ตอนที่ 313 ถั่วชมพูแสดงอิทธิฤทธิ์ในมหาสงคราม 8
ตอนที่ 313 ถั่วชมพูแสดงอิทธิฤทธิ์ในมหาสงคราม 8
ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของทหารจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ก็เปลี่ยนไป
“เธอเป็นปีศาจหรือไง? ถึงจะได้ฆ่าแกงพวกเราน่ะ! พวกเราเป็นแค่เชลยเท่านั้น! แต่เธอกำลังละเมิดสนธิสัญญาพันธมิตรห้วงดาวดาวด้วยการกระทำแบบนั้น”
ทหารจากจักรวรรดิปีกพิสทุธิ์ลุกขึ้นยืนและตะโกนถามสวี่หลิงอวิ๋นเสียงดังลั่น
“โอ้ แกพูดว่าฉันกำลังละเมิดสนธิสัญญาพันธมิตรห้วงดาวดาวงั้นเหรอ แล้วจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ของพวกแกล่ะ ไม่ได้ละเมิดสนธิสัญญาสันติภาพของห้วงดาวดาวเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นแทบจะหัวเราะออกมา
“แกไม่คิดว่าสิ่งที่แกพูดออกมามันตลกบ้างหรือไง? พวกแกผิดสัญญาก่อน แล้วมาโทษเราที่ผิดสัญญาเนี่ยนะ? แกกำลังพูดเรื่องตลกกับฉันอยู่หรือไง?”
สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัวพลางหัวเราะเยาะ และพูดต่อว่า “เพราะสู้ไม่ได้เหรอ? ถึงได้มาพูดเรื่องตลกแบบนั้นน่ะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็เดินจากไป
ทหารจากจักรวรรดิชิงเหย้าเฝ้าดูสวี่หลิงอวิ๋นเดินจากไปด้วยความชื่นชม จากนั้นจึงหันกลับมามองทหารจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ที่ยังคงอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
มีสหายในกองทัพของพวกเขากี่คนที่ต้องบาดเจ็บล้มตายและไม่ตื่นขึ้นมาอีกในสนามรบเพราะจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะล้างแค้นให้สหายของตัวเอง
เชลยจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์แสดงออกถึงความสิ้นหวังทันทีที่ทหารจากจักรวรรดิชิงเหย้าเข้ามาใกล้
ในที่สุดทหารจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ก็ทนไม่ไหว และร้องตะโกนออกไปว่า “ฉันรู้ว่าผู้บัญชาการอยู่ไหน”
เชลยคนอื่นจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ทั้งโล่งใจและเกลียดชังเมื่อมองไปที่ทหารคนดังกล่าว
พร้อมทั้งนึกประณามคนที่ทรยศหักหลังและเปิดเผยความลับทางการทหารของพวกเขา
ทหารคนดังกล่าวชี้นิ้วไปทางชายที่กำลังบูชาเทพเจ้า “ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของพวกเรา เขาแค่เปลี่ยนเป็นชุดเครื่องแบบของพลทหาร”
ไกอามองดูใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีซีดเผือดทันที และพูดว่า “โอ้ แกนั่นเอง ถ้าแกลุกขึ้นยืนเร็วกว่านี้อีกหน่อย บางทีทหารของแกอาจจะไม่โดนทุบตีก็ได้จริงไหม? แล้วดูสิ่งที่แกทำลงไปสิ”
เขาส่ายหัวและพูดต่อ “แกยังอยากเอาตัวรอดเลย แล้วทำไมไม่คิดบ้างว่าจะมีอะไรจะเกิดขึ้นกับทหารพวกนี้?”
“บอกมาว่าแกเก็บลูกกระสุนกับเสบียงอาหารไว้ที่ไหน ถ้าแกพูดมา พวกแกทุกคนจะรอด แต่ถ้าแกไม่พูด พวกแกทุกคนจะต้องตาย เราจะใช้ระเบิดลูกใหญ่จุดชนวนยานรบของแกให้เละเป็นจุณในครั้งเดียว” ไกอาจ้องเขม็งไปที่อีกฝ่าย
ใบหน้างดงามเผยให้เห็นถึงความโหดเหี้ยม เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเพียงช่างทหาร แต่สิ่งที่เขาพูดออกมานั้นกลับดูโหดร้ายราวกับคำพูดของปีศาจ
“คิดดีแล้วหรือยัง?”
ชายคนนั้นกัดฟันและพูดว่า “แกจะไว้ชีวิตพวกเราทุกคนจริง ๆ ใช่ไหม?”
“แน่นอน ฉันสาบานได้! ฉันไม่ใช่คนเลวแบบนั้นสักหน่อย อีกอย่างจักรวรรดิชิงเหย้าของเราก็ไม่สารเลวเหมือนกัน” ไกอาเหลือบมองเขา
ชายคนนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบการ์ดออกมาจากกระเป๋า
“ใช้การ์ดใบนี้เปิดกล่องเล็ก ๆ ที่อยู่ใต้ห้องบัญชาการ”
ไกอาสั่งให้ทหารไปตรวจสอบ และกลับมาบอกความจริง
“ท่านรอง เขาพูดจริงครับ มีปุ่มมิติกักเก็บอยู่ทั้งหมดสองปุ่ม”
ทหารรับผิดชอบหน้าที่ในการตรวจสอบค้นหาความจริง วิ่งกลับเข้ามาด้วยความปลาบปลื้มใจ
ไกอายิ้มเล็กน้อย “ดีมาก”
“เอาล่ะ ขังพวกมันเอาไว้ในห้องนี้แหละ อย่าให้ใครออกมาจนกว่าองค์หญิงสามจะกลับมา”
ทหารจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จ้องมองไปที่ผู้บัญชาการของพวกเขา ไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะขอบคุณที่ผู้บัญชาการเห็นคุณค่าในชีวิตของเหล่าทหาร หรือควรจะเสียใจที่พ่ายแพ้สงครามและทำให้พวกเขากลายเป็นเชลยดี
“ขอบใจทุกคนที่ทำงานหนักกัน ยังไงซะพวกเราก็รอดแล้ว” ผู้บัญชาการปลอบใจเหล่าทหาร “ฝ่าบาทสเปนเซอร์เปิดการโจมตีจักรวรรดิชิงเหย้าอย่างเต็มรูปแล้ว เราก็แค่รอคอยการช่วยเหลือเท่านั้น ทุกคนวางใจได้”
ในขณะเดียว สวี่หลิงอวิ๋นฟื้นฟูพลังจิตของเธออย่างเร่งด่วนระหว่างทาง และโจมตียานรบที่มุ่งหน้าเข้ามาอย่างดุเดือด เธอยังคงใช้วิธีการสามรูปแบบดังเดิม โดยใช้ลูกธนูโจมตีเกราะป้องกันของอีกฝ่ายให้แตกออกเสียก่อน
ขั้นตอนที่สองคือการใช้ดาบอันมหึมาผ่าครึ่งยานรบออกเป็นสองส่วน
ขั้นตอนที่สามคือการวิ่งเข้าไปหาผู้บัญชาการของอีกฝ่ายและสำรวจหาคลังกระสุนกับเสบียง
“เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป ปล่อยยานรบของเราไปเถอะ” ผู้บัญชาการจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์อ้อนวอนอย่างขมขื่น
“เธอทำลายแม้แต่เครื่องบินรบของเรา แล้วจะให้พวกเราทำอะไรอีก?”
สวี่หลิงอวิ๋นเกาหัว “แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน? ใครบอกให้พวกแกเอายานรบออกมาเพิ่มอีกสองลำล่ะ”
ผู้บัญชาการจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์รู้สึกโกรธจัดจนแทบจะบ้าตาย
ยานรบของพวกเขาถูกหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าทำลายจนสิ้นซากแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนั้นอีก
ทว่าพวกเขากลับไม่กล้าโต้แย้งกลับไป หญิงสาวตรงหน้าทรงพลังมาก แม้เธอจะบอกว่าเธออยู่ในระดับ 9 ดาว แต่เขาคาดเดาว่าเธอจะต้องไม่ใช่เก้าดาวธรรมดาทั่วไป! ต้องบอกก่อนว่าเกราะป้องกันพลังงานสามารถป้องกันการโจมตีของระดับ 9 ดาวได้
ตอนนี้แหล่งจ่ายออกซิเจนในยานรบของเขาถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว แม้ว่าจะต้องการยานรบแต่ก็ไม่มียานรบ ต้องการเครื่องบินรบแต่ก็ไม่มีเครื่องบินรบอีก พวกเขาจะต้องทนรอความตายอย่างนั้นเหรอ?
สวี่หลิงอวิ๋นปรบมือ หัวเราะเยาะและพูดว่า “โอเค ๆ เอาไว้ฉันจะบอกพวกทหารให้แล้วกัน แต่ไม่รับปากนะว่าพวกเขาจะปล่อยมันไว้หรือเปล่านะ”
เธอกำลังจะจากไป แต่ทันใดนั้นก็นึกอะไรบางอย่างออก “ลืมทำขั้นตอนสุดท้ายไปเลยแฮะ!”
นั่นคือการกักขังพลังจิตของพวกเขา!
ใช่แล้ว! ใบหน้าของผู้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์เริ่มถมึงทึงขึ้น!
ตอนแรกยังพอมีโอกาสรอด ทว่าตอนนี้กลับสิ้นหวังซะแล้ว!
แม้ว่าพวกเขาจะได้รับการช่วยชีวิต แต่มันก็คงจะเปล่าประโยชน์!
ไม่มีพลังดวงดาวแล้วพวกเขาจะมีค่าอะไร?!
“พวกแกจะร้องขอความช่วยเหลือจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ของพวกแกก็ได้นะ” สวี่หลิงอวิ๋นเอียงศีรษะ ยิ้มเยาะและพูดต่อ “แต่ตอนนี้พวกเขาคงกำลังจะยุ่งอยู่กับการต่อสู้ ไม่รู้ว่าจะได้รับสัญญาณความทุกข์ทรมานของพวกแกไหมนะ”
สวี่หลิงอวิ๋นกำลังจะโจมตียานรบลำที่สี่ ทว่าพลเอกของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์กลับได้รับคำสั่งจากฝ่าบาทสเปนเซอร์เสียก่อน
ว่าขอให้ยานรบลำที่ใกล้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์กลับมาโดยด่วนที่สุด!
โย่ ดูเหมือนว่าเจ้าถั่วชมพูจะทำสำเร็จนะ
สวี่หลิงอวิ๋นที่บังเอิญยืนอยู่ข้างแท่นรับส่งข้อมูล เห็นข้อความดังกล่าว
“ดูเหมือนว่าจักรวรรดิของพวกแกกำลังมีปัญหานะ” สวี่หลิงอวิ๋นพูดขึ้น ยิ้มเบา ๆ ขณะจ้องมองไปที่ผู้บัญชาการที่อยู่ด้านข้างเธอ
สีหน้าของผู้บัญชาการดูไม่ค่อยสู้ดีนัก จักรวรรดิคงกำลังประสบกับปัญหาใหญ่หลวงแน่นอน ไม่อย่างนั้น ฝ่าบาทสเปนเซอร์คงไม่รับสั่งให้ยานรบที่ออกเดินทางมารีบหันลำกลับไปโดยด่วน
“อยากให้ฉันช่วยตอบกลับให้ไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มเยาะและพูดต่อ “พวกแกคงมือไม่ว่างพอที่จะทำให้ภารกิจนี้สำเร็จหรอก”
ก็ใช่น่ะสิ! เพราะทหารจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์เหล่านี้ถูกสวี่หลิงอวิ๋นมัดไว้
แม้ว่าทหารบางคนจะวิ่งหนีและขึ้นไปบนเครื่องบินรบอย่างว่องไว แต่พวกเขากลับถูกสวี่หลิงอวิ๋นยิงสอยทีละลำ
“ไม่ต้องหนักใจแทนเราหรอกพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงสาม” เห็นได้ชัดว่าผู้บัญชาการคนนี้เป็นจอมพลระดับสูง
จอมพลผู้นี้ดูสงบนิ่งมากแม้ต้องเผชิญหน้ากับอันตราย ถึงจะถูกจับเป็นเชลย แต่เขาก็คงยังนิ่งอยู่