ตอนที่ 270 มหาสงคราม 2
ตอนที่ 270 มหาสงคราม 2
คาร์ลเอ่ยถามอย่างเศร้าสร้อย
“ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะผลประโยชน์ไงล่ะ” แลนเซล็อตยิ้ม “คำทำนายขององค์หญิงสามน่าทึ่งเกินไป หรือพูดอีกอย่างคือใครก็ตามที่สามารถจับองค์หญิงสามมาไว้ในกำมือได้ บางทีคนคนนั้นจะกลายเป็นเจ้าแห่งสหภาพพันธมิตร”
“แต่เดิมทีจักรวรรดิชิงเหย้าเป็นจักรวรรดิที่มีความแข็งแกร่งระดับปานกลาง ไม่ได้เป็นจักรวรรดิที่โดดเด่นอะไร แต่เป็นเพราะองค์หญิงสาม นายก็เห็นว่าโชคลาภขององค์หญิงสามทรงพลังแค่ไหน”
ทั้งสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ ทั้งแหล่งแร่พลังงาน และแร่ลึกลับที่สามารถนำมาปิดกั้นสัญญาณได้
สิ่งสำคัญที่สุดคือจักรวรรดิชิงเหย้าสามารถเปลี่ยนเอเลี่ยนทั้งหลายกลายมาเป็นสินค้าทางเศรษฐกิจได้ และมันเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจมาก
ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากฝีมือขององค์หญิงสาม แล้วจักรวรรดิอื่นจะไม่กระหายต่อสิ่งนี้เหรอ?
ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงเรื่องอื่นสักนิด เพียงแค่สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์นั้นนำมาซึ่งผลประโยชน์ของจักรวรรดิชิงเหย้ามากแค่ไหน? เพียงแค่คำสั่งซื้อก็ยาวมาถึงสิบปีให้หลังแล้ว!
มันเกี่ยวกับข้อมูลของทางเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีระดับแนวหน้า
ส่วนวัสดุลึกลับนั้นถูกครอบครองโดยจักรวรรดิชิงเหย้าแต่เพียงผู้เดียว!
การปกครองทางการเมือง การทหาร และเศรษฐกิจ ทุกอย่างพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในระยะเวลาหนึ่งปีอันสั้น แล้วจักรวรรดิอื่นจะไม่รู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไร?
“ไม่แปลกใจที่ฝ่าบาทยืนยันจะแต่งงานกับองค์หญิงสาม!” ทันใดนั้นคาร์ลก็ตระหนักรู้และรู้สึกละอายแก่ใจเล็กน้อย เขาคิดว่าฝ่าบาทจะค้นพบทางสว่างและตกหลุมรักหญิงสาว!
ทว่าฝ่าบาทกลับวางแผนมาโดยตลอด หึหึ ใครก็ตามที่ตกเป็นเป้าหมายของฝ่าบาท คนคนนั้นจะต้องหนีไม่รอดอย่างแน่นอน
อีกทั้งเขารู้สึกสงสารคู่สามีภรรยาตัวน้อยผู้น่าเวทนา
แลนเซล็อตอมยิ้มเล็กน้อย ภาพลักษณ์ของหญิงสาวผู้ดุร้ายและกล้าหาญปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
จริง ๆ แล้วเธอก็น่ารักอยู่นะ!
โดยปกติโอคาซีมักจะได้รับข่าวสารของสวี่หลิงอวิ๋น ตอนนี้เขารู้สึกโกรธจัดและกังวลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอจะเจ็บปวดหรือไม่
และไม่ว่าจะส่งข้อความไปหาเธอสักกี่ข้อความแต่ก็ไร้ซึ่งการตอบกลับ
ขณะที่เขากำลังรู้สึกกังวล จักรพรรดิก็ส่งคำสั่งลับมาให้เขารีบไปที่ชายแดนโดยด่วน
“ชายแดน? นี่คือการจุดชนวนสงคราม!” ชาร์ลรู้สึกอารมณ์ดีที่ได้พูดคุยกับองค์หญิงวินเซอร์เมื่อคืนนี้ ฝ่าบาททั้งรอบรู้และอ่อนโยนเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อคิดว่าจะต้องไปสนามรบ ชาร์ลก็รู้สึกสูญเสียเล็กน้อย
โอคาซีสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ขณะมองดูคำสั่งลับที่อยู่ด้านหน้า และจะต้องรีบไปชายแดนโดยด่วน
หลิงอวิ๋น ต้องรอเจอผมนะ!
สวี่หลิงอวิ๋นแหงนหน้าขึ้นบนท้องฟ้า มันช่างไร้สาระเสียจริง!
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและผู้คนจากแผนกเทคนิค ค้นหาเบาะแสกันชั่วข้ามคืน ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะกวาดล้างเบาะแสออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังค้นข้อมูลบางอย่างอยู่ดี
“นี่มัน…” ทันทีที่พวกเขาพบเข้ากับผู้ต้องสงสัย ชายร่างใหญ่ทั้งสองก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน “ส่งไปให้ฝ่าบาทประหารชีวิตซะ!”
“จับใครสักคนได้หรือยัง?” สวี่เทียนอวี๋จ้องมองเจ้าหน้าที่พนักงานอาวุโสทั้งสองคนที่ดูเหนื่อยล้ากับการอดนอนตลอดทั้งคืน
“ฝ่าบาท ดูเอาเองเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”
ชายผู้อาวุโสทั้งสองไม่กล้ากล่าวอะไรออกไป ทำได้เพียงจ้องมองใบหน้าของจักรพรรดิเงียบ ๆ และก้มศีรษะลงพร้อมกันหลังจากเห็นจักรพรรดิเริ่มพลิกแผ่นกระดาษ
ท่านผู้เฒ่าใจเย็นไว้!
อย่าเพิ่งโกรธ!
สวี่เทียนอวี๋อมองดูแผ่นกระดาษที่อยู่ตรงหน้าเขา และพบว่ามันช่างหนักอึ้งเหลือเกิน!
“เยี่ยม! เยี่ยมไปเลย! เจ้าลูกชายตัวดีของเรา!” สวี่เทียนอวี๋กัดฟันแน่น จ้องมองแผ่นกระดาษธรรมดาทั้งสองแผ่นที่ทำให้เขารู้สึกเกลียดชังจนเข้ากระดูก
“พวกเจ้าออกไปได้!” ผู้อาวุโสทั้งสองคนรีบออกไปในทันที
“เรียกสวี่รุ่ยอวิ๋นเข้ามา!” จักรพรรดิพยายามระงับความขุ่นเคือง เมื่อเห็นเช่นนั้น ข้ารับใช้ก็ก้มศีรษะลงและค่อย ๆ ถอยออกไป
เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเบื้องหลังของราชวงศ์อย่างแน่นอน การไม่อยู่ที่นี่อาจจะดีเสียกว่า ไม่อย่างนั้นมันคงแย่หากไปได้ยินสิ่งที่ไม่ควรจะได้ยินเข้า?
ข้ารับใช้นำข้อความดังกล่าวไปส่งให้สวี่รุ่ยอวิ๋นเป็นเวลานาน กระนั้นก็ยังไม่ได้รับคำตอบกลับจากองค์ชายรอง พวกเขาจึงต้องมาที่ประตูเพื่อเรียนเชิญด้วยตัวเอง
ทว่ากลับไม่มีใครเปิดประตู
“เอ๊ะ องค์ชายรองหายไปไหน?”
ข้ารับใช้ทั้งสองครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวและเอ่ยถามองครักษ์ที่หน้าประตู
“องค์ชายรองเหรอ? ฝ่าบาทเสด็จออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว!” องครักษ์ตอบกลับ
“อะไรนะ?!” จักรพรรดิรับฟัง “ไปตรวจสอบมาว่าเขาหายไปไหน!”
สวี่เจี้ยนอวิ๋นหลับใหลไปนาน และตื่นขึ้นมารับประทานอาหาร เขาพบเพียงลูกพี่ลูกน้องสองคนที่นั่งอยู่ในห้องอาหาร โดยไม่มีแม้แต่เงาของน้องสาว เสร็จพ่อและเสด็จแม่ลงมา
ดูเหมือนว่ากำลังยุ่งกัน…
ไคกีจ้องมองลูกพี่ลูกน้องคนโตผู้ซื่อบื้อโดยไม่พูดอะไรออกไป ลูกพี่ลูกน้องคนโตคงจะไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในคืนนั้น!
ลูกพี่ลูกน้องคนโต ท่านไม่คิดบ้างเหรอว่ามันแปลกเกินไปที่ไม่ใครเรียกหาท่าน ทั้งที่ท่านนอนเกินเวลาในช่วงเช้าตรู่?!
และตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว!
สวี่เจี้ยนอวิ๋นเอ่ยถามลูกพี่ลูกน้องไคกีด้วยรอยยิ้ม ขณะที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตารับประทานอาหาร “น้องชายน้องสาว ทำไมเหลือกันแค่สองคนล่ะ? คนอื่นหายไปไหนหมด?”
วินเซอร์เหลือบมองลูกพี่ลูกน้องผู้น่ารักเงียบ ๆ และกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “มีแค่พวกเราสองคนตั้งแต่เช้าแล้วเพคะ”
แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องหญิงที่มักจะไร้ความกังวลก็ไม่ลงมารับประทานอาหาร!
สวี่หลิงอวิ๋นอยู่ไหน?
เธอกำลังนอนคลุมโปงอยู่!
ตลอดทั้งคืนนี้เธอเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องของตนเอง แล้วถ้าเกิดสงครามขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ?
จะทำอย่างไรดี? แน่นอนว่าจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่ง!
จะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างแน่นอน!
ฉันควรทำอย่างไรดีหากถูกบังคับให้เข้าพิธีแต่งงานเพื่อระงับสงคราม?!
ไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับโอคาซีในตอนนั้น จะโกรธจนหน้าแดงก่ำ หรือเฝ้ามองดูเธอเข้าพิธีแต่งงานด้วยความซื่อตรง?
สวี่หลิงอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะตนเอง
ผลประโยชน์จากตัวเธอ เธอไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะมีผลประโยชน์มากมายขนาดนี้
สวี่รุ่ยอวิ๋นหลบหนีออกจากจักรวรรดิชิงเหย้า และเดินทางไปยังจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์
ไม่จำเป็นต้องคาดเดาก็สามารถรู้ได้ว่าขณะนี้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ได้เทียบข้างมาถึงจักรวรรดิชิงเหย้าแล้ว
หากเขาหลบหลีกไปจักรวรรดิที่วางตัวเป็นกลาง เขาจะต้องถูกผลักออกไปให้เป็นแพะรับบาปแน่นอน
ดังนั้นที่ที่อันตรายที่สุดมักจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
สวี่รุ่ยอวิ๋นรู้ดีว่าตนเองได้ย่างก้าวเข้ามาเหยียบแผ่นดินจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์แล้ว ไม่มีทางที่จะฟื้นคืนตลอดไป อีกทั้งยังหมดหนทางหนีทีไล่ แต่ในขณะเดียวกัน หากเขาอยู่ในจักรวรรดิชิงเหย้าต่อ ถึงแม้ว่าเสด็จพ่อจะรักเขามาก แต่เขาจะต้องถูกบุคคลที่รังเกียจตัวเองผลักตกให้ลงจากบัลลังก์แน่นอน และในตอนนี้เสด็จพ่อคงรู้สึกไม่พอใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ การไปเยือนจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย
เขาสัมผัสแผนผังป้องกันเมืองของจักรวรรดิชิงเหย้าที่อยู่ในกระเป๋า ตราบใดที่เขามีสิ่งนี้ เขาจะได้รับความสนใจจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์อย่างแน่นอน และบางทีเขาอาจได้เป็นจักรพรรดิคนต่อไปจากการช่วยเหลือจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์
คนเราจำเป็นต้องต่อสู้เสมอ หากไม่ยอมต่อสู้ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจะสำเร็วหรือไม่? อย่างไรเสียก็ต้องตายอยู่ดี
“เจ้าว่าอะไรนะ? สวี่รุ่ยอวิ๋นหายตัวไป?” สวี่เทียนอวี๋จ้องมองหัวหน้าองครักษ์ที่ตรงหน้าอย่างโกรธเคือง “ตอบมาว่าหายตัวไปอย่างนั้นหมายความว่ายังไง?”
“จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ องค์ชายรองน่าจะออกไปทางตลาดมืดพ่ะย่ะค่ะ”