โอคาซีจ้องมองเธอคีบอาหารขณะทำสีหน้าไม่เต็มใจนัก “ถ้าท่านไม่อยากเข้าร่วม ท่านไปคุยกับท่านคณบดีก็ได้นะครับ”
“ช่างเถอะค่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัว “ถ้าฉันไม่ไปเข้าร่วม ก็คงถูกจับไปใช้งานเหมือนชายฉกรรจ์อีกแน่นอน ท่านก็รู้นี่คะว่าโครงสร้างของโรงเรียนสำหรับคนธรรมดาทำให้ทุกคนรู้สึกสับสน ถ้าฉันไม่ไปเข้าร่วม เสด็จพ่อก็คงหางานมาให้ฉันทำอีกอยู่ดี”
นี่เป็นความจริง…
ตอนนี้สวี่หลิงอวิ๋นมีบารมีที่สูงส่งมากในหมู่คนธรรมดา หากมีอะไรเกิดขึ้น การที่เธอออกหน้าเองคงเป็นเรื่องที่ดี
“ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาเกือบจะคัดเลือกคณบดีกันเสร็จแล้ว และอีกในไม่ช้าอาจารย์ทั้งหลายก็จะเริ่มฝึกสอนแล้วเหมือนกัน หวังว่าโรงเรียนจะเปิดตามตารางที่วางไว้ ทุกคนจะได้เริ่มเรียนทันในเทอมหน้า”
“อืม ถ้าท่านต้องการความช่วยเหลือจากผม ก็บอกได้เสมอนะครับ” โอคาซีจับมือเธอและกล่าวขึ้น
“อืม! ไม่ต้องห่วงค่ะ! ฉันจะไม่เกรงใจท่านแน่นอน” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวขึ้นและยกยิ้ม “ก็ท่านคือผู้สนับสนุนของฉันนี่ค่ะ”
นักวิจัยทั้งหลายรู้สึกเครียดจนหัวแทบล้าน พวกเขาไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากที่ไหน ทำไมถึงมีสสารอยู่ในแหล่งน้ำดังกล่าว แต่กลับไม่หลงเหลืออยู่ในที่อื่น
“มันเป็นไปได้ยังไง?” นักวิจัยคนหนึ่งจดจำของเหลวของเอเลี่ยนตั๊กแตนได้ เขากล่าวขึ้นและหัวเราะออกมา
เป็นไปได้อย่างไร? หากของเหลวของเอเลี่ยนตั๊กแตนให้ผลที่มหัศจรรย์เช่นนี้ มันคงจะถูกนักวิจัยอาวุโสค้นพบมานานแล้ว จะหลงเหลือมาอยู่จนทุกวันนี้ได้อย่างไร?!
นักวิจัยทั้งกลุ่มตัดสินใจออกไปเดินเล่นอีกครั้ง
ราวกับการพักผ่อน
เนื่องจากดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้มีกลุ่มนักกินที่มีจิตใจอ่อนโยนคอยปกป้องอยู่ นอกเหนือจากคลังสินค้าเอเลี่ยนที่กระจัดกระจายอยู่แล้ว เหล่าทหารทั้งหลายก็ออกไปล่าอย่างบ้าคลั่งจนไม่หลงเหลือหน้าที่อะไรให้ทำ พื้นที่ที่เหลืออยู่จึงค่อนข้างปลอดภัย…
สภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาทางธรรมชาติฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แม้แต่สัตว์ทั้งหลายยังถูกผู้เชี่ยวชาญโคลนนิ่งขึ้นมาและปล่อยคืนสู่แหล่งธรรมชาติ
นอกจากพื้นที่ปลูกต้นอ้อยขนาดใหญ่แล้ว บนดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้จึงเต็มไปด้วยพื้นที่เขียวชอุ่ม
“ไม่ได้มาเดินเล่นในธรรมชาติมานานแล้วสินะครับ เอาแต่ใช้เวลาอยู่ในห้องทดลองทุกวัน จนผมรู้สึกว่าตัวเองจะกลายเป็นยาทดลองอยู่แล้ว!”
นักวิจัยที่มีอายุน้อยที่สุดบ่นอุบอิบ
“ฮิฮิ นายยังเด็กเกินไป ถ้าอายุเท่าพวกเรา นายก็คงจะชินไปเองแหละน่า” นักวิจัยรุ่นพี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “นายยังไม่เคยสัมผัสเสน่ห์ของการวิจัยเลย การวิจัยเป็นอะไรที่น่าหลงใหลนะ”
“เมื่อไหร่ก็ตามที่ผลการวิจัยออกมา นายจะรู้สึกเหลือเชื่อกับความตื่นเต้นที่ทะลุออกมาจากกระดูก! แม้แต่น้ำตาลหนึ่งถ้วยก็ไม่อาจเทียบได้!”
นักวิจัยรุ่นพี่ถึงกับใช้น้ำตาลมาเปรียบเทียบ เห็นได้ชัดว่าเขารักอุตสาหกรรมการวิจัยมากขนาดไหน
นักวิจัยหนุ่มคว้าต้นอ้อยขึ้นมาจากพื้นดิน กัดแจ๊บแจ๊บเล็กน้อย และถอนหายใจอย่างพึงพอใจ
“อ้อยนี้อร่อยจังเลยครับ! คงจะดีกว่านี้ถ้าได้เอาออกไปปลูกนอกสถาบันวิจัยของเรา!” น่าเสียดายที่มันเป็นทรัพย์สินส่วนตัวขององค์หญิง
“เป็นความคิดที่ดีนะ” นักวิจัยรุ่นพี่กล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “แต่คุณก็รู้ว่าดาวเคราะห์หลักของเราปลูกต้นอ้อยไม่ได้น่ะสิ”
ถูกต้อง ประชากรมีจำนวนมาก และอีกแง่หนึ่งคือพวกเขาไม่มีพื้นเพิ่มเติมสำหรับการเพาะปลูก
ในทางกลับกัน เอเลี่ยนมักอาจจะเข้ามาโจมตีสิ่งของที่มีรสชาติหวาน
นี่คือเหตุผลที่ดาวเคราะห์หลายดวงไม่ปลูกพืชรสหวาน
โดยพื้นฐานแล้ว ดาวเคราะห์ที่กำลังฟื้นตัวอยู่ในปัจจุบันมักจะไม่มีพืชพันธุ์รสหวาน ตราบใดที่พืชรสหวานยังมีอยู่ พวกมันก็จะถูกทำลายย่อยยับ
ส่วนการปลูกต้นอ้อยนอกสถาบันวิจัยนั้นไม่สามารถเป็นจริงได้
พืชพันธุ์จำนวนมากที่ถูกปลูกไว้ด้านนอกสถาบันวิจัยล้วนเป็นสมุนไพรที่ล้ำค่าและอื่น ๆ ถึงแม้ว่าต้นอ้อยจะมีรสชาติหวาน แต่ในแง่ของมูลค่า ต้นอ้อยก็ไม่สามารถใช้พื้นที่ของพืชพันธุ์เหล่านั้นได้
กลุ่มคนร่วมสิบคนเข้ามารวมตัวกับเอเลี่ยนเกอหลัว
ถั่วชมพูนอนลงพร้อมกับอาหารอันแสนอร่อยที่กองอยู่ด้านข้างมัน และเอเลี่ยนเกอหลัวระดับ 8 ดาวกำลังป้อนอาหารให้มัน!
ช่างเป็นเอเลี่ยนที่ขี้เกียจเสียจริง!
ถั่วชมพูไม่ได้ร้อนรนนักเมื่อเห็นกลุ่มนักวิจัย รวมถึงเอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นต่างจ้องมองนักวิจัยเหล่านั้นและไม่ได้สนใจจะนำเอาต้นอ้อยมาเก็บไว้เป็นของส่วนตัว
พวกมันล้มตัวนอนและผล็อยหลับไป สวี่หลิงอวิ๋นและโอคาซีกำลังเดินเตร็ดเตร่กันอย่างสบายใจ
“ว้าว! ทะเลสาบสวยจัง!”
ใช่แล้ว! บางครั้งปลาตัวน้อยก็กระโดดขึ้นมาจากผิวน้ำทะเลสาบสีฟ้าสดใสที่สะท้อนกับท้องฟ้าสีคราม เมฆสีขาว และภูเขาสีเขียว
งดงามอย่างแท้จริง!
โอคาซีมองดูเธอถอดถุงเท้าและรองเท้า ก่อนจะเอาเท้าลงไปจุ่มในน้ำ “อา! สบายจังเลย!”
“ที่รัก มาเร็ว ๆ สิคะ!” สวี่หลิงอวิ๋นควักมือเรียกเขา!
โอคาซีนั่งลงด้านข้างเธอ และทั้งสองคนก็เพลิดเพลินไปกับความสงบสุขยามบ่าย
“ท่านจัดการเอเลี่ยนที่นั่นเสร็จหรือยังคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นเอ่ยถาม ขณะซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
เขาต้องอยู่ในสนามรบทุกวัน หลังจากแต่งงานกันแล้ว พวกเขาคงจะไม่ได้มีวันเช่นนี้อีกใช่ไหม?!
หากเกิดในอนาคตเธอให้กำเนิดลูก พ่อของลูกจะยังต้องจัดการเอเลี่ยนอยู่ในสนามรบใช่หรือไม่?
“ยังครับ” กองทัพของเขากำลังจัดการกับเอเลี่ยนที่เรียกว่า ‘คุนดาหยา’ บนดาวเคราะห์เลขที่เอหกหนึ่ง
ความแข็งแกร่งของเอเลี่ยนเหล่านั้นอยู่ในระดับ 5 ดาวถึง 6 ดาว
โดยทั่วไป พวกมันจะมีความแข็งแกร่งที่ไม่สูงนัก ทว่าความสามารถในการวิวัฒนาการของพวกมันค่อนข้างแข็งแกร่ง และเอเลี่ยนคุนดาหยาจำนวนหนึ่งสามารถไล่ระดับไปถึงระดับ 8 ดาวและ 9 ดาว
เหล่าทหารธรรมดาทั้งหลายจะจัดการกับเอเลี่ยนธรรมดา ส่วนเขาจะต้องจัดการกับเอเลี่ยนที่มีความแข็งแกร่งระดับสูง
เขาสูดดมผมยาวสลวยของเธอ และกลิ่นหอมของผลไม้จาง ๆ “อีกสามวัน ผมก็จะต้องออกไปอีก”
ยังมีเอเลี่ยนอีกมากมายที่หลุดรอดอยู่ และครั้งนี้ก่อนที่เขาจะจากฐานทัพมา เขาได้ทำการปิดล้อมเอาไว้เพื่อให้มั่นใจว่าเหล่าทหารจะไม่ถูกเอเลี่ยนระดับ 8 ดาวและ 9 ดาวซุ่มโจมตี
“อา! เร็วจังค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นจับมือเขาเอาไว้อย่างอาลัยอาวรณ์
“หรือว่าฉันไปด้วยดีคะ!”