สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际 – ตอนที่ 307 ถั่วชมพูแสดงอิทธิฤทธิ์ในมหาสงคราม 2

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

ตอนที่ 307 ถั่วชมพูแสดงอิทธิฤทธิ์ในมหาสงคราม 2

ตอนที่ 307 ถั่วชมพูแสดงอิทธิฤทธิ์ในมหาสงคราม 2

“เอาล่ะ พอเถอะ! เลิกไร้สาระกับเราสักที” สเปนเซอร์พูดออกมาอย่างเย็นชา “เจ้าพวกชิงเหย้านั่นไม่หยิ่งผยองกันไปหน่อยหรือไง? ถึงกับกินเลี้ยงกันเชียวหรือ?”

“เฮอะ ๆ! ท่านส่งกองกำลังมาให้กระหม่อมได้เลยพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมไม่เชื่อว่าคนชาติชั่วพวกนั้นจะมีลูกกระสุนพอสำหรับสงครามครั้งต่อไป!”

“จอมพลคอนนีย์ เราหวังว่าท่านจะพลิกการต่อสู้ในครั้งนี้ขึ้นมาได้!” สเปนเซอร์จ้องมองไปที่คอนนีย์ “ถ้าครั้งนี้ท่านคว้าชัยชนะมาได้ เราสัญญาว่าจะมอบบรรดาศักดิ์ให้ท่าน!”

บรรดาศักดิ์!? ดวงตาของคอนนีย์เบิกกว้างขึ้นทันใด! นี่คือสถานะทางสังคมของเขา! ในอนาคตเขาจะกลายเป็นชนชั้นสูง!

เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วจิตใจก็รู้สึกปรีดี! คอนนีย์รีบคุกเข่าลงกับพื้นข้างหนึ่ง “ประสงค์ของฝ่าบาทคือทิศทางของดาบในมือกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นเดินจ้ำอ้าวออกไป

จอมพลคนอื่นมองดูคอนนีย์ด้วยความอิจฉาริษยา เห็นได้ชัดว่าชายแก่กำลังฉวยโอกาสอยู่!

ทำไมฝ่าบาทถึงได้ปลาบปลื้มคอนนีย์นัก?

สเปนเซอร์มองดูจอมพลที่เหลือ “พวกเจ้าอยากจะหาผลประโยชน์ทางการทหารเพื่อเพิ่มยศถาบรรดาศักดิ์กันบ้างไหม?”

เอ่อ? พวกทึ่มทั้งหลายคงจะพยักหน้าเป็นธรรมดาอยู่แล้วใช่ไหม?!

พยักหน้าสิ! ราวกับศีรษะของทุกคนมีตัวสปริงติดอยู่ พวกเขาพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง!

“ถ้าอย่างนั้นเราจะให้โอกาสพวกท่าน! พากองกำลังทหารออกไปโจมตีอีกครั้ง!” สเปนเซอร์พูดอย่างเย็นชา “โจมตีให้หมด! อย่าให้หลงเหลือไว้!”

“พ่ะย่ะค่ะ! ฝ่าบาท!” ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นมากราวกับดื่มยาบำรุงกำลังเข้าไป

มีเพียงผู้อาวุโสที่พูดออกมาด้วยความลังเล “แต่ว่าฝ่าบาท ถ้าพวกเราออกไปสู้กันหมด จักรวรรดิของเราจะไม่มีกองทัพเหลืออยู่เลยนะพ่ะย่ะค่ะ…”

“เจ้าคิดว่าต่อให้ไม่มีกองทัพเหลืออยู่แล้วเราจะกลัวหรือไง? หรือเจ้าคิดว่าคนจากจักรวรรดิชิงเหย้าจะละมือมาโจมตีเราได้?” สเปนเซอร์มองดูข้าบริวารอาวุโส และพูดต่อว่า “เรารู้ว่าเจ้าคุ้นเคยกับการระมัดระวังตัว แต่อย่าได้คิดวิตกอะไรนักเลย!”

ข้ารับใช้ผู้แก่ชราเฝ้ามองสเปนเซอร์ที่เติบโตขึ้น โดยรู้ดีว่าคนตรงหน้าไม่ได้เก็บเอาคำพูดของเขามาใส่ใจนัก

ฝ่าบาทผู้น่าเกรงขามเติบโตขึ้นแล้วจริง ๆ!

ช่างเถอะ ฝ่าบาทคงจะพิจารณาด้วยตัวเองแล้ว บางทีท่านอาจจะคิดถูกก็ได้!

สวี่รุ่ยอวิ๋นกับเหมยหมี่กำลังอ่านหนังสืออยู่ในสวน นับว่าสวี่รุ่ยอวิ๋นยิ่งชอบองค์หญิงเหมยหมี่มากขึ้นเรื่อย ๆ

เธออ่อนโยน ชื่นชอบการร้องเพลงและอ่านหนังสือ ทุกคนที่เขาเล่าถึงสถานการณ์ที่เขาต้องเผชิญหน้ากับเอเลี่ยนด้านนอก องค์หญิงเหมยหมี่มักจะมองมาที่เขาด้วยความชื่นชม

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเจ้าถึงได้ดูไม่มีความสุขเอาซะเลย?” สวี่รุ่ยอวิ๋นสัมผัสใบหน้าของเธออย่างทุกข์ร้อน และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เหมยหมี่จ้องมองเขาอย่างโศกเศร้า “ท่านลุงถูกคนจากจักรวรรดิชิงเหย้าจับตัวไปเพคะ หม่อมฉันเป็นห่วงเหลือเกิน…”

“ถูกจับตัวไป?” หัวใจของสวี่รุ่ยอวิ๋นเต้นไม่เป็นจังหวะ “ถูกจับตัวไปได้ยังไง?”

ท่านลุงของทางจักรวรรดิถูกจับตัวไป ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่!

“เสด็จแม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับท่านลุงโดยเฉพาะ มันแย่มากเลยเพคะที่ได้ยินว่าท่านลุงถูกจับไปเป็นเชลย!” น้ำตาของเหมยหมี่ร่วงหล่นบนพื้นราวกับหยาดน้ำค้างบนดอกไม้ที่แตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

นี่เป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับสวี่รุ่ยอวิ๋น “ถ้าอย่างนั้นอย่าเพิ่งบอกจักรพรรดินี เราจะต้องหาทางช่วยท่านลุงออกมาก่อน!”

“แต่ว่าการโจมตีทั้งหมดล้มเหลวมาตลอด เสด็จพ่อบอกว่าเราต้องหาผังป้องกันเมืองอันใหม่มาให้ได้ก่อน!” เหมยหมี่จ้องมองไปที่สวี่รุ่ยอวิ๋น “ท่านพี่จะมอบผังป้องกันอันใหม่ให้หม่อมฉันได้ไหมเพคะ?”

สวี่รุ่ยอวิ๋นลังเล

การเอาผังป้องกันเมืองให้เธอ มันจะเป็นการหลอกใช้เขาหรือเปล่า?

เมื่อเห็นท่าทางที่ลังเลของเขา เหมยหมี่จึงก้มหน้าลงเงียบ ๆ “ขอโทษนะเพคะท่านพี่สวี่ หม่อมฉันละลาบละล้วงเกินไป”

สวี่รุ่ยอวิ๋นรีบจับมือเธอเอาไว้ “ไม่หรอก ไม่ใช่ มันเป็นความผิดของพี่เอง เจ้าไม่ต้องขอโทษหรอก”

เหมยหมี่จ้องมองมาที่เขา “แต่ท่านพี่ก็ไม่อยากมอบมันให้หม่อมฉันใช่ไหมเพคะ? หม่อมฉันเองก็ไม่อยากบีบบังคับท่านพี่”

เมื่อพูดจบ เธอก็ผละมือออก “เสด็จแม่ดูไม่ค่อยดีนัก หม่อมฉันจะไปเข้าเฝ้าท่านก่อนนะเพคะ!”

สวี่รุ่ยอวิ๋นเฝ้าดูเหมยหมี่ก้าวออกไป หัวใจของเขาราวกับกำลังแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ!

“เหมยหมี่! อย่าเพิ่งไป! พี่จะเอาให้เจ้า!” สวี่รุ่ยอวิ๋นตะโกนก้อง

เหมยหมี่แสดงออกว่าโศกเศร้าอย่างนั้นหรือ? ที่จริงแล้วเธอไร้ความรู้สึกราวกับตุ๊กตากระเบื้องอันแสนประณีต หลังจากได้ยินเสียงของสวี่รุ่ยอวิ๋น รอยยิ้มที่มุมปากก็ปรากฏขึ้น

แต่ทันทีที่เธอหันหลังกลับไป หญิงสาวตัวน้อยผู้อ่อนโยนกลับเผยให้ยลโฉมอีกครั้ง

“จริงเหรอเพคะ?” เหมยหมี่รีบวิ่งเข้าไปและเอาแขนคล้องรอบคอสวี่รุ่ยอวิ๋น “ท่านพี่สวี่เต็มใจจะมอบให้หม่อมฉันจริง ๆ เหรอเพคะ??”

“แน่นอนสิ! เด็กโง่! พี่ทนเห็นเจ้าร้องไห้ไม่ไหวหรอก!” สวี่รุ่ยอวิ๋นปาดน้ำตาแห่งความสุขออกจากใบหน้าของเธอและหยิกแก้มเธอเล็กน้อย

“สำหรับเจ้า ทุกอย่างย่อมคุ้มค่าเสมอ!” สวี่รุ่ยอวิ๋นรู้สึกเสียใจในตอนนี้ แต่เมื่อเขามองไปที่ใบหน้ายิ้มแย้มของเหมยหมี่ เขาก็รู้สึกว่าจักรวาลใบนี้น่าอยู่ขึ้นมาทันที

ช่างเป็นเด็กใสซื่อและกตัญญูอะไรขนาดนี้!

เธอจะต้องรักเขามากแน่ ๆ!

เหมยหมี่เอื้อมมือออกไปโอบกอดรอบเอวของเขา ฟังเสียงเต้นระส่ำของหัวใจอีกดวง แม้ความเย็นชาจะปรากฏขึ้นในแววตา แต่รอยยิ้มของเธอกลับแสนหวาน “หม่อมฉันรู้ว่าท่านพี่สวี่รักหม่อมฉันมากที่สุด!”

สวี่รุ่ยอวิ๋นมอบผังป้องกันเมืองอีกสองสามแผ่นให้เหมยหมี่ “นี่คือผังป้องกันเมืองทั้งหมด”

“และนี่คือสมบัติล้ำค่าที่สุด” สวี่รุ่ยอวิ๋นจ้องมองเหมยหมี่ และพูดอย่างอ่อนโยน

“ขอบคุณนะเพคะท่านพี่สวี่!” เหมยหมี่รีบรับมาตรวจสอบ และหลังจากพบว่ามันถูกต้อง เธอก็เดินไปกับสวี่รุ่ยอวิ๋น

ทันใดนั้นชายหนุ่มระดับ 8 ดาวก็ปรากฏกายขึ้น และเข้ามาจัดการสวี่รุ่ยอวิ๋นทันที!

“แกทำอะไร!” สวี่รุ่ยอวิ๋นไม่สามารถขยับตัวได้ เขาถูกชายหนุ่มตรงหน้ามัดไว้แน่นก่อนจะร้องตะโกนอย่างโกรธจัด “เหมยหมี่ บอกให้เขาปล่อยพี่ไปที”

แต่ใครจะรู้ว่าเหมยหมี่ที่แสนอ่อนโยนได้กลายเป็นคนละคนไปแล้ว

รูปลักษณ์ที่แสนอ่อนโยนของเธอแปรเปลี่ยนเป็นความเฉยเมยที่ต่างกันสุดขั้ว

ความเย็นชาที่สุดสำหรับเขาคือการที่เหมยหมี่ไม่ได้แสดงสีหน้าชื่นชมเขาอีกต่อไป

“เหมยหมี่! เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?! พี่เป็นท่านพี่สวี่ของเจ้าไง!” สวี่รุ่ยอวิ๋นร้องตะโกน

“ท่านพี่สวี่? ฮ่า ๆ!” เหมยหมี่จ้องมองสวี่รุ่ยอวิ๋น ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “แกทำให้ฉันอยากจะอาเจียนรู้ตัวไหม?!”

“แกรู้บ้างไหมว่าทุกครั้งที่ฉันได้ยินอะไรแบบนั้น ฉันคิดยังไงบ้าง?” เหมยหมี่มองไปที่เขา “ฉันอยากจะยันหน้าแกแล้วโยนลงไปในบ่อบำบัดน้ำเสียซะ!”

สวี่รุ่ยอวิ๋นไม่ใช่คนโง่ และรู้ว่าตัวเองถูกหลอก เหมยหมี่ไม่ง่ายอย่างที่เขาจินตนาการเอาไว้!

“เจ้ากล้าหลอกพี่เหรอ?!” ถึงแม้ว่าภายในใจของเขาจะรับรู้ถึงความจริงแล้ว แต่ร่องรอยแห่งจินตนาการยังคงหลงเหลืออยู่ “เหมยหมี่ เจ้ากำลังป่วยหรือเปลี่ยนไปแล้วกันแน่?”

“แกคิดว่าทั้งจักรวรรดินี้มีใครหน้าไหนกล้าขัดฉันอีก?” มือของเหมยหมี่ตวัดลงบนใบหน้าของเขาจนเผยให้เห็นเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมา

“เพื่อเห็นแก่ความรักที่แกมีต่อฉัน ฉันจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับแกแล้วกัน” เหมยหมี่หันไปสั่งทหารระดับ 8 ดาว “โยนมันลงไปในคุกใต้ดิน”

หลังจากที่ทหารทำความเคารพ เขาก็จากไปพร้อมกับสวี่รุ่ยอวิ๋น

สเปนเซอร์ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเหมยหมี่ “เหมยหมี่ ทำได้ดีมากลูก!”

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

Status: Ongoing
เมื่อมาเกิดใหม่ในที่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย เรื่องอะไรจะต้องอยู่เฉยกันล่ะ อย่างนี้มันต้องจับหั่น ยัดลงหม้อไฟร้อนๆ แล้วก็ถ่ายทอดสดออกอากาศสิถึงจะถูก!สวี่หลิงอวิ๋น หญิงสาวที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้มาหลายปีแล้ว แถมยังมีนิสัยชอบกินอีกตังหากก็ต้องมีชีวิตที่ถึงคราวจากไปก่อนวัยอันควร เพราะดันไปกินเนื้อแกะที่ติดเชื้อซอมบี้เข้าให้!จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของเจ้าหญิงองค์ที่สาม แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ในโลกยุคอวกาศ ซึ่งดูท่าทางไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ แต่ใครสนกันล่ะ! ตอนนี้เธอสนแต่เรื่อง กิน กิน และกินเท่านั้น แถมเอเลี่ยนดาวดวงนี้ยังมีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด! เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องจับพวกมันมาหั่น มาต้ม มาย่าง แล้วก็อะไรอีกดีนะ? อ้อ…สตีมเมอร์ออกอากาศด้วยเลย!ทั้งหมดนี้จะถือเป็นสงครามอวกาศที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอไปด้วยอาหารแบบต่าง ๆ ที่สวี่หลิงหยุนไปพิชิตและสรรค์สร้างมาได้ สวี่หลิงอวิ๋นหรือองค์หญิงสามนี้จะสามารถล่าเอเลี่ยนและคิดเมนูอะไรออกสตรีมเมอร์บ้าง ไปตามลุ้นเอาใจช่วยกันได้ที่ สตีมเมอร์สาวกินพิชิตอวกาศ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท