ตอนที่ 238 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 9
ตอนที่ 238 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 9
ทั้งสามตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
แน่นอนว่าอาการกระอักกระอ่วนเช่นนี้น่าจะเป็นความรู้สึกขององค์หญิงวินเซอร์ แต่สำหรับสวี่หลิงอวิ๋นแล้ว ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านสักนิด
แลนเซล็อตอาจจะรู้สึกอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกผู้หญิงปฏิเสธจำนวนนับไม่ถ้วนใช่ไหม?
วินเซอร์มองดูบรรยากาศที่อึมครึมเป็นเวลานาน ก่อนจะรวบรวมความกล้าและหันมาวิพากษ์วิจารณ์สวี่หลิงอวิ๋น “หลิงอวิ๋น น้องกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?”
“เราไม่สามารถแสร้งทำเป็นชอบใครได้ ในเมื่อองค์ชายแลนเซล็อตชอบน้อง น้องก็ควรจะตอบรับเขาซะ!”
ให้ตายเถอะ เลือดจะไหลออกมาจากหัวใจอยู่แล้ว!
สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองลูกพี่ลูกน้องของเธอด้วยความประหลาดใจ!
“เธอกำลังบอกให้ฉันแต่งงานมีสามีสองคนเหรอ? ไม่เอาอ่ะ! แค่คนเดียวก็รับมือไม่ไหวแล้ว นี่ตั้งสองคน!” สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัวและยิ้ม
“โอเค พี่วินเซอร์ ฉันแค่ล้อเล่น”
เธอกล่าว “อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระขององค์ชายแลนเซล็อตนักเลย จะมาชอบอะไรฉัน พี่คิดว่าเขาชอบฉันจริง ๆ หรือไง?”
สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัว “อย่างที่พี่บอก คนเราแสร้งทำเป็นชอบใครสักคนไม่ได้หรอก และฉันรู้สึกได้ว่าเขาชอบฉันหรือเปล่า”
เธอจ้องมองแลนเซล็อตอีกครั้ง “อย่าเที่ยวพูดถึงฉันไปทั่วเลยเถอะค่ะ ถ้าท่านอยากได้ความสามารถของฉันล่ะก็ เมื่อท่านแต่งงานกับพี่วินเซอร์แล้ว และในฐานะที่ท่านเป็นพี่เขย บางทีฉันอาจจะปรึกษาหารือกับเสด็จพ่อเกี่ยวกับจักรวรรดิเอเดนของท่านก็ได้นะคะ”
แต่ด้วยประการทั้งปวง มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
วินเซอร์ขมวดคิ้ว ลูกพี่ลูกน้องพูดว่าอะไรนะ? องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตต้องการความสามารถพิเศษอะไรของเธอ?!
หากเธอมีความสามารถพิเศษจริง ๆ การที่ท่านลุงและท่านป้าตัดสินใจให้เธอแต่งงานกับโอคาซีก็จะสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที
ทุกคนย่อมรู้ดีว่าองค์หญิงจะไม่แต่งงานกับชนชั้นสูง หากเธอสามารถแต่งงานกับองค์ชายได้
โดยเฉพาะตอนนี้จักรวรรดิชิงเหย้ากำลังเจริญรุ่งเรือง ในขณะที่จักรวรรดิอื่นต้องการการสนับสนุน หากสวี่หลิงอวิ๋นแต่งงานเข้าจักรวรรดิเอเดนผู้ทรงอิทธิพล มันจะกลายเป็นการแต่งงานทางการเมืองที่ดีที่สุด
องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตเลิกคิ้ว และส่งยิ้มให้สวี่หลิงอวิ๋น
ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจเสียจริง! ตรงไปตรงมาอย่างน่ารัก! และเธอก็ไม่ได้ตกเป็นเหยื่อในการจู่โจมที่แสนอ่อนโยนของเขา…
ผู้หญิงทั่วไปมักจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขา อีกทั้งยังรู้สึกผิดตั้งแต่แรกเริ่ม กล่าวขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยใบหน้าเขินอายและหัวใจเต้นระรัว
มีเพียงผู้หญิงคนนี้ที่ดูหมิ่นและพูดแทงใจดำว่าเขาโกหก แล้วเขาจะไม่ให้ความสำคัญได้อย่างไร?!
“ก็ได้ ผมยอมรับว่าตอนแรกผมมีแผนการแบบนั้น แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว” องค์ชายยังคงไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง สวี่หลิงอวิ๋นคนปัจจุบันช่างดึงดูดความสนใจของเขาเสียจริง!
วินเซอร์รู้สึกหงุดหงิด!
หากไม่ใช่ว่าเธอต้องคำนึงถึงใบหน้าที่สูงส่ง เธอคงจะเดินหันหลังกลับไป
สวี่หลิงอวิ๋นตบหน้าผาก กลอกตา และทำราวกับว่าเธอไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น
ความเป็นหนึ่งเดียวกันของสองพี่น้องนี้ช่างหาได้ยากนัก ทั้งคู่รู้สึกว่าชายผู้นี้ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
เซ้าซี้อะไรขนาดนี้!
พลเอกโอคาซีได้ดูการถ่ายทอดสดด้วยเช่นกัน เขากลับไปที่ดาวเคราะห์ของตนเองเพื่อจัดการกับเอเลี่ยนคุนดาหยา หลังจากมีเวลาได้นั่งพักผ่อน ผู้ช่วยของเขาก็เข้ามาพร้อมกับรายการถ่ายทอดสดอีกครั้ง
ในวิดีโอ สวี่หลิงอวิ๋นกับองค์ชายรัชทายาทกำลังเดินเตร็ดเตร่ไปทั่ววิทยาเขต
ใบหน้าของโอคาซีบูดบึ้งอีกครั้ง! เกิดบ้าอะไรขึ้นกับแลนเซล็อต? เขาว่างนักหรือไง?
ผู้ช่วยชาร์ลเหลือบมองท่านพลเอกที่ดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งเงียบ ๆ ฮึ่ม! ชายหนุ่มที่ติดอยู่ภวังค์แห่งความรัก!
นี่คืออาการหึง! แม้แต่กับพลเอกผู้เย็นชาและสงวนตัวอยู่เสมอก็ไม่มีข้อยกเว้น!
“ชาร์ล ฉันจำได้ว่านายร่วมมือกับองค์หญิงสามว่าจะจับกุมเอเลี่ยนไปส่งให้เธอใช่ไหม?”
“ใช่ครับ” ชาร์ลตอบออกไปอย่างระมัดระวัง
หลังจากความสัมพันธ์ของท่านพลเอกกับองค์หญิงสามเริ่มคลุมเครือ ผู้ช่วยตัวน้อยอย่างเขาก็กลายเป็นคนกลางระหว่างทั้งสองคนในทันที ต่อให้ปล่อยพวกเขาไป แต่เราเองก็ยังอยากจะรู้เรื่องอยู่ดี
แต่พอมาใส่ใจเรื่องของพวกเขาล่ะ? ท่านพลเอกมักจะใช้อำนาจข่มเหงเขาเสมอ
แต่ตอนนี้เขาอยู่ห่างไกลจากองค์หญิงสาม และไม่ได้ติดต่อเธอมาเป็นเวลานานแล้ว ท่านพลเอกจึงไม่ได้จ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชาอีกต่อไป!
“งั้นก็เตรียมตัวให้พร้อม ค่อยเอาเอเลี่ยนคุนดาหยาไปส่งที่เมืองหลวงทีหลัง” โอคาซีกล่าวเบา ๆ
นัยน์ตาคู่งามจ้องมองเขาอย่างเย็นชา “รู้ใช่ไหมว่าก่อนหน้าฉันสั่งให้นายทำอะไร?”
ชาร์ลตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “จับตาดูองค์หญิงสามเหรอครับ? ไม่ให้เธอนอกใจ?”
“ฮะ?!” นอกใจอะไร?! คำพูดของชาร์ลเปรียบเสมือนหนามยอกในอกของเขา
“นายบอกว่าองค์หญิงสามจะนอกใจเหรอ? ชาร์ล นายเป็นหมอดูหรือไง?!” โอคาซีตะคอกเสียงดังลั่น
บัดซบ! เขาช่างโง่เขลาเสียจริง! ก็รู้อยู่ว่าตอนนี้ท่านพลเอกอยู่ในช่วงอ่อนไหวง่าย หวาดกลัวจนเกินไป และรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองอย่างมาก (นั่นคือภาพจินตนาการของชาร์ลเหรอ?!) ดันไปราดกองเพลิงใส่เจ้าพ่อขี้หึง ทำไมการมีชีวิตอยู่ต่อถึงได้ยากแบบนี้!
“ขอโทษครับ ท่านพลเอก! แค่คำพูดไร้สาระน่ะ ท่านคิดว่าผมเป็นแค่ลมตดเถอะนะครับ โอเคไหม?!”
ชาร์ลอยากจะกลายเป็นผู้หญิงให้รู้แล้วรู้รอด ล้มตัวลงไปกอดขาของท่านพลเอก ร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย อ้อนวอนให้แล้วกันไป!
“เอาล่ะ!” โอคาซีจ้องมองเขา “นายรู้ภารกิจนี้ไหม?!”
“รู้นิดนึงครับ” ว่าแต่มันคืออะไร!
ชาร์ลรู้สึกสงสัยอย่างมาก ไม่ได้สั่งให้เขาไปดูการถ่ายทอดสดขององค์หญิงสามเหรอ? ถ้าอย่างนั้นจะให้เขาทำอะไร?
พลเอกโอคาซีลุกขึ้นยืน “ดีมาก ในเมื่อตอนนี้รู้เรื่องภารกิจแล้ว นายก็ไปได้!”
สมองของชาร์ลเต็มไปด้วยฟองสบู่ ให้เขามาทำอะไรที่นี่? ต้องถามอะไรไหม?
เมื่อจ้องมองไปที่ใบหน้าอันบูดบึ้งของพลเอกโอคาซี ผู้ช่วยใจปลาซิวก็ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรอีก
โอคาซีครุ่นคิด ไอ้หมอนี่ นายติดตามองค์หญิงสามอย่างซื่อตรงเสียจริง
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความเข้าใจของหมอนี่ยังคงมีอยู่น้อยนิด เขามีความคิดอย่างไรบ้างเมื่อถูกสั่งให้ไปจับตาดูองค์หญิงสามก่อนหน้านี้?
คงคิดว่าจะสั่งให้เขาออกไปส่งเครื่องปรุงสินะ!
เอเลี่ยนคุนตาหยามีรูปร่างแบน ปากแบนและมีเกล็ดแน่นหนา พวกเขาได้ทำการทดสอบมันและจัดเป็นเนื้อสัตว์ปลอดสารพิษ
พ่อครัวมีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่ามันจะเป็นเนื้อสัตว์ชนิด เขาจะนำมันไปทอดเพื่อลิ้มลองรสชาติของมันก่อน
เนื้อของกุนตาหยามีไขมันอยู่เล็กน้อย จึงทำให้ของทอดมีน้ำมันเยิ้มติดอยู่
แน่นอนว่าความตั้งใจเดิมของโอคาซีไม่ต้องการให้สวี่หลิงอวิ๋นปลดล็อกวิธีการกินเนื้อเอเลี่ยนไปมากกว่านี้ แต่เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรักอันลึกซึ้ง
องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตไม่ใช่คนที่ไม่เข้าใจการขยิบตา เมื่อเห็นว่าสวี่หลิงอวิ๋นกำลังจะหมดความอดทน เขาจึงตัดสินใจออกไปก่อน
เหลือเพียงลูกพี่ลูกน้องมองหน้ากัน
สวี่หลิงอวิ๋นกระแอมในคอ และกล่าวกับลูกพี่ลูกน้องของเธอว่า “พี่มาทำอะไรที่นี่?”
ไอ้องค์ชายสารเลว อุตส่าห์แสดงท่าทีใสซื่อและอ้อร้อแล้วเชียว!
ว๊าย! เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสิทธิบัตรของลูกพี่ลูกน้อง!