ตอนที่ 274 มหาสงคราม 6
ตอนที่ 274 มหาสงคราม 6
“จักรพรรดิของพวกเขาก็จริง ๆ เลย ว่าแต่หมายถึงองค์หญิงใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ? ตราบใดที่พวกเขาเต็มใจจะให้องค์หญิงสามแต่งงานเข้าสู่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ สงครามก็อาจจะสงบลงได้”
“แล้วถ้าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ไม่รู้ว่าคนจากจักรวรรดิชิงเหย้าจะยังสนับสนุนราชวงศ์สวี่อยู่อีกไหม?”
ชายในวัยห้าสิบปีทั้งสองแสยะยิ้มและมองหน้ากัน
ประชากรจากจักรวรรดิชิงเหย้าที่ชื่นชอบการท่องโลกอินเทอร์เน็ตสามารถรู้ข่าวได้ภายในชั่วข้ามคืน เนื่องจากเป็นเพราะองค์หญิงสาม จักรวรรดิของพวกเขาจึงต้องเผชิญหน้ากับสงครามที่ไม่เคยมีมาก่อน
[สงคราม? เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เมื่อสองวันก่อนเพิ่งจะมีความสุขกับการเปิดงานแข่งขันหัวหน้าไปไม่ใช่เหรอ? ไหนจะงานเลี้ยงเต้นรำอีก ทำไมตอนนี้ถึงมีสงครามเกิดขึ้นได้ล่ะ?]
[ฉันก็บอกแล้วไงว่าเพราะบุคลิกขององค์หญิงสามเป็นแบบนี้ สุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ มารอดูกันว่ามันจะเกิดขึ้นจริงไหม?]
แอนตี้แฟนรีบโผล่ขึ้นมาและคอมเมนต์เยาะเย้ย
[คอมเมนต์บนสมองป่วยหรือไง? ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วยังเอาแต่คิดว่าปัญหามันเกิดขึ้นเพราะองค์หญิงสามงั้นเหรอ? นายไปยืนอยู่ในที่เกิดเหตุหรือไงยะ?]
[ผู้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์อยากจะแต่งงานกับองค์หญิงสามเหรอ? มันเป็นเรื่องดีนี่น่า? แล้วสงครามจะเกิดขึ้นได้ยังไง?]
ยังคงมีบางคนที่ยังไม่เข้าใจ
[ก็เพราะว่าองค์หญิงสามมีพลเอกโอคาซีอยู่แล้วไง! เจ้าพวกคนทึ่ม!]
[เอ่อ ถ้าอย่างงั้น แล้วสงครามล่ะ?]
[ถ้าเกิดให้องค์หญิงสามแต่งงานกับจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์แล้วสามารถหยุดสงครามได้ พวกคุณจะเห็นด้วยไหม?]
กระทู้นี้กลายเป็นข่าวร้อนแรงทันที
ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างกำลังครุ่นคิด นี่ไม่ใช่เรื่องตลกอีกต่อไป ทว่ามันคือเรื่องจริง
สภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกตกมาอยู่ตรงหน้า
[ฉันกลัวสงคราม ลูกของฉันเพิ่งสองขวบเอง และเขาควรจะได้มองเห็นด้านที่สวยงามของจักรวาลใบนี้ด้วยตาของเขาเอง เพราะงั้นฉันไม่อยากให้เขาต้องมาเห็นหายนะ]
ชาวเน็ตสนับสนุนการแต่งงานขององค์หญิงสาม
[เฮอะ ๆ กำลังจะบอกให้เอาความสุขขององค์หญิงสามไปแลกเปลี่ยนกับความสงบสุขสินะ ไม่รู้หรอกนะว่าพวกคุณกำลังคิดอะไรกันอยู่ แต่ฉันรู้สึกละอายใจชะมัด! ฉันเป็นนักรบ และไม่กลัวสงครามอะไรทั้งนั้น!]
[พวกคุณมันโง่เง่า มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่านี่คือข้ออ้างของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์! เฮอะ ๆ! ตอนแรกก็แค่ทำให้องค์หญิงสามขุ่นเคืองก่อนแล้วค่อยบังคับให้ฝ่าบาทแต่งงานด้วย พวกคุณยังมองแผนการสมรู้ร่วมคิดแบบนี้ไม่ออกอีกหรือไง?]
[พวกเขากำลังบังคับองค์หญิงสามของเราให้แต่งงานกับพวกเขา! จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ไร้ยางอายจริง ๆ!]
[ใครก็รู้คำทำนายขององค์หญิงสามทั้งนั้นแหละ และตอนนี้ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วทั้งห้วงดวงดาวแล้วว่าจักรวรรดิไหนก็ได้ที่ได้ตัวองค์หญิงสามไปครอง จักรวรรดินั้นจะกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาล! และนี่คือเรื่องจริง!]
[พอเห็นคอมเมนต์พูด ฉันก็คิดว่ามันเป็นแผนการสมคบคิดเหมือนกันแฮะ!]
[แต่ไม่ว่าจะยังไงองค์หญิงสามก็สามารถหยุดสงครามได้ด้วยการแต่งงานกับจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ แล้วทำไมถึงจะไม่แต่งงานล่ะ? จำเป็นต้องฆ่าทหารทั้งหลายเพื่อความสบายใจด้วยเหรอ?]
โลกอินเทอร์เน็ตกำลังพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว
สวี่เทียนอวี๋มองดูบทสนทนาของชาวเน็ตทั้งหลายที่แบ่งออกเป็นสองฝั่งแบบห้าสิบต่อห้าสิบ ผู้คนจำนวนครึ่งหนึ่งคิดว่าองค์หญิงสามควรเข้าพิธีแต่งงานกับจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์เพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม
“จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์วางแผนมาดี” สวี่เทียนอวี๋กุมขมับขณะจ้องมองคอมเมนต์ทั้งหลาย “องค์หญิง องค์ชาย และพวกหัวหน้าจากจักรวรรดิอื่นออกกันไปแล้วใช่ไหม?”
“พ่ะย่ะค่ะ ออกกันไปหมดแล้ว” ผู้บังคับบัญชาระดับสูงเดินตามสวี่เทียนอวี๋และนวดให้เบา ๆ ก่อนจะกล่าวว่า “เหลือแต่องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตที่ยังไม่ออกไปพ่ะย่ะค่ะ”
“โอ้? ทำไมเขายังอยู่อีก?”
แลนเซล็อตเป็นถึงองค์ชายรัชทายาทแห่งจักรวรรดิเอเดน หากมีอะไรเกิดขึ้นในอาณาเขตของเขา มันคงยากเกินจะอธิบาย
จักรวรรดิชิงเหย้าสร้างศัตรูจำนวนมากมาย และไม่สามารถรับมือต่อไปได้
“ไปเชิญเขามาที” เขารู้ดีว่าองค์ชายรัชทายาทต้องการทำอะไร
ไม่มีอะไรไปมากกว่าการแต่งงาน
วางเอกสารทั้งหลายที่อยู่ในมือลง เอกสารดังกล่าวเป็นรายการยื่นความจำนงในการสมัครติดตั้งอุปกรณ์อาวุธและกระสุน สงครามครั้งนี้แตกต่างจากการต่อสู้กับเหล่าเอเลี่ยน ไม่ได้อาศัยกองกำลังส่วนบุคคลเพื่อประสบความสำเร็จ แต่ต้องอาศัยอุปกรณ์ที่ซับซ้อนและอาวุธขั้นสูง
ฐานทัพทั้งหมดของจักรวรรดิชิงเหย้าได้เริ่มต้นผลิตอุปกรณ์อาวุธทางการทหารอย่างบ้าคลั่ง ยานอวกาศรบถูกส่งออกไปยังสนามรบเป็นที่เรียบร้อย นักรบทั้งหลายที่มีฝีมืออันโดดเด่นติดอาวุธและเดินทางไปยังสนามรบ
จักรวรรดิเหมยรุ่ยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับจักรวรรดิชิงเหย้า
เมื่อเทียบเท่ากับหกจักรวรรดิที่เป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ ก็สามารถจิตนาการถึงแรงกดดันของจักรวรรดิชิงเหย้าได้
แลนเซล็อตเข้ามาหาสวี่เทียนอวี๋ “ขอถวายความเคารพพ่ะย่ะค่ะ องค์จักรพรรดิ”
สวี่เทียนอวี๋จ้องมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขา ช่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์เหลือล้น หากไม่มีโอคาซี เขาคนนี้คงเป็นคนที่คู่ควรกับลูกสาวของเขาที่สุด
“ราชวงศ์อื่นกลับไปกันหมดแล้ว ทำไมท่านถึงยังไม่กลับไปอีก? ท่านก็รู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ปลอดภัย หากเกิดมีอะไรเกิดขึ้นกับท่าน เราจะอธิบายกับพ่อของท่านยังไง?”
“ฝ่าบาทคิดมากเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ท่านก็รู้ว่ากระหม่อมชื่นชอบองค์หญิงสามมาโดยตลอด และในตอนนี้จักรวรรดิชิงเหย้ากำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตครั้งใหญ่ หากกระหม่อมจากไป มันจะไม่ดูสิ้นหวังเกินไปเหรอพ่ะย่ะค่ะ?” แลนเซล็อตเป็นคนตรงไปตรงมาและกล่าวออกไปดั่งใจ
“ต่อให้ท่านอยู่ต่อที่นี่ก็ไม่มีหวังนักหรอก” สวี่เทียนอวี๋ส่ายหัว “ว่ากันตามตรง เราตั้งใจจะมอบบัลลังก์ให้หลิงอวิ๋นสืบทอด”
หากองค์หญิงต้องสืบทอดบัลลังก์ เธอก็จะไม่มีวันแต่งงานออกจากจักรวรรดิ
“กระหม่อมคิดไว้อยู่แล้ว” แลนเซล็อตยิ้มเล็กน้อย “แต่นั่นก็ไม่สำคัญอะไรไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“ท่านหมายความว่ายังไง?” สวี่เทียนอวี๋ตกตะลึง เด็กนี้กำลังคิดอะไรอยู่? ทั้งที่บอกว่าลูกสาวจะไม่แต่งงานออกไปจากจักรวรรดิ ทว่าเขากลับตอบกลับมาอย่างคลุมเครือ!
“หากเสด็จอาสวี่เต็มใจจะให้องค์หญิงสามแต่งงานกับกระหม่อม กระหม่อมขอสัญญาว่าจะไม่ขัดต่อการสืบทอดบัลลังก์ของเธอ ถึงทั้งสองจักรวรรดิจะแยกออกจากเป็นเอกราช แต่ใจกลับรวมกันเป็นหนึ่ง”
“หากองค์หญิงสามให้กำเนิดบุตรทั้งสอง คนหนึ่งจะได้สืบทอดบัลลังก์ของจักรวรรดิชิงเหย้า ส่วนอีกคนจะได้สืบทอดบัลลังก์ของจักรวรรดิเอเดน แบบนี้น่าจะดีสำหรับทั้งสองมากกว่าไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?!”
ดีสำหรับทั้งสองอย่างนั้นหรือ? จักรพรรดิครุ่นคิด มันดีสำหรับทั้งสองและสามารถบรรเทาวิกฤตนี้ได้
ความแข็งแกร่งของจักรวรรดิเอเดนทรงพลัง และถือได้ว่าเป็นมหาอำนาจรุ่นเก่ามาหลายสมัย หากได้รับการสนับสนุนจากจักรวรรดิเอเดน จักรวรรดิอื่นที่วางตัวเป็นกลางจะต้องยืนหยัดเพื่อจักรวรรดิชิงเหย้าอย่างแน่นอน จนถึงตอนนั้น สงครามอาจคลี่คลายลง
“ท่านอาจคิดว่าดี แต่อย่าลืมว่าหลิงอวิ๋นมีแฟนแล้ว”
โอคาซีคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในใจของจักรพรรดิ
เจ้าเด็กโอคาซีเป็นคนที่ซื่อสัตย์ อีกทั้งยังไม่เป็นคนหลายใจ เป็นคนใส่ซื่อบริสุทธิ์และน่ารักเมื่อเทียบกับเจ้าลำไส้คดเคี้ยวที่อยู่ตรงหน้า
แลนเซล็อตยิ้มอย่างอ่อนโยน “แน่นอน กระหม่อมรู้พ่ะย่ะค่ะ”
หากเขาไม่รู้ แล้วจะพูดจาแฝงความหมายแบบนี้ได้อย่างไร?
“พระองค์อย่าเพิ่งเข้าใจกระหม่อมผิดไป กระหม่อมมาที่นี่เพื่อเจรจากับท่าน และหวังว่าท่านจะให้โอกาสกระหม่อม”
แลนเซล็อตกล่าว “แค่หวังว่าฝ่าบาทจะสัญญากับกระหม่อมว่าจะไม่ให้งานแต่งงานขององค์หญิงสามกับโอคาซีเกิดขึ้นภายในเวลาสามปี”
“ฮะ? ท่านหมายความว่ายังไง?”
ห้ามไม่ให้ลูกสาวของเขาแต่งงานอย่างนั้นหรือ? เยี่ยมไปเลย!