ตอนที่ 233 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 4
อย่าคิดว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะไม่เห็นแววตาที่ไม่พึงพอใจของวินเซอร์ ทั้งทีแสดงออกว่าเขินอายเมื่อพ่อของเธอพูดติดตลกเรื่องการแต่งงาน
โธ่เอ๊ย มันก็เป็นการเสแสร้งทั้งหมดนั่นแหละ!
จักรพรรดิองค์ไหนจะพูดจาไร้สาระตลอดทั้งวันทั้งคืนเช่นเดียวกับพ่อของเธอที่ชอบทะเลาะกับรัฐมนตรีและพสกนิกรตลอดช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรทำ? แต่นั่นยังเห็นได้น้อยไป!
เมื่อเห็นว่าลูกสาวยืนนิ่งไม่ไหวติง จักรพรรดินีก็กล่าวว่า “หลิงอวิ๋น รออะไรอยู่? รีบตามมาเร็ว!”
สวี่หลิงอวิ๋นทำอะไรไม่ถูกเมื่อแม่ของเธอกล่าวเช่นนั้น ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ!
ถึงแม้ว่าเธอจะร่ำรวย แต่เธอยังรู้สึกวิตกกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นแม่ของเธอ
ไม่เหมือนกับพ่อของเธอ ในตอนนั้นเสด็จแม่เป็นหญิงงามผู้มีเจตจำนงที่แข็งแกร่งต่อจักรวรรดิทั้งห้วงดวงดาว องค์ชายจำนวนนับไม่ถ้วนไล่ตามจีบแม่ของเธอ แต่สุดท้ายแล้วกลับไม่รู้ว่ามีเส้นประสาทส่วนไหนผิดปกติ เสด็จแม่ถึงได้เลือกเสด็จพ่อผู้ไม่มีความน่าเชื่อถืออย่างเด็ดขาดเป็นสวามี
กล่าวกันว่าหลังจากที่เสด็จพ่อแต่งงานกับเสด็จแม่แล้ว ท่านปู่ก็แทบจะเป็นลมหน้ามืดอยู่ในห้องน้ำ เพียงเพราะรับรู้ว่าลูกชายผู้อัศจรรย์พันลึกมีคนคอยดูแลเสียที และยิ้มสดใสก็ปรากฏขึ้นใต้ทั่วหล้า
ปัดโธ่!
สวี่หลิงอวิ๋นเดินตามไปอย่างเชื่อฟัง
วินเซอร์จ้องมองสวี่หลิงอวิ๋น ขณะปิดปากและอมยิ้มเล็กน้อย “ลูกพี่ลูกน้องยังติดเที่ยวเล่นไปเรื่อยเหมือนเดิมเลยนะ”
สวี่หลิงอวิ๋นปรายตามอง “อืม ลูกพี่ลูกน้องก็ยังเป็นเหมือนเมื่อก่อนเหมือนกันแหละ มีทั้งคุณธรรมและสติปัญญา ไม่รู้ว่าจะหาคู่ครองดี ๆ ได้ไหมนะ?”
วินเซอร์ชะงัก ยัยนี่กำลังต่อล้อต่อเถียงอยู่ใช่ไหม?!
“การแต่งงานขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเสด็จพ่อและเสด็จแม่ โดยเฉพาะองค์หญิงแบบพี่ ไม่มีสิทธิ์เลือกหรอก” ไม่เหมือนเธอที่วิ่งไล่ตามทุกคนทั่วทั้งจักรวาล!
สวี่หลิงอวิ๋นเลิกคิ้ว อุ๊ย ยศของเธออยู่สูงนักหรือไง?! เป็นไปตามที่คิดไม่มีผิด หญิงสาวที่ถูกราชวงส์ฝึกสอนมามักจะไม่ได้ศัพท์!
“ใช่แล้วล่ะ ก็ลูกพี่ลูกน้องเป็นถึงองค์หญิงแบบอย่างของจักรวรรดิทั่วทั้งห้วงดวงดาว คนที่ตามจีบคงต่อแถวยาวไปถึงทางช้างเผือก!” สวี่หลิงอวิ๋นแสร้งชมเชย
ใบหน้าของวินเซอร์เผยให้เห็นถึงความเย่อหยิ่งเล็กน้อย แต่เธอกลับต้องรู้สึกหงุดหงิดกับยัยสวี่หลิงอวิ๋นอีกครั้ง
“อ๊ะ แต่ไม่มีใครต้องการฉันเลยล่ะ มีแค่พลเอกโอคาซีกับองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตที่ทูลขอการจัดงานแต่งกับเสด็จพ่อ หึหึ! น่าเสียใจจัง!”
โอคาซีและแลนเซล็อตเป็นที่รู้จักกันในนามคู่หนุ่มรูปงามแห่งห้วงดวงดาว พวกเขาเป็นชายหนุ่มมากเสน่ห์ที่ตราตรึงอยู่ในใจของหญิงสาว และตกเป็นที่หมายปองของทั้งปวง ยัยซื่อบื้อนี่กำลังโอ้อวดอยู่ใช่ไหม?!
ใช่ไหม?! ใช่ไหม?!
คำพูดของเธอชัดเจนอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าคู่ครองของอีกฝ่ายจะมีมากหน้าหลายตา ทว่าพวกนั้นก็เป็นแค่ฝุ่นผงธุลี ไม่เหมือนกับคู่ครองของเธอที่เป็นดั่งไข่มุก!
แค่โอคาซีคนเดียวก็มากเกินพอแล้ว แต่นี่ยังรวมถึงองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อต องค์ชายหนึ่งเดียวที่องค์หญิงทั้งหลายเฝ้าใฝ่ฝันที่จะแต่งงานด้วย!
ผ้าเช็ดหน้าของวินเซอร์แทบจะบิดเป็นเกลียว! และไม่สามารถรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้ได้ ทว่ารอยยิ้มกลับไม่ได้จางหายไปและยังคงอยู่!
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกโล่งใจเมื่อมองไปที่ใบหน้าแข็งทื่อของเธอ!
ฮึ่ม! มาหาเธอเพื่อแสดงคุณสมบัติที่เหนือกว่าอย่างนั้นเหรอ? มีอะไรผิดปกติกับมันสมองหรือเปล่า?!
จักรพรรดินีกระแอมเบา ๆ และสวี่หลิงอวิ๋นก็เดินตามไปอย่างเชื่อฟัง และไม่พูดอะไรอีก
วินเซอร์รู้สึกผ่อนมากขึ้น และเดินตามป้าของเธอไปที่ห้องรับแขก จักรพรรดินีพึงพอใจกับฝีปากของลูกสาว
องค์หญิงจะต้องมีภาพลักษณ์เป็นดั่งองค์หญิง และจะต้องวางตัวอยู่ในตำแหน่งเสมอ ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรจะต้องไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายสรรหาคำพูดมาเอาชนะได้
สำหรับหลานสาวของเธอยังต้องฝึกฝนให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้…
หญิงสาวทั้งสามคนนั่งอยู่ในห้องรับแขก
องค์หญิงวินเซอร์ยังคงมีภาพลักษณ์ตามแบบฉบับเจ้าหญิง อย่างแรกคือการเปลี่ยนเสื้อผ้า
ชุดกระโปรงยาวสีเบจถูกสลับเปลี่ยนเป็นชุดสีชมพูอีกครั้ง ทำให้เธอดูเป็นสาวน้อยที่ขี้เล่นและมีชีวิตชีวามากขึ้น
จิบชา กินติ่มซำ ทุกกิริยาเป็นไปตามตำราเรียน
สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับพูดไม่ออกเมื่อจ้องมองแม่กับลูกพี่ลูกน้อง การกระทำของทั้งคู่เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ช่างควรค่าแก่การมาจากจักรวรรดิเดียวกัน!
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกปลง
องค์หญิงวินเซอร์กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ในตอนนั้นท่านป้าเป็นแบบอย่างให้องค์หญิงทุกพระองค์จากจักรวรรดิทั่วทั้งห้วงดวงดาว แต่ตอนนี้หนูกำลังได้เรียนรู้การวางตัวจากท่านป้า!”
น้ำเสียงของเธอช่างฟังดูภาคภูมิใจยิ่งนัก เฉกเช่นเดียวกับแม่ไก่ที่ออกไข่และขอให้เจ้าของชมเชย!
จากนั้นจึงมองตรงมาที่สวี่หลิงอวิ๋น ถึงแม้ว่าเธอจะนั่งหลังตรง แต่เธอกลับไม่ยอมเช็ดปากหลังจากที่จิบน้ำเสร็จ! อีกทั้งยังอ้าปากกว้างกินติ่มซำคำใหญ่!
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกหงุดหงิดเมื่อจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า! บัดซบ บังอาจใช้สายตาเยาะเย้ยกันอย่างนั้นเหรอ!? ฮึ่ม! รอก่อนเถอะ! ฉันคนนี้ทำอะไรผิดกับเธอนักหรือไง?!
แน่นอนว่าไม่!
เธอวางถ้วยน้ำชาลง จ้องมองวินเซอร์และถอนหายใจเป็นเวลานาน โดยไม่พูดจา
วินเซอร์เห็นว่าอีกฝ่ายต้องการจะพูดอะไร แต่กลับไม่ยอมพูดออก เธอจึงนิ่งไปครู่หนึ่งและกล่าวว่า “อยากจะพูดอะไรงั้นเหรอ?”
สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจและโบกมือ “ฉันแค่คิดว่าพี่น่าสงสารน่ะ”
วินเซอร์?! ฉันน่าสงสารตรงไหนกัน?!
แม้แต่จักรพรรดินียังวางถ้วยลง และพร้อมรับฟัง
สวี่หลิงอวิ๋นอมยิ้มและกล่าวว่า “ฉันแค่รู้สึกว่าการเลียนแบบพี่สุ่มสี่สุ่มห้า มันทำให้ฉันสูญเสียความเป็นตัวเองน่ะ ฉันแค่อยากจะบอกว่าพี่ทำให้ฉันรู้สึกแปลกประหลาดสุด ๆ และตอนนี้ฉันเองก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพี่ก็กำลังเลียนแบบอยู่เหมือนกัน ความเป็นตัวเองของพี่มันหายไปแล้ว!”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันรู้สึกเศร้าใจน่ะ!”
ช่างเป็นคำพูดที่แทงใจ!
อารมณ์สุนทรีย์ของวินเซอร์หายวับไปในทันที! เมื่อคำพูดของสวี่หลิงอวิ๋นโพล่งออกมา เธอไม่มีความเป็นตัวเองอย่างนั้นเหรอ?!
จะมีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเธอคือองค์หญิงที่เลิศเลอที่สุดในห้วงจักรวรรดิดวงดาวทั้งหมด แล้วเธอจะไม่มีบุคลิกส่วนตัวได้อย่างไร!
“น้องสาว เธอพูดผิดแล้วล่ะ!” วินเซอร์โต้กลับ “ฉันเป็นองค์หญิงที่ยอดเยี่ยมที่สุด แถมปีที่แล้ว ฉันยังชนะรางวัลองค์หญิงแห่งห้วงดวงดาวด้วย!”
“ใช่แล้ว! พี่ยังจำคอมเมนต์ในตอนนั้นได้ไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นวางถ้วยชาลง “ตอนนั้นคณะกรรมการบอกว่า ‘ท่านเหมือนกับท่านป้าของท่านเลย’ พี่จำได้หรือเปล่า?!”
แน่นอนว่าวินเซอร์จำได้!
เธอรู้สึกตื่นเต้นอยู่เป็นเวลานานหลังจากได้รับคอมเมนต์ดังกล่าว
ป้าของเธอคือไอดอลที่เฝ้าตามหามาทั้งชีวิต และการได้เป็นเหมือนป้าคือสิ่งที่เธอภาคภูมิใจที่สุด
แต่ทำไมหัวข้อนี้ถึงหลุดออกมาจากปากของลูกพี่ลูกน้อง ดูเหมือนว่าเธอเลียนแบบและละทิ้งความเป็นตัวเองจริง ๆ อย่างนั้น?!
“ฉันยังจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ พี่มาเป็นแขกรับเชิญที่นี่ และอาหารจานโปรดของพี่ก็คือเนื้อหมู เนื้อชิ้นนั้นนุ่มและหวานละมุน พี่กินมันตลอดเลยล่ะ”
แต่แล้วหลังจากนั้น เธอก็หยุดกิน
“เพราะว่าแม่ของฉันไม่ชอบกินมัน พี่ก็เลยวางตะเกียบลงและไม่แตะต้องมันตั้งแต่นั้นมา”
แม้จะอยากเหมือนกับไอดอล แต่ถึงกับต้องกินแบบเดียวกัน ไม่เบื่อบ้างเหรอ? หากลูกพี่ลูกน้องวินเซอร์มีเป้าหมายเป็นเธอ เธอก็คงจะชื่นชมผู้หญิงคนนี้
ทว่าใครจะอยากให้เธอเหมือนตัวเองกัน!?
ฮึ่ม!
องค์หญิงวินเซอร์รู้สึกราวกับโดนทุบหัว!
เธอไม่มีบุคลิกความเป็นตัวเองจริง ๆ เหรอ?!
เธอจ้องมองป้าที่กำลังนั่งขมวดคิ้วมองมาทางเธอ “หลาน…” เลียนแบบป้าถึงขนาดนี้เลยเหรอ?!
วินเซอร์รู้สึกถึงถ้วยน้ำชาในมือของเธอที่หนักขึ้นเป็นพันปอนด์ ใบหน้าของเธอซีดเผือด
เธอวางถ้วยชาในมือลง ลุกขึ้นยืนด้วยกิริยาหยาบกระด้าง และโค้งคำนับป้าของเธอ “ท่านป้า หนูขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ”