ตอนที่ 262 งานเลี้ยงนัดดูตัว 3
ตอนที่ 262 งานเลี้ยงนัดดูตัว 3
จักรวรรดิชิงเหย้ามั่งคั่งขนาดนี้เชียวเหรอ? ทำไมถึงได้ใจกว้างขนาดนี้? นี่คือการทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีอยู่ออกมาใช้เลยหรือเปล่า?!
หนุ่มสาวที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้กินกันอย่างเต็มคราบ เช็ดน้ำลายที่ไหลออกมาจากปาก และครุ่นคิดอยู่ในใจ
จักรวรรดิชิงเหย้าพยายามอย่างหนักเพื่อเพิ่มคะแนนให้กับองค์หญิงสาม!
โอคาซีกับแลนเซล็อตยังคงไม่ขยับไปไหน ขณะที่สาวใช้นำอาหารมาให้พวกเขาที่โต๊ะ
แลนเซล็อตมองดูเนื้อเป็ดย่างที่ถูกห่ออยู่บนจาน และหยิบมันใส่เข้าปากด้วยดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย “รสชาติดีมาก!”
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นฝีมือขององค์หญิงสาม
ต้องบอกว่าฝีมือการทำอาหารของสวี่หลิงอวิ๋นถูกปากของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ!
“แน่นอน” โอคาซีรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าเนื้อเป็ดทำมาจาก ‘ของฝากท้องถิ่น’ ที่เขานำมาให้เธอ และรู้สึกภาคภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก
พลเอกหนุ่มรู้ว่าทุกอย่างที่สวี่หลิงอวิ๋นเป็นคนทำมีรสชาติอร่อยมาก! ไม่จำเป็นต้องสงสัยสักนิด!
ขณะที่ผู้คนกำลังพูดคุยเรื่องอาหารกันอยู่ เสียงดนตรีก็บรรเลงดังขึ้นมาจากด้านหน้า
ทุกคนหยุดการเคลื่อนไหว วางจานลงและกลับไปนั่งประจำตำแหน่งเดิม จากนั้นจึงยืนขึ้นเพื่อโค้งคำนับจักรวรรดิและจักรวรรดินี
“ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาร่วมงานเลี้ยงฉลองวันแห่งการเติบโตของลูกสาวเรา” จักรพรรดิกล่าวด้วยรอยยิ้ม “และด้วยโอกาสนี้ เราจะให้คนหนุ่มสาวได้ทำความรู้ซึ่งกันและกัน”
“ในปีนี้เราเชิญชวนสุดยอดอัจฉริยะจากการแข่งขันมาเข้าร่วมด้วย หวังว่าทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับอาหารของจักรวรรดิชิงเหย้า หากท่านใดต้องการลิ้มลองรสชาติเค้กอันแสนหวานในทุก ๆ วัน เราก็ยินดีจะให้ทุกท่านได้พักอาศัยอยู่ในจักรวรรดิชิงเหย้าของเรา! ฮ่า ๆๆ!”
เจ้าเล่ห์นักนะ!
ดึงดูดสุดยอดอัจฉริยะทั้งหลายด้วยมื้ออาหารอันโอชะ! รสชาติหวานละมุนยังคงลอยละล่องอยู่ในปากของเจ้าหน้าที่ผู้ติดตาม แต่ตอนนี้มันกลับเหมือนแทงไม้ที่ติดอยู่ในลำคอ!
อัจฉริยะทั้งหลายรู้สึกสั่นคลอนเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจักรวรรดิชิงเหย้าจะไม่ได้เลวร้ายนัก? นอกจากนี้อาหารยังอร่อย! อีกทั้งยังมีน้ำหวานให้ดื่ม!
ไม่รู้ว่าพ่อแม่จะยอมอพยพมาไกลขนาดนี้ได้ไหม?
น่าเสียดายที่สุดยอดอัจฉริยะส่วนใหญ่มาจากตระกูลชนชั้นสูง การอพยพจึงเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขา!
ลูคัสชื่นชอบของหวานมาก ถึงแม้ว่าเขาจะมาจากครอบครัวที่ดี แต่ของหวานกลับเป็นความปรารถนาสูงสุดของเขา!
รุ่นพี่ของลูคัสรู้สึกอารมณ์เสีย ปัดโธ่! น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่สุดยอดอัจฉริยะ แต่เป็นเพียงอัจฉริยะธรรมดาทั่วไปที่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ได้ก็เป็นเพราะอภิสิทธิ์ของรุ่นน้องเท่านั้น
เขามองดู เฮ้ เจ้ารุ่นน้อง นายจะต้องอดทนเอาไว้! อย่าปล่อยให้ลูกกระสุนเคลือบน้ำตาลของพวกเขามากัดกร่อนหัวใจ!
“รุ่นน้อง นายต้องหนักแน่นเข้าไว้! พวกนั้นแค่พยายามเกลี้ยกล่อมพวกนาย! ไม่มีจักรวรรดิไหนให้กินหวานแบบฟรี ๆ หรอก! หลอกลวงตั้งแต่แรกแล้ว!”
ทันทีที่คำพูดของเขาสิ้นสุดลง จักรวรรดิก็เริ่มปริปากพูดอีกครั้ง!
“เอาล่ะ เราจะแสดงของชำร่วยที่ทางเราจัดเตรียมไว้ให้แก่ทุกท่านได้ดูกัน ก่อนจะออกไป พวกท่านทุกคนสามารถเดินไปหยิบของชำร่วยดังกล่าวที่แม่บ้านได้” จักรพรรดิหยิบตลับขนาดเล็กขึ้นมาจากสาวใช้ที่อยู่ด้านข้าง
จากนั้นจึงเปิดดู “นี่คือน้ำตาลทรายขาว!”
“ผู้คนที่อยู่ที่นี่ก็คงจะได้ดื่มน้ำหวานไปบ้างแล้วใช่ไหม? น้ำหวานพวกนั้นทำมาจากน้ำตาลทรายขาว!” จักรพรรดิกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“จักรวรรดิชิงเหย้าของเราเป็นประเทศที่ใจกว้าง ดังนั้นผู้คนที่มาจากเดินไกลและอยากลิ้มลองของหวานสามารถมาตั้งรกถิ่นฐานที่นี่ได้!”
แทงใจทุกคำพูด!
องค์ชายและองค์หญิงจากจักรวรรดิอื่นรู้สึกถึงรูขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นในหัวใจ!
เจ้าหน้าที่ผู้ติดตามทั้งหลายจ้องมองไปที่ตลับใส่น้ำตาลด้วยสายตาเร่าร้อน พวกเขารู้สึกได้ว่าจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิชิงเหย้าไม่ได้พูดปด!
หมายความว่าน้ำตาลทรายขาวพวกนี้มีอยู่จริงอย่างนั้นหรือ?! ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงต้อนรับหัวหน้าที่สุดแสนจะใจกว้างที่ประกอบไปด้วยน้ำตาลทรายขาวและเค้ก จนกระทั่งของชำร่วยก่อนเลิกงานยังทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจ
จักรพรรดิและจักรพรรดินีมองดูฝูงชนเบื้องล่างที่กำลังตกตะลึงด้วยความพึงพอใจ
เยี่ยมมาก แบบนี้แหละที่ต้องการ! จักรวรรดิชิงเหย้าของเรายอดเยี่ยมที่สุด!
“ไม่อยากจะออกนอกเรื่องไปมากกว่านี้ เราอยากจะแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับบุคคลสำคัญของงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ นั่นคือลูกสาวของเรา สวี่หลิงอวิ๋น!”
แสงสว่างพุ่งลงมาจากทางด้านบน หญิงสาวผมบลอนด์ทองในชุดราตรีสีเงินเดินทอดน่องออกมาจากทางด้านหลัง
โอคาซีจ้องมองไปที่ร่างบาง มองดูเธอที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
แลนเซล็อตก็ตกตะลึงเช่นกัน ดูเหมือนว่าคืนนี้เธอจะดูสวยสะดุดตาเป็นพิเศษ และมากล้นไปด้วยเสน่ห์
ชายหนุ่มเกือบทุกคนหันมาให้ความสนใจกับหญิงสาวร่างเพรียวที่เดินทอดน่องไปด้านหน้าเวที
“ว้าว…” ชายหนุ่มทั้งหลายแอบชมเชยในใจ การปรากฏตัวขององค์หญิงเหนือความคาดหมายของพวกเขามาก ช่างงดงามเป็นพิเศษ!
วินเซอร์ที่อยู่ด้านล่างเวทีมองดูลูกพี่ลูกน้องของเธอเดินเข้ามาด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ
นี่ยังใช่ลูกพี่ลูกน้องที่หยาบกระด้างของเธออยู่หรือเปล่า?! หญิงสาวที่งดงามสูงส่งผู้นี้คือองค์หญิงรัชทายาทสวี่หลิงอวิ๋นจริง ๆ เหรอ?!
สวี่หลิงอวิ๋นสวมใส่รองเท้าส้นสูง และเธอรู้สึกเมื่อยขาเป็นอย่างมาก
ไม่ได้ใส่รองเท้าส้นสูงมากี่ปีแล้ว? ความรู้สึกของการใส่รองเท้าส้นสูงมันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน! มงกุฎบนศีรษะก็หนักมากเช่นกัน แต่ไม่มีทางเรื่องอื่น เพราะเสด็จแม่กล่าวไว้ว่างานเลี้ยงเต้นรำในค่ำคืนนี้จะต้องออกมาดี!
สวี่หลิงอวิ๋นยืนอยู่ด้านหน้าเวทีและจ้องมองหนุ่มสาวทั้งหลายที่อยู่ด้านล่าง สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รังเกียจ และเฉยเมยราวกับว่านี่ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของพวกเขา
โอคาซีอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปใกล้จนสวี่หลิงอวิ๋นสังเกตเห็นได้ชัดเจน
โอ้ นั่นคือแฟนหนุ่มของเธอนี่น่า! สวี่หลิงอวิ๋นอยากจะยกมือขึ้นและโบกมือเรียกเขา ทว่าเธอกลับตระหนักถึงคำพูดของผู้เป็นแม่ว่าเธอจะต้องรักษาภาพลักษณ์ให้กับทางราชวงศ์ ไม่เช่นนั้น เธอจะต้องคัดเรื่องมารยาททางราชวงศ์ร้อยจบ!
การทรมานแบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก
ท่าทางของสวี่หลิงอวิ๋นดูเชื่อฟังเป็นอย่างดี แต่สายตาของเธอตะโกนออกไปว่า ‘ที่รัก หาตัวเจอแล้ว!’
โอคาซีอ่านสายตาของเธอและเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่ตื้นตัน
รอยยิ้มที่ตื้นเขินนี้ทำให้ดวงตาของสวี่หลิงอวิ๋นเบิกกว้าง โอ้โห! รอยยิ้มของชายหนุ่มรูปงามทำให้เธอรู้สึกราวกับเกล็ดหิมะที่กำลังลอยละลายกลายเป็นน้ำ รู้สึกถึงฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีที่สิ้นสุด
จักรพรรดินีกล่าวไปข้างหน้า เอื้อมมือออกไปดึงแขนของสวี่หลิงอวิ๋นเบา ๆ เจ้าเด็กคนนี้บ้าผู้ชายเหลือเกิน ต้องหาโอกาสแยกจากกันเสียบ้าง ทำไมถึงได้มาว่อกแว่กเอาตอนนี้?!
“หลิงอวิ๋น แสดงความสามารถให้ทุกคนดูสิ!” จักรพรรดินียิ้มและบอกสวี่หลิงอวิ๋น
นี่เป็นส่วนสำคัญที่สุด และไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงหรือบรรเลงเครื่องดนตรี องค์หญิงจะต้องทำมันออกมาให้ได้ดีทั้งหมด
สวี่หลิงอวิ๋นเหลือบมองแม่ของเธอ และครุ่นคิดว่าหลังจากจบการแสดงแล้ว เสด็จแม่ห้ามตีลูกเด็ดขาด!
จักรพรรดินีเดินลงจากเวที ขณะที่สวี่หลิงอวิ๋นถอดรองเท้าส้นสูงทั้งสองข้างออก!
เตะรองเท้าออก!
เตะรองเท้าอีกข้างออกเช่นกัน!
จักรพรรดินีตกตะลึง ผู้ชมทั้งหลายก็ตกตะลึงเช่นกัน!
ใบหน้าของสวี่รุ่ยอวิ๋นเปลี่ยนบูดบึ้ง น้องสามกำลังทำอะไรอยู่? นี่คือการทำให้ราชวงศ์จักรวรรดิชิงเหย้าต้องเสียหน้าไม่ใช่หรือ?!
“สวัสดีทุกคน ฉันคือสวี่หลิงอวิ๋น!” สวี่หลิงอวิ๋นถือไมโครโฟนไว้ในมือ หลังจากถอดรองเท้าส้นสูงออกแล้ว เธอก็ดึงผมที่ม้วนเป็นเกลียวออกและปล่อยไปด้านหลัง
การกระทำดังกล่าวทำให้เธอดูเรียบง่าย เป็นอิสระ และสวยงามตามธรรมชาติ