ตอนที่ 239 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 10
ตอนที่ 239 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 10
วินเซอร์สูดลมหายใจด้วยท่าทีเย็นชา ก่อนจะบิดเอวหันหลังและเดินจากไปโดยไม่สนใจไยดีเธอ
ฮึ่ม! หงุดหงิดจะตายอยู่แล้ว!
สวี่หลิงอวิ๋นยกนิ้วกลางและชี้ไปทางหลังลูกพี่ลูกน้องของเธอ!
เพื่อให้เป็นเกียรติแก่การต้อนรับผู้เข้าแข่งขันจากจักรวรรดิกาแล็กซีอื่น ๆ คณบดีพูลแมนจึงทำการเปลี่ยนแปลงมากมาย
อย่างแรกคืออาหารในโรงอาหาร…
แน่นอนว่าเมื่อกล่าวถึงอาหารที่แสนอร่อยจะต้องนึกถึงสวี่หลิงอวิ๋น องค์หญิงสามมีความสามารถอันมหัศจรรย์ที่เปลี่ยนอาหารเน่าเสียให้กลายเป็นอาหารชั้นเลิศได้ ดังนั้นการมองหาใครสักคนมาเป็นพ่อครัว ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกจากองค์หญิงสาม
ทว่าสวี่หลิงอวิ๋นเป็นถึงองค์หญิง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เธอลงมาทำอาหาร เขาจึงใช้จำนวนเงินมหาศาลเกือบหนึ่งล้านเหรียญดวงดาวขอซื้อสูตรใหม่จากสวี่หลิงอวิ๋น เพื่อให้สถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิชิงเหย้าสามารถสร้างสรรค์รสชาติจนกลายเป็นที่โปรดปรานของผู้คนทั้งปวงได้
สวี่หลิงอวิ๋นได้รับเงินมากกว่าหนึ่งล้านเหรียญดวงดาวมาอย่างฟรี ๆ ทั้งที่เธอไม่ต้องลงแรงอะไร เพียงแค่บันทึกวิดีโอการสอนและมีโอกาสได้อิ่มเอมไปกับอาหารมื้อใหญ่
ทว่าความแตกต่างกลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ยังดูไม่มากไป!
หัวหน้ามากกว่าหนึ่งพันคนและผู้ติดตามจากต่างจักรวรรดิมากกว่าหนึ่งหมื่นคนกำลังขมวดคิ้ว ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็เป็นแขกมาจากแดนไกล แต่ทำไมถึงพาพวกเขามาที่โรงอาหารเพื่อรับประทานอาหารเย็นแบบเรียบง่ายล่ะ? เนื่องจากการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ในอดีต พวกเขามักจะเลือกไปที่โรงแรมที่มีชื่อเสียงที่สุดและขอให้นำอาหารไปส่งให้ถึงหน้าประตู!
ทำไมจักรวรรดิชิงเหย้าถึงละเลยพวกเขาขนาดนี้?!
ไม่ว่าหัวหน้าจะเก่งกาจสักเพียงไหน พวกเขาก็เป็นแค่นักเรียน แต่ทีมงานที่ติดตามมาด้วยล้วนแตกต่างออกไป!
พวกเขาล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง เช่น คณบดีประจำสถาบัน พวกเขาจึงรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นโรงอาหารขนาดใหญ่
คณบดีพูลแมนทำราวกับไม่เห็นสายตาของพวกเขา ยกยิ้มและกล่าวว่า “นี่คือโรงอาหารของเราครับ รวมทั้งเป็นสถานที่ที่พวกคุณจะใช้กินอาหารตลอดทั้งเดือนด้วย”
“คงเหนื่อยกับการเดินทางมามากแล้วสินะครับ ทุกท่านได้โปรดขึ้นไปที่ห้องวีไอพีชั้นสองเถอะครับ”
แม้แต่ห้องวีไอพีก็ยังเป็นแค่ห้องอาหารขนาดใหญ่!
หัวหน้าเดินตามไป เจ้าหน้าที่ผู้ติดตามก็เดินตามไปด้วยแม้จะรู้สึกโกรธจัดก็ตาม
คณบดีพูลแมนหัวเราะเยาะในใจ ไอ้พวกบ้านนอกคอกนา รู้จักแต่โรงแรมหรูหรา ฮึ่ม! คงไม่รู้สินะว่าร้านค้าขนาดเล็กเป็นแหล่งรวมของอร่อย!
หลังจากที่ทุกคนนั่งลงแล้ว คณบดีพูลแมนก็ปรบมือ จากนั้นอาหารจึงเริ่มยกออกมาบริการ
“อาหารจานแรกเป็นหมูสามชั้นผัดซอสแดงครับ”
รถบริการเสิร์ฟอาหารอัติโนมัติเคลื่อนที่เรียงแถวมายังแต่ละโต๊ะ และแขนกลก็ช่วยยกอาหารขึ้นมาวางบนโต๊ะ
ในตอนแรกทุกคนต่างเมินเฉย แต่เมื่อยกฝาครอบออกเท่านั้น กลิ่นหอมอบอวลก็ลอยมาแตะจมูกของพวกเขาในทันที!
“กลิ่นอะไร?! หอมจัง!” นักเรียนทั้งหลายไม่ได้วางตัวมากนัก หลังจากได้กลิ่นหอมตลบอบอวลนี้แล้ว พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายและเอ่ยถาม
“ไม่รู้สิ แต่ก็ดูน่าอร่อยใช่ไหม?”
ทว่าหัวหน้าในจักรวรรดิชิงเหย้ากลับมีท่าทีที่แตกต่างออกไป พวกเขารู้มานานแล้วว่าอาหารในโรงอาหารล้วนเป็นอาหารที่องค์หญิงสามทำขึ้น หัวหน้าจากสถาบันบนดาวเคราะห์แห่งอื่นคิดว่าพวกเขาไม่อาจเป็นเหมือนนักเรียนจากสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิได้ แต่อย่างน้อยการได้มากินอาหารที่นี่ก็ถือว่าไม่เลว
เจ้าหน้าที่ที่ติดตามมาด้วยค่อนวางตัวสูงส่ง ถึงแม้ว่าหัวใจของพวกเขาจะอ่อนยวบลงมากว่าสามพันฟุต ทว่าใบหน้าของพวกเขาก็ยังเรียบเฉย มันคงจะสมบูรณ์แบบกว่านี้หากดวงตาของพวกเขาไม่ได้จับจ้องไปที่จานหมูสามชั้นผัดซอสแดง
คณบดีพูลแมนกล่าวแนะนำด้วยรอยยิ้ม “ส่วนผสมของหมูสามชั้นผัดซอสแดงทำมาจากวัตถุดิบพิเศษจากชิงเหย้าของเรา นั่นคืออสุรกายหุ้มเกราะที่อาศัยอยู่ภายใต้ชั้นลาวา เนื้อของพวกมันสดอร่อย ติดมันและมีขนาดแผ่นบาง เหมาะที่สุดที่จะเอามาตุ๋นซอสแดง”
นักเรียนทั้งหลายที่อยู่นี่นั่นน้ำลายสอ อยากให้คณบดีพูลแมนปิดปากและเริ่มบริการอาหารเสียที!
“จานที่สองเป็นปลาหมึกผัดไฟแดง”
ทันทีที่ชื่ออาหารถูกประกาศดังก้อง นักเรียนทั้งหลายจากจักรวรรดิชิงเหย้าก็ส่งเสียงดีใจเบา ๆ! พวกเขาเคยลิ้มลองรสชาติปลาหมึกกระป๋องมาบ้างแล้ว รสชาติของมันอร่อยมากจนลืมไม่ลงเลยทีเดียว
ผัดปลาหมึกไฟแดงที่องค์หญิงสามทำจะต้องอร่อยแน่ ๆ!
นักเรียนจากจักรวรรดิอื่นรู้สึกลังเลเล็กน้อย กลิ่นของอาหารจานนี้ดึงดูดเสียยิ่งกว่าหมูสามชั้นผัดซอสแดง แต่ว่ามันกลับทำมาจากเอเลี่ยน!
เจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ติดตามมาด้วยขมวดคิ้ว ให้พวกเขากินเอเลี่ยนได้อย่างไร? มันจะไม่ดูถูกพวกเขาเกินไปหน่อยเหรอ?!
คณบดีพูลแมนมองดูการแสดงออกของพวกเขาและคาดเดาว่าพวกเขาคงมีท่าทีเช่นนี้
“ผมรู้ว่าพวกคุณทั้งหลายคงจะตื่นตระหนกอย่างมากกับเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ คิดว่าพวกมันเป็นแค่เนื้อเอเลี่ยนและไม่ควรเอามาวางอยู่บนโต๊ะแห่งนี้ แต่ว่าผมอยากจะพูดจากใจจริงว่าเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ในจักรวรรดิชิงเหย้ากำลังจะสูญพันธุ์ลง เพราะมันได้รับความนิยมอย่างมากที่นี่”
ผู้คนจากจักรวรรดิอื่นรู้สึกตกตะลึง คณบดีพูลแมนเคยเป็นชายหนุ่มที่ซื่อตรง แต่ทำไมตอนนี้เขาถึงเอาแต่คุยโว้? สูญเสียตัวตนไปจนหมด!
มีเพียงคณบดีจากสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิเอเดนเท่านั้นที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้องค์ชายรัชทายาทเคยเข้ามาคุยกับเขาว่าต้องการเพิ่มสูตรอาหารเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ให้กับนักเรียนในสถาบัน ทว่าเขากลับปฏิเสธ
เอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์อย่างนั้นเหรอ? นี่คือสิ่งที่คนต่ำต้อยเท่านั้นจะกิน! นักเรียนในสถาบันของเขาล้วนจะกลายเป็นชนชั้นสูงในอนาคต แล้วจะให้พวกเขากินอาหารเช่นนี้ได้อย่างไร?!
ต่อมาเขาได้ยินมาว่าปลาหมึกกระป๋องของจักรวรรดิชิงเหย้ามีรสชาติอร่อย จักรวรรดิเอเดนก็ได้รับการแนะนำเช่นกัน แต่กลับไม่มีใครซื้อและกินมัน
ในที่สุดมันก็จบลง
“จานที่สามเป็นบาร์บีคิว”
“จานที่สี่เป็นเนื้อสันในต้ม”
“จานที่ห้าเป็นผัดมะเขือ”
“จานที่หกเป็นซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน”
“จานที่เจ็ดเป็นปลาผัดซอสแดง”
“จานที่แปด…” คณบดีพูลแมนแสดงรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
“เป็นเค้ก!”
เค้ก! เป็นคำที่ไม่คุ้นเคยแต่กลับคุ้นหู
มันเป็นความฝันดั้งเดิมของกลุ่มคนที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าแต่กลับถูกรายล้อมไปด้วยเอเลี่ยน ความปรารถนาต่อของหวานฝังลึกแน่นลงไปในกระดูกและกรรมพันธุ์
แค่เมนูอาหารก่อนหน้านี้ก็ทำให้พวกเขาตื่นตาจนน้ำลายไหลแล้ว ตอนนี้มีเพียงคำเดียวที่สามารถบรรยายความรู้สึกออกมาได้นั่นคือตั้งตารอ
รถบริการอาหารอัตโนมัติเครื่องตัวมาอย่างเชื่องช้า เค้กที่ยังไม่ถูกตัดแบ่งส่วนถูกวางเอาไว้บนโต๊ะ มันมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ละคนสามารถกินได้เพียงสองสามคำเท่านั้น
แม้แต่จำนวนเล็กน้อยเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนต้องหลั่งน้ำตา
“ใจกว้างเกินไปแล้ว!” เจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ติดตามมาเชื่อในความแท้จริงของจักรวรรดิชิงเหย้า ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ!
ทุกคนต่างจ้องมอง แต่กลับไม่มีใครขยับตะเกียบ
“ฮ่า ๆ มีน้ำซุปอีกอัน เดี๋ยวจะตามมาทีหลังครับ” คณบดีพูลแมนยกแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นมา
ดูเหมือนว่าแก้วน้ำจะเต็มไปด้วยน้ำที่ถูกต้นจนเดือด และไม่มีใครสใจมันทั้งนั้น
“เอาล่ะ ทุกท่านครับ ดื่มเครื่องดื่มนี้แล้วเริ่มทานอาหารกันเถอะ!”
ฮะ? เครื่องดื่ม?! เจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ตามติดสอยห้อยมากับหัวหน้าไม่อาจละสายตาจากเค้กได้ พวกเขาจ้องมองแก้วน้ำ มันก็แค่ดื่มน้ำเปล่าต้มสุกไม่ใช่เหรอ?!
จะเอาฮาไปถึงไหน!
บางคนชูแก้วขึ้น และบางคนถึงกับล้มตายภายในอึกเดียว
“บัดซบ! มันคือน้ำตาล! น้ำหวาน! เป็นน้ำหวานที่หวานมาก!” เจ้าหน้าที่มองแก้วน้ำด้วยความประหลาดใจและอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ!