สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际 – ตอนที่ 269 มหาสงคราม 1

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

ตอนที่ 269 มหาสงคราม 1

ตอนที่ 269 มหาสงคราม 1

หากสงครามระหว่างสองจักรวรรดิเกิดขึ้นจริง มันคงจะดีไม่น้อยหากไม่ถูกค้นพบ แต่ถ้าถูกค้นพบเข้ามันจะไม่แย่ลงเชียวเหรอ?

เขาจะกลายเป็นคนบาปตลอดกาล! และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาจะต้องถูกคัดออกจากราชวงศ์!

สวี่รุ่ยอวิ๋นเริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย

สวี่เจี้ยนอวิ๋นผู้กระเหี้ยนกระหือรือเดินเข้าไปหาสวี่หลิงอวิ๋น และตบไหล่ของเธอ “ไม่ต้องกลัวนะน้องสาว พี่ชายคนนี้จะยืนหยัดต่อสู้ จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จะต้องชดใช้!”

“พี่ชายใหญ่ อย่าได้ประมาทเกินไป! สงครามระหว่างจักรวรรดิเป็นของเล่นเด็กหรือไง? ค่อย ๆ ปรึกษากันให้ดีก่อนดีกว่า!”

“ค่อย ๆ ปรึกษากันก่อนงั้นเหรอ? ค่อย ๆ ปรึกษาของนายหมายความว่าการไม่ได้รับความเป็นธรรมของน้องสาวมันเปล่าประโยชน์สินะ!? ฮึ่ม! ฉันจะบอกอะไรให้นะชายรองว่านายก็เป็นพี่ชายรองของน้องสาวเหมือนกัน ทำไมถึงกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา!”

สวี่เจี้ยนอวิ๋นสาดคำพูดใส่สวี่รุ่ยอวิ๋นอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นจึงหันไปปลอบสวี่หลิงอวิ๋น “ไม่เป็นไรนะ อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของชายรอง พวกเราจะรับผิดชอบน้องเอง!”

จักรพรรดิตัดสินใจ “รีบไปติดต่อจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ให้เราที บ้าเอ๊ย เพราะทำอะไรเราไม่ได้เลยข้ามไปทำลูกสาวเราแทนสินะ!”

“ชักจะทนไม่ไหวแล้ว!”

สวี่รุ่ยอวิ๋นเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวและรับรู้ได้ทันทีว่าไม่สามารถยับยั้งคนเหล่านี้ได้ เขาจึงแกล้งเดินออกไปสักครู่เพื่อส่งรหัสลับให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะทำลายร่องรอยหลักฐานทั้งหมดของจักรพรรดิอย่างรวดเร็ว โดยการเอากล้องวงจรปิดออกมา

“ดี! เขาเดินอวดโฉมเข้ามาจากประตูทางเข้าราชวงศ์! ไปตรวจสอบมาว่าใครเป็นคนออกจดหมายเชิญให้เขา!”

การสอบสวนรายชื่อบัตรเชิญยังคงเป็นไปด้วยดี

เนื่องจากจดหมายบัตรเชิญแต่ละฉบับจะมีการบันทึกชื่อเอาไว้

และเขาถึงกับโกรธจัดเมื่อพบว่าจี๋เป้ยคนนี้ลงเทียบเข้ามา “ไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้!”

มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถออกจดหมายเชิญชวนได้ หนึ่งในนั้นคือกระทรวงการต่างประเทศ และอีกหน่วยหนึ่งคือสมาชิกภายในราชวัง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศปาดเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผากและสาบานว่าเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่เขาจะส่งจดหมายเชิญบุคคลดังกล่าว!

“ฝ่าบาท ท่านก็รู้ดีว่ากระหม่อมทำงานในกระทรวงการต่างประเทศมากี่ปี กระหม่อมเคยทำผิดพลาดเหรอพ่ะย่ะค่ะ? ถึงแม้ว่ารัฐมนตรีเฒ่าคนนี้จะดูสับสนไปบ้าง แต่การทำผิดพลาดเช่นนั้นมันย่อมเป็นไปไม่ได้สำหรับกระหม่อม!”

เขาร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่นเมื่อกล่าวเช่นนั้น

คราวนี้จักรพรรดิไม่ได้ใจอ่อนกับการร่ำไห้ของข้าบริวารทั้งหลายเหมือนในครั้งในอดีต แต่กลับยิ่งทวีคูณความโกรธมากขึ้น!

“เจ้าทำงานให้เรามากี่ปีแล้ว และกี่ปีที่ผ่านมาที่เจ้าสร้างปัญหาแบบนี้ให้กับเรา? ครั้งนี้ถ้าเจ้าตรวจสอบหาคำตอบมาไม่ได้ ก็เตรียมตัวไปขึ้นศาลทหารได้เลย!”

อะไรนะ!? ศาลทหาร?!

โจนาธาน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรู้สึกตกตะลึงและรู้ว่าครั้งนี้จักรพรรดิเอาจริง เขาปาดเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผากและน้ำตาที่ไม่ได้มีอยู่จริงบนใบหน้า ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างว่องไว “ท่านอย่าได้กังวล! กระหม่อมจะจับไอ้คนสารเลวพรรค์นั้นให้ได้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”

และเดินจากไปราวกับสายลมทันทีที่พูดจบ

ความหวาดกลัวในใจของสวี่รุ่ยอวิ๋นจมดิ่งลึกลงไปเรื่อย ๆ และเห็นได้ว่าพ่อของเขาจริงจังมากแค่ไหนในตอนนี้!

ขณะเดียวกัน จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ก็โทรการสนทนาแบบวิดีโอเข้ามา

“ท่านสหาย ท่านควรเชื่อเราสิ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะทำแบบนั้น!”

สเปนเซอร์ รอน จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์สาบานตนและกล่าวอย่างจริงจังว่า “ท่านควรจะรู้เอาไว้ว่ามีคนที่มักจะโชคดีเสมอและคิดว่าตนเองได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้า และเมื่อนั้นเราคงยากที่จะปรองดองกัน”

แน่นอนว่าสวี่เทียนอวี๋รู้ดีว่าสเปนเซอร์คนนี้ไม่ใช่คนทำอะไรโง่เง่า แต่ไม่มีอะไรสามารถยืนยันได้ว่าชายคิ้วหนาตาโตผู้นี้จะไม่ได้เป็นคนเติมเชื้อเพลิง

สเปนเซอร์รู้เรื่องหรือเปล่า? แน่นอนว่าเขารู้มาบ้างเล็กน้อย แต่เขากลับไม่สามารถช่วยอะไรได้ และทำได้เพียงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่

ไม่เช่นนั้นบุตรนอกกฎหมายของขุนนางผู้น้อยของอีกฝ่ายจะขึ้นยานอวกาศมาถึงจักรวรรดิชิงเหย้าได้อย่างไร?!

สวี่เทียนอวี๋จ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “เราไม่สนว่าท่านจะคิดยังไง ไม่ว่าจะไปเจอกันที่สนามรบ หรือส่งตระกูลขุนนางบ้านั่นมาที่ดาวเคราะห์เหมืองแร่ของเรา!”

สเปนเซอร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านอย่าได้กังวลไป เรารับมือได้แน่นอน!”

เมื่อกล่าวจบ สายก็ถูกตัดไป

สวี่เทียนอวี๋จ้องมองจักรพรรดิแห่งปีกพิสุทธิ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตัดสายทิ้งด้วยใบหน้าอันมืดหม่น และนั่งลงตรงข้ามกับจักรพรรดินี ก่อนที่จักรพรรดินีจะปริปากพูดหลังจากเวลาผ่านไปนาน

“เสด็จพี่กำลังจะทำอะไรเพคะ?”

คำพูดของสเปนเซอร์เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ซึ่งเผยให้เห็นว่าชายผู้นี้จงใจส่งเสริมให้เกิดสงคราม

เป็นเวลากว่าพันปีที่เอเลี่ยนได้บุกรุกเข้ามา เครือข่ายพันธมิตรระหว่างห้วงดวงดาวได้สาบานตนว่าจะไม่ก่อสงครามกับพันธมิตรเหล่านี้อีก

เมื่อไหร่ก็ตามที่สงครามเริ่มขึ้น เอเลี่ยนทั้งหลายจะฉวยโอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าว จนทำให้มวลมนุษยชาติต้องพบกับภัยพิบัติ

ด้วยอาวุธขั้นสูงในปัจจุบัน ใครจะสามารถรับรองได้ว่าซุปเปอร์บอมบ์จะไม่เปลี่ยนดาวเคราะห์ที่อยู่อาศัยให้กลายเป็นผงธุลี?!

“เราจะไม่ก่อสงคราม แต่ก็ไม่หวาดหวั่นกับสงครามเหมือนกัน!”

สวี่เทียนอวี๋จับมือภรรยา “ครั้งนี้ชิงเหย้าของเราอาจต้องพบเจอกับการนองเลือด”

“ไม่ต้องห่วงเพคะ น้องจะติดต่อไปยังจักรวรรดิเหมยรุ่ย จะไม่ปล่อยให้จักรวรรดิชิงเหย้าตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตเด็ดขาด”

บรรดาผู้ที่มีความฝักใฝ่ทางการเมืองรับรู้ว่าบรรยากาศของสหภาพพันธมิตรดูเปลี่ยนไปตึงเครียดเพียงชั่วข้ามคืน

กระทรวงการต่างประเทศติดต่อกันและกัน และเริ่มตีแผ่เรื่องออกไป

สเปนเซอร์แห่งจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์แอบย่องเข้าพบจักรวรรดิอีโน่ จักรวรรดิคัสเซิล และจักรวรรดิบาดัก… เกือบหกจักรวรรดิที่แอบลงนามในสนธิสัญญากับจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์

จักรวรรดิชิงเหย้ากับจักรวรรดิเหมยรุ่ยเป็นสหภาพพันธมิตรกันโดยธรรมชาติ ราวกับเรือน้อยทั้งสองลำที่ล่องลอยไปตามสายน้ำและสายลม

สวี่หลิงอวิ๋นค้นพบว่าสงครามที่ยังไม่ได้เริ่มต้นมีต้นเหตุมาจากการกระทำของเธอ ขณะที่ภายในใจเต็มไปด้วยความคิดมากมาย

ฉันเป็นต้นตอของปัญหาหรือเปล่านะ?!

ไร้สาระเสียจริง! ทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ นี่เธอกำลังจะกลายเป็นบุคคลทางประวัติศาสตร์อย่างนั้นเหรอ?!

เช่นเดียวกับพระสนมซูต้าจี๋

เธอถึงกับจินตนาการถึงช่วงเวลาในอีกหนึ่งพันปีข้างหน้า บางทีชื่อของเธออาจจะเป็นเหมือนพระสนมซูต้าจี๋กับเปาสื้อ และเธอจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ที่สหภาพทั่วทั้งห้วงดวงดาวรู้จัก

นี่คือการทำให้สหภาพพันธมิตรกว่านับพันปีแตกออกจากกัน

หัวหน้าระดับสูงและเจ้าหน้าที่ผู้ติดตามที่ยังคงอยู่ในจักรวรรดิชิงเหย้าครุ่นคิดในใจว่าพวกเขาจะถูกจักรวรรดิชิงเหย้าตัดตอนหรือไม่

ยังมีองค์ชายและองค์หญิงทั้งหลายที่รู้สึกไม่สบายใจ

คาร์ลรู้สึกวิตกกังวลมากเช่นกัน และจ้องมองแลนเซล็อตที่ยังคงพักผ่อนอยู่ที่วิลล่าด้วยความตื่นตระหนก “ฝ่าบาท นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วครับ ท่านจะยังนั่งพักผ่อนอยู่ที่นี่อีกเหรอ? ท่านไม่ได้สังเกตบ้างเหรอครับว่าโลกข้างนอกกำลังเปลี่ยนไป?”

“เปลี่ยนไป? งั้นก็ปล่อยให้มันเปลี่ยนไป” แลนเซล็อตอมยิ้มเล็กน้อย “เกี่ยวอะไรกับเราล่ะ?!”

“จะไม่เป็นไรได้ยังไงครับ? ท่านไม่กลัวว่าจะถูกจักรวรรดิชิงเหย้าควบคุมตัวทันทีที่สงครามเริ่มขึ้นหรือไง? บางทีเขาอาจจะบังคับท่านจักรพรรดิให้ร่วมพันธมิตรกับจักรวรรดิชิงเหย้าก็ได้?”

“กลัวอะไร? จักรวรรดิชิงเหย้าไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกน่า” แลนเซล็อตส่ายหัว “ถ้าจักรวรรดิชิงเหย้าทำแบบนั้นจริง ๆ ทุกอย่างจะตกอยู่ในหายนะ”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงไม่เป็นอะไร” คาร์ลยังคงรู้สึกกังวลเล็กน้อย

“เฮ้อ…จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์มีแต่ขี้เลื่อยอยู่ในหัวหรือไง? ถึงได้อยากเริ่มทำสงครามนัก?”

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

Status: Ongoing
เมื่อมาเกิดใหม่ในที่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย เรื่องอะไรจะต้องอยู่เฉยกันล่ะ อย่างนี้มันต้องจับหั่น ยัดลงหม้อไฟร้อนๆ แล้วก็ถ่ายทอดสดออกอากาศสิถึงจะถูก!สวี่หลิงอวิ๋น หญิงสาวที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้มาหลายปีแล้ว แถมยังมีนิสัยชอบกินอีกตังหากก็ต้องมีชีวิตที่ถึงคราวจากไปก่อนวัยอันควร เพราะดันไปกินเนื้อแกะที่ติดเชื้อซอมบี้เข้าให้!จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของเจ้าหญิงองค์ที่สาม แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ในโลกยุคอวกาศ ซึ่งดูท่าทางไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ แต่ใครสนกันล่ะ! ตอนนี้เธอสนแต่เรื่อง กิน กิน และกินเท่านั้น แถมเอเลี่ยนดาวดวงนี้ยังมีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด! เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องจับพวกมันมาหั่น มาต้ม มาย่าง แล้วก็อะไรอีกดีนะ? อ้อ…สตีมเมอร์ออกอากาศด้วยเลย!ทั้งหมดนี้จะถือเป็นสงครามอวกาศที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอไปด้วยอาหารแบบต่าง ๆ ที่สวี่หลิงหยุนไปพิชิตและสรรค์สร้างมาได้ สวี่หลิงอวิ๋นหรือองค์หญิงสามนี้จะสามารถล่าเอเลี่ยนและคิดเมนูอะไรออกสตรีมเมอร์บ้าง ไปตามลุ้นเอาใจช่วยกันได้ที่ สตีมเมอร์สาวกินพิชิตอวกาศ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท