ตอนที่ 271 มหาสงคราม 3
ตอนที่ 271 มหาสงคราม 3
“เยี่ยม เยี่ยมไปเลย!” สวี่เทียนอวี๋รู้สึกโกรธจัดจนแทบเสียสติ เขาคิดว่าลูกชายของตัวเองน่าจะทำเรื่องผิดมหันต์เช่นนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว
ถึงจะยอมรับความผิดพลาดของลูกชายได้ แต่กลับไม่คิดว่าลูกชายจะหักหลังจักรวรรดิของตนเองและหนีไปแบบนี้!
“แย่แล้ว ฝ่าบาท ระบบป้องกันผังเมืองของเราถูกแฮ็ก และถูกดาวน์โหลดออกไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
และแล้วเรื่องใหม่ก็เข้ามาแทรก
“ไปตรวจสอบดูว่ามันเป็นใคร ใช่เจ้าลูกชั่วคนนั้นไหม?!” สวี่เทียนอวี๋รู้สึกด้านชา ต่อให้ลูกชายจะลงมือทำสิ่งที่ชั่วร้ายอีกครั้ง เขาก็ไม่รู้สึกประหลาดใจเลยสักนิด
ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบก็สามารถเห็นได้ชัดว่าองค์ชายรองเป็นคนคัดลอกระบบป้องกันผังเมืองออกไปกับมือ และหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
จักรพรรดินีรับรู้เรื่องราวของวันนี้ในไม่ช้า เธอเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งคืนและเป็นลมหมดสติไปเพราะลูกชายอกตัญญูคนนี้
ตลอดทั้งวันมีเพียงแต่ความตื่นตระหนก และข่าวล้มป่วยของจักรพรรดินีก็ถูกปิดเป็นความลับ
ในเวลาเดียวกัน องค์ชายและองค์หญิงที่พำนักอยู่ในโรงแรมประจำจักรวรรดิอื่นต่างได้รับจดหมายเวียนจากจักรวรรดิของตนเองให้กลับมาที่จักรวรรดิโดยด่วน
สำหรับหัวหน้าทั้งหลาย พวกเขาถูกทางสถาบันเรียกตัวกลับไปในทันที
ส่วนการแข่งขันหัวหน้าน่ะเหรอ? ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด!
สวี่เทียนอวี๋จ้องมองภรรยาที่อยู่บนเตียงฟื้นขึ้นจากอารมณ์ขุ่นเคือง เขารู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก “ภรรยา ต้องไม่เป็นอะไรนะ!”
“น้องไม่เป็นอะไร จะทำอย่างไรดีเพคะ” จักรพรรดินีค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง “บอกเจ้าหน้าที่จากกระทรวงกลาโหมให้เปลี่ยนระบบป้องกันเมืองหรือยังเพคะ”
“บอกไปแล้ว” ทว่าสิ่งที่สวี่เทียนอวี๋ไม่ได้บอกจักรพรรดินีคือระบบป้องกันผังเมืองไม่ได้เปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ ระบบป้องกันผังเมืองนี้มีมานานหลายปี หากทำการเปลี่ยนแปลงครั้งหนึ่งจะมีปัญหามากมายตามมา
อาทิ ความเปลี่ยนแปลงทางด้านการจัดส่งสินค้า การสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงการสู้รบ…
“ดี…ดีแล้วเพคะ” จักรพรรดินีกุมหน้าผาก “ไม่คิดเลยว่าเจ้าลูกบ้าจะทำได้ถึงขนาดนี้”
“วันนี้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ไม่ได้ส่งข่าวอะไรมาใช่ไหมเพคะ?”
“ไม่เลย” จักรพรรดิห่มผ้าห่มให้จักรพรรดินีอย่างอ่อนโยน “น้องไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ไป พี่จะจัดการมันเอง”
“น้องเอ๋ย อย่าเอาแต่คิดมากตอนไม่สบายนักเลย พักผ่อนไปก่อนเถอะ!” จักรพรรดิยิ้มและปลอบประโลมจักรพรรดินี “เอาไว้ให้หายดีเสียก่อน แล้วค่อยมาคิดกังวลเรื่องนี้”
หลังจากปลอบจักรพรรดินีจนสงบ สวี่เทียนอวี๋ก็รีบออกจากห้องนอนและวิ่งตรงไปยังห้องประชุม
อันที่จริงเขากำลังพูดโกหก
สเปนเซอร์ รอน จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ไม่เพียงแต่พูดคุยกับเขาเท่านั้น แต่ยังร้องขอถึงสิ่งที่มากเกินไป
“องค์หญิงสามจากจักรวรรดิของท่านอายุสิบแปดปีครบวาระที่ต้องแต่งงานแล้ว และลูกชายคนโตของเราก็อายุครบยี่สิบสองปีในปีนี้เช่นกัน อายุของพวกเขายังเหมาะสมกันมาก”
“ผู้เฒ่าอย่างท่านควรจะผ่อนผันบ้างได้แล้ว ให้ลูกสาวของท่านแต่งงานเข้าจักรวรรดิของเราเป็นยังไง? เธอจะได้กลายเป็นจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์”
สวี่เทียนอวี๋จ้องมองไปที่ใบหน้าเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคือง
“ลูกสาวของเราได้รับความนิยมมาก เกรงว่าลูกชายของท่านควรจะมองหาคนอื่นเสียดีกว่า” สวี่เทียนอวี๋วางสายใส่อีกฝ่ายอย่างเย็นชา และทำหน้าบูดบึ้งอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน จักรวรรดิทั้งหลายได้เชื่อมต่อบทสนทนาทางวิดีโอเพื่อส่งคำขอจัดพิธีแต่งงานทีละคน
ตราบใดที่องค์หญิงสามแห่งจักรวรรดิชิงเหย้าเต็มใจที่จะแต่งงานกับจักรวรรดิของพวกเขา พวกเขาก็จะเลือกรักษาความสัมพันธ์อันดีงามกับจักรวรรดิชิงเหย้าเป็นเวลานาน
และเต็มใจที่จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับจักรวรรดิชิงเหย้า
“จะทำอะไร?! จะฉวยโอกาสนี้บังคับเราให้ใช้หลิงอวิ๋นเป็นเครื่องมือในการแต่งงานหรือไง?!”
สวี่เทียนอวี๋จัดประชุมทางวิดีโอ และพูดคุยกับจอมพลอาวุโสทั้งหลายจากจักรวรรดิชิงเหย้าที่เข้าร่วมการประชุม
“พูดมาว่าพวกเจ้ากำลังจะทำอะไร!” สวี่เทียนอวี๋จ้องมองรัฐมนตรีที่นั่งล้อมรอบเป็นวงกลม และเอ่ยถาม
“จำเป็นต้องพูดอะไรงั้นเหรอ? แน่นอนสิพวกเราต้องสู้! เฮอะ! คิดว่าชิงเหย้าของเราเป็นยังไงกันแน่? คิดว่ายังเป็นซาลาเปานุ่มนิ่มแบบแต่ก่อนอยู่หรือไง?!” จอมพลก็อดวินกล่าวขึ้นมาเป็นคนแรก
จอมพลก็อดวินโกรธจัดอย่างไม่ต้องคาดเดา!
ว่าที่ลูกสะใภ้ของเขา! เกิดอะไรขึ้นกับจักรวรรดิพวกนั้นกันแน่? จะขโมยลูกสะใภ้ของเขาอย่างนั้นหรือ?! ไม่มีทางเสียหรอก!
หลังจากหลายปีผ่านไป ลูกชายของเขาก็เริ่มเห็นทางสว่างมากยิ่งขึ้น หากองค์หญิงสามแต่งงานออกไปยังจักรวรรดิอื่น เขาคาดว่าลูกชายของเขาจะต้องอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตแน่นอน…
“จอมพลก็อดวินพูดถูก เราต้องสู้” มันเกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของจักรวรรดิชิงเหย้า ความสุขของหญิงสาวจะถูกนำมาใช้ระงับสงครามได้อย่างไร?!
นอกจากนี้หญิงสาวคนดังกล่าวยังเป็นถึงองค์หญิง เป็นอนาคตของทั้งห้วงดวงดาวทั้งปวง หากองค์หญิงสามต้องแต่งงานกับจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์เช่นนี้ ชายหนุ่มในจักรวรรดิชิงเหย้าจำนวนนับไม่ถ้วนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?!
มันจะไม่กลายเป็นเรื่องตลกเหรอหากข้อมูลแพร่กระจายออกไป?!
“ฝ่าบาท กระหม่อมขออาสาไปต่อสู้ยังชายแดนพ่ะย่ะค่ะ!” นายพลหนุ่มลุกขึ้นยืนและโพล่งออกมาทันที
การต่อสู้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสร้างผลประโยชน์! ถึงเวลาสำหรับสงครามแล้ว!
“ดีมาก!” สวี่เทียนอวี๋จ้องมองนายพลทั้งหลายที่มีจิตใจอันมุมานะด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะทิ้งระเบิดลูกใหญ่อีกครั้ง
“ก่อนอื่นเรามีข่าวสารจะบอกพวกเจ้าทุกคน ทุกคนควรตั้งรับให้เร็วที่สุด” สวี่เทียนอวี๋กล่าว “เพราะแบบแผนระบบป้องกันผังเมืองของเราถูกขโมยออกไปแล้ว”
“อะไรนะ?” นายพลชั้นสูงทั้งหลายจ้องมองจักรพรรดิด้วยความตื่นตระหนก โดยหวังว่าอีกฝ่ายจะล้อพวกเขาเล่นเท่านั้น
ทว่านี่กลับไม่ใช่เรื่องตลก ใบหน้าของสวี่เทียนอวี๋ยังคงเงียบขรึม
ถูกต้อง ใครจะเอาเรื่องระบบป้องกันผังเมืองมาล้อเล่นกัน?
“แล้วพวกเราจะต่อสู้ยังไง? จะต่อสู้ได้ยังไง? ระบบป้องกันผังเมืองถูกขโมยไปแล้ว” นายพลทั้งหลายถึงกับพูดไม่ออก
นายพลที่ริเริ่มเสนอตัวก่อนหน้านี้นั่งลงบนที่นั่งของเขาอย่างเงียบ ๆ เสแสร้งทำเป็นดอกไม้ประดับกำแพงที่ไม่พูดจา
สวี่เทียนอวี๋จ้องมองไปที่นายพลทั้งหลายด้วยสีหน้าโกรธจัด
“กระหม่อมจะอาสาไปสนามรบเป็นคนแรก” ก็อดวินลุกขึ้นยืนราวกับวีรบุรุษผู้กล้า “กลัวอะไรกัน? ไม่มีระบบป้องกันผังเมืองแล้วยังไง? เราก็แค่เปลี่ยนมันซะ!”
“ไม่เป็นไร ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนเอา ไม่ว่าจะมาไม้ไหนก็จะหาวิธีรับมือให้ได้!”
สวี่เทียนอวี๋จ้องมองไปที่ชายชราคนดังกล่าว นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก อย่างน้อยเขาก็หวังว่าหลิงอวิ๋นจะได้แต่งงานเข้าสู่ตระกูลแอนดรูว์
ขณะเดียวกัน พลังจิตของสวี่หลิงอวิ๋นแอบบุกรุกเข้าไปในห้องประชุม เธออยากจะรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร
และแล้วเธอก็ได้ยินข่าวที่เศร้า
ถึงแม้ว่าเธอจะจับไว้ความไม่ได้มากนัก แต่เธอก็รู้ว่าการสูญเสียระบบผังเมืองนั้นหมายความว่าอย่างไร
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนขโมยระบบผังเมืองนี้ไป จะมีการขัดขวางกันหรือเปล่า แต่ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไม่ถูกสายลับจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ขโมยไป
ขณะเดียวกัน ลูตี้กำลังถูกคุมขัง
บางทีหญิงสาวคนนี้อาจจะเป็นสายลับ ไม่อย่างนั้น เธอจะไปเอายาแบบนั้นมาได้อย่างไร? เป็นไปได้ไหมว่าเธอกำลังจะมอบมันให้กับจี๋เป้ย คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์?
เธอรู้เรื่องการเคลื่อนไหวของสวี่รุ่ยอวิ๋นหรือยัง?!
ลูตี้ถูกเข้าใจผิดและร้องตะโกนออกไปว่า “ฉันถูกกล่าวหา! ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!”
“ฉันต้องการพบทนาย!”
“ทนาย? เฮอะ! คนทรยศอย่างเธอกล้าดียังไงถึงมาเรียกร้อง?!”