ตอนที่ 259 เป็ดย่างในการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 6
ตอนที่ 259 เป็ดย่างในการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 6
เอเลี่ยนจะทำเงินได้เยอะมากเชียวเหรอ?
สวี่หลิงอวิ๋นโบกมือ “เอาไว้กินอาหารเสร็จ ฉันจะไปขึ้นไปคุยรายละเอียดกับพี่บนห้อง”
วินเซอร์พยักหน้า…
ไคกีจ้องมองลูกพี่ลูกน้องที่เลี่ยงผ่านเขาและหันไปคุยกับน้องสาวของเขาโดยตรง
หึหึ เป็นความคิดที่ดีนี่!
องค์หญิงในตระกูลราชวงศ์จะต้องนำทรัพย์สินเดิมของตนเองที่มีอยู่ติดตัวไปด้วย ถึงแม้องค์หญิงทั้งหลายจะอ้างเอกสิทธิ์ใช้ชื่อของตนเองริเริ่มทำธุรกิจ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นธุรกิจของราชวงศ์
กล่าวกันตามตรง มันคือการแขวนชื่อในนามผู้ก่อตั้งเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว…มันเป็นความลับที่ย่อมรู้กันดี
หลังจากมาถึงที่นี่ เขารู้ความจริงที่ว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาเป็นผู้ก่อตั้งอุตสาหกรรมทั้งหลายด้วยตัวเธอเอง อุตสาหกรรมเหล่านี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางราชวงศ์ และทั้งหมดล้วนเป็นธุรกิจส่วนตัวของเธออย่างแท้จริง…
ต่อให้สวี่หลิงอวิ๋นก้าวออกจากราชวงศ์ ไม่ว่าเธอจะแต่งงานเข้าสู่ตระกูลไหน ทุกคนก็จับตามองเธออยู่ดี!
หากเดาไม่ผิด ลูกพี่ลูกน้องหญิงคนนี้คงจะร่ำรวยที่สุดในหมู่คนรุ่นราวคราวเดียวกันใช่ไหม?!
หากอยากจะเป็นองค์หญิงที่ผู้คนจับตามอง เธอจะต้องเริ่มทำธุรกิจของตนเองเสียก่อน ทว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หากลูกพี่ลูกน้องหญิงเต็มใจจะร่วมมือทำธุรกิจกับวินเซอร์จริง ๆ เขาพนันได้เลยว่าพ่อแม่จะต้องสนับสนุนเรื่องนี้อย่างแน่นอน
และนโยบายหลายอย่างที่คลุมเครือจะผ่านพ้นไป
แต่ถ้าจะคุยกับเขา ก็อย่าได้คิดเชียว! เนื่องจากการสอบถามข้อมูลอย่างเคร่งครัดย่อมเป็นไปตามนโยบายและกฎหมายของประเทศชาติ เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถร่วมมือทำธุรกิจนี้ได้!
น่าเสียดายที่ครั้งนี้เขาดันคิดมากเกินไป!
สวี่หลิงอวิ๋นเพียงหวังว่าเธอจะสามารถดึงลูกพี่ลูกน้องหญิงมาร่วมมือกันได้
ลูกพี่ลูกน้องวินเซอร์ดูบอบบางยิ่งนัก ทว่าสวี่หลิงอวิ๋นยังคงมองเห็นความแน่วแน่ในจิตใจของหญิงสาว หากเธอต้องการลงมือทำอะไรสักอย่าง สวี่หลิงอวิ๋นเชื่อว่าเธอจะต้องประสบความสำเร็จ
เธอยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องหญิงคนนี้!
วินเซอร์พยักหน้า ขณะรู้สึกตื่นเต้นภายในใจ
มีทรัพย์สินติดตัวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น แล้วใครจะมัวแต่คิดมากล่ะ?!
จักรพรรดินีพยักหน้าเล็กน้อย ถึงแม้ว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะดูไม่สนใจไยดี แต่เธอกลับฉลาดปราดเปรื่องนัก!
จักรพรรดิมองดูสาวน้อยทั้งสองพูดคุยกันอย่างมีความสุข ลูกสาวของเขาช่างเยี่ยมยอดเหลือเกิน! รู้จักแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับลูกพี่ลูกน้องด้วย เป็นเด็กดีเสียจริง!
สวี่เจี้ยนอวิ๋นสัมผัสท้องของเขา อืม! อิ่มแล้ว!
สวี่รุ่ยอวิ๋นแอบสาบานในใจว่างานเลี้ยงเต้นรำในวันมะรืนนี้จะต้องเป็น…
กลางคืน… สวี่หลิงอวิ๋นเข้าไปคุยรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจเอเลี่ยนกับลูกพี่ลูกน้องวินเซอร์ ขณะที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอตัดสินใจจะไปคุยกับพ่อแม่ก่อนจะร่วมลงทุน
สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองเธออย่างเศร้าใจและกล่าวว่า “องค์ชายแลนเซล็อตก็จะร่วมมือกับฉันเหมือนกัน! ถ้าพี่เห็นด้วย บางทีเราทั้งสามคนอาจจะเป็นหุ้นส่วนกันได้!”
“องค์ชายแลนเซล็อต?!”
แน่นอนว่าดวงตาของเธอเป็นประกายทันทีที่ได้ยินชื่อขององค์ชายรัชทายาทแห่งจักรวรรดิเอเดน!
“ก็ได้ พี่จะร่วมมือด้วย!” วินเซอร์พยักหน้า ท่าทางของเธอแน่วแน่และเด็ดขาดจนทำให้สวี่หลิงอวิ๋นตกตะลึง
ลูกพี่ลูกน้องจะต้องมีอนาคตไกลแน่นอน!
การไล่ตามจีบคนด้วยวิธีนี้มันช่างน่าทึ่งชะมัด!
จักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิเหมยรุ่ยมองดูข้อมูลที่ได้รับการรายงานจากเจ้าหน้าที่ผู้ติดตามไปยังจักรวรรดิชิงเหย้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นหัวข้อความหวังในการบรรลุข้อตกลงระยะยาวกับจักรวรรดิชิงเหย้า
หนึ่งในนั้นเกี่ยวกับเจตนารมณ์ความต้องการซื้อเครื่องปรุงรส การไล่ล่าเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ในอาณาเขต และการแปรรูปเป็นอาหารกระป๋องเพื่อค้าขาย
เอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์สามารถช่วยเลื่อนขั้นพลังดวงดาวได้!
นี่คือเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน จะต้องเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น!
เมื่อมองดูอีกครั้ง มีน้ำตาลด้วยเหรอ?! จักรวรรดิชิงเหย้าถึงกับมีน้ำตาลเชียวเหรอ?! นี่มันเหลือเชื่อมาก!
ในข้อความที่ลูกชายส่งกลับมากล่าวไว้ว่าจักรวรรดิชิงเหย้ามีพืชสายพันธุ์พิเศษที่เรียกว่ามันเทศหวาน มันมีทั้งรสหวานและหนึบหนับ อร่อยเป็นอย่างมาก!
“เกิดบ้าอะไรขึ้นกับจักรวรรดิชิงเหย้า? ภายในหนึ่งปีเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ได้ยังไง?” หลังจากมองดูเนื้อหาทั้งหมด บุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในจักรวรรดิเหมยรุ่ยก็กล่าวขึ้นด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
“หลิงอวิ๋นครองสติได้แล้ว อย่างที่นักพยากรณ์คาดการณ์ไว้ว่าเธอคือวีนัส!”
บทสนทนาเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในจักรวรรดิเหมยรุ่ยเพียงที่เดียว แต่ยังรวมถึงจักรวรรดิเอเดน จักรวรรดิอีโน่… และจักรวรรดิอีกหลายแห่ง
ดูเหมือนว่าจักรวรรดิทั้งหลายจะตระหนักถึงหนึ่งสิ่ง นั่นคือจักรวรรดิชิงเหย้ากำลังเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง และองค์หญิงสามก็เริ่มเป็นดั่งคำทำนายของนักพยากรณ์
โอคาซีมองดูการ์ดในมือ มันคือการ์ดเชิญจากจักรวรรดิชิงเหย้า
เขาเคยเห็นการ์ดเชิญแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน และเคยเข้าร่วมงานมาแล้วครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ไม่เคยไปที่นั่นอีกเลย
ในตอนนั้นสวี่หลิงอวิ๋นยังคงเป็นเด็กน้อยอยู่ ส่วนตัวเขาเองเพิ่งโตขึ้น
มันเป็นการ์ดเชิญที่พ่อส่งมาให้เขา และยังบอกอีกว่าเขาควรได้รับประสบการณ์ที่ดีกับหญิงสาวทั้งหลายในห้วงดวงดาว นอกจากนี้ยังสั่งให้เขามองหาแฟนสาวตั้งแต่เนิ่น ๆ
ทว่าเขากลับรู้สึกอึดอัดเมื่อย่างก้าวเข้าไปในงานเลี้ยงเต้นรำ
สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องมาที่เขา ราวกับว่าเขาเป็นกระต่ายอ้วนที่ตกลงไปในถ้ำของหมาป่า หญิงสาวผู้งดงามทั้งหลายเป็นเหมือนผีเสื้อที่บินว่อนวนเวียนอยู่ข้างหน้าเขาเป็นครั้งคราว และทำให้ผู้ที่ชื่นชอบความเงียบสงบอย่างเขาประหม่าสุดขีด
จอมพลก็อดวินมองดูโอคาซีด้วยความดีอกดีใจ “ลูกชาย แกจะเข้าร่วมไหม?”
โอคาซีเหลือบมองผู้เป็นพ่อเล็กน้อย “แล้วพ่อคิดว่ายังไงล่ะ?”
“ก็ต้องเข้าร่วมน่ะสิ!” ก็อดวินแอบกระซิบข่าวลือล่าสุดให้เขาฟัง “เท่าที่พ่อรู้มา ครั้งนี้องค์หญิงกับองค์ชายทั่วทั้งจักรวรรดิจะมาเข้าร่วมงานนี้ด้วย และเป้าหมายของพวกเขาคือองค์หญิงสาม!”
“เจ้าลูกชาย พ่อรู้ว่าแกกับองค์หญิงสามรักกันมาสามชาติแล้ว แต่แกก็ต้องระมัดระวังนะ!” ก็อดวินรู้สึกเป็นกังวล!
เขารู้สึกพึงพอใจเมื่อเห็นท่าทางแสดงออกที่จริงจังของลูกชาย “ลูก สู้เขา! จะต้องทำให้องค์หญิงสามแต่งงานกับเราให้ได้!”
“พ่อเฒ่าคนนี้อยากอุ้มหลานจะแย่แล้ว!” จอมพลก็อดวินจินตนาการถึงเด็กน้อยผู้บอบบางที่เรียกเขาว่า ‘คุณปู่ ๆ’ โอ้โห! ดวงใจดวงนี้พองโตสุด ๆ ไปเลย!
“ยังไงซะแกก็ต้องทำให้ดีที่สุด!” ก็อดวินจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของลูกชายแล้วรู้สึกว่าบรรพบุรุษของเขาปะทุขึ้นมาจากฝุ่นควัน แต่เมื่อเขานึกถึงช่วงเวลาที่องค์หญิงสามวิ่งไล่ตามลูกชายของเขาแล้ว ในตอนนั้นเขารู้สึกไม่ยอมรับเธอ แต่ตอนนี้เขากลับต้องไล่ตามอีกฝ่ายแทน อีกทั้งจักรพรรดิยังเริ่มวางมาดอีกครั้ง
โธ่เอ๊ย เรื่องราวเปลี่ยนแปลงรุ่งเรืองตกต่ำไม่แน่นอน!
โชคดีที่องค์หญิงสามมีจิตใจแน่วแน่กับความรักที่มีต่อลูกชายผู้ซื่อบื้อ ไม่เช่นนั้น เมื่อไหร่จะถึงตาพวกเขาล่ะ?!
โอคาซีมองดูพ่อของเขาจนกระทั่งสายเรียกเข้าจากคอมพิวเตอร์ตัดไป เขายืนขึ้นและเดินขึ้นไปที่กระจกด้วยท่าทีนิ่งสงบ
มองดูตัวเองในกระจก “ถึงเวลาต้องไปแล้วสินะ!”
เอเลี่ยนเป็ดกุนดักบนดาวเคราะห์แห่งนี้อยู่ในระดับ 7 ดาวและยังได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเหล่าทหารจะไม่ตกอยู่ในอันตราย
เมื่อมองดูรายงานแต่ละวันและสถานที่อยู่ของสวี่หลิงอวิ๋นที่ชาร์ลส่งมาให้ เขาก็รู้สึกถึงวิกฤต
‘องค์หญิงสามจ้องมองไปที่เด็กปีสามจากจักรวรรดิอีโน่เป็นเวลาสิบนาที! และยังชวนให้อีกฝ่ายมานั่งข้างกัน!’
‘องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตติดสอยห้อยตามองค์หญิงสาม โชคดีที่มีผมอยู่ องค์ชายเลยไม่เข้ามา’