ตอนที่ 257 เป็ดย่างในการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 4
ตอนที่ 257 เป็ดย่างในการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 4
สองพี่น้องสูดดมกลิ่นอย่างคลั่งไคล้
“อา! หอมจัง!”
กลิ่นนี้ช่างทำให้หัวใจรู้สึกอบอุ่นและสดชื่นเหลือเกิน! สองพี่น้องรีบย่างก้าวออกไปอย่างว่องไว!
ขณะนี้ทั้งโต๊ะอาหารถูกเติมเต็มไปด้วยเนื้อเป็ดชิ้นต่อชิ้นวางต่อกัน นอกจากนี้จะมีแผ่นแป้งบาง ซอสหวานเสฉวน และหอมหัวใหญ่
ส่วนผสมมีความเรียบง่าย แต่วิธีทำกลับไม่ง่ายนัก…
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่เป็ดย่างบนจานตรงหน้าของพวกเขา
ผิวด้านนอกของเนื้อเป็ดย่างมีสีแดงสด ดูน่ารับประทานเป็นอย่างมาก หนังอัดกันแน่น และรสชาติค่อนข้างหวาน
เนื้อด้านในดูดซึมซอสที่หมักไว้เป็นอย่างดีจนรสชาติก็ซึมซับไปด้วยเช่นกัน
ในส่วนด้านในสุดของเป็ดกุนดักจะประกอบไปด้วยเห็ดและผักนานาชนิด
ชาร์ลหยิบเนื้อเป็ดย่างแผ่นบางสองชิ้นใหญ่ที่สวี่หลิงอวิ๋นมอบให้เขา รวมถึงแป้งแผ่นบาง ซอสหวานเสฉวน และหอมใหญ่หั่นฝอย และเดินถือจานออกไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้น
วินเซอร์และไคกีมาถึงในเวลาต่อมา
เมื่อจักรพรรดิเห็นว่าหลานสาวและหลานชายมาถึง จึงโบกมือเรียกอย่างว่องไว “มาเร็ว เหลือแค่หลานสองคนแล้ว!”
ไคกีเอ่ยปากถามหลังจากนั่งลง “น้องชายไม่กลับมาเหรอ?” ไม่รอสวี่รุ่ยอวิ๋นหรือไง?
จักรพรรดินีตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ไม่ต้องห่วงเขาหรอก ถ้าเขากลับมา เดี๋ยวพ่อครัวคงจะไปเตรียมอาหารให้เขาเอง”
ไคกีหยุดถามซักไซ้ต่ออย่างเชื่อฟังคำสั่ง
สวี่เจี้ยนอวิ๋นแทบจะทนรอไม่ไหว เขารีบหันไปถามน้องสาวทันทีที่เห็นจานอาหารเต็มไปด้วยเนื้อหลากสีสันสวยงาม “น้องสาว นี่คือเนื้ออะไร?”
สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มขณะที่แอบกินเนื้อเป็ด รสชาติของมันค่อนข้างคล้ายกับเนื้อเป็ด แต่กลับไม่ส่งกลิ่นคาวเท่า เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเนื้อเป็ดชั้นยอดที่เหมาะแก่การนำมาย่างเป็ด!
“มันคือ ฮิ ๆ เป็ดกุนดักที่โอคาซีส่งมาให้น้องเอง!”
สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มหวานทันทีที่เธอกล่าวถึงแฟนหนุ่มของตัวเอง “ทุกคนลองชิมดู มันเป็นอาหารท้องถิ่นชนิดพิเศษที่อร่อยมากเลยนะ!”
เป็ดกุนดัก? ไคกีหยุดชะงักชั่วคราว มันคือเอเลี่ยนระดับ 6 ดาวที่ต่ำต้อยไม่ใช่เหรอ?!
ช่วงนี้… จักรวรรดิชิงเหย้าชอบกินเอเลี่ยนกันอย่างนั้นเหรอ?!
จักรพรรดิไม่คอยนานหลังจากได้ยินสวี่หลิงอวิ๋นกล่าวว่าให้ลองชิม เขาคีบเนื้อเป็ดใส่เข้าไปในปากโดยไม่พูดไม่จา ดวงตาของเขาเป็นประกายหลังจากได้ลิ้มลองรสชาติของมัน และไม่เต็มใจที่จะกลืนลงไปทีเดียว
สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัว “เสด็จพ่อ ต้องกินแบบนี้สิเพคะ!”
หลังจากกล่าวออกไปเช่นนั้น เธอก็จุ่มเนื้อเป็ดชิ้นหนึ่งลงไปในซอสหวานเสฉวน ก่อนจะนำไปห่อไว้ในแป้งแผ่นบางพร้อมกับหอมใหญ่หั่นฝอย และเอาใส่เข้าไปในปาก
“ว้าว! อร่อยจัง!” สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า!
จักรพรรดิและจักรพรรดินีทำตามวิธีของเธอ ส่วนสวี่เจี้ยนอวิ๋น พี่ชายใหญ่หยิบจับทุกอย่างใส่พร้อมกันและยัดเข้าไปจนเต็มปากเต็มคำ!
ไคกีขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่น้องสาวที่นั่งอยู่ด้านข้างเริ่มหยิบเนื้อเป็ดมาวางไว้ในจานของตนเอง ห่อเนื้อด้วยแผ่นแป้งบางและใส่เข้าไปในปาก
ไคกีถึงกับตกตะลึง นี่ยังเป็นน้องสาวที่ถูกโอ๋มาตลอดของเขาอยู่หรือเปล่า? กล้าหยิบมันใส่เข้าไปในปากโดยไม่ติเตียนอะไรสักคำได้อย่างไร?!
ในเมื่อน้องสาวของเขากินได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรจะต้องกลัว!
เขาเอาเนื้อเป็ดใส่เข้าไปในปาก ราวกับคนที่มีความตั้งใจและเด็ดเดี่ยว เอ้?! ไหนลองเคี้ยวอีกสักครั้งสิ…อืม กินอีกสักคำดีกว่า ราวกับกินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอเสียที…
ไหนลองอีกสักคำ! รสชาติก็พอกินได้แฮะ!
ทว่าเมื่อมองดูจาน?!!! อ๊ากกก! เนื้อเป็ดแผ่นบางบนจานหายไปไหนหมด?
องค์หญิงวินเซอร์ไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้ ทว่ามารยาทของเธอยังคงไว้อย่างสมบูรณ์แบบ หากไม่ใช่เพราะปากของเธอที่ยังคงขยับเขยื้อนไม่หยุดหย่อนและจำนวนเนื้อเป็ดแผ่นบางในจานตรงหน้าของเธอที่มีจำนวนลดน้อยลง ใครจะเชื่อว่าองค์หญิงผู้มีมารยาทอันสมบูรณ์แบบจะไร้ซึ่งข้อเสียเปรียบในการกินอาหารอย่างว่องไว!
เนื้อเป็ดบนจานขององค์ชายใหญ่สวี่เจี้ยนอวิ๋นหายไปจนหมดเกลี้ยง!
เขารีบกินเนื้อเป็ดที่ห่อด้วยแป้งบางอย่างใจร้อน และมันช่างยอดเยี่ยมเหลือเกินที่ได้ใช้ตะเกียบคีบเนื้อเป็ดเข้าไปในปากโดยตรง!
ถึงจะมีเนื้อเป็ดอยู่ แต่รสสัมผัสของมันก็ยังไม่ใช่เนื้อเป็ดอยู่ดี เนื้อเป็ดถูกหั่นออกเป็นแผ่นบางจนซอสหวานสามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อได้เป็นอย่างดี และซอสก็มีรสกลมกล่อม!
สวี่หลิงอวิ๋นใส่เห็ดและผักนานาชนิดเข้าไปด้วยกัน ก่อนจะจุ่มลงไปในซอสหวานเสฉวนและเอาไปห่อใส่แป้งแผ่นบาง “อืม! กินแบบนี้ก็อร่อย!”
กลิ่นหอมเข้มข้นของซอสรสหวานและส่วนผสมที่ลงตัวของเนื้อเป็ดและผักนานาชนิดทำให้สวี่หลิงอวิ๋นไม่สามารถหยุดกินได้!
การกินเป็ดย่างทำให้เธอนึกถึงลูกพี่ลูกน้องที่เป็นสุดยอดนักกินของเธอ!
รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง หลงรักการกินมาตลอดชีวิตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ลูกพี่ลูกน้องคนนั้นเรียนไม่เก่งจึงต้องออกไปหางานทำตั้งแต่ยังเรียนอยู่มัธยมต้น สมัยนั้นขนมปังกรอบยังเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจสำหรับเด็กในชนบท ด้วยเหตุนี้เธอจึงเข้าไปทำงานในโรงงานขนมปังกรอบ หลังจากทำงานในโรงงานขนมปังกรอบมาได้สองสามปีจนน้ำหนักขึ้นสิบกิโลกรัม เธอจึงตัดสินใจลาออก
และบอกกับสวี่หลิงอวิ๋นหลังจากลาออกมาว่าโรงงานขนมปังกรอบไม่เห็นจะดีเลย ไม่สนใจเรื่องสุขอนามัยด้วยซ้ำ!
โรงงานขนมปังกรอบนั้นใช้ส่วนผสมไม่ดีเลย!
ส่วนโรงงานขนมปังกรอบนี้ดีมาก! ถูกสุขอนามัย ใช้วัตถุดิบดีเยี่ยม แต่ว่าแพงเกินไป!
เธอกินขนมปังกรอบอย่างจุใจและบังเอิญได้กินเป็ดย่าง จากนั้นเธอจึงไปทำงานที่ร้านขายเป็ดย่าง
เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยถามลูกพี่ลูกน้องว่า “เธอกินเป็ดจนพอใจหรือยัง?”
“ยัง! เถ้าแก่จู้จี้มาก นอกจากช่วงปีใหม่กับเทศกาลแล้วเขาไม่ยอมให้กินเป็ดเลย!”
หลังจากทำงานมาครบหนึ่งปีและใช้เงินเดือนซื้อเป็ดในราคาถูกมานับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดเธอก็รู้สึกพอใจและจากไปอีกครั้ง
สวี่หลิงอวิ๋นยังคงรู้สึกทึ่งกับเจ้านักกินคนนี้มาโดยตลอด
และเธอรู้สึกเศร้าเล็กน้อยเมื่อนึกถึงลูกพี่ลูกน้องของตนเอง
ในช่วงวันสุดท้ายของโลก เธอยังคงอยู่ที่บ้านเกิด ขณะที่ลูกพี่ลูกน้องทำงานเสริมที่โรงงานผลิตอาหารในเมืองใหญ่ และท้ายที่สุดพวกเธอก็ไม่ได้พบกันอีก
เนื้อเป็ดกองใหญ่ไม่เพียงพอสำหรับทุกคน สวี่หลิงอวิ๋นจึงขอให้แขนกลหั่นเนื้อเป็ดเพิ่ม และทุกคนก็พึงพอใจมาก
แม้แต่วินเซอร์ที่กินน้อยที่สุดก็ยังกินเนื้อเป็ดเกือบหมดไปหนึ่งจาน และองค์ชายไคกีเป็นคนกินส่วนที่เหลือต่อ
สวี่รุ่ยอวิ๋นกลับมาที่วังด้วยความพึงพอใจ เขานั่งรออยู่ในห้องอาหารเป็นเวลานาน แต่กลับไม่มีใครเข้ามา
หลังจากเอ่ยถามสาวใช้ จึงได้คำตอบว่า “ท่านจักรพรรดิ จักรพรรดินีและพระองค์อื่นเสด็จไปทานอาหารที่ห้องครัวเพคะ”
“ห้องครัว?” สวี่รุ่ยอวิ๋นไม่พอใจเล็กน้อย “ทำไมถึงไปที่ห้องครัวกัน?”
“เอ่อ วันนี้องค์หญิงสามเป็นคนลงมือทำอาหารเอง เพราะงั้น…”
สวี่รุ่ยอวิ๋นถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา “น้องอีกแล้วสินะ! ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าทำไมเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ถึงเอาแต่สนับสนุนน้องสาวให้ก่อความวุ่นวาย!”
แล้วยังเริ่มทานอาหารเย็นโดยไม่เรียกเขาอย่างนั้นเหรอ?!
สวี่รุ่ยอวิ๋นรู้สึกโกรธจัดและผิดหวัง
ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในห้องครัว กลิ่นหอมที่น่าดึงดูดก็ลอยมาแตะจมูกของเขา มันเป็นกลิ่นที่เขาไม่เคยได้กลิ่นมาก่อนในชีวิต!
รสชาติจะเป็นยังไง? เป็นไปได้ไหมว่าพ่อครัวใหญ่จะได้สูตรลับในการทำอาหารมาจากที่ไหนสักแห่ง? ไม่น่าเชื่อว่าพ่อครัวในวังแห่งนี้จะมีทักษะฝีมือในการปรุงอาหารขนาดนี้
“วันนี้พ่อครัวใหญ่เป็นคนทำอาหารงั้นเหรอ?” สวี่รุ่ยอวิ๋นลืมไปเสียสนิทว่าสาวใช้บอกเขาว่าสวี่หลิงอวิ๋นเป็นคนปรุงอาหารในวันนี้
หรือบางทีเขาอาจจะตั้งใจลืมมันเอง
“ไม่ใช่เพคะ วันนี้องค์หญิงสามเป็นคนทำ” สาวใช้ทั้งหลายก้มศีรษะลงและแอบกลืนน้ำลาย หวาดกลัวว่าองค์ชายจะสังเกตเห็น